PDA

View Full Version : [[GPA]] v.s. [[สอบ Entrance]]


R-Tummykung de Lamar
07 พฤษภาคม 2005, 00:47
แหม ...เอาเป็นว่าคลายเครียดจากการคิดคณิตศาสตร์มาถกเถียงเรื่องการศึกษา ในประเทศไทย ในกระทู้นี้ กันเถอะครับ

GPA
ข้อดี
[:dot]ไม่เป็นการตัดสินเด็กในระยะสั้น เพราะการสอบนั้น ก็ขึ้นอยู่กับจังหวะ และ โอกาศ
ข้อเสีย
[:dot]มาตรฐานของแต่ละโรงเรียนไม่เท่ากัน บางโรงเรียน 4.00 กันทั้งโรงเรียน บางโรงเรียนกลับกดคะแนนต้องสอบซ่อมแล้ว สอบซ่อมอีก ถึงจะผ่าน

สอบ Entrance
ข้อดี
[:dot] มีมาตรฐานเดียวกัน คือข้อสอบเดียวกัน ทำให้สามารถตัดสินได้ยุติธรรม
ข้อเสีย
[:dot] เป็นการตัดสินเด็กในระยะสั้น บางคนหักโหมอ่านหนังสือก่อนสอบ Entrance จนไม่ได้หลับได้นอน

มาช่วยๆกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยนะครับ ;) ถ้าเสนอวิธีแก้ไขด้วยยิ่งดีครับ ขอแบบเหตุผลๆนะครับ เผื่อนายกมาอ่าน :D

nooonuii
07 พฤษภาคม 2005, 06:34
ผมว่าทั้งสองระบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ขอพูดเฉพาะข้อเสียนะครับ จะได้ช่วยกันแก้

แบบเอนฯ รวม
- ระบบนี้สร้างคนนิสัยเสียขึ้นมาเยอะแยะมากมาย (รวมทั้งผมด้วย) ซึ่งส่งผลต่ออนาคตของเด็กนิสัยเสียเหล่านี้เกือบทุกคน นิสัยเสียที่ว่าก็คือการเป็นคนผลัดวันประกันพรุ่ง เด็กมักจะคิดว่าวันสอบยังมาไม่ถึงค่อยอ่านก็ได้ แล้วก็ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ พอใกล้ๆสอบค่อยมาตั้งหน้าตั้งตาอ่าน ลุกลี้ลุกลน สมมติว่าสอบติด เข้าไปเรียนป. ตรี ก็ยังติดนิสัยเดิม ค่อยอ่านตอนใกล้ๆสอบ อ่านหามรุ่งหามค่ำ หนังสือกองพะเนินเด็กไทยสามารถอ่านได้ภายในสองวันคิดดูก็แล้วกัน สอบเสร็จก็ลืมหมด คืนความรู้ให้อาจารย์ พอถึงเวลาต้องเอามาใช้บ้างก็ต้องไปรื้อหนังสือมาดูใหม่เสียเวลาอีกรอบ นี่เล่าจากประสบการณ์ตรงของเด็กนิสัยเสียคนนึงครับ ต่อไปสมมติว่าจบออกมาทำงาน ถ้าเป็นข้าราชการเราก็จะได้ข้าราชการประเภทเช้าชามเย็นสองขวด (เอิ๊ก) ประมาณนี้แลฯ ว่าเข้าไปโน่น เหอเหอ :D คนเราพอทำอะไรจนติดเป็นนิสัยแล้วแก้ยากครับ วันนี้เราอาจจะไม่เห็นว่า มันสำคัญตรงไหนนะไอ้การเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายเนี่ย ต่อไปวันข้างหน้าพบเห็นมุมมองชีวิตเยอะขึ้นเราจะคิดได้เองครับว่าที่ผ่านมาเราเป็นยังไง บางทีมันอาจจะสายเกินไปก็ได้ครับที่จะกลับหลังหันไปทำอะไรให้มันดีขึ้น เพราะฉะนั้นอย่าพลาดเสียแต่วันนี้ เด็กๆทั้งหลาย เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่งครับ ขยันเข้าไว้วันข้างหน้ายังมีโอกาสใช้ชีวิตโลดโผนได้อีกเยอะ
- สิ่งที่ผมประทับใจเด็กฝรั่งมากๆเลยก็คือเขาถูกฝึกให้เป็นคนรู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองครับ ถึงเวลาเรียนเขาเรียนกันอย่างจริงจัง ทุกคนจะมีตารางเวลาของตัวเอง และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดทีเดียว มาเรียนที่นี่ใหม่ๆรู้สึกแย่เหมือนกัน เพราะการเรียนในห้องเรียนของฝรั่งจะหมายถึงการไปนั่งฟังสิ่งที่ตัวเองอ่านมาก่อนแล้วและเติมเต็มส่วนที่ยังไม่เข้าใจ ในขณะที่เด็กไทยอย่างผม การเข้าไปเรียนในห้องคือการไปนั่งจดยิกๆๆๆ จดให้ทันอาจารย์แล้วค่อยเอาที่จดมานั่งอ่าน ดูเหมือนจะใกล้เคียงกันแต่ผมว่าต่างกันเยอะทีเดียว เพราะอย่างน้อยระบบของฝรั่งจะเป็นการบังคับเด็กไปในตัวว่าต้องอ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่ระบบของเด็กไทยเรา โน่นไปอ่านกันตาลีตาเหลือกตอนใกล้ๆสอบ แบบไหนจะได้ความรู้แน่นกว่ากันล่ะครับลองคิดดู

ระบบ GPA

- ระบบนี้กำลังจะสร้างค่านิยมแบบผิดๆให้กับสังคมไทยอีกแล้วครับท่านที่เคารพ สังคมไทยจะใช้เกรดเป็นตัวชี้วัดความเก่งกาจของบุคคล ซึ่งเป็นความจริงแค่ครึ่งเดียว (จริงๆก็ทำกันมานานแล้ว) ยังมีอีกครึ่งหนึ่งซึ่งเกรดวัดไม่ได้แน่นอนครับ และส่วนนี้ก็ไม่ได้สำคัญยิ่งหย่อนไปกว่าผลการเรียนเลย นั่นคือคำว่าจริยธรรม ก็เพราะศีลธรรมมันเสื่อมนี่แหละครับ เราถึงได้คน(โกง)เก่ง ออกมาเพ่นพ่านเต็มบ้านเต็มเมือง สังเกตกันบ้างหรือเปล่าครับว่าเด็กไทยสมัยนี้เป็นชาวพุทธแค่ในทะเบียนบ้าน วัดน่ะมีไว้ทำอะไรใครตอบได้ขอให้ยกมือขึ้นนนน (ตอบ วัดมีไว้ให้พระใบ้หวยและมั่วสีกา ฮา...) สิ่งที่เป็นจุดอ่อนที่สุดของรัฐบาลชุดนี้ก็คือ การพัฒนาทางด้านสังคม อย่างอื่นผมค่อนข้างพอใจผลงานครับ ถึงแม้จะเป็นชาวใต้และเลือกพรรคตรงข้ามรัฐบาลมาตลอดก็ตาม(ขอแอบเล่นการเมืองนิดๆ) เด็กเรียนอ่อนที่เรามักจะมองว่าเป็นพลเมืองชั้นสอง เขาควรจะได้มีโอกาสมากกว่านี้ครับ ไม่ใช่เขาเรียนอ่อนแต่ตั้งใจเรียนเราก็เอาไปสุมไว้กับคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเกเร และไม่เอาไหนจริงๆ สุดท้ายก็โดนกลืนกินเข้ารกเข้าพงไปหมด เสียดายนะครับ คนแบบนี้ เขายังมีโอกาสพัฒนาตนเองได้อีกเยอะ แต่ระบบมันแย่อะไรๆก็แย่ตามไปหมดล่ะครับ

เฮ้อ ผมเริ่มแก่แล้วจริงๆด้วยแฮะ บ่นได้บ่นดี
สรุปคือทางสายกลางที่พระพุทธองค์สอนเราไว้ตั้งสองพันกว่าปีมาแล้วคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ ไม่ตึงและไม่หย่อนจนเกินไป เจอกันครึ่งทางทุกอย่างลงตัวครับ :) แต่เรื่องการใช้ GPA นี่คงต้องใช้ระบบข้อสอบกลางครับถึงจะเป็นธรรมกับเด็กโดยรวม ไม่งั้นก็ปล่อยเกรดกันกระหน่ำ กลายเป็นระบบล่ม ไม่ได้มาตรฐานไปซะอีก เกรดเด็กเตรียมฯ กับเกรดเด็กโรงเรียนวัดโคกกระทือ คงไม่ได้มีมาตรฐานเดียวกันเป็นแน่แท้ครับ เจริญพร

tana
08 พฤษภาคม 2005, 09:15
อืม ครับ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ชอบเลยอ่ะนะครับ กับระบบใหม่ ที่ใช้ GPA มากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ระบบเก่าก็ยังไม่ได้เรียกว่าใช้ได้ดี แต่ ผมว่าก็ยังดีกว่าระบบ GPA นี้ล่ะครับ เพราะบางโรงเรียน อ. ก็ปล่อยเกรดกันจริงๆ เพื่อชื่อเสียงของโรงเรียน แล้วข้อสอบก็แตกต่างกันมากด้วยในแต่ละโรงเรียน และที่แน่ๆ ยังไงในโรงเรียนก็ไม่มีทางสอนดีไปกว่าการเรียนกวดวิชาได้ เพราะ อ.ส่วนใหญ่ ก็ไปทุ่มเทให้กับ การสอนกวดวิชากัน ใน โรงเรียนก็สอนไปตามหน้าที่ล่ะนะครับ อืม ก็คงเพราะเหตุนี้อ่ะนะครับ ผมเลยอยากเป็นอาจารย์มหาลัย มากกว่า อ.มัธยม จะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้ เพราะถ้าไปเป็นก็คงต้องตามกระแสโลกอันวุ่นวายที่มันเป็นอยู่ ก็คงอย่างที่พี่ nooonuii ว่าล่ะครับ ต้องเดินตามทางสายกลางครับ ถ้าใครเครียดมากๆ ก็จงทำตนให้เป็นกลางเข้าไว้ครับ แล้วจาดีเอง หุหุหุ

Richter
16 พฤษภาคม 2005, 21:49
ผมคิดว่าน่าจะมีการทดลองศึกษาให้ดีกว่านี้ก่อนที่จะนำมาใช้จริง โดยควรทำเป็นผลวิจัยที่มีข้อมูลที่ที่สามารถทำให้ทุกฝ่ายพอใจ และเป็นที่ยอมรับกันทั่วประเทศ

sarun_morn
09 เมษายน 2009, 20:42
ลองใช้แบบสหรัฐดูสิ เวิร์ค

MR.Quest
09 เมษายน 2009, 21:14
ผมว่าแยกระเทศเลยครับ:died: 2ปีก็กลับมารวมแล้วค่อยเลือก:eek:
(แยกอะไรก็ได้ยกเว้นสามัคคี)

m_Innocent
14 เมษายน 2009, 10:41
อนาคต...

ภาชนะทึบเเสง อยู่หน้ากระทรวงศึกษาฯ

นักเรียนชั้น ม.6 ทุกคน ต่อเเถวรอการขานชื่อเมื่อถึงชื่อตัวเอง

ก็เดินไปล้วงในภาชนะนั้น ได้คณะอะไรก็เดินเข้าไปเลย:happy:

ปล. ผมว่าการสอบคัดเลือกสมัยนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการทำยังงี้เลยนะผมว่า