PDA

View Full Version : ทำไงดีครับถ้าเราทำข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้


คณิตศาสตร์
28 ธันวาคม 2007, 22:33
ถ้าเราทำข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้เราควรคิดไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้:wacko:หรือจะให้ผมไปถามครูดีครับ :o

ทำยังไงไม่ให้เครียดครับเวลาทำโจทย์ไม่ได้ :huh::unsure:
ดูรูปแบบของโจทย์ยังไงว่าจะทำยังไง:unsure::confused:
ทำโจทย์วันละ 1 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นดีมั๊ยครับ
ทำโจทย์มากๆก่อนที่จะมาเลื่อนขั้นมาเป็นข้อสอบแข่งขันของพวกสมาคมหรือเพชรยอดมงกุฎดีมั๊ยครับ :sweat:

มีเรื่องกังวลครับเลยมาถาม รู้สึกเก็บกด :haha::haha::haha:

nongtum
28 ธันวาคม 2007, 23:51
ปัญหาบางอย่าง หากลองทำเองพักหนึ่งแล้วยังทำไม่ได้ อย่าฝืนหรือดันทุีรัง ลองไปถามครูหรือคนที่ทำได้ให้ช่วยแนะหรือสอนจะดีกว่าครับ จะได้ประหยัดเวลา ไม่เครีัยดมาก และได้แนวคิดแก้ปัญหา แต่ทั้งนี้ต้องลองทำปัญหาก่อนนะครับ แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องคิดได้หมดทุกอย่างทุกโจทย์ เพราะไม่เคยมีใครทำได้แบบนั้น

ทำไม่ได้ เครียดนักก็พัก ไปทำอย่างอื่นหรือพักก่อน บ่อบครั้งที่ไอเดียเด็ดๆโพล่งมาตอนพัก หรือตอนที่เราไม่คิดว่า่จะเกิดไอเดียได้ครับ
ส่วนเรื่องการสัั้่งสมประสบการณ์ เอาตามที่ตัวเองมีเวลาและสะดวกใจที่จะฝึกดีกว่าครับ กำหนดเวลาไปบางทีอาจเครียดได้ครับ
แต่ไม่ว่าจะทำโจทย์ยากๆแบบไหน พื้นฐานต้องดีก่อนเสมอครับ

king_killer
29 ธันวาคม 2007, 08:20
เห็นด้วยครับ บางทีผมก็เป็นประมาณนั้น

คณิตศาสตร์
29 ธันวาคม 2007, 15:46
ขอบคุณครับ บางทีผมฝืนสุดๆครับ ทำ3ทุ่มจนถึง 5 ทุ่ม มึนสุดๆเลย ทำโดยไม่พัก แล้วทำ ตอนเช้า ตอนบ่าย ตอนเย็นและตอนกลางคืนตอนไหนดีกว่ากันครับ:confused::unsure:

teamman
29 ธันวาคม 2007, 18:17
สำหรับผมนะผมว่าตอนเช้าอ่าดีที่สุดเพราะสมองปลอดโปร่งแต่ผมตื่นไม่เคยทันสักทีเลยมาทำเอาตอนเย็นครับ แต่ตอนกลางคืนผมว่าทำมากไม่ค่อยดีนะครับผมว่ามันควรจะเป็นเวลาที่เราได้พักผ่อนบ้าง ส่วนอาการแบบคุณคณิตศาสตร์ผมก็เป็นครับทำโจทย์แบบบ้าพลังแต่สุดท้ายก็มึนหัวแล้วทำให้คิดอะไรไม่ค่อยออกด้วย
สรุปเอาแบบพอประมาณวันละ 1-2 ช.ม.ก็ได้ครับหรืออาจจะมากกว่านั้นแล้วแต่ร่างกายของเราว่ารับได้รึป่าว

คณิตศาสตร์
29 ธันวาคม 2007, 21:32
ไหวครับ ผมคงบ้าจริงๆครับ ขอบคุณมากๆครับ

คณิตศาสตร์
30 ธันวาคม 2007, 18:08
ถามโจทย์ข้อหนึ่งครับ ผมทำไม่ได้ครับ :(:wacko:

-สนามหญ้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแห่งหนึ่ง ถ้าด้านกว้างเพิ่มขึ้น 5 เมตร ส่วนด้านยาวลดลงอีก 5 เมตร พื้นที่จะเพิ่มขึ้น 200 ตารางเมตร ถ้าด้านกว้างลดลง 5 เมตร ด้านยยาวยาวขึ้น 15 เมตร พื้นที่จะลดลงอีก 75 ตารางเมตร สนามนี้กว้างยาวด้านละเท่าไร :dry::great:

Puriwatt
30 ธันวาคม 2007, 19:17
กำหนดให้สนามหญ้า กว้าง x เมตร และ ยาว y เมตร จะมีพื้นที่เท่ากับ x.y
เงื่อนไขที่(1) จะได้สมการของพื้นที่ใหม่เป็น x.y +200 = (x+5).(y-5) = x.y + 5y - 5x -25
200 = 5y - 5x -25 --> $y - x = 45$ ---(1)
เงื่อนไขที่(2) จะได้สมการของพื้นที่ใหม่เป็น x.y - 75 = (x-5).(y+15) = x.y - 5y + 15x -75
-75 = 15x - 5y -75 --> $y = 3x$ ---(2) แทนในสมการที่ (1) ได้
3x - x = 45 --> $x = 45/2 และ y = 3x =135/2$

Puriwatt
30 ธันวาคม 2007, 19:55
ปัญหาบางอย่าง หากลองทำเองพักหนึ่งแล้วยังทำไม่ได้ อย่าฝืนหรือดันทุีรัง ลองไปถามครูหรือคนที่ทำได้ให้ช่วยแนะหรือสอนจะดีกว่าครับ จะได้ประหยัดเวลา ไม่เครีัยดมาก และได้แนวคิดแก้ปัญหา แต่ทั้งนี้ต้องลองทำปัญหาก่อนนะครับ แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องคิดได้หมดทุกอย่างทุกโจทย์ เพราะไม่เคยมีใครทำได้แบบนั้น

ทำไม่ได้ เครียดนักก็พัก ไปทำอย่างอื่นหรือพักก่อน บ่อบครั้งที่ไอเดียเด็ดๆโพล่งมาตอนพัก หรือตอนที่เราไม่คิดว่า่จะเกิดไอเดียได้ครับ
ส่วนเรื่องการสัั้่งสมประสบการณ์ เอาตามที่ตัวเองมีเวลาและสะดวกใจที่จะฝึกดีกว่าครับ กำหนดเวลาไปบางทีอาจเครียดได้ครับ
แต่ไม่ว่าจะทำโจทย์ยากๆแบบไหน พื้นฐานต้องดีก่อนเสมอครับ

คำแนะนำของคุณnongtum จัดได้ว่าครบถ้วนและสมบูรณ์ดีมากเลยครับ ผมก็ใช้วิธีนี้เหมือนกันครับ(ตอนวัยรุ่น)

ที่ผมถูกใจมากก็เห็นจะเป็นประโยค "แต่ไม่ว่าจะทำโจทย์ยากๆแบบไหน พื้นฐานต้องดีก่อนเสมอครับ"
เหมือนที่ผู้รู้ได้เคยบอกว่า "ถาวรวัตถุทั้งหลายเขาสร้างกันบนดิน ไม่ใช่สร้างกลางอากาศ" อย่าทิ้งพื้นฐาน

และ ประโยค"เครียดนักก็พัก ไปทำอย่างอื่นหรือพักก่อน บ่อบครั้งที่ไอเดียเด็ดๆโพล่งมาตอนพัก หรือตอนที่เราไม่คิดว่า่จะเกิดไอเดียได้ครับ" --> ข้อนี้เป็นความสามารถพิเศษของคนที่มีจินตนาการดี, สามารถสร้างมโนภาพได้เอง และต้องสามารถคิดได้เป็นระบบเท่านั้น
ต้องหมั่นฝึกทดให้เป็นระเบียบและคิดในใจบ่อยๆ (แต่ ห้ามคิดนอกใจนะครับ.. เดี๋ยวจะเจ็บตัว)

คณิตศาสตร์
30 ธันวาคม 2007, 19:55
ขอบคุณมากๆครับ ข้อนี้เราจะทำสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวไม่ได้หรือครับ

Puriwatt
30 ธันวาคม 2007, 20:33
ขอบคุณมากๆครับ ข้อนี้เราจะทำสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวไม่ได้หรือครับ
ไม่น่าจะได้นะครับ
โจทย์กำหนดห้มีด้านสองด้านที่ไม่ได้สัมพันธ์กันโดยตรง และให้มาอีก 2 เงื่อนไขจึงเหมาะที่จะใช้วิธีที่ผมแสนอ
เนื่องจากตัวเลขจะง่ายๆ การคิดไม่ซับซ้อน และข้อนี้จะได้เส้นตรงสองเส้นตัดกัน(เชิงเส้น 2 ตัวแปร)

จงอย่าเสียเวลาในสิ่งที่ไม่ควรจะสงสัย เพราะจะสับสน --> ลองเปลี่ยนตัวเลขในโจทย์แล้วลองทำดูใหม่ 3-4 ข้อ
จากนั้นก็หาค่าพื้นที่สี่เหลี่ยมทั้งสามรูปดู จะช่วยให้จำวิธีทำได้ และยังแก้ข้อสงสัยได้ด้วยครับ

ถ้าวาดรูปได้ด้วยจะยิ่งดีมากเลยครับ เพราะรูปที่จะแสดงเหตุผลทั้งหมด(เหมือนการทด) และสามารถแก้ปัญหาอื่นๆ
ได้หลายอย่าง เช่น คิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น, เมื่อมีรูปเป็นแนวทางจะทำให้กระบวนการคิดเป็นระเบียบยิ่งขึ้น,
อาจจะคิดช้าลงในช่วงแรก แต่จะทำให้เป็นพื้นฐานที่สำคัญของการสร้างจินตนาการในอณาคต,
สามารถทวนสอบได้ง่ายขึ้น(สามารถสังเกตุข้อบกพร่องได้ง่าย), เมื่อพบว่ามีจุดบอดที่ซ้ำๆแล้วจึงศึกษาเพิ่มเติม
และท้ายสุดสามารถสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ --> Imigination Created hint: :)

คณิตศาสตร์
30 ธันวาคม 2007, 20:46
ขอบคุณมากๆครับ

MoDErN_SnC
31 ธันวาคม 2007, 00:35
ขอบคุณครับ บางทีผมฝืนสุดๆครับ ทำ3ทุ่มจนถึง 5 ทุ่ม มึนสุดๆเลย ทำโดยไม่พัก แล้วทำ ตอนเช้า ตอนบ่าย ตอนเย็นและตอนกลางคืนตอนไหนดีกว่ากันครับ:confused::unsure:

ในความคิดผม..
ผมชอบทำตอนดึกๆครับ ยิ่งดึกรู้สึกเหมือนว่าจะคิดออกเยอะ
หรือว่าถ้าเป็นตอนกลางวัน ก็ต้องเป็นที่ที่เงียบๆเลยอะครับ

TOP
31 ธันวาคม 2007, 13:56
โจทย์อันแรกที่ควรจะต้องทำให้หมดทุกข้อ ก่อนจะเริ่มหาโจทย์ที่อื่นมาทำก็คือ แบบฝึกหัดในหนังสือเรียนครับ :great: เพราะนั่นเป็นพื้นฐานสำคัญมากที่เราต้องรู้ทั้งหมด

เวลาทำโจทย์ก็หมั่นสังเกตถึงความแตกต่าง หรือแนวทางในการตั้งโจทย์แต่ละข้อด้วย จะได้ไม่ทำแต่โจทย์แนวเดิมที่เปลี่ยนโจทย์นิดหน่อย ให้เสียเวลามากเกินไป (ที่เขียนมานี่หมายถึง เรามองโจทย์แนวนี้ได้ทะลุไปถึงแนวทางแก้ปัญหาทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงลงแรงคิดเลขเท่านั้น แต่หากยังทำแบบนี้ไม่ได้ ก็ยังต้องหมั่นฝึกฝนกับโจทย์แนวนี้ต่อไปนะครับ :cool: )

อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือ โจทย์ที่ดีมักจะแต่งมาให้ได้เลขลงตัวสวยๆ เวลาคิดเลขไปเรื่อยๆในแต่ละขั้นตอน แล้วได้เลขออกมาสวยงาม อาจเป็นเหมือนหลักไมล์ให้เราคิดว่าเดินมาถูกทางแล้ว และเดินต่อไปจนได้คำตอบสุดท้ายที่สวยงามออกมา เมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้วอย่าเพิ่งรีบจากไป ลองทบทวนตนเองดูสักนิดว่าที่เดินมาถึงนี่ได้สำเร็จ มาด้วยความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง หรือเดินมั่วจนเจอหลักไมล์สวยๆ แล้วก็เดินหาหลักไมล์ต่อๆไปจนถึงจุดหมาย (ที่บังเอิญตรงกับตัวเลือกข้อหนึ่ง) หากเป็นอย่างแรกก็ขอแสดงความยินดีด้วย แต่ถ้าเป็นกรณีหลังคุณต้องกลับไปฝึกพื้นฐานให้ดีกว่านี้ :rolleyes:

เรื่องการถามคนอื่น ทำได้นะครับ แต่ขอให้เป็นตัวเลือกสุดท้าย หากพิจารณาแล้วว่าเวลาที่เสียไปไม่คุ้มค่า ยังมีเรื่องอื่นอีกมากรอให้ศึกษา :o ที่เขียนแบบนี้ก็เพราะ การคิดแก้ปัญหายากด้วยตนเองจนสำเร็จ แม้จะเสียเวลาอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ได้รับ ไม่อาจได้มาด้วยวิธีอื่น นั่นคือ ความเชื่อมั่นในตนเองว่าสามารถทำโจทย์ยากได้ และทักษะเฉพาะตัวทุกรูปแบบสำหรับแก้โจทย์ประหลาดที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน จะถูกพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ทักษะเหล่านี้ต้องหมั่นฝึกปรือสะสมประสบการณ์เองนะครับ ยิ่งเจอปัญหายากมากและเอาชนะได้นี่เรียกว่าพลังวัตรเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจทีเดียว :laugh: อ้อทำสำเร็จแล้วก็อย่าลืมศึกษาวิธีแก้ปัญหานี้ของสำนักอื่นด้วยละ เผื่อว่าจะมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่า

เรื่องของเวลาที่ใช้ สำหรับพี่ดูเรื่องความล้าทางความคิดเป็นหลัก หากรู้สึกว่าคิดจนหัวสมองมึนตื้อไปหมด ไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลาคิดต่อครับ คิดไปก็เท่านั้น หยุดคิดเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า เชื่อไหมครับว่าในระหว่างนั้นจิตใต้สำนึกยังคอยคิดหาวิธีแก้ปัญหาให้เราตลอดเวลา มีปัญหามากมายที่ได้แนวคิดแก้ปัญหาใหม่ ระหว่างพักผ่อนสมอง แต่จะมีสิ่งเหล่านี้ได้ ต้องมีพลังวัตรสะสมมากพอระดับหนึ่ง :happy:

เรื่องของความเครียดเวลาทำโจทย์ไม่ได้ อยู่ที่เรามองมันอย่างไร ตัวพี่เองไม่เคยทำโจทย์แล้วเกิดความเครียด เพราะมองว่ามันคือเกมฝึกสมองอันหนึ่ง เป็นความท้าทายที่ต้องแก้ปัญหาให้ได้ หากยังคิดไม่ออกตอนนี้ก็ไม่เป็นไร เปลี่ยนไปทำข้ออื่นก่อนแล้วจึงมาเก็บตกข้อที่เหลือ ตอนเช้าคิดไม่ออก เดี๋ยวตอนเย็นหรือกลางคืนก็คิดออก วันนี้คิดไม่ออก พรุ่งนี้ก็คิดออก มะรืนนี้ก็คิดออก ปัญหาบางอย่างเคยคิดเป็นปีก็มี ไม่เห็นจะต้องไปเครียดกับมัน ขอให้ได้ทำโจทย์ด้วยความรู้สึกสนุกและมีความสุขก็พอแล้ว ส่วนคำตอบทีได้จะหาได้หรือไม่นั้นเป็นเพียงค่าตอบแทนเล็กน้อย ในระหว่างเดินทางไกลมาจนถึงจุดหมายปลายทาง เท่านั้นเอง จงให้ความสำคัญกับความสุขระหว่างเดินทาง มากกว่าจะสนใจความสุขที่ได้รับเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง :)

คณิตศาสตร์
31 ธันวาคม 2007, 18:46
ขอบคุณมากๆเลยครับ โจทย์ในแบบเรียนถ้าเราทำได้แล้ว ผมสามารถทำโจทย์นอกๆได้มั๊ยครับ ซึ่งในตอนนี้ผมฝึกโจทย์นอกๆอยู่ครับ ผมเห็นว่ามันยากดีก็เลยอยากทำครับ คิดว่าดีมั๊ย หรือจะแนะนำให้ละเอียดกับผมก็ได้ครับพี่ TOP

teamman
01 มกราคม 2008, 11:02
ผมว่านั้นก็เป็นความคิดที่ดีนะครับ เพราะในปัจจุบันการแข่งขันหรือการสอบชิงทุนต่างๆส่วนมากจะออกนอกบทเรียนทั้งนั้นจึงควรฝึกฝนไปเรื่อยแหละครับ

คณิตศาสตร์
01 มกราคม 2008, 11:30
ขอบคุณครับ:kiki: โจทย์นั้นยากพอได้ครับทำให้ผมมึนไปหมดเลยครับ :wacko::wacko:

ตอนนี้ผมสงสัยกับปัญหาคาใจครับอยากให้ผู้ฝึกวรยุทธิ์ทั้งหลายมาแนะนำแก้ข้าน้อยด้วยครับ :unsure::sweat:

1. ถ้าทำไม่ได้แบบว่าคิดไม่ออกแล้ว เราไปถามเพื่อน แบบว่าเราคิดมาสัก 5 วัน แล้วไม่ออก แต่เมื่อก่อนผมคิดเป็นเดือน แล้วผมก็ดูแล้วว่ามันเสียเวลาครับเพราะว่าคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก คิดว่ามันดีมั๊ยครับ:unsure::confused:
2. ทำโจทย์วันละ 2-5 ชั่วโมง ดีมั๊ยครับ
3. ยืมหนังสือจากห้องสมุดที่เป็นโจทย์แบบฝึกหัดมาทำด้วยตัวเองบ่อยๆ ฝีมือจะพัฒนาเร็วขึ้นกว่าการที่ให้ครูมาติวมั๊ยครับ:sweat::sweat:
4. ถ้าถามคุณครูแล้วคุณครูยังไม่สามารถให้คำตอบได้ทำยังไงครับ :sweat:
5. ฝึกโจทย์ทุกๆวันแล้วคะแนนสอบยังได้ไม่ดีสำหรับเกณฑ์ที่เรากำหนดแก่ตัวเราเอง ทำยังไงดีครับ :sweat::nooo:
6. การที่สะเพร่าในโจทย์บ่อยๆ มันเกี่ยวกับการนอนดึกมั๊ยครับ
7. โจทย์ที่ทำไม่ได้รู้สึกกังวลใจมากว่า " ถ้าทำไม่ได้เราคงจะไปสอบแข่งขันกับเขาไม่ได้ " จะดับความกังวลใจไปยังไงดีครับ :cry:
8. การที่เราทำโจทย์ยากๆได้ทั้งๆที่ไม่เคยเจอมาก่อนนั้น แสดงว่าฝีมือของเรามันพัฒนาขึ้นมากๆใช่มั๊ยครับ :died::kiki:

Please answes Questions :please::please:

teamman
01 มกราคม 2008, 12:19
ข้อ1 ก็ดีนะครับเพราะเราจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีก ถ้าค ดไม่ออกจริงๆก็ถามผู้รู้ครับ จะได้ประหยัดเวลา และบางทีอาจได้เทคนิคการคิดลัดใหม่ๆเพิ่มขึ้น
ข้อ 2 ดีครับ แต่เอาที่เรารับได้กีกว่า
ข้อ 3 ก็ดีนะครับ แต่ถ้าได้ 2 อย่างควบคู่กันไปจะดีมากเลย
ข้อ 4 เอามาถามในเว็บ mathcenter ก็ดีนะครับ เพราะในนี้มีผู้ที่มีวรยุทธ์เก่งๆเต็มไปหมด
ข้อ5 ฝึกให้มากขึ้นมั๋งครับ ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ
ข้อ 6 อันนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ เพราะผมก็เป็น เวลาโจทย์ที่เราเห็นบ่อยๆแล้วเราคิดว่าทำได้ง่ายสบายเราก็จะอ่านแบบรีบๆไม่ได้ดูหมด เช่น บางโจทย์ต้องตอบเป็นจำนวนลบ แต่เรากลับชิน ที่จะตอบจำนวนบวก ครับ
ข้อ 7 .................. อันนี้ผมก็ไม่ทราบครับ ผมว่าก็ไปถามผู้รู้แล้วก็ฝึกไปเรื่อยจนคล่อง แล้วพอเราทำได้มันคงโล่งอกมั๊งครับ
ข้อ8 คงงั้นมั๊งครับ ...... ตามความคิดผมนะ

คณิตศาสตร์
01 มกราคม 2008, 18:06
ขอบคุณมากฮะ

m_Innocent
03 มกราคม 2008, 21:09
สำหรับการอ่านหนังสือของผมนะคับ ผมไม่ได้คิดอะไรมาก ผมให้คณิตศาสตร์เหมือนเกมละคับเล่นไปเรื่อยๆจนชำนาญ พกหนังสือเล่นเล็กๆไว้คิดเล่นนะคับ เเล้วเวลาทำผมจะทำไปทีละระดับคือ เริ่มจากเลือกทำข้อที่ง่ายๆ หรือน่าสนใจคับ เเล้วเมื่อเจอโจทย์เจ๋งๆก็จดไว้คับ จาได้มาดูตอนหลังได้ เเล้วเวลาก่อนนอนผมจาเอาข้อยากๆข้อหนึ่งมาทำคับคิดให้ได้(ไม่ได้ไม่หลับคับ555+) เมื่อเข้าตาจนจิงๆอาจถึงเปิดเฉลยหรือถามอาจารย์คับ เเต่ส่วนมากผมจะคิดให้ได้คับ เพราะคิดได้จะรู้สึกภูมิใจมากเลยคับ ผมก็ทำยังงี้เกือบทุกวันคับ เลยมาเล่าสู่กันฟังจาได้เเลกเปลี่ยนวิธีการอ่านหนังสือกันครับ ^_^"

Puriwatt
08 มกราคม 2008, 01:43
[QUOTE=คณิตศาสตร์;25946]
5. ฝึกโจทย์ทุกๆวันแล้วคะแนนสอบยังได้ไม่ดีสำหรับเกณฑ์ที่เรากำหนดแก่ตัวเราเอง ทำยังไงดีครับ :sweat::nooo:
6. การที่สะเพร่าในโจทย์บ่อยๆ มันเกี่ยวกับการนอนดึกมั๊ยครับ
7. โจทย์ที่ทำไม่ได้รู้สึกกังวลใจมากว่า " ถ้าทำไม่ได้เราคงจะไปสอบแข่งขันกับเขาไม่ได้ " จะดับความกังวลใจไปยังไงดีครับ :cry:
8. การที่เราทำโจทย์ยากๆได้ทั้งๆที่ไม่เคยเจอมาก่อนนั้น แสดงว่าฝีมือของเรามันพัฒนาขึ้นมากๆใช่มั๊ยครับQUOTE]

ผมขอเสริมสักเล็กน้อยนะครับ

8. ใช่ครับ, แสดงว่า Basic ในแนวทางเดียวกับโจทย์เราเริ่มแน่น จึงสามารถมองโจทย์แล้วเห็นแนวคิดได้
เพราะโจทย์แต่ละข้อที่สามารถหาคำตอบได้นั้น ล้วนมีแนวคิดในการแก้เสมอ(อย่างน้อย 1 แนวคิด)
และที่เราไม่สามารถทำโจทย์ได้ ก็เนื่องจากว่า เราไม่สามารถมองเห็นแนวคิดของโจทย์ได้นั่นเอง

7. วิธีที่จะดับความกังวลมีหลายวิธี แต่ผมขอแนะนำ 2 วิธี คือ 1. ปลอบใจตนเอง(คิดในแง่ดี) 2.เปลี่ยนกิจกรรม
เช่นเล่นดนตรี, กีฬา เป็นต้น

6.ก็ไม่เชิง, ส่วนใหญ่เกิดจากตอนที่ฝึกฝนไม่ได้จัดระบบการทดให้เป็นระเบียบ หรือ ตื่นเต้นจนเกินไป(คิดออก)

5. คำตอบ อยู่ในข้อ 6, 7, 8 แล้ว และขอเพิ่มเติมอีก คือ ต้องหาปมที่ทำให้เราได้คะแนนน้อยให้เจอ

หมายเหตุ : "ปัญหา" คือ Gap ระหว่าง ตวามต้องการ กับ ผลที่ได้รับ เมื่อเราหาสาเหตุของปัญหาพบ และ
สามารถคิดแนวทางแก้ปัญหาได้ ให้ทดลองใช้แนวทางที่คิดได้ดูว่าถูกหรือไม่ (ถ้าถูกต้องแล้วผลจะดีขึ้นเอง)
เช่น ตั้งหัวข้อว่า "ทำไมทำข้อแล้วสอบคะแนนน้อย.", ที่น้อยเพราะอะไร(สาเหตุ), จะปรับปรุงได้อย่างไร

คณิตศาสตร์
09 มกราคม 2008, 19:48
การมองแนวโจทย์ให้ออกทำไงครับ

ปอซี สยามนิกร
09 กุมภาพันธ์ 2009, 16:43
โจทย์บางอย่างอาจดูยากแต่หากเรามองโจทย์ออกก็ทำได้แต่บางโจทย์ก็ทำไม่ได้ลองมองสิ่งเล็กๆที่เราลืมมันไปแล้วเราจะมองออก



ผู้เบิกทางแห่งสวรรค์555+++

Platootod
09 กุมภาพันธ์ 2009, 18:04
อืมผมว่าการคิดโจทย์ยากๆจนกว่าจะคิดออกก็ดีนะคับถ้าคิดได้มันจะมีสิ่งที่ผมเรียกว่าความภาคภมูใจอ่ะคับ

SiR ZigZag NeaRton
11 กุมภาพันธ์ 2009, 21:02
ถ้าเป็นผมก็พยายามไปเรื่อย:great:

กรza_ba_yo
12 กุมภาพันธ์ 2009, 19:47
โจทย์อันแรกที่ควรจะต้องทำให้หมดทุกข้อ ก่อนจะเริ่มหาโจทย์ที่อื่นมาทำก็คือ แบบฝึกหัดในหนังสือเรียนครับ :great: เพราะนั่นเป็นพื้นฐานสำคัญมากที่เราต้องรู้ทั้งหมด

เวลาทำโจทย์ก็หมั่นสังเกตถึงความแตกต่าง หรือแนวทางในการตั้งโจทย์แต่ละข้อด้วย จะได้ไม่ทำแต่โจทย์แนวเดิมที่เปลี่ยนโจทย์นิดหน่อย ให้เสียเวลามากเกินไป (ที่เขียนมานี่หมายถึง เรามองโจทย์แนวนี้ได้ทะลุไปถึงแนวทางแก้ปัญหาทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงลงแรงคิดเลขเท่านั้น แต่หากยังทำแบบนี้ไม่ได้ ก็ยังต้องหมั่นฝึกฝนกับโจทย์แนวนี้ต่อไปนะครับ :cool: )

อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือ โจทย์ที่ดีมักจะแต่งมาให้ได้เลขลงตัวสวยๆ เวลาคิดเลขไปเรื่อยๆในแต่ละขั้นตอน แล้วได้เลขออกมาสวยงาม อาจเป็นเหมือนหลักไมล์ให้เราคิดว่าเดินมาถูกทางแล้ว และเดินต่อไปจนได้คำตอบสุดท้ายที่สวยงามออกมา เมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้วอย่าเพิ่งรีบจากไป ลองทบทวนตนเองดูสักนิดว่าที่เดินมาถึงนี่ได้สำเร็จ มาด้วยความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง หรือเดินมั่วจนเจอหลักไมล์สวยๆ แล้วก็เดินหาหลักไมล์ต่อๆไปจนถึงจุดหมาย (ที่บังเอิญตรงกับตัวเลือกข้อหนึ่ง) หากเป็นอย่างแรกก็ขอแสดงความยินดีด้วย แต่ถ้าเป็นกรณีหลังคุณต้องกลับไปฝึกพื้นฐานให้ดีกว่านี้ :rolleyes:

เรื่องการถามคนอื่น ทำได้นะครับ แต่ขอให้เป็นตัวเลือกสุดท้าย หากพิจารณาแล้วว่าเวลาที่เสียไปไม่คุ้มค่า ยังมีเรื่องอื่นอีกมากรอให้ศึกษา :o ที่เขียนแบบนี้ก็เพราะ การคิดแก้ปัญหายากด้วยตนเองจนสำเร็จ แม้จะเสียเวลาอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ได้รับ ไม่อาจได้มาด้วยวิธีอื่น นั่นคือ ความเชื่อมั่นในตนเองว่าสามารถทำโจทย์ยากได้ และทักษะเฉพาะตัวทุกรูปแบบสำหรับแก้โจทย์ประหลาดที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน จะถูกพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ทักษะเหล่านี้ต้องหมั่นฝึกปรือสะสมประสบการณ์เองนะครับ ยิ่งเจอปัญหายากมากและเอาชนะได้นี่เรียกว่าพลังวัตรเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจทีเดียว :laugh: อ้อทำสำเร็จแล้วก็อย่าลืมศึกษาวิธีแก้ปัญหานี้ของสำนักอื่นด้วยละ เผื่อว่าจะมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่า

เรื่องของเวลาที่ใช้ สำหรับพี่ดูเรื่องความล้าทางความคิดเป็นหลัก หากรู้สึกว่าคิดจนหัวสมองมึนตื้อไปหมด ไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลาคิดต่อครับ คิดไปก็เท่านั้น หยุดคิดเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า เชื่อไหมครับว่าในระหว่างนั้นจิตใต้สำนึกยังคอยคิดหาวิธีแก้ปัญหาให้เราตลอดเวลา มีปัญหามากมายที่ได้แนวคิดแก้ปัญหาใหม่ ระหว่างพักผ่อนสมอง แต่จะมีสิ่งเหล่านี้ได้ ต้องมีพลังวัตรสะสมมากพอระดับหนึ่ง :happy:

เรื่องของความเครียดเวลาทำโจทย์ไม่ได้ อยู่ที่เรามองมันอย่างไร ตัวพี่เองไม่เคยทำโจทย์แล้วเกิดความเครียด เพราะมองว่ามันคือเกมฝึกสมองอันหนึ่ง เป็นความท้าทายที่ต้องแก้ปัญหาให้ได้ หากยังคิดไม่ออกตอนนี้ก็ไม่เป็นไร เปลี่ยนไปทำข้ออื่นก่อนแล้วจึงมาเก็บตกข้อที่เหลือ ตอนเช้าคิดไม่ออก เดี๋ยวตอนเย็นหรือกลางคืนก็คิดออก วันนี้คิดไม่ออก พรุ่งนี้ก็คิดออก มะรืนนี้ก็คิดออก ปัญหาบางอย่างเคยคิดเป็นปีก็มี ไม่เห็นจะต้องไปเครียดกับมัน ขอให้ได้ทำโจทย์ด้วยความรู้สึกสนุกและมีความสุขก็พอแล้ว ส่วนคำตอบทีได้จะหาได้หรือไม่นั้นเป็นเพียงค่าตอบแทนเล็กน้อย ในระหว่างเดินทางไกลมาจนถึงจุดหมายปลายทาง เท่านั้นเอง จงให้ความสำคัญกับความสุขระหว่างเดินทาง มากกว่าจะสนใจความสุขที่ได้รับเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง :)

ยอดเยี่ยมคับผม
สมเเล้วที่เป็นคนเก่ง
สุดยอดคับ:great::great::great:
เเละขอบคุณสำหรับคำเเนะนำดีดีคับ

jabza
30 มีนาคม 2009, 21:52
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ คับ พี่TOP

และก้อขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ ตั้งคำถามได้ตรงใจมากๆ


พอดี ผมอยากถามเหมือนกันว่า ผมเปนพวกประเภทที่ว่า เหมือนกับว่า เป็นคนที่ไม่ค่อยตั้งใจทำอะไรแบบนี้อะคับ คือ ตอนแรกๆก้อมีจุดมุ่งหมาย พอทำไปซักพัก มันก้อ เหมือนว่า จุดหมายดับลงไปดื้อๆเลย แบบว่า ขี้เกียจไปเลยอะคับ ช่วยแก้ปัญหาหน่อยคับ


ปล. ถ้าผมเขียนไม่รู้เรื่องก้อขออภัย ด้วยคับ

mathematiiez
31 มีนาคม 2009, 11:21
ขอบคุณมากค่ะ เราเป็นหลายข้อ หลายแบบเลย ><
จะพยายามพัฒนาแล้วกัน โดยเฉพาะสะเพร่าเนี้ย เป็นประจำเลย คงต้องใใจเย็นลงหน่อย ><
เห็นด้วยนะคะที่บอกว่า พื้นฐานต้องดีก่อนเสมอ ^ ^

kheerae
31 มีนาคม 2009, 15:41
จริงอยู่ที่ทุกโจทย์ย่อมมีทางแก้ แต่ก็ไม่อาจจะแก้ได้ในทันทีเสมอไป
บางคนใช้เวลาแค่นิดเดียว แต่บางคนใช้เวลานาน หรือบางคนอาจใช้เวลาทั้งชีวิตแล้วยังแก้ไม่ได้ก็มีถมไป
คำแนะนำ ใจเย็นๆ ค่อยๆคิดว่าโจทย์ให้หาอะไร จากนั้นค่อยหาวิธีแก้ ถ้าคิดแล้วยังไม่ออกก็ควรกลับมา
ที่จุดเริ่มต้นใหม่

MR.Quest
05 เมษายน 2009, 00:05
พยายามจนได้ครับ

sarun_morn
08 เมษายน 2009, 16:04
เหนื่อยนักก้อพักซะ แร้วกลับมาล้างหน้า มาคิดใหม่