Pakpoom
02 มีนาคม 2010, 18:51
......................................................
การประชุมสัมมนาส่งเสริมการจัดการศึกษาขันพื้นฐานในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง
วันที 26 – 27 กุมภาพันธ์ 2553 ณ โรงแรมอะเดียรติค พาเลซ กรุงเทพ
เรื่อง
โดย นางอ่องจิตต์ ที่ปรึกษา
เลขาธิการ มีความมุ่งหวังสูงในตัวผู้บริหาร ในที่นี้ในแง่การปฏิบัติการรับนักเรียนปีที่แล้วมีจดหมายร้องเรียนบ้าง แต่ปีนี้ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเกิดแล้วก็กลายเป็นภาพรวมของ สพฐ. และประเทศ
การรับนักเรียนเกิดขึ้นตามนโยบาย 4 ด้าน คือ
1. โอกาส คือทุกคนต้องมีที่เรียนทั้ง ม.1 และ ม.4 ซึ่ง ม.1 กลับหลายเป็นเรื่องร้องเรียนน้อยกว่า ม.4 จึงจำเป็นต้องดูแลให้เขามีที่เรียน
2. คุณภาพ เมื่อรับแล้วต้องสร้างคุณภาพให้เด็กที่รับเข้ามา ซึ่งต้องวางแผนว่าจะพัฒนา
คุณภาพเขาอย่างไร เรารับเด็กมาตั้งแต่ ม.1 แล้ว จึงต้องมีแผนพัฒนาเขาตั้งแต่ ม.1 เพื่อสู่เกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด ถ้าทำเช่นนี้ก็จะสามารถตอบโจทย์ได้ แนะแนวเป็นอีกเรื่องที่ต้องทำให้ชัดเจน และการมีส่วนร่วมเป็นเรื่องสำคัญ ผู้บริหารต้องป้องกันตนเองโดยองค์คณะเป็นผู้ตัดสินใจ และความโปร่งใส ยุติธรรม ต้องหาวิธีที่ปกป้องตัวเอง คือรับโดยไม่ไปกระทบกับสิทธิคนอื่น
ข้อร้องเรียนที่ผ่านมา เกิดจาก
1. ความไม่เข้าใจของผู้ปกครอง จึงต้องประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนว่าถ้าเด็กเข้า
ไม่ได้ จะมีที่เรียนที่ไหนบ้าง ซึ่งแม้จะร้องเรียนแต่มีที่เรียนก็ยังพอตอบคำถามได้
2. ความไม่เข้าใจเรื่องพื้นที่บริการ ต้องให้ผู้ปกครองเข้าใจให้ชัดเจนเรื่อ
คุณสมบัติ และเอกสารหลักฐาน
ปีนี้คาดการณ์ว่า เด็ก ม.3 ขั้น ม.4 จะมีปัญหามากขึ้น จึงต้องแนะแนวให้เขารู้
ว่าจะมีโรงเรียนใดบ้าง ซึ่งต้องสร้างเครือข่าย และไม่ควรตั้งเกณฑ์สูงเกินไป นอกจากนั้น ยังมีการกำหนดเกณฑ์ว่า ใครไปสอบที่อื่นก็จะไม่มีสิทธิ์กลับมาที่เดิม
3. อาชีวศึกษา ต้องพยายามสร้างเครือข่ายเพื่อช่วยรับนักเรียนที่สำคัญ โรงเรียนต้อง
วางแผนเปิดโครงสร้าง เพื่อรองรับนักเรียน ม.3 ที่มีผลการเรียนต่ำกว่าที่คาดหวัง เช่น ภาษาไทย สังคม ทั่วไป หรือสายอาชีพ เพื่อสนับสนุนนักเรียนที่เก่งด้านดนตรี กีฬา เพื่อมีหนทางต่อไปอนาคต
4. การสร้างเครือข่ายรองรับนักเรียน ร่วมกับโรงเรียนใกล้เคียง รวมทั้งศูนย์มัธยมฯ
อาชีวศึกษา จะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนความพึงพอใจของผู้ปกครอง
ระยะ เวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่จะต้องเร่งสร้างชื่อเสียงในการรับนักเรียนให้เป็นที่ยอมรับ ให้ได้มีกรณีที่โรงเรียนขยายโอกาสไม่พอใจที่ถูกปิดโอกาส เมื่อให้โรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงรับนักเรียนเดิมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้เต็มก่อนนั้น จะชี้แจงต่อไป
4. ข้อร้องเรียนเรื่องการรับเงินกินเปล่า มีกรณีเกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ซึ่งคณะตรวจติดตาม
ได้ ไปตรวจพบว่าผู้อำนวยการโรงเรียน มอบรองฯ ดำเนินการเรื่องรับนักเรีย ซึ่งได้เรียกเงินกินเปล่า โดยหลอกลวงผู้ปกครองว่าจะเข้าเรียนได้
......................................................
ใครจะไปสอบม.4 ระวังหน่อยนะครับเพราะถ้าสอบไม่ติดคุณอาจจะไม่มีสิทธิ์กลับที่เดิมนะ เตือนไว้ๆ ^^
ส่วนตัวผม คิดว่าแฟร์ดีครับ อยู่ในสถานะเดียวกันหมด เพราะไม่งั้น เด็ก ม.3 ที่มีที่เรียนแน่นอนอยู่แล้วก็จะออกแย่งหาที่เรียนแข่งกับเด็กที่ยังไม่มี ที่เรียนอีก แล้วมันก็จะได้ไม่กั๊กที่คนอื่นด้วย ไม่ใช่ซ้ายก็จะเอา ขวาก็ไม่ให้ใคร ไม่ดีครับ :kaka:
ตัดสินใจให้ดีก่อนนะครับ :kiki:
้http://210.246.188.61/ewtadmin/ewt/demo_0850/ewt_news.php
ข้อมูลข้างในมันอาจจะขัดแย้งกันบ้างดังนั้นเพื่อความชัวร์ ไปถามฝ่ายแนะแนวของโรงเรียนตัวเองดูก่อนนะครับ
การประชุมสัมมนาส่งเสริมการจัดการศึกษาขันพื้นฐานในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง
วันที 26 – 27 กุมภาพันธ์ 2553 ณ โรงแรมอะเดียรติค พาเลซ กรุงเทพ
เรื่อง
โดย นางอ่องจิตต์ ที่ปรึกษา
เลขาธิการ มีความมุ่งหวังสูงในตัวผู้บริหาร ในที่นี้ในแง่การปฏิบัติการรับนักเรียนปีที่แล้วมีจดหมายร้องเรียนบ้าง แต่ปีนี้ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเกิดแล้วก็กลายเป็นภาพรวมของ สพฐ. และประเทศ
การรับนักเรียนเกิดขึ้นตามนโยบาย 4 ด้าน คือ
1. โอกาส คือทุกคนต้องมีที่เรียนทั้ง ม.1 และ ม.4 ซึ่ง ม.1 กลับหลายเป็นเรื่องร้องเรียนน้อยกว่า ม.4 จึงจำเป็นต้องดูแลให้เขามีที่เรียน
2. คุณภาพ เมื่อรับแล้วต้องสร้างคุณภาพให้เด็กที่รับเข้ามา ซึ่งต้องวางแผนว่าจะพัฒนา
คุณภาพเขาอย่างไร เรารับเด็กมาตั้งแต่ ม.1 แล้ว จึงต้องมีแผนพัฒนาเขาตั้งแต่ ม.1 เพื่อสู่เกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด ถ้าทำเช่นนี้ก็จะสามารถตอบโจทย์ได้ แนะแนวเป็นอีกเรื่องที่ต้องทำให้ชัดเจน และการมีส่วนร่วมเป็นเรื่องสำคัญ ผู้บริหารต้องป้องกันตนเองโดยองค์คณะเป็นผู้ตัดสินใจ และความโปร่งใส ยุติธรรม ต้องหาวิธีที่ปกป้องตัวเอง คือรับโดยไม่ไปกระทบกับสิทธิคนอื่น
ข้อร้องเรียนที่ผ่านมา เกิดจาก
1. ความไม่เข้าใจของผู้ปกครอง จึงต้องประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนว่าถ้าเด็กเข้า
ไม่ได้ จะมีที่เรียนที่ไหนบ้าง ซึ่งแม้จะร้องเรียนแต่มีที่เรียนก็ยังพอตอบคำถามได้
2. ความไม่เข้าใจเรื่องพื้นที่บริการ ต้องให้ผู้ปกครองเข้าใจให้ชัดเจนเรื่อ
คุณสมบัติ และเอกสารหลักฐาน
ปีนี้คาดการณ์ว่า เด็ก ม.3 ขั้น ม.4 จะมีปัญหามากขึ้น จึงต้องแนะแนวให้เขารู้
ว่าจะมีโรงเรียนใดบ้าง ซึ่งต้องสร้างเครือข่าย และไม่ควรตั้งเกณฑ์สูงเกินไป นอกจากนั้น ยังมีการกำหนดเกณฑ์ว่า ใครไปสอบที่อื่นก็จะไม่มีสิทธิ์กลับมาที่เดิม
3. อาชีวศึกษา ต้องพยายามสร้างเครือข่ายเพื่อช่วยรับนักเรียนที่สำคัญ โรงเรียนต้อง
วางแผนเปิดโครงสร้าง เพื่อรองรับนักเรียน ม.3 ที่มีผลการเรียนต่ำกว่าที่คาดหวัง เช่น ภาษาไทย สังคม ทั่วไป หรือสายอาชีพ เพื่อสนับสนุนนักเรียนที่เก่งด้านดนตรี กีฬา เพื่อมีหนทางต่อไปอนาคต
4. การสร้างเครือข่ายรองรับนักเรียน ร่วมกับโรงเรียนใกล้เคียง รวมทั้งศูนย์มัธยมฯ
อาชีวศึกษา จะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนความพึงพอใจของผู้ปกครอง
ระยะ เวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่จะต้องเร่งสร้างชื่อเสียงในการรับนักเรียนให้เป็นที่ยอมรับ ให้ได้มีกรณีที่โรงเรียนขยายโอกาสไม่พอใจที่ถูกปิดโอกาส เมื่อให้โรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงรับนักเรียนเดิมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้เต็มก่อนนั้น จะชี้แจงต่อไป
4. ข้อร้องเรียนเรื่องการรับเงินกินเปล่า มีกรณีเกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ซึ่งคณะตรวจติดตาม
ได้ ไปตรวจพบว่าผู้อำนวยการโรงเรียน มอบรองฯ ดำเนินการเรื่องรับนักเรีย ซึ่งได้เรียกเงินกินเปล่า โดยหลอกลวงผู้ปกครองว่าจะเข้าเรียนได้
......................................................
ใครจะไปสอบม.4 ระวังหน่อยนะครับเพราะถ้าสอบไม่ติดคุณอาจจะไม่มีสิทธิ์กลับที่เดิมนะ เตือนไว้ๆ ^^
ส่วนตัวผม คิดว่าแฟร์ดีครับ อยู่ในสถานะเดียวกันหมด เพราะไม่งั้น เด็ก ม.3 ที่มีที่เรียนแน่นอนอยู่แล้วก็จะออกแย่งหาที่เรียนแข่งกับเด็กที่ยังไม่มี ที่เรียนอีก แล้วมันก็จะได้ไม่กั๊กที่คนอื่นด้วย ไม่ใช่ซ้ายก็จะเอา ขวาก็ไม่ให้ใคร ไม่ดีครับ :kaka:
ตัดสินใจให้ดีก่อนนะครับ :kiki:
้http://210.246.188.61/ewtadmin/ewt/demo_0850/ewt_news.php
ข้อมูลข้างในมันอาจจะขัดแย้งกันบ้างดังนั้นเพื่อความชัวร์ ไปถามฝ่ายแนะแนวของโรงเรียนตัวเองดูก่อนนะครับ