Mathcenter Forum

Mathcenter Forum (https://www.mathcenter.net/forum/index.php)
-   ข้อสอบในโรงเรียน ม.ปลาย (https://www.mathcenter.net/forum/forumdisplay.php?f=21)
-   -   โจทย์บางข้อของกสพท.ปี2553 (https://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=11900)

กิตติ 25 กันยายน 2010 15:05

โจทย์บางข้อของกสพท.ปี2553
 
ไปค้นเจอกระทู้ในพันทิพที่มีคนจดข้อสอบคณิตศาสตร์กสพท.ปี2553มาลงให้ดู
กระทู้ในพันทิพ....ช่วยทำข้อสอบเลขหน่อยครับ

ช่วยดูโจทย์หน่อยครับว่าผมเขียนสัญลักษณ์อะไรตกหล่นไปบ้าง เพราะบางเรื่องผมยังไม่ได้ทบทวนเครื่องหมายสัญลักษณ์

1. $A=log_{18}12$ และ $B=log_{54}24$ จงหาค่าของ$\frac{1-AB}{A-B} $

2.จงหาค่า $x$ ที่ทำให้ $log_3(4\cdot 3^x-1) \ , \ log_9(2\cdot 3^{x+1}+2) \ , \ log_3(3^{x+1}+1)$ เป็นลำดับเรขาคณิต
(โจทย์ที่ถูกน่าจะเป็น ลำดับเลขคณิต)

3.ให้ $A = \left\{\,\varnothing ,a,\left\{\,\varnothing ,a\right\} \right\} $, และ $B = P(A)$ และ $S$ เป็นสับเซตของ $B$
จงหาว่ามี $S$ กี่เซต ที่ $S \cap A \not= \varnothing $

4. ให้ $r(x)$ เป็นเศษเหลือจากการหาร $x^{2553}-ax+1$ ด้วย $x^2-1$ ถ้า $r(2) = 17$ จงหา $a$

5. กำหนด$ x$ เป็นจำนวนเต็มที่ไม่ใช่ $0$ , $P(x)$ เป็นพหุนามที่มีสมบัติ $P(x)P(\frac{1}{x} ) = P(x)+P(\frac{1}{x} )$
และ $P(\frac{1}{2} )= \frac{7}{8} $....เพิ่มเงื่อนไข
จงหา $P(1)+P(2)+P(3)+P(4)+P(5)$

6. กำหนดสมการกราฟ $x^2+y^2+6y+16x+k^2 = 0 $ถ้ากราฟนี้ตัดแกน $Y$ 2จุด แต่ไม่ตัดแกน $X$
จงหาค่า$ K $ที่มากที่สุดที่เป็นไปได้
สมการที่ถูกต้องน่าจะเป็น $x^2+y^2+6x+16y+k^2 = 0 $

7. กำหนด $A$ เป็นเมทริกซ์ $3x3$ ที่มี $det(A) = 2$ จงหา $det(adj(adj(A)))$

8. กำหนด A เป็นเมทริกซ์ $n\times n$ โดยที่มีสมาชิกเป็นจำนวนตั้งแต่ $1$ ถึง $n^2 $ โดยที่ไม่มีจำนวนซ้ำและมีผลบวกแนวทแยงและหลักเท่ากัน
จงหา $det(A)$ เมื่อ $A$ มีสมาชิกแนวทแยงเป็น $2,5,8$

9. จงหาค่าของ $ \dfrac{sin \ 9x + 6 sin \ 7x +17 sin \ 5x + 12 sin \ 3x}{sin \ 8x + 5 sin \ 6x + 12 sin \ 4x} $

10. ในกล่องใบหนึ่งมีลูกบอล $5 $ลูก แต่ละลูกเขียนตัวเลขไว้ไม่ซ้ำกัน ตั้งแต่ $1$ ถึง $5$ หยิบลูกบอลจากกล่องมา$ 3$ลูก
จงหาความน่าจะเป็นที่จะได้ตัวเลขบวกกันแล้วเป็นเลขคู่ หรือคูณกันแล้วเป็นเลขคี่

11. ให้สี่เหลี่ยมจตุรัส $ A$ มีพื้นที่ $14\times 14 $ ซม$^2$ จงหาความน่าจะเป็นที่จุดในสี่เหลี่ยมจะห่างจากจุดมุมอย่างน้อยหนึ่งจุด

12. ให้ $a_1,a_2,a_3,...,a_6 $เป็นรากที่$ 7 $ของ $1$ ที่ไม่ใช่ $1$
จงหา $(1-a_1)(1-a_2)(1-a_3)(1-a_4)(1-a_5)(1-a_6)$

13. กำหนดให้ $(pvq) v (rΛs) v (t→u) v (v↔w)$ เป็นประพจน์ จงหาว่ามีกี่กรณีที่ประพจน์นี้มีค่าความจริงเป็นเท็จ

T-kung 25 กันยายน 2010 15:29

ขอบคุณมากเลยครับอ่านในพันทิพแล้วตาลาย

mebius 25 กันยายน 2010 19:02

มาลองทำดูครับ
ข้อ 4. จากทฤษฎีเศษเหลือให้ $x^2-1=0$
แสดงว่า ถ้ามีเทอม$x^2$ จะกลายเป็น 1
เศษจากการหาร $x^{2553}-ax+1$ด้วย $x^2-1$
จะได้เศษเป็น $r(x)=x-ax+1$
แทน$x=2$จะได้ $2-2a+1=17$
$a= -7$ครับ

กิตติ 25 กันยายน 2010 20:34

ข้อ4.ผมมองอีกแบบจากทฤษฎีการหาร เมื่อหาร$P(x)$ด้วย$Q(x)$
$P(x)=Q(x)T(x)+r(x)$ โดยให้$r(x)$เป็นเศษเหลือจากการหาร และ $T(x)$ เป็นผลหาร
โดยดีกรีสูงสุดของ$r(x)$ต้องน้อยกว่า$Q(x)$
ให้$r(x)=cx+d$
$x^{2553}-ax+1=T(x)(x^2-1)+cx+d$
แทนค่า$x=1$ จะได้ $a+2 = c+d$
แทนค่า$x= -1$ จะได้ $-a = -c+d$
จะได้$d=1$ และ$a=c-1$
จาก$r(2)=17=2c+d \rightarrow c=8$
$r(x)= 8x+1$
จาก$a=c-1$....ดังนั้นได้$a=7$

ที่ถูกต้องเป็นตามนี้ครับ
$2-a = c+d$ และ $a= -c+d$
$d=1 \ , a=1-c$
จาก$r(2)=17=2c+d \rightarrow c=8$
$r(x)= 8x+1$
จาก$a=1-c$....ดังนั้นได้$a= -7$
ขอบคุณคุณOnasdi ที่ช่วยตรวจทานให้:great::great::great:

ลองอ่านเพิ่มเติมจากเวปพระตะบองตามที่ลิ้งค์ให้
ขออนุญาตคุณM@gpieไว้ตรงนี้ด้วยแล้วกันครับ


Onasdi 25 กันยายน 2010 21:10

คุณกิตติลอกโจทย์ผิดรึเปล่าครับ เหมือนว่าคูรกิตติใช้ $P(x)=x^{2553}+ax+1$

nooonuii 25 กันยายน 2010 21:38

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ กิตติ (ข้อความที่ 99404)
9. จงหาค่าของ $ \dfrac{\sin{9x} + 6 \sin{7x} +17 \sin{5x} + 12\sin{3x}}{\sin{8x} + 5 \sin{6x} + 12 \sin{4x}} $

ให้ $z=\cos{x}+i\sin{x}$

โดยทฤษฎีบทของเดอมัวฟ์จะได้

$\sin{nx}=\dfrac{z^n-z^{-n}}{2i}$

ดังนั้น

$ \dfrac{\sin{9x} + 6 \sin{7x} +17 \sin{5x} + 12\sin{3x}}{\sin{8x} + 5 \sin{6x} + 12 \sin{4x}}=\dfrac{(z^9-z^{-9})+6(z^7-z^{-7})+17(z^5-z^{-5})+12(z^3-z^{-3})}{(z^8-z^{-8})+5(z^6-z^{-6})+12(z^4-z^{-4})} $

$~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~=\dfrac{z^{18}+6z^{16}+17z^{14}+12z^{12}-12z^6-17z^4-6z^2-1}{z^{17}+5z^{15}+12z^{13}-12z^5-5z^3-z}$

$~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~=\dfrac{z^2+1}{z}$

$~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~=z+z^{-1}$

$~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~=2\cos{x}$

T-kung 26 กันยายน 2010 07:05

ช่วยเฉลยlogข้อสองที่สิครับ

กิตติ 26 กันยายน 2010 07:55

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Onasdi (ข้อความที่ 99454)
คุณกิตติลอกโจทย์ผิดรึเปล่าครับ เหมือนว่าคูรกิตติใช้ $P(x)=x^{2553}+ax+1$

น่าจะใช่ครับ....เมื่อวานเบลอจัด อยู่เวรมาสองคืนติดกัน ช่วงเย็นเลยแทนเครื่องหมายผิดครับ
ขอบคุณครับที่ช่วยดูให้ เมื่อคืนพอสามทุ่ม ผมแบตหมดหลับเป็นตายเลยครับ
เดี๋ยวกลับไปแก้คำตอบ

poper 26 กันยายน 2010 10:09

อ้างอิง:

10. ในกล่องใบหนึ่งมีลูกบอล 5ลูก แต่ละลูกเขียนตัวเลขไว้ไม่ซ้ำกัน ตั้งแต่ 1 ถึง 5 หยิบลูกบอลจากกล่องมา3ลูก
จงหาความน่าจะเป็นที่จะได้ตัวเลขบวกกันแล้วเป็นเลขคู่ หรือคูณกันแล้วเป็นเลขคี่
จำนวนวิธีทั้งหมด $\binom{5}{3}=10$
หยิบ 3 ลูกแล้วได้ผลบวกเป็นเลขคู่ คือได้เลขคู่ 1 ตัวเลขคี่ 2 ตัว เลือกได้ $\binom{2}{1}\binom{3}{2}=6$ วิธี
ได้ผลคูณเป็นเลขคี่ คือ ต้องไม่ได้เลขคู่เลย เลือกได้ 1 วิธี
ดังนั้นความน่าจะเป็นที่จะได้ผลบวกเป็นเลขคู่หรือผลคูณเป็นเลขคี่เท่ากับ $\frac{7}{10}$

[-Flick-] 26 กันยายน 2010 11:47

เฉลยข้อ 1 ให้ทีจิ ผมทำแล้วมันแปลกๆ คือ เขาบอกค่า log มาหรือป่าวอะ สุดท้ายมันติด

35(log3)^2+25log3log2 ซึ่งก็คือ 11.557 โดยประมาณ สงสัยจะผิด T T

กิตติ 26 กันยายน 2010 12:34

ข้อ1
ให้$log_32=M$
$A=log_{18}12 =\frac{2log_32+1}{log_32+2} =\frac{2M+1}{M+2} $

$B=log_{54}24 =\frac{1+2log_62}{1+2log_63} $
$log_62=\frac{log_32}{log_32+1} =\frac{M}{M+1} $
$log_63=\frac{1}{log_32+1} =\frac{1}{M+1} $
ดังนั้น$B=\frac{3M+1}{M+3} $

$1-AB=\frac{(M+2)(M+3)-(2M+1)(3M+1)}{(M+2)(M+3)} $
$A-B=\frac{(2M+1)(M+3)-(3M+1)(M+2)}{(M+2)(M+3)} $

$\frac{1-AB}{A-B}=5 $
ตอบ $5$

GTR_Ping 26 กันยายน 2010 20:36

ผมก็มี บางข้อที่ไม่เหมือนกันนี้ เดี๋ยว ลงเพอิ่มให้นะครับ น้อง ม 6 ที่กำลังเตรียมตัวก็พยายามเข้า

tongkub 26 กันยายน 2010 22:40

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ T-kung (ข้อความที่ 99489)
ช่วยเฉลยlogข้อสองที่สิครับ

ข้อนี้ผมคิดว่าโจทย์น่าจะผิดครับ น่าจะเป็นลำดับเลขคณิตมากกว่า ผมแก้แล้วได้

$3^x = \frac{3}{4}$ ครับ

tongkub 27 กันยายน 2010 10:49

3.ให้ $A = \left\{\,\varnothing ,a,\left\{\,\varnothing ,a\right\} \right\} $, และ $B = P(A)$ และ $S$ เป็นสับเซตของ $B$
จงหาว่ามี $S$ กี่เซต ที่ $S \cap A \not= \varnothing $

$B = P(A) = 2^3$ = 8 ตัวในเซต B

จำนวนซับเซต ที่ $S \cap A \not= \varnothing $

ขอคิดเป็น จำนวนเซตที่ต้องกาีร = ทั้งหมด - $S \cap A = \varnothing $

$= 2^8 - 2^6(ตัด 2 ตัวออกไป) = 256 - 64 = 192$

tongkub 27 กันยายน 2010 10:59

6. กำหนดสมการกราฟ $x^2+y^2+16y+6x+k^2 = 0 $ถ้ากราฟนี้ตัดแกน $Y$ 2จุด แต่ไม่ตัดแกน $X$
จงหาค่า$ K $ที่มากที่สุดที่เป็นไปได้

จัดรูปสมการก่อน ซึ่งสมการที่ได้จึงน่าจะเป็นวงกลม

$(x+3)^2 + (y+8)^2 = 73 - k^2$

ตัดแกน y 2 จุด แต่ไม่ตัดแกน x เลย แปลว่าต้องมีรัศมีห้ามน้อยกว่า 3 แต่ห้ามมากกว่า 8 เพราะไม่งั้น จะทำให้ตัดวงกลมได้

มาดู $73 - k^2$ เราต้องการให้ k มากๆจึงต้องให้รัศมีน้อยๆ k จะได้มากๆ

$73 - k^2 = 9$
$k = \pm 8$
แต่โจทย์เอา k มากสุด = 8

tongkub 27 กันยายน 2010 11:07

7. กำหนด $A$ เป็นเมทริกซ์ $3x3$ ที่มี $det(A) = 2$ จงหา $det(adj(adj(A)))$

$= (det(adj(A))^{3-1} = (det(adj(A)))^2 = ((det(A)^{3-1}))^2 = detA^4 = 2^4 = 16$

8. กำหนด A เป็นเมทริกซ์ $n\times n$ โดยที่มีสมาชิกเป็นจำนวนตั้งแต่ $1$ ถึง $n^2 $ โดยที่ไม่มีจำนวนซ้ำและมีผลบวกแนวทแยงและหลักเท่ากัน
จงหา $det(A)$ เมื่อ $A$ มีสมาชิกแนวทแยงเป็น $2,5,8$

เหมือนเล่นตอนเด็กๆเลยครับ magic box โดยขอแทน n = 3

$\bmatrix{2 & 7 & 6 \\ 9 & 5 & 1 \\ 4 & 3 & 8} $ หา det ได้ -80

tongkub 27 กันยายน 2010 11:28

12. ให้ $a_1,a_2,a_3,...,a_6 $เป็นรากที่$ 7 $ของ $1$ ที่ไม่ใช่ $0$
จงหา $(1-a_1)(1-a_2)(1-a_3)(1-a_4)(1-a_5)(1-a_6)$

เดี๋ยวดึกๆมาพิมให้ครับเยอะมาก แต่ผมได้คำตอบคือ 7 ครับ

13. กำหนดให้ $(pvq) v (rΛs) v (t→u) v (v↔w)$ เป็นประพจน์ จงหาว่ามีกี่กรณีที่ประพจน์นี้มีค่าความจริงเป็นเท็จ

ทุกวงเล็บต้องเท็จหมด ได้เท่ากับ

$(1 \times 1) \times ( 3 )\times (1\times 1) \times (2)$ = 6 วิธีครับ

ถ้าข้อไหนผิดช่วยชี้แนะด้วยนะครับ (ซึ่งก็น่าจะเกือบทุกข้อ) :D

กิตติ 27 กันยายน 2010 13:13

ข้อ2....ผมยังคิดไม่ออก ถ้าเป็นลำดับเรขาคณิต
ข้อ5.....ก็ยังหืดขึ้นคอ ไม่ไปไหนเลย5555
รอผู้เยี่ยมยุทธ์มาคลี่คลายปริศนา

หยินหยาง 27 กันยายน 2010 14:02

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ tongkub (ข้อความที่ 99572)
12. ให้ $a_1,a_2,a_3,...,a_6 $เป็นรากที่$ 7 $ของ $1$ ที่ไม่ใช่ $0$ ต้องเปลี่ยนเป็น ไม่ใช่ 1
จงหา $(1-a_1)(1-a_2)(1-a_3)(1-a_4)(1-a_5)(1-a_6)$

เดี๋ยวดึกๆมาพิมให้ครับเยอะมาก แต่ผมได้คำตอบคือ 9 ครับ

13. กำหนดให้ $(pvq) v (rΛs) v (t→u) v (v↔w)$ เป็นประพจน์ จงหาว่ามีกี่กรณีที่ประพจน์นี้มีค่าความจริงเป็นเท็จ

ทุกวงเล็บต้องเท็จหมด ได้เท่ากับ

$(1 x 1) \times ( 16 - 1 )\times (1\times 1) \times (2)$ = 30 วิธีครับ

ถ้าข้อไหนผิดช่วยชี้แนะด้วยนะครับ (ซึ่งก็น่าจะเกือบทุกข้อ) :D

เข้ามาบอกเฉยๆ ไม่ได้มาทำเพราะไม่ใช่ผู้เยี่ยมยุทธ์ รอดูผู้อาวุโสมาโซ้ยดีกว่า เด็กๆได้แต่ตีตั๋วนั่งรอ :)
ข้อ 12 ต้องเปลี่ยนตามที่ว่าครับเพราะไม่ต้องบอกก็ได้ครับว่ารากที่ 7 ของ 1 ไม่ใช่ 0 เพราะมันไม่ใช่อยู่แล้ว:happy:
ข้อ 13 โจทย์ที่รู้มาไม่ตรงครับ
ข้อ 6 สมการวงกลมเครื่องหมายกับตัวเลขไม่ตรง
ข้อ 2 ต้องเป็นลำดับเลขคณิต
แค่นี้ก่อน เดี๋ยวกลัวโดนแซว

กิตติ 27 กันยายน 2010 16:48

อ้างอิง:

ข้อ 2 ต้องเป็นลำดับเลขคณิต
ถ้าเป็นอย่างที่ท่านหยินหยางว่า น่าจะออก ผมนั่งทำมาหลายรอบมันก็ติดอีรุงตุงนัง ยังนึกอยู่ว่าใครกันแต่งข้อสอบบอกมาให้เป็นผลหารของ$log$ แถมยังต้องแก้สมการ$log$ยกกำลังสอง คิดแต่ว่าความรู้ตัวเองยังฟื้นไม่พอ ดีนะได้ซือแป๋มาแจ้งว่าโจทย์ไม่น่าจะสมบูรณ์ เดี๋ยวลองทำอีกรอบ

แล้วข้อ 5 ซือแป๋ว่ายังไงผมหาทางเชื่อมจาก $p(2)$ ไปหา $P(3)$ ไม่ออก ถ้าหาได้ข้อนี้คงเห็นคำตอบรางๆ ซือแป๋ฮิ้นหน่อยได้ไหมครับ...:please::please::please:

หยินหยาง 27 กันยายน 2010 20:04

ข้อ5 ฮิ้นหรือครับ หาว่าสัมประสิทธิ์ในสมการพหุนามเป็นอะไรได้บ้างโดยใช้เงื่อนไขจากโจทย์ครับ เพื่อหาสมการพหุนามที่ว่าครับ
ฮิ้นอย่างนี้ใช่มั้ยครับ คงไม่ต้องถึงขนาดเฮือกมั้งครับ

Keehlzver 27 กันยายน 2010 21:07

อยากเข้ามาบอกว่าข้อ 5 รู้สึกจะมีเงื่อนไขตกไป โจทย์จะกำหนดมาว่า $P$ ของจำนวนเต็มอะไรซักอย่างมาให้ อาจจะเป็น $P(2)=-7$ มั้งครับ ถ้าผมจำไม่ผิด


ว่าเเต่ถ้าไม่ใช่ท่านซือเเป๋ Hint ได้หรือเปล่าครับ?

สมมติให้ $P(x)=a_{n}x^n+...+a_1x+a_0$ เเล้วเข้าสมการเทียบสัมประสิทธิ์ จะได้ $P(x)=1-x^3$ เป็นคำตอบ

กิตติ 27 กันยายน 2010 21:10

ได้สิครับ ไม่ต้องเกรงใจครับ พอดีเห็นท่านซือแป๋เข้ามาเลยแอบขอเคล็ดวิชาไปขบคิดแก้ปริศนาเอง
ไม่ว่าโจทย์ข้อไหนถ้ามีใครอยากแชร์มุมมองการแก้โจทย์ ผมยินดีมากครับ ถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตา
ผมจะได้ไม่เป็นกบในกะลา

หยินหยาง 27 กันยายน 2010 21:31

ผมฮิ้น ให้แล้ว เหลือ แต่เฮือก ครับ
#22 ทำไมถึงคิดว่ามีเงื่อนไขที่ตกไปละครับ
โจทย์มันสนุกตรงที่มันท้าให้คิด แล้วคิดเหมือนจะออก นี่แหละครับ :):)

tongkub 27 กันยายน 2010 21:32

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ หยินหยาง (ข้อความที่ 99590)
เข้ามาบอกเฉยๆ ไม่ได้มาทำเพราะไม่ใช่ผู้เยี่ยมยุทธ์ รอดูผู้อาวุโสมาโซ้ยดีกว่า เด็กๆได้แต่ตีตั๋วนั่งรอ :)
ข้อ 12 ต้องเปลี่ยนตามที่ว่าครับเพราะไม่ต้องบอกก็ได้ครับว่ารากที่ 7 ของ 1 ไม่ใช่ 0 เพราะมันไม่ใช่อยู่แล้ว:happy:
ข้อ 13 โจทย์ที่รู้มาไม่ตรงครับ
ข้อ 6 สมการวงกลมเครื่องหมายกับตัวเลขไม่ตรง
ข้อ 2 ต้องเป็นลำดับเลขคณิต
แค่นี้ก่อน เดี๋ยวกลัวโดนแซว

ข้อสอบเขาก็ออกดีนะครับ ไม่รู้จะปิดกันทำไม แต่ผมว่าข้อ 13 ก็ผิดดีหน่อยนะครับ เหมือนได้โจทย์ใหม่อีกข้อ

ข้อ 9 นะครับ

โจทย์ต้องการหา

$(1 - cis\frac{2\pi }{7})(1 - cis\frac{4\pi }{7})(1 - cis\frac{6\pi }{7})(1 - cis\frac{8\pi }{7})(1 - cis\frac{10\pi }{7})(1 - cis\frac{12\pi }{7})$

จับคู่ คูณกัน เช่น $2\pi$ คูณกับวงเล็บ $12\pi$ , $4\pi$ คูณกับ $10\pi$

ได้เท่ากับ $( 2 - 2cos\frac{2\pi }{7})( 2 - 2cos\frac{4\pi }{7})( 2 - 2cos\frac{6\pi }{7})$

คูณกระจายทั้ง 3 วงเล็บได้

$8(1 - cos\frac{6\pi}{7} - cos\frac{2\pi}{7} + cos\frac{2\pi}{7}cos\frac{6\pi}{7} - cos\frac{4\pi}{7} + cos\frac{4\pi}{7}cos\frac{6\pi}{7} + cos\frac{2\pi}{7}cos\frac{4\pi}{7} - cos\frac{2\pi}{7}cos\frac{4\pi}{7}cos\frac{6\pi}{7}) $

จัดรูปใช้ sum


$8(1 - cos\frac{6\pi}{7} - cos\frac{2\pi}{7} + \frac{cos\frac{8\pi}{7} + cos\frac{4\pi}{7}}{2} - cos\frac{4\pi}{7} + \frac{cos\frac{10\pi}{7} + cos\frac{2\pi}{7}}{2} + \frac{cos\frac{6\pi}{7} + cos\frac{2\pi}{7}}{2} - cos\frac{2\pi}{7}cos\frac{4\pi}{7}cos\frac{6\pi}{7}) $

เราจะพบว่ามันตัดกันได้หมดเป็น

$8(1 - cos\frac{2\pi}{7}cos\frac{4\pi}{7}cos\frac{6\pi}{7}) $

แต่ $cos\frac{6\pi}{7} = -cos\frac{\pi}{7}$

$8(1 -(- cos\frac{2\pi}{7}cos\frac{4\pi}{7}cos\frac{1\pi}{7})) $

มาหาค่าของ $ cos\frac{2\pi}{7}cos\frac{4\pi}{7}cos\frac{1\pi}{7}))$

$x = cos\frac{2\pi}{7}cos\frac{4\pi}{7}cos\frac{1\pi}{7}$

$2sin{\frac{1\pi}{7}}x = 2sin\frac{1\pi}{7}cos\frac{2\pi}{7}cos\frac{4\pi}{7}cos\frac{1\pi}{7})$

$2sin{\frac{1\pi}{7}}x = \frac{1}{4}\times sin\frac{8\pi}{7}$

$ x = \frac{-1}{8}$

เ้อากลับไปแทน $8(1 -(- x)) $ = $8(1+x) = 8(1 + \frac{-1}{8})$ = 7 ครับ

nooonuii 27 กันยายน 2010 21:56

ข้อ 12 แบบไม่ต้องกระจาย

$x^6+x^5+x^4+x^3+x^2+x+1=(x-a_1)(x-a_2)(x-a_3)(x-a_4)(x-a_5)(x-a_6)$

แทน $x=1$ จบครับ

กิตติ 27 กันยายน 2010 22:00

เห็นด้วยกับคุณNooNuii...
ผมมองสมการเป็น$x^7-1 = (x-1)(x^6+x^5+x^4+x^3+x^2+x+1)=0$ ถ้าโจทย์บอกว่ารากที่ไม่ใช่หนึ่ง
ก็โซ้ยตามที่คุณNoonuiiทำให้ดูคือแทนค่า$x=1$

โจทย์ข้อ5....สำหรับผม ผมว่ายากจริงๆ ผมกินยาก

Keehlzver 28 กันยายน 2010 10:04

จริงๆเเล้ว ท่านซือเเป๋เคยโพสโจทย์ข้อนี้เอาไว้มีเงื่อนไขที่ว่า $P(\frac{1}{2})=\frac{7}{8}$ ซึ่งจะได้ข้อสรุปมาว่า $P(x)=1-x^3$ เป็นคำตอบครับ

เเต่หากว่าตกเงื่อนไขดังกล่าวไป จะมีฟังก์ชันพหุนามหลายๆตัวที่สอดคล้องครับ เช่น $P(x)=1-x^6$ ก็ใช้ได้ เท่าที่ผมลองดู $P(x)=1-x^{n}$ ยังเป็นพหุนามที่สอดคล้องเลยครับ (ผมยังไม่ได้ลอง Check ดูว่า $n$ สามารถเป็นได้ถึงจำนวนจริงเลยหรือเปล่า เเต่คิดว่าน่าจะได้ครับ:laugh:)

tongkub 28 กันยายน 2010 10:15

ขอบคุณครับ ผมนี่โง่จริงๆ ทำข้อ 12 ตั้งหลายบรรทัด วิธีคุณ noonui แปปเดียวเองครับ ส่วนข้อ 5 เคยมีคนเอาถามแล้วครับ ตาม link นี้ครับ http://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=9803 แต่ผมอ่านเฉลยไม่เ้ข้าใจเลยครับ รบกวนช่วยอธิบายได้ไหมครับ

กิตติ 28 กันยายน 2010 10:29

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ not11 (ข้อความที่ 76825)
$สมมติว่า p(x) = A + Bx + Cx^2 + ... ; A,B,C,... \in I$
$ดังนั้น p(\frac{1}{x}) = A + B\frac{1}{x} + C\frac{1}{x^2} + ...$
$จะได้ P(x)P(1/x) = P(x)+P(1/x)$
$ (A + Bx + Cx^2 + ...)(A + B\frac{1}{x} + C\frac{1}{x^2} + ...) = (A + Bx + Cx^2 + ...) + (A + B\frac{1}{x} + C\frac{1}{x^2} + ...)$
$พิจารณาสัมประสิทธิ์พจน์ที่ไม่มี x $

$A^2 + B^2 + C^2 + ... = 2A $
$นั่นคือ A^2 \leqslant 2A$
$จะได้ช่วง A คือ [0,2] $
$กรณี A=0$
$>> จะได้ P(x) = 0 ใช้ไม่ได้$
$ กรณี A=2$
$>> จะได้ B^2 + C^2 + ... = 0 >>> \therefore B=C=...=0$
$>> จะได้ P(x) = 2 ใช้ไม่ได้$

$\therefore A=1$
$แทนค่าในสมการ$
$1 + B^2 + C^2 + ... = 2 >>> B^2 + C^2 + ... = 1$
$นั่นคือ มีตัวแปรหนึ่งตัว=1,-1 นอกนั้น=0$
$\therefore P(x) = 1 \pm x^n$
$แทน x = \frac{1}{2} ; p(\frac{1}{2}) = 1 \pm (\frac{1}{2})^n >>> \frac{7}{8} = 1 - (\frac{1}{2})^n เท่านั้น$
$(\frac{1}{2})^n = \frac{1}{8} $
$\therefore n=3 $
$\therefore P(x) = 1 - x^3 โดย x \not= 0$
$ P(1) + P(2) + P(3) + P(4) + P(5) = 5 - ( 1 + 8 + 27 + 64 + 125 ) = -220 $

:kiki::kiki:

ลองอ่านช้าๆแล้วคิดตาม เงื่อนไขที่บอกว่าสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มนั้น เป็นตัวล็อคความน่าจะเป็นของคำตอบ ต้องคิดซ้อนอีกชั้น ผมว่าโจทย์ข้อนี้แต่งได้สวยมากเลยครับ

หยินหยาง 28 กันยายน 2010 14:33

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Keehlzver (ข้อความที่ 99671)
จริงๆเเล้ว ท่านซือเเป๋เคยโพสโจทย์ข้อนี้เอาไว้มีเงื่อนไขที่ว่า $P(\frac{1}{2})=\frac{7}{8}$ ซึ่งจะได้ข้อสรุปมาว่า $P(x)=1-x^3$ เป็นคำตอบครับ

เเต่หากว่าตกเงื่อนไขดังกล่าวไป จะมีฟังก์ชันพหุนามหลายๆตัวที่สอดคล้องครับ เช่น $P(x)=1-x^6$ ก็ใช้ได้ เท่าที่ผมลองดู $P(x)=1-x^{n}$ ยังเป็นพหุนามที่สอดคล้องเลยครับ (ผมยังไม่ได้ลอง Check ดูว่า $n$ สามารถเป็นได้ถึงจำนวนจริงเลยหรือเปล่า เเต่คิดว่าน่าจะได้ครับ:laugh:)

ถ้า $P(x)=1-x^6$ ใช้ได้ตามที่ว่า ลองแทน $x = \frac{1}{2}$ ดูซิครับ ว่าได้ $\frac{7}{8}$ ตามเงื่อนไขโจทย์หรือเปล่า:)

ปล.หมายถึงโจทย์ของคุณกิตติที่โพสต์ใช่มั้ยครับ
ไม่ต้องเช็คว่า n เป็นจำนวนจริงได้หรือเปล่า เพราะไม่งั้นจะไม่เป็นสมการพหุนามตามเงื่อนไขของโจทย์

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ กิตติ (ข้อความที่ 99675)
ลองอ่านช้าๆแล้วคิดตาม เงื่อนไขที่บอกว่าสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มนั้น เป็นตัวล็อคความน่าจะเป็นของคำตอบ ต้องคิดซ้อนอีกชั้น ผมว่าโจทย์ข้อนี้แต่งได้สวยมากเลยครับ

อยากจะบอกว่าเหมือนที่ผมเคยเฉลยไว้หลังช่วงที่มีการสอบเสร็จ ทั้งขั้นตอนและคำอธิบายแทบจะเหมือนฝาแฝดเลยก็ว่าได้ แต่ดูจากประวัติคนโพสต์แล้วไม่รู้จักกันครับ :) ตอนที่ดูกระทู้นี้ ช่วงนั้นผมก็พยายามนึกว่าผมรู้จักมั้ยแต่ก็นึกไม่ออก จนลืมไปแล้ว ยังขุดขึ้นมาเจอ นี่แหละเสน่ห์ของการค้นหากระทู้เก่ามาอ่าน :D:D

Keehlzver 28 กันยายน 2010 18:02

ผมหมายถึงอย่างคุณหยินหยางว่าครับ ถ้าตกเงื่อนไน $P(\frac{1}{2})=\frac{7}{8}$ มันจะมีพหุนามหลายพหุนามที่สอดคล้องกับ $P(x)P(\frac{1}{x})=P(x)+P(\frac{1}{x})$ ที่ตอนเเรกคุณกิตติโพสโจทย์ไว้ ผมถึงได้ท้วงไว้ก่อนไงครับ พอเพิ่มเงื่อนไขที่ว่าไป มันก็จะบังคับว่า $P(x)=1-x^3$ เท่านั้น

กิตติ 28 กันยายน 2010 21:33

ช่วงบ่ายไม่ได้เข้ามาเพราะเนตล่มที่โรงบาล
ผมพิมพ์ตามกระทู้ในพันทิพ แต่ซือแป๋ได้เขียนโจทย์ข้อนี้ไว้ในmathกสพท.ให้ผมลองเอาไปทำแล้ว

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ หยินหยาง (ข้อความที่ 99337)
จะ
ท่านกิตติอยากฝึกปรือโจทย์ผมช่วยส่งเสริมให้ 1 ข้อ ไปคิดเล่นๆครับ
1. ให้ $p(x)$ เป็นพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มซึ่งมีสมบัติที่ว่า $p(x)p(\frac{1}{x}) = p(x) + p(\frac{1}{x})$
ถ้า $p(\frac{1}{2}) = \frac{7}{8}$ จงหาค่าของ $p(1) + p(2) + p(3) + p(4) + p(5)$


Siren-Of-Step 30 กันยายน 2010 16:44

-35 อ้ะป่าวครับ

MiNd169 30 กันยายน 2010 22:13

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Keehlzver (ข้อความที่ 99704)
ผมหมายถึงอย่างคุณหยินหยางว่าครับ ถ้าตกเงื่อนไน $P(\frac{1}{2})=\frac{7}{8}$ มันจะมีพหุนามหลายพหุนามที่สอดคล้องกับ $P(x)P(\frac{1}{x})=P(x)+P(\frac{1}{x})$ ที่ตอนเเรกคุณกิตติโพสโจทย์ไว้ ผมถึงได้ท้วงไว้ก่อนไงครับ พอเพิ่มเงื่อนไขที่ว่าไป มันก็จะบังคับว่า $P(x)=1-x^3$ เท่านั้น

ถ้าเป็น $P(x)=1-x^3$ เท่านั้น

แล้วทำไม P(1) = 2 ล่ะครับ :confused:

nooonuii 01 ตุลาคม 2010 00:47

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ MiNd169 (ข้อความที่ 99896)
ถ้าเป็น $P(x)=1-x^3$ เท่านั้น

แล้วทำไม P(1) = 2 ล่ะครับ :confused:

$P(1)=0$ ได้ครับ

เพราะ $P(1)^2=2P(1)$

MiNd169 01 ตุลาคม 2010 00:58

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ nooonuii (ข้อความที่ 99914)
$P(1)=0$ ได้ครับ

เพราะ $P(1)^2=2P(1)$

ขอบคุณครับ ผมเผลอตัด P(1) ออกซะหนิ :aah:

Jaez 06 ธันวาคม 2010 03:05

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ กิตติ (ข้อความที่ 99506)
ข้อ1
ให้$log_32=M$
$A=log_{18}12 =\frac{2log_32+1}{log_32+2} =\frac{2M+1}{M+2} $

$B=log_{18}12 =\frac{1+2log_62}{1+2log_63} $
$log_62=\frac{log_32}{log_32+1} =\frac{M}{M+1} $
$log_63=\frac{1}{log_32+1} =\frac{1}{M+1} $
ดังนั้น$B=\frac{3M+1}{M+3} $

$1-AB=\frac{(M+2)(M+3)-(2M+1)(3M+1)}{(M+2)(M+3)} $
$A-B=\frac{(2M+1)(M+3)-(3M+1)(M+2)}{(M+2)(M+3)} $

$\frac{1-AB}{A-B}=5 $
ตอบ $5$

รบกวนช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมคะ ว่า $A=log_{18}12 =\frac{2log_32+1}{log_32+2}$ และ $B=log_{54}24=\frac{3M+1}{M+3}$ ได้ยังไง ($B=log_{54}24$ ไม่ใช่หรอคะ) ลองทำแล้วไม่ได้อ่ะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบคะ

กิตติ 06 ธันวาคม 2010 10:34

จาก$log_ab=\frac{log_ca}{log_cb} $

$log_{18}12=\frac{log_312}{log_318}=\frac{log_34+log_33}{log_39+log_32} $
$=\frac{2log_32+1}{2+log_32}$
$=\frac{2M+1}{M+2} $

$log_{54}24=\frac{log_624}{log_654}=\frac{log_66+log_64}{log_66+log_69} $
$=\frac{1+2log_62}{1+2log_63} $

LightLucifer 06 ธันวาคม 2010 11:00

แวะมาบอกว่าอันนี้ไม่น่าใช่ปี 2553 ครับ


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 15:22

Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha