เรื่องเวลาทำข้อสอบครับ

[คณิตศาสตร์]

1.คือถ้าเราทำข้อสอบไม่ทันแล้วเหลือหลายข้อทำไงครับ (ไม่อยากเดาเลย):(
2.ทำยังไงไม่ให้เหลือข้อที่ต้องทำมาก:wacko:
3.มองโจทย์ไม่ออกเกิดอาการไม่ดีเพราะเวลา ทำไงครับ:unsure:
4.มีวิธีแก้มั๊ยกับเหตุการณ์เหล่านี้:confused:
ถ้าไร้สาระก็ติได้เลยนะครับ

[nongtum]

1. ถ้าเป็นข้อสอบปรนัย เหลือห้านาทีก่อนหมดเวลาแต่ค้างเป็นกอง ก็ตั้งสติดีๆ แล้วลองกาข้อที่ไม่อยากคิดแล้วให้หมดก่อน แล้วเอาเวลาที่เหลือมาทุ่มให้ข้อสองข้อที่ยังจะสู้อยู่ดูนะครับ ส่วนถ้าเป็นอัตนัย แนะให้เขียนเท่าที่คิดออกครับ

2. จัดสรรเวลาแต่ละข้อ อย่าให้ใช้เวลากับข้อใดนานเกินไป ปกติถ้าไม่ใช่ข้อสอบแข่งขัน เวลาที่ให้ควรจะเพียงพอที่จะทำให้เสร็จในเวลาครับ

3. ประสบการณ์เป็นสิ่งจำเป็น และช่วยได้มากเวลาเช่นนี้ ดังนั้น เตรียมตัวเยอะ ผ่านโจทย์มากย่อมได้เปรียบ

4. ดูสามข้อแรก

กระทู้ไม่ไร้สาระหรอก แต่ตั้งให้ถูกห้องหน่อยนะครับ

[gon]

สำหรับผมแล้ว การทำข้อสอบเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งครับ ศาสตร์ที่ว่าคือการทำอารมณ์ให้อยู่ภาวะที่เหมาะสมที่สุด ผมอธิบายอาจจะไม่เข้าใจ หรือทำให้งงไปใหญ่เพราะเป็นวิธีส่วนตัว ถ้าเคยนั่งสมาธิจนถึงจุดๆหนึ่งที่ใจเริ่มสงบนิ่ง :o เวลาจะแก้ปัญหาโดยเฉพาะก่อนเข้าห้องสอบ ผมจะเอาความรู้สึกไปจับที่ลมหายใจ จนอารมณ์นิ่งนั้นปราฎชัดเจน แล้วจึงเข้าห้องสอบ :happy:

ถ้าพูดให้ง่ายเข้าก็คือทำความรู้สึกให้เหมือนอยู่กับบ้าน :wub: ตอนที่เรานั่งทำแบบฝึกหัด คิดไปเรื่อยๆไม่ต้องสนใจเรื่องเวลาหรือเรื่องอื่นใดๆทั้งสิ้น ลืมไปให้หมด แต่ให้เลือกข้อที่เราคิดว่าหรืออ่านแล้วแว๊บว่าควรจะทำได้แน่ๆก่อน ;)

ยกตัวอย่าง จากประสบการณ์จริง ในการสอบ Pre-Ent ครั้งสุดท้ายของผม ช่วงเช้าสอบวิชาเลข ผมหวังกะทำเต็ม 100 ปรากฎว่ายิ่งทำยิ่งรน :mad: สมาธิไม่นิ่ง ทำไปดูเวลาไป ว่าเวลาจะพอหรือไม่ในการทำให้ทันทั้งหมด ข้อที่ควรจะคิดออกง่ายๆก็คำนวณผิดพลาด สรุปแล้วตอนเช้าผมรู้สึกผิดหวังกับการคาดหวังมากเกินไป :cry:

ในช่วงบ่าย สอบพื้นฐานวิศวะ (เลข + ฟิสิกส์) หลังจากที่ผมทบทวนความคิดดูแล้ว พบว่าทำไมเราถึงหลงไปกับความคิดแบบตอนเช้าได้ :rolleyes: ทั้งที่ผ่านสนามสอบมาก็มาก ประสบการณ์การสอบแข่งก็เยอะ แต่มาตายแบบง่าย ๆ ผมเลยเปลี่ยนอารมณ์กลับไปสู่รูปแบบเดิมคือ ไม่คาดหวังและไม่สนใจว่าเวลาจะเดินผ่านไปแค่ไหน ปรากฎว่าอารมณ์นิ่งสู่ปกติ ทำข้อสอบได้ลื่นไหลและดีกว่าตอนเช้ามาก :great: ซึ่งผลลัพธ์ก็ชัดเจนเมื่อประกาศคะแนน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยุทธวิธีในการทำข้อสอบอาจจะต้องดูความรู้ของเราที่มีอยู่เมื่อเทียบกับความยากของข้อสอบด้วย ถ้าเรามีความรู้เพียงประมาณ 1/3 ของความรู้ที่ต้องใช้สอบทั้งหมด การจะไปคาดหวังว่าทำได้ดี ย่อมเป็นไปไม่ได้ :sweat: ที่ควรทำคือทำให้เต็มที่เท่าความรู้เรามีอยู่ ใครเลยจะรู้ว่า ถ้าข้อสอบยาก คนอื่นอาจจะทำกันไม่ได้ แต่สำหรับเราซึ่งมุ่งตรงทำเฉพาะข้อที่เราคิดว่ามีความรู้พอ และคิดให้ออกให้ได้ ผลลัพธ์อาจจะดีกว่า มุ่งทำหลายข้อแต่อาจจะกลายเป็นทำไม่ได้เลยสักข้อ ซึ่งเรื่องนี้เป็นจริงตอนผมสอบโอลิมปิกครั้งแรกตอน ม.4 :laugh:

[คณิตศาสตร์]

อืมขอบคุณมากๆครับ:cry:
โทษทีนะครับที่ผมหายไปหลายวันเลยครับ คือผมไปเที่ยวกรุงเทพละไปธุระที่เชียงใหม่ครับ :p
พี่ nongtum ครับ ผมอยากให้พี่เป็นที่ปรึกษาได้มั๊ยครับ คือ ตอนนี้กำลังอ่านทบทวนคณิตศาสตร์ม.ต้นอยู่ครับ ตอนนี้ผมเรขาคณิตจบแล้วจะทำโจทย์ แต่มีบ้างที่ผมทำไม่ได้แล้วในหนังสือเฉลยไม่บอกวิธีทำ:sweat: แล้วผมก็ไม่มีครูผู้แนะนำเลยครับ แล้วผมก็คิดไปก็ไม่ออก ปล่อยไว้คงเสียเวลามากๆแน่ครับ ผมอยากให้พี่ nongtum แนะนำการแก้โจทย์ที่ผมทำไม่ได้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ:sweat:

[nongtum]

ถามมาเถอะ ไม่จำเป็นต้องเป็นพี่ีคนเดียวก็ได้ครับ เราช่วยๆกันเท่าๆที่จะัช่วยได้อยู่แล้ว

[คณิตศาสตร์]

คืองี้ครับ ผมมีปัญหาเรื่องการโพสนี่แหละ ไม่ทราบว่ามีวิธีอื่นอีกมั๊ยครับ วิธีที่พี่มาว่าผมทำไม่เป็นเลยครับ
ตอนนี้จะถามเรื่องของวงกลมอยู่ครับ:confused:
1.รูปสามเหลี่ยม ABC แนบในวงกลม โดยที่ มุมB=มุมC=4เท่าของมุมA ถ้าจุด BและC เป็นจุดยอดซึ่งอยู่ติดกันของรูปหลายเหลี่ยมด้านเท่ามุมเท่าที่มี n ด้าน และแนบในวงกลมนี้แล้ว n มีค่าเท่าไร :(:confused:
ข้อที่เหลือเป็นรูปภาพครับ ลงไม่เป็นครับ:sweat:
เรื่องสมการ 1 ข้อ ข้อนี้งงๆ:sweat:
1.นกฝูงหนึ่งบินไปเกาะใบบัวกอหนึ่ง ถ้าเกาะใบบัวใบละ 1 ตัว จะเหลือนกอยู่ 1 ตัว ที่ไม่มีใบบัวเกาะ แต่ถ้านกฝูงนี้เกาะใบบัว ใบละ2ตัว จะเหลือใบบัวอยู่ 1 ใบที่ไม่มีนกเกาะ จงหาว่านกฝูงนี้มีกี่ตัวและใบบัวกี่ใบ:confused:

โจทย์ที่ผมให้มาผมจะพยายามทำให้ได้ครับ ดังนั้นผมจึงอยากให้พี่ nongtum ใบ้และแนะนำเล็กน้อยด้วยนะครับ:please::please: ผมจะยอมไม่ได้เลยถ้าทำโจทย์ไม่ได้ครับ ผมจะคิดไปเรื่อยๆไม่ยอมมันครับ:mad::yum:

[nongtum]

การแนบรูป เคยพูดถึงไปหลายรอบแล้ว ลองอ่านที่นี่ดูนะครับ
http://www.mathcenter.net/forum/faq.php?faq=vb_read_and_post#faq_vb_attachment_explain
ลองผิดลองถูกสักพักน่าจะโพสต์ได้เองครับ แต่ถ้ายังมีปัญหาก็ลองถามมานะครับ จะพยายามตอบเมื่อว่าง

ถ้าจะถามโจทย์แบบนี้ ถามในห้องมัธยมต้นดีกว่านะครับ

ข้อแรกหาแต่ละมุมก่อนวาดรูปหลายเหลี่ยม ส่วนอีกข้อเป็นสมการสองตัวแปร(หรืออาจกำหนดให้เป้นสมการตัวแปรเดียวได้) กำหนดตัวแปรแทนนกกับใบบัวดีๆ แล้วข้อนี้จะง่ายครับ

[คณิตศาสตร์]

ขอบคุณครับ

[Puriwatt]

ข้อแรก A+B+C = 9A = 180 องศา --> A = 20 องศา
สมมุติให้จุด O เป็นจุดศูนย์กลางของวงกลมนี้ แล้วจะได้ว่า มุม BOC = 2x20 = 40 องศา
เมื่อนำสามเหลี่ยม BOC จำนวน n รูป มาเรียงต่อกันรอบจุด O
จะได้รูป n เหลี่ยมด้านเท่ามุมเท่า ที่มีความยาวด้านเท่ากับ BC
ดังนั้น n = 360/40 = 9 เหลี่ยม ครับ

ข้อที่สอง สมมุติให้มีนกจำนวน ก ตัว ดังนั้นจะมีใบบัว = ก - 1 = ก/2 +1 -- ก = 4
ดังนั้นมีนก 4 ตัว และมีใบบัว 3 ใบ ครับ

[Puriwatt]

การทำข้อสอบ ถ้าถึงพร้อมด้วยสติปัญญา แล้วย่อมประสบความสำเร็จได้โดยง่าย
สติ คือ ความที่ประกอบด้วยสมาธิ และการการปล่อยวาง (ตอบแบบคุณ gon)
ปัญญา คือ ความรู้ความสามารถที่สามารถใช้แก้ปัญหาได้
ปัญหา คือ ความแตกต่างระหว่างสิ่งที่มี กับสิ่งที่ต้องการจะมี

การทำข้อสอบให้ได้คะแนนมากๆ จะต้องเตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมความรู้ให้พร้อม
เตรียมตัว คือ รักษาสุขภาพให้ดีพร้อมสำหรับการสอบ (ผมเคยสอบเลขในขณะที่ป่วยหนัก มันจะเบลอไปหมด แต่ก็ยังพอทำได้~66%)
เตรียมใจ คือ อย่าตื่นเต้น กังวล กลัว ในขณะทำข้อสอบ (ผมเคยมีความกลัวในขณะทำข้อสอบเลขเสมอ เลยมักจะเว้นไว้ 2 ข้อตลอด)
เตรียมความรู้ คือ หมั่นฝึกฝนอย่างอดทน และทบทวนความรู้บ่อยๆ (ผมเคยฝึกจนสามารถทนคิดโจทย์เรขาคณิตข้อหนึ่ง อยู่ถึง 27 ปี เลยครับ
กว่าจะออก บางปีว่างๆก็นำมาคิด พบว่าสนุกดี)

การคิดในใจ(มีมโนภาพ) จะช่วยให้ความเร็วในการคิดรวดเร็วขึ้นและประหยัดกระดาษ (แต่ดูเลื่อนลอยไปหน่อย และไม่สามารถตรวจสอบได้ )
การวาดรูป(ประกอบการคิด) จะช่วยให้เราคิดเป็นระบบมากขึ้น และยังลดโอกาสที่จะผิดพลาดลงอีกด้วย
การนำเสนอ(วาด+เขียนเชื่อมต่อประโยค) จะช่วยให้เราเข้าใจข้อบกพร่องในกระบวนการของความคิดมากขึ้น และจัดระเบียบได้ง่ายขึ้น
เมื่อทำให้มาก+ทำให้ชำนาญ แล้วปัญหาที่ถามมาทั้งหมด ย่อมได้รับการแก้ไขเองครับ

[teamman]

การทำข้อสอบ ถ้าถึงพร้อมด้วยสติปัญญา แล้วย่อมประสบความสำเร็จได้โดยง่าย
สติ คือ ความที่ประกอบด้วยสมาธิ และการกาปล่อยวาง (ตอบแบบคุณ gon)
ปัญญา คือ ความรู้ความสามารถที่สามารถใช้แก้ปัญหาได้
ปัญหา คือ ความแตกต่างระหว่างสิ่งที่มี กับสิ่งที่ต้องการจะมี

การทำข้อสอบให้ได้คะแนนมากๆ จะต้องเตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมความรู้ให้พร้อม
เตรียมตัว คือ รักษาสุขภาพให้ดีพร้อมสำหรับการสอบ (ผมเคยสอบเลขในขณะที่ป่วยหนัก มันจะเบลอไปหมด แต่ก็ยังพอทำได้~66%)
เตรียมใจ คือ อย่าตื่นเต้น กังวล กลัว ในขณะทำข้อสอบ (ผมเคยมีความกลัวในขณะทำข้อสอบเลขเสมอ เลยมักจะเว้นไว้ 2 ข้อตลอด)
เตรียมความรู้ คือ หมั่นฝึกฝนอย่างอดทน และทบทวนความรู้บ่อยๆ (ผมเคยฝึกจนสามารถทนคิดโจทย์เรขาคณิตข้อหนึ่ง อยู่ถึง 28 ปี เลยครับ
กว่าจะออก บางปีว่างๆก็นำมาคิด พบว่าสนุกดี)

การคิดในใจ(มีมโนภาพ) จะช่วยให้ความเร็วในการคิดรวดเร็วขึ้นและประหยัดกระดาษ (แต่ดูเลื่อนลอยไปหน่อย และไม่สามารถตรวจสอบได้ )
การวาดรูป(ประกอบการคิด) จะช่วยให้เราคิดเป็นระบบมากขึ้น และยังลดโอกาสที่จะผิดพลาดลงอีกด้วย
การนำเสนอ(วาด+เขียนเชื่อมต่อประโยค) จะช่วยให้เราเข้าใจข้อบกพร่องในกระบวนการของความคิดมากขึ้น และจัดระเบียบได้ง่ายขึ้น
เมื่อทำให้มาก+ทำให้ชำนาญ แล้วปัญหาที่ถามมาทั้งหมด ย่อมได้รับการแก้ไขเองครับ
การทำข้อสอบ ถ้าถึงพร้อมด้วยสติปัญญา แล้วย่อมประสบความสำเร็จได้โดยง่าย

เป็นคำพูดที่กินใจมากเลยครับ :great:

[คณิตศาสตร์]

ขอบคุณมากๆครับ
ผมยังงงข้อนกเกาะใบบัวอยู่ครับ ข้อนี้ต้องให้พี่ๆอธิบายให้ชัดเจนแล้วเพราะว่าผมงงมาก กำหนดสมการไม่ถูกเลยครับ
แล้วก็เรื่องเวลาทำข้อสอบในโรงเรียนบ่อยๆนะครับผมจะเป็นแบบนี้ครับ
1.กังวลว่าทำไม่ได้ไม่รู้ทำไมใจสั่นๆ:unsure:
2.บางทีเห็นข้อทำไม่ได้พอกลับมาคิดแล้วไม่ได้ยิ่งท้อแท้ไปอีก:sweat:
3.ดูเวลา สิ่งนี้ผมว่าไม่น่าจะสนใจกับมันนะอย่างที่พี่ gon บอกครับ มันทำให้เรายิ่งรีบมากขึ้น รีบจนคิดอะไรไม่ออก สุดท้ายผมก็เดา :tired::wacko:
4.สะเพร่าไม่หายครับ แก้ยังไงดีครับ ข้อง่ายๆไม่ประมาทแต่ลงแรงคิดเลขผิด นี่แหละผมถึงได้โกธรตัวเอง:mad:
แต่ผมจะปรับปรุงตนเองครับ

อีกเรื่องครับ ข้อสอบสมาคมคณิตศาสตร์ควรลองทำดูดีมั๊ย ไม่ทราบว่ามันจะช่วยพัฒนาเรารึเปล่าครับ คือผมเห็นโจทย์น่าสนใจดี แต่ดูบางข้อแก้ปัญหาไม่ได้เลยไม่ได้ซื้อมาทำครับ:confused::huh:

[Puriwatt]

สมมุติ : มีนกอยู่ x ตัว, มีใบบัวอยู่ y ใบ เมื่อเกาะใบบัว ใบละ 1 ตัว จะมีนกเหลือ a ตัวที่ไม่มีใบบัวให้เกาะ
และเมื่อนกลงเกาะใบบัว ใบละ 2 ตัว จะเหลือใบบัวที่ไม่มีนกเกาะอยู่ b ใบ

(1) เกาะใบบัว ใบละ 1 ตัว จะมีนกเหลือ a ตัวที่ไม่มีใบบัวให้เกาะ
แสดงว่ามีนกมากกว่าใบบัวอยู่ a ตัว ก็คือ x - y = a ------ (1)

(2) ถ้านกลงเกาะใบบัว ใบละ 2 ตัว(มีนก $\frac {x}{2}$ คู่) จะเหลือใบบัวที่ไม่มีนกเกาะอยู่ b ใบ
แสดงว่าจำนวนคู่นก น้อยกว่าใบบัวอยู่ b ใบ ก็คือ $y - \frac {x}{2} = b$ หรือ 2y - x = 2b ------ (2)

(1) + (2) ---> (x - y) + (2y - x) = y = 2b + a ; สำหรับกรณีนี้ a = b = 1 ดังนั้นจะได้ y = 3 ใบ และ x = 4 ตัว ครับผม

[Puriwatt]

แล้วก็เรื่องเวลาทำข้อสอบในโรงเรียนบ่อยๆนะครับผมจะเป็นแบบนี้ครับ
1.กังวลว่าทำไม่ได้ไม่รู้ทำไมใจสั่นๆ:unsure:
2.บางทีเห็นข้อทำไม่ได้พอกลับมาคิดแล้วไม่ได้ยิ่งท้อแท้ไปอีก:sweat:
3.ดูเวลา สิ่งนี้ผมว่าไม่น่าจะสนใจกับมันนะอย่างที่พี่ gon บอกครับ มันทำให้เรายิ่งรีบมากขึ้น รีบจนคิดอะไรไม่ออก สุดท้ายผมก็เดา :tired::wacko:
4.สะเพร่าไม่หายครับ แก้ยังไงดีครับ ข้อง่ายๆไม่ประมาทแต่ลงแรงคิดเลขผิด นี่แหละผมถึงได้โกธรตัวเอง:mad:
แต่ผมจะปรับปรุงตนเองครับ

อีกเรื่องครับ ข้อสอบสมาคมคณิตศาสตร์ควรลองทำดูดีมั๊ย ไม่ทราบว่ามันจะช่วยพัฒนาเรารึเปล่าครับ คือผมเห็นโจทย์น่าสนใจดี แต่ดูบางข้อแก้ปัญหาไม่ได้เลยไม่ได้ซื้อมาทำครับ:confused::huh:

ขอแยกตอบทีละข้อตามความเข้าใจของผมก็แล้วกันนะครับ
1.ถ้าเตรียมตัวดีและมีความรู้เหนือกว่าข้อสอบ ปัญหาข้อ 1, 2 ก็จะไม่เกิด แต่ต้องระวังในการควบคุมความตื่นเต้นที่เกิดจาการทำข้อสอบได้ให้ดี
ซึ่งมักจะเกิดในตอน 30 นาทีแรกและสุดท้าย(สมัยเรียนผมเกิดขึ้น จนต้องเว้นบางข้อไปก่อน--เรียกว่าเปลี่ยนฉาก แล้วค่อยกลับมาดูทีหลัง)

2.ต้องฝึกจำลองสถานการณ์ เช่นทำข้อสอบเก่า แบบคุมเวลาทำ จากนั้นก็หาทางปรับปรุงความรู้ในข้อที่ผิด หรือข้อที่ทำไม่ได้
แล้วจะพบว่า เมื่อทำถึง 4-5 ชุดแล้วจะมีคะแนนที่สูงขึ้นมาก ปัญหาข้อ 3 ก็จะไม่เกิด
(ผมเคยใช้ได้ดีกับวิชาเคมี พบว่า ชุดแรกมีคะแนน ~65-->เพิ่มเป็น 75-->80-->85--> ชุดหลังๆได้ประมาณ 90(86~94)
และยังพบว่าเราจะประเมินตนเองได้ดีขึ้น รวมทั้งรู้ว่าควรแบ่งเวลาในกาทำข้อสอบอย่างไรด้วยครับ)

3.ความสะเพร่ามักจะเป็คุณสมบัติเฉพาะตัวที่มีลักษณะ+รูปแบบซ้ำๆ ซึ่งสามารถปรับลด, ป้องกัน และ สังเกตุได้ เช่น เกิดจากการอ่านผิด
หรือตีความตรรกกะผิด(input), เกิดจากความผิดพลาดของกระทำการ(Process + - x /), เขียนในบรรทัดต่อไปผิด ตกหล่น เกิน(output)
การฝึกสังเกตุเช่น การแทนค่าคำตอบลงในโจทย์, ตรวจตัวเลขหลักหน่วย (คู่, คี่, 5 เป็นต้น), การตรวจความเป็นไปได้
ในเชิงปริมาณ(เครื่องหมาย, มุมแหลม-ป้าน-ฉาก, มาก-น้อย) การแม่นตรรกกะที่ใช้เชื่อมประโยคจะช่วยลดหรือกำจัดปัญหาข้อที่ 4 ลงได้

การฝึกทำให้มาก+ทำให้ชำนาญ จากระดับง่ายๆ จนถึงระดับยากๆ จะช่วยเป็นภูมิคุมกันโรคกลัวข้อสอบได้เป็นอย่างดี
ถ้าเราต้องการความสามารถในการแก้ปํญหาระดับสมาคมฯ แล้วเราต้องฝึกแก้ปัญหาในระดับนั้น ประเด็นนี้น่าจะตอบได้ด้วยตนเอง
ทุกปัญหาย่อมมีทางแก้เสมอที่เราทำไม่ได้เพราะเรายังไม่รู้วีธี หรือเห็นเฉลยแล้วแต่ยังไม่เข้าใจ แสดงว่าเรายังขาดอะไรบางอย่างนั่นเอง

[คณิตศาสตร์]

อืมขอบคุณครับ เฉลยสมาคมคณิตศาสตร์ผมอ่านแล้วเข้าใจจริงๆนะครับ แบบว่าเวลาคิดผมจะมองข้ามมันไป