Mathcenter Forum

Mathcenter Forum (https://www.mathcenter.net/forum/index.php)
-   ข้อสอบในโรงเรียน ประถมปลาย (https://www.mathcenter.net/forum/forumdisplay.php?f=24)
-   -   ข้อสอบ imso 2015 + คำตอบ (https://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=22944)

gon 10 พฤศจิกายน 2015 11:39

ข้อสอบ imso 2015 + คำตอบ
 
21 ไฟล์และเอกสาร
imso 2015 ปีนี้จัดที่ประเทศไทย ปทุมธานีครับ 1-7 พ.ย. ประกาศผลวันที่ 6 ที่ผ่านมา เท่าที่ดูงานถือว่าออกมาดี แต่มาแย่ตอนท้ายคือข่าวที่ออกมามีรายละเอียดน้อยมาก ไม่ยอมบอกชื่อนักเรียนว่าคนไหนได้เหรียญอะไรเหมือนกับทุก ๆ ปีที่ไปแข่งต่างประเทศ วิชาเลขได้ เหรียญทอง 11 คน เหรียญเงิน 12 คนและเหรียญทองแดง 1 คน ก็ครบทุกคนที่เข้าแข่งครับ. ดังนั้นถ้าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว อาจจะไม่รู้ว่าใครได้อะไรครับ :haha:

เช่น จาก http://www.naewna.com/local/187448




ข้อสอบจาก chiuchang ว่องไวเหมือนเดิม :great:



gon 10 พฤศจิกายน 2015 11:45

11 ไฟล์และเอกสาร

Minion 11 พฤศจิกายน 2015 14:27

พอจะมีข้อมูลผลการแข่งขันอยู่ เอามาลงให้ครับ หากพิมพ์ผิด ตกหล่น ขออภัยนะครับ

ทอง 11 เหรียญ
ก้องภพ ปิยกมลานนท์ ( Champion of Total Score)
มุฑิราช ลักษณะวิศิษฎ์ ( Runner 's up Theory)
ชยพล เชาว์วีระประสิทธิ์
สิรวิชญ์ เอกพงศ์ไพสิฐ (Runner's up Theory)
ปาณัสม์ จินดานุวัฒน์
ธนกฤต กมลสัมฤทธ์ผล
ปรานต์กฤษฎ์ สิริศุภผล
ธีรภัค โกมลมณี
ธีธัช บำรุงเชาว์เกษม
พิชญุตม์ แสงรุ่งคงคา
พร้อม เกิดโภคทรัพย์

เงิน 12 เหรียญ
สโรชา เสมอภาค
ภัทรพล เหล่ากุลวาณิช
ภาสกร พนิตนันท์
ธัญพร ขาวพลัด
ปัณณธร จำรูญฤทธิ์
ธีรภัทร รมณีย์พิกุล
พนธกร คูสกุล
ปรมี วัชรีบำรุง
ปุณณสิน เจนกุลประสูตร
ภูตะวัน พลานุภาพ
ยุทธนา สรรค์วิวัฒน์
อนวัช ตันนิกร

ทองแดง 1 เหรียญ
ไมตรี หิรัญติยะกุล

mathandme 19 มิถุนายน 2016 12:29

รบกวนเฉลยวิธีคิดโจทย์ 4 ข้อนี้ด้วยครับ(imso2015)
 
เป็นโจทย์ IMSO 2015
อยากทราบวิธีคิดครับ
ขอบคุณครับ





mathandme 19 มิถุนายน 2016 19:16

ข้อ3 ข้อ10 คิดออกแล้วครับ
ยังติดอยู่ที่ ข้อ7 ข้อ12 ยังคิดไม่ออกครับ

CoNanKung 20 มิถุนายน 2016 20:24

ข้อ12 ใช้เมเนลอสหลายๆครั้งดูครับ


Hint---ลองหาAG:GEจากเมเนลอสก่อนแล้วเอาไปใช้กับเมเนลอสรูปอื่นต่อครับ

narongratp 20 มิถุนายน 2016 21:38

ข้อ 7 ใช้สามเหลี่ยมคล้ายครับ

mathandme 21 มิถุนายน 2016 06:46

จะลองทำดูครับ
ขอบคุณทั้ง 2 ท่านมากครับ

mathandme 21 มิถุนายน 2016 12:38

หลังจากไปศึกษาทฤษฎีบทเมเนลอสแล้ว มาแก้ข้อ12 ได้แล้วครับ

ส่วนข้อ7ต้องลุยต่อไปครับ

otakung 21 มิถุนายน 2016 13:07

ข้อ 3 ใช่ 462 รึเปล่าครับ ผมนึกดูหลาย ๆ แบบแล้วแบบนี้น้อยที่สุดจากทั้งหมดที่หาได้ แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าไม่มีแบบอื่นที่น้อยกว่านี้อีก

แบบที่ผมได้คือ (a, b, c) = (252, 126, 84)

mathandme 21 มิถุนายน 2016 14:36

ข้อ3 ตอบ462 ใช่แล้วครับ

Pitchayut 21 มิถุนายน 2016 16:46

ข้อ 7 ลุยหาพื้นที่ทีละรูปก็ได้นะครับ

mathandme 21 มิถุนายน 2016 18:18

ข้อ7 ผมติดตรงพื้นที่แรเงาสี่เหลี่ยมด้านขวาครับ มองไม่ออกครับ

gon 21 มิถุนายน 2016 20:16

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ mathandme (ข้อความที่ 181984)
ข้อ7 ผมติดตรงพื้นที่แรเงาสี่เหลี่ยมด้านขวาครับ มองไม่ออกครับ

ประมาณนี้ครับ.

$[GFIJ] = [FIC] - [GJC] = \frac{1}{2} \times 4 \times \frac{12}{5} - \frac{1}{2} \times 2 \times \frac{3}{2} = 3.3$

H, I, J เป็นจุดบนเส้นทแยงมุม AC โดยไล่จากบนลงมา ตามลำดับ.

mathandme 21 มิถุนายน 2016 21:01

ถามคุณ GON เพิ่มครับ
ตรงสามเหลี่ยมFIC สูง = 12/5 และ GJC สูง = 3/2
คิดยังไงครับ ขอบคุณครับ

gon 22 มิถุนายน 2016 12:32

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ mathandme (ข้อความที่ 181986)
ถามคุณ GON เพิ่มครับ
ตรงสามเหลี่ยมFIC สูง = 12/5 และ GJC สูง = 3/2
คิดยังไงครับ ขอบคุณครับ

อ้างอิง:

ทฤษฎีบท อัตราส่วนของส่วนสูง ของรูปสามเหลี่ยมที่คล้ายกัน จะเท่ากับอัตราส่วนของฐาน หรืออัตราส่วนของด้านที่สมนัยกัน
รูปสามเหลี่ยม ADI คล้ายกับรูปสามเหลี่ยม FIC ถ้าให้ AD และ FC เป็นฐาน จะได้

สูงของรูปสามเหลี่ยม ADI : สูงของรูปสามเหลี่ยม FIC = AD : FC = 6 : 4 = 3:2 = 3h : 2h

ดังนั้น 3h + 2h = DC = 6 แล้ว h = 6/5 ดังนั้น 2h = 12/5 เป็นต้นครับ.:)

--------------------------------------------------------------------------

การพิสูจน์ข้อความข้างต้น
ทำได้โดยการลากเส้นตรงให้ผ่านจุด I ขนานกับ DC โดยตัดกับ AD และ BC ที่จุด P, Q ตามลำดับ

จะได้รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก API คล้ายกับ รูปสามเหลี่ยม CIQ (หรือ DPI คล้ายกับ FIQ)

จากนั้นใช้สมบัติการถ่ายทอดกับรูปสามเหลี่ยมคล้ายคู่แรกคือ ADI กับ FIC

mathandme 22 มิถุนายน 2016 12:53

ขอบคุณมากครับ คุณGON

Thgx0312555 22 มิถุนายน 2016 16:19

ไม่รู้นะครับ
อ้างอิง:

$1=\dfrac{1}{2}+\dfrac{1}{3}+\dfrac{1}{7}+\dfrac{1}{112}+\dfrac{1}{126}+\dfrac{1}{144}$
$112+126+144=382$

mathandme 22 มิถุนายน 2016 20:47

ของคุณ Thgx0312555 ได้จำนวนที่น้อยกว่าจริงๆด้วยครับ
เดี๋ยวผมจะคิดอีกทีครับ ถ้าคิดไม่ออกจะมาขอคำแนะนำนะครับ

Thgx0312555 23 มิถุนายน 2016 09:14

ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้อยที่สุดเหมือนกันครับแต่เดี๋ยวจะลองทำดู

Chalard 30 มิถุนายน 2016 15:08

ใช้ค่าเฉลี่ย ได้ ฺb = 126 จากนั้นใช้ (1/42) -(1/126) = 1/63 = (1/a) + (1/c) จะได้ ab = 63a+63b แยกได้ (a - 63)(b - 63) = 49 x 81 จะได้ a = 112 และ b = 144 ต่ำสุดครับ

Chalard 30 มิถุนายน 2016 15:10

แก้เป็น 1/63 = (1/a) +(1/c) จะได้ ac = 63a + 63c นะครับ


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 00:27

Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha