จริงๆผมยังไม่จบ ม.6 ปีนี้หรอกครับเเต่ก็อยากเรียนสายเพียวเเมทนี่เเหละ เเละผมก็อยากเป็นนักเขียนด้วย 555 อยากให้มีโครงการดีเเบบนี้อะครับ

ตอนนี้ยังอยู่ ม2 อยู่เลยครับผมแต่จะเรียน pure math ตอนเข้ามหาลัยถ้าจบมา
ก็ขอฝากตัวกับพี่ gon ไว้ก่อนเลยนะครับ :haha:

ได้น้อง PP_nine เป็นสมาชิกรุ่นที่ 0 แล้วครับ (รุ่นทางความคิด :great: )


คุณ poper อย่าลืมนะครับว่าผมก็ไม่ได้เรียนคณิตศาสตร์มาโดยตรงเหมือนกัน :laugh:

โครงการนี้ตามความคิดผมไม่มีปิดกั้น ไม่สนใจกระดาษใบไหนทั้งสิ้นครับ

ต่อให้เป็นเด็ก ป.3 ถ้ามีฝีมือหรือความรู้ในเรื่องที่อยากทำจริง ได้หมดทั้งนั้นครับ. :cool:

น้องข่งหมิงถ้าต้องการเขียนหนังสือด้วย ต้องหาประสบการณ์โดยเฉพาะด้านการสอนเยอะ ๆ ครับ

เพราะระหว่างเรารู้ในใจหรือเข้าใจอยู่คนเดียวกับอธิบายให้คนอื่นเข้าใจตามที่เรารู้ด้วยยากกว่าเยอะครับ

เริ่มจากเพื่อน ๆ รอบตัวหรือเพื่อนสมาชิกในบอร์ดเราเองก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ :)

ความยากของการเป็นมนุษย์ในสังคมก็คือ

การพยายามหล่อเลี้ยงไฟหรืออุดมการณ์ให้มันคงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ ครับ

ถ้าคิดตอนนี้ก็บอกได้ว่าอาจจะยังไม่แน่

แต่ถ้าถึง ม.6 แล้วยังคิดเหมือนอยู่ ก็แปลว่าเริ่มแน่แล้วครับ. :happy:

มาให้ข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ประกันภัย ถ้าใครสนใจก็ดูที่นี่ได้ครับ http://www.soa.org/education/exam-req/edu-asa-req.aspx

ส่วนที่ว่าได้รายดีนั้นผมว่าเป็นเทคนิคของการตลาด เพราะนั้นหมายถึงว่าคุณต้องสอบได้เป็น Fellow ซึ่งจะบอกว่าไม่ง่ายครับ อย่างน้อยที่จะพอเอาไปใช้ได้บ้างก็ต้องมี level 5 เป็นอย่างน้อย อันที่จริงไม่จำเป็นต้องเรียนคณิตศาตร์ก็สามารถไปสอบได้ ถ้าคุณมีความสามารถ เหมือนกับโครงการของท่าน gon นี้ที่เปิดโอกาสให้คนมีความสามารถไปแสดงฝีมือกัน แต่เสียดายไม่มีส่วนที่เขียนก็ไม่เป็น สอนก็ไม่เก่ง แต่เอาแต่วิจารณ์อย่างเดียว ไม่งั้นจะไปจองคิวไว้ซะหน่อย :laugh::laugh:

เวลาไม่อำนวยเอาแค่นี้ก่อนเดี๋ยวว่างแล้วมาต่อ

คุณหยินหยางถ้าอยากเหนื่อย ก็คงต้องเสนอเรื่องที่ตัวเองอยากเหนื่อยครับ. :haha:

ผมเพิ่งขึ้นม.5 อยากเรียนต่อด้านpureเหมือนกันครับ แต่ว่าไม่รู้จบมาจะทำงานอะไร อาจเป็นครูในมหาลัยแต่ไม่รู้ว่าต้องไปเรียนครูเพิ่มหรือยังไงครับ? รึถ้ามาหางานอย่างอื่นจะมีงานอะไรทำมั่งละครับ พ่อแม่ก็ไม่ค่อยอยากให้เรียนต่อด้านpureเท่าไหร่

ไม่อยากเหนื่อย แต่อยากได้ตังค์ครับ :D:D

แต่ถ้าชอบ ถึงไหนถึงกันครับ :laugh::laugh:

ผมไม่แน่ใจว่าโครงการที่คุณ gon จะทำขึ้นมีเป้าหมายคือ รองรับนักคณิตศาสตร์หรือผู้ที่ชื่นชอบคณิตศาสตร์ ให้มีงานทำได้ตรงความสามารถ โดยมีรายได้ขั้นต่ำอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือต้องการให้ผู้ที่ชื่นชอบคณิตศาสตร์ได้สร้างสรรผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ในประเทศไทย #13

ถ้าเป็นตามนั้นผมไม่แน่ใจว่าจะสู้พวกโรงเรียนกวดวิชาได้หรือไม่ ซึ่งมีตลาดแน่นอน รายได้มหาศาลก็ว่าได้

เพราะปัจจุบันนักวิชาการส่วนใหญ่ อยู่ด้วยทุนวิจัย(ซึ่งก็ไม่ได้มากมาย)กับใจรัก

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่อยากเห็นการพัฒนาคณิตสาสตร์ของเด็กไทยเหมือนกัน :)

คือผมกำลังจะขึ้นม.6 ผมว่าจะเรียนคณะวิทยาศาตร์ สาขาคณิตศาสตร์ (ลังเลกับสาขาฟิสิกส์:cry:)
แต่เพื่อนๆผมเชียร์คณิตศาสตร์มากกว่า เพราะผมเก่งคณิตศาสตร์ในห้อง:laugh: (ไม่ถึงขั้นโอลิมปิคนะ)

ถ้าเรียนจบออกมาแล้ว ผมอยากเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย
แล้วอาจารย์ในมหาวิทยาลัยสามารถทำงานวิจัยในหน่วยงานของรัฐได้หรือป่าว
หรือ จะทำวิจัยก็ทำวิจัย จะสอนก็สอน หรือสอนด้วยทำวิจัยด้วยก็ได้

แล้วอาจารย์ในมหาวิทยาลัยงานหนักหรือป่าว ถ้าเทียบกับอาจารย์มัธยม และเงินเดือน
:D

คิดให้ดีก่อนครับ ถ้าจะเรียนคณิตศาสตร์บริสุทธิ์

มันไม่เหมือนกับที่เคยเรียนมา มีแต่พิสูจน์หมด

สายงานแคบมาก บังคับต่อโท - เอก ครับ

เพราะใช้ในโลกจริงไม่ได้เลย ยิ่งประเทศไทยด้วยแล้ว

ยิ่งไม่ใช้เลย จะว่าคณิตโอลิมปิกก็ยากอยู่แล้ว แต่พิสูจน์นี่ถึงขั้น

มองภาพไม่ออกแล้วครับ ถ้ารักและชอบจริงๆ ก็ลุยเลยครับ

ไม่ได้เรียนเลขแต่อยากมีส่วนร่วม 555+

ถ้าผมเรียนจบแล้วก็อยากช่วยด้านการเงินนะ ^^

เรียนต่อ คณิตศาสตร์ครับ :)

การทำโรงเรียนกวดวิชาหาเงินได้ง่ายก็จริงครับ แต่ก็เป็นอยู่ในวิถีของวงจรเดิม ๆ ซึ่งไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือน่าท้าทายครับ คือเป็นสิ่งที่มีอยู่ในแล้วในสังคมบ้านเรา ที่ผมอยากทำนอกเหนือไปจากของเก่าแล้วก็คือการสร้างอาชีพหรืองาน เพื่อให้ประเทศมีงานใหม่หรือพัฒนาไปสู่วิถีใหม่มากกว่า และเป็นการทำให้ครบวงจร :)

นอกจากนี้หากเริ่มต้นออกเดินทางด้วยการทำโรงเรียนกวดวิชา ผมก็จะได้หนึ่งอย่างแต่เสียสองอย่าง :laugh: ซึ่งทำให้เป้าหมายของผมไม่มีทางบรรลุผลได้อย่างแน่นอน นี่ไม่ได้ความว่าผมจะตัดตัวเลือกการทำโรงเรียนกวดวิชานะครับ โรงเรียนกวดวิชาอยู่ในทางเลือก 2.2 ของผมอยู่เหมือนกัน

ผมไม่ได้เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ตอบไม่ได้ครับ แต่เท่าที่รู้ก็พอ การทำวิจัยนั้นเป็นที่ต้องการแน่นอน ซึ่งก็มีทั้งที่สอนอย่างเดียว หรือทำวิจัยควบคู่ไปด้วย ทุกอาชีพงานหนักเหมือนกันหมดล่ะครับ ถ้าทำงานสบาย ๆ รับรองได้เลยว่าไม่มีผลงาน ไม่มีความก้าวหน้า ย่ำอยู่กับที่ เป็นเรื่องของปัญเจกบุคคลที่ต้องกำหนดเองครับ ว่าอยากทำงานแบบสบาย ๆ หรือทำงานหนัก

เตรียมเงินไว้เยอะ ๆ เลยครับ :haha:

สรุปว่าปีนี้ที่เปิดเผยมีต่อกันหลายทีเดียว คาดไม่ถึงเหมือนกันครับ. :great:

ผมเพียงตั้งข้อสังเกตไว้เท่านั้นครับ จากข้อความที่ว่า เพื่อรองรับนักคณิตศาสตร์หรือผู้ที่ชื่นชอบคณิตศาสตร์ ให้มีงานทำ...ให้ทำตามความสามารถโดยมีรายได้ขั้นต่ำอยู่ในเกณฑ์ดี...
-ใครที่มีความสามารถแก้ปัญหาเก่ง ๆ และสามารถเขียนให้เรื่องยากเป็นเรื่องง่ายได้ ก็ให้สร้างผลงานเขียนหนังสือที่ดีเยี่ยมออกมาเรื่อย ๆ สำหรับเรื่องตลาด หรือการขายไม่ต้องเป็นห่วง ที่ต้องสนใจก็มีอยู่เพียงคิดค้นหาวิธีหรือยกตัวอย่างที่ทำให้หนังสือที่ผลิตออกมานั้น เยี่ยมที่สุดเท่านั้นพอ เรื่องเงินให้เต็มความสามารถและยอดขาย ไม่เอาเปรียบนักเขียน

จะเห็นว่าคนที่จะมาร่วมงานต้องเป็นคนที่มีคุณภาพ และจะได้รับค่าตอบแทนที่สูงพอควร ซึ่งนั่นหมายถึงว่าจะมีตลาดที่มากพอและยินดีที่จะจ่ายยกเว้นคุณ gon จะมีแหล่งเงินทุนมหาศาลมาเติมเงินให้ตลอดเวลา หรือว่าคุณ LightLucifer เซ็นสัญญาเป็นผู้อุปการะคุณแบบไม่อั้นแล้ว:) และงานที่เห็นที่พอจะมีตลาดและมีรายได้ก็จะไปทับซ้อนกับโรงเรียนกวดวิชาดังๆ ทั้งหลายซึ่งติดตลาดแล้ว ลูกค้าก็มีอยู่ในมือ ซึ่งนั่นหมายถึงการแข่งขันก็จะสูงตาม และก็จะเป็นไปตามกลไกตลาด ราคาก็จะวิ่งเข้าสู่จุดสมดุลตามหลัก demand-supply

เพราะอะไรก็แล้วแต่ที่ต้องใช้เงินส่วนใหญ่จะหนีไม่พ้นคำว่า ธุรกิจ นั้นหมายถึงการจะขยับอะไรตามอุดมการณ์จะทำได้ไม่ง่าย ผมเชื่อว่าคุณ gon น่าจะเข้าใจดีครับ

ผมไม่มีความคิดที่จะขัดแย้ง เพียงแต่แสดงความเห็นในสิ่งที่คิดว่าน่าจะมองเผื่อไว้ก่อนเริ่มงานครับ ผมเอาใจช่วยครับ:cool:

ผมก็อยากครับ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะไปเรียนทาง Pure หรือ Applied ดีอ่ะครับ

กำลังตัดสินใจระหว่าง จุฬา กับ มหิดล

ผมอยากเรียน ไปทาง การสอนคณิตศาสตร์ มากกว่าอ่ะคับ แบบศึกษาศาสตร์ ครุศาสตร์ อะไรประมาณนี้ อ่ะคับ
แต่ก็ไม่รุ้จะเปนไปได้รึป่าวว ซึ่งผมเปนคนที่ชอบคณิตนะ แต่ไม่เก่งคณิตเอาเสียเลย (แต่ก็จะพยายามคับ :D)