Mathcenter Forum

Mathcenter Forum (https://www.mathcenter.net/forum/index.php)
-   ทฤษฎีจำนวน (https://www.mathcenter.net/forum/forumdisplay.php?f=19)
-   -   ขอความช่วยเหลือ: Number Theory Project (https://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=1410)

shin 17 พฤศจิกายน 2006 11:10

ขอความช่วยเหลือ: Number Theory Project
 
ตอนนี้ผมกำลังหาหัวข้อเรื่องในการทำปัญหาพิเศษ
อยากให้พี่ๆช่วยแนะนำเรื่องในการทำปัญหาพิเศษหน่อยครับ
ผมอยากได้เรื่องเกี่ยวกับ Number Theory ครับ

Edit หัวข้อให้ชัดเจนกว่าเดิมครับ

noghmi 17 พฤศจิกายน 2006 13:47

หนังสือ ของ สอวน ก็มีนะครับเรื่องนี้ หรือว่า เข้าไปที่เว็บวิชาการ จะมีกระทู้คณิตที่เฉลยทฤษฎีจำนวนของสอวนอยู่นะ ไม่งั้นก็ดูในหนังสือม.4เทอม1แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยหนำใจเท่าไร

M@gpie 17 พฤศจิกายน 2006 18:44

บอกว่าปัญหาพิเศษก็ดูจะกว้างอยุ่นะครับ น่าจะเอาไปเป็น presentation เพื่อสัมมนา รึเปล่าครับ?
อันนี้เป็นความคิดผมเองคือ อาจจะมีแล้วแต่ผมยังไม่เคยเห็น(และผมอยากรู้เอง 55) ก็เป็นวิวัฒนาการของ ทฤษฏีจำนวน ตั้งแต่เริ่มต้นจากอะไร และมีนักคณิตศาสตร์ที่เริ่มศึกษากันอย่างเป็นระบบ และ เรื่องอะไรบ้าง ไม่รู้ว่าใช้ได้รึเปล่า แหะๆ

shin 17 พฤศจิกายน 2006 19:15

ตอนนี้ผมเรียน ปี 4 ครับต้องทำปัญหาพิเศษ คือ อาจจะเป้นทฤษฎี ใหม่ๆๆ หรือ อาจจะศึกษาต่อจากpaper ครับ ผมคิดไม่ออกอ่า อย่าง เช่น คำตอบของ 3/n=(1/a)+(1/b)+(1/c) เมื่อ nเป็นจำนวนเต็มคี่ ที่หารด้วย 3ไม่ลงตัว และ a b c เป็นเต็มบวก จะได้คำตอบ แบบแรก คือ .... จำไม่ได้อ่า เป็งสัมมนาเพื่อน แอบดูมันมา

M@gpie 17 พฤศจิกายน 2006 20:09

ถ้าจะถามเรื่อง paper ทางคณิตศาสตร์ผมก็ไม่รู้แล้วล่ะครับ อิอิ ถึงได้ถามก่อนว่าจะเอาไปทำ presentation อะไรซักอย่างใช่รึเปล่า? ก็รอท่านอื่นๆมาเสนอกันต่อไป

gon 18 พฤศจิกายน 2006 20:27

เว็บนี้เลยครับ. arxiv

warut 14 ธันวาคม 2006 02:23

ไม่ทราบคุณ shin ยังสนใจจะทำทาง number theory อยู่มั้ย หรือว่าเปลี่ยนไปทำเรื่อง matrix แล้ว พอดีวันนี้ผมนึกเรื่องเกี่ยวกับ Sierpinski number ที่ไม่ง่ายไม่ยากจนเกินไปได้ ถ้าสนใจก็บอกมาได้นะครับ

shinn 14 ธันวาคม 2006 16:15

สนใจครับ เพราะตอนนี้ผมก็กำลังทำเมตริกก็ ติดยุ่งไปหมดครับ กำหนดส่งก็มกราคม แต่ยังไม่ถึงไหนเลยครับพี่ ตอนนี้ยังไงก็ได้ครับ ผมจะไม่จบอยู่แล้ว 555 เด็กมข.เศร้า

warut 14 ธันวาคม 2006 17:55

เป็นการพิสูจน์ว่ามี Sierpinski number อยู่เป็นอนันต์ครับ outline ของการพิสูจน์มันอยู่ในรูปของโจทย์ดังนี้

Denote by $F_k$ the $k$-th Fermat number, i.e. $F_k=2^{2^k}+1$.

1. Show that $F_k$ is prime for $0\le k\le4$ but that $641\mid F_5$.

2. Let $h>1$ be an integer such that $$h\equiv1\pmod{F_0F_1F_2F_3F_4}.$$ If $h\cdot2^n+1$ is prime, show that $32\mid n$.

3. Conclude that there exists an integer $a$ such that if $$h\equiv a\pmod{F_0F_1F_2F_3F_4F_5}$$ and $h>1$, then for all $n\in\mathbb N$, $h\cdot2^n+1$ is composite.

ก็ทำไปละกันนะครับ ติดตรงไหนค่อยมาว่ากันอีกที ส่วนความรู้พื้นฐานทั่วไปเกี่ยวกับ Sierpinski number ก็หาได้จากกระทู้ของผมอันนั้น และจากเน็ต เช่น Wikipedia แต่อย่าใช้ของ MathWorld นะครับ เพราะนิยามที่นั่นไม่ใช่อันมาตรฐานที่คนอื่นเขาใช้กัน

shinn 15 ธันวาคม 2006 00:27

ขอบคุณครับ จะทำให้เร็วที่สุดนะครับ แต่เสา อาทิตนี้ผมมีสอบที่จุฬา ไปสอบ CU-TEP เก็บไว้สอบต่อโทรเดือนมกรา แฮ่ๆๆ ป.ตรียังจะไม่จบหวังจุฬา
ผมจะพยายามครับบบ

shinn 19 ธันวาคม 2006 17:12

ข้อ 1 พอไหวครับ สำหรับ F5 ใช้ 5 X $2^7$ -1 (mod641) ยกกำลังสี่ ครับ
พอข้อ 2 ไม่รู้จะไปทางไหนดีครับพี่ หรือจะเขียน n=32q+r เมื่อ 0 r<32 แล้วก็พิสูจน์ ว่า r = 0แต่ก็ไปไม่รอด ครับ แนะด้วยครับ

warut 19 ธันวาคม 2006 18:17

First, try to prove that for each integer $r,\, 1\le r\le31$, the number $2^r+1$ is divisible by some $F_k,\, 0\le k\le4$. Do not use exhaustive calculation; there is a better way.

shinn 21 ธันวาคม 2006 21:50

ข้อ 2. ผมทำตามที่พี่แนะนำ แต่ผมไม่เข้าใจครับว่า ผมพิสูจน์ได้ว่า
ถ้า 1 r 31 แล้ว $2^r$+1 0 (mod $F_k$) บาง 0 k 4 มันจะเกี่ยวข้องกับข้างต้นที่พิสูจน์ยังไงครับ

shinn 21 ธันวาคม 2006 22:10

.................ผมเข้าใจแล้วครับพี่.......................
ข้อ2. ผมเริ่มยังงี้ครับ
พิสูจน์ :
สมมติ h.$2^n$ +1 เป็นจำนวนเฉพาะ
ให้ n = 32q+r บางจำนวนเต็ม r ที่ 0 r 31
สมมติ r 0 \ 1 r 31
จาก h 1 (mod $F_5$ -2 )
ดังนั้น h.$2^ n$ +1 $2^n$ +1 (mod $F_5$ -2 )
$2^{32q+r}$+1 (mod $F_5$ -2 )
$2^r$ +1 (mod $F_5$ -2 )
นั่นคือ h.$2^ n$ +1 =( $F_0$.$F_1$.$F_2$.$F_3$.$F_4$).y+($2^r$ +1) ...........................(*)
คาดว่า
"สำหรับ 1 r 31 แล้ว $2^r$+1 0 (mod $F_k$) บางจำนวนเต็ม k ที่ 0 k 4 "
กรณี r= 2t +1 เมื่อ t = 0,1,...,15
จะได้ $2^r$+1 $2^{ 2t+1}$ +1 (mod $F_0$)
$2^{ 2t+1}$ +1 (mod $F_0$)
$2^1$ +1 (mod$F_0$)
0 (mod $F_0$)

ดังนั้น $2^r$+1 = $F_0$.w บาง w เป็นจำนวนเต็ม
จาก (*) จะได้ h.$2^ n$ +1 =( $F_0$.$F_1$.$F_2$.$F_3$.$F_4$).y+($2^r$ +1)
=( $F_0$.$F_1$.$F_2$.$F_3$.$F_4$).y+($F_0$.w)
=[$F_0$].[( $F_1$.$F_2$.$F_3$.$F_4$).y+w]
ซึ่งเกิดข้อขัดแย้ง กับ h.$2^ n$ +1 เป็นจำนวนเฉพาะ

กรณี อื่นๆ ก็เหมือนกันครับ
ดังนั้น 32 l n
ขอบคุณครับ
.................................................................../////..................................
ข้อ3 แนะนำหน่อยครับ แฮ่ๆๆๆ
***ผมขอถามล่วงหน้าไปเลยนะครับว่า ถ้าพิสูจน์ได้ทั้ง 3 ข้อแล้ว นี่เพียงพอกับการที่จะแสดงว่า มีจำวนว Sierpinski numberที่เป็นจำนวนประกอบ เป็นอนันต์ แล้วเหรอครับพี่

warut 22 ธันวาคม 2006 00:03

สัมพันธ์กันอย่างงี้ครับ $$x\equiv y\pmod{mn} \quad \Rightarrow \quad x\equiv y\pmod m$$ ถ้าเขียนแทน $F_0F_1F_2F_3F_4$ ด้วย $F_5-2$ จะทำให้มองเห็นความสัมพันธ์อันนี้ได้ยากครับ

ส่วนเรื่องที่ผมให้พิสูจน์นั้น ให้เขียน $r$ ในรูป $s\cdot2^k$ โดยที่ $s$ เป็นจำนวนคี่ แล้วพิจารณา $2^r+1$ ดูอีกทีครับ

warut 22 ธันวาคม 2006 00:47

อ้างอิง:

ข้อความเดิมของคุณ shinn:
ข้อ3 แนะนำหน่อยครับ แฮ่ๆๆๆ
***ผมขอถามล่วงหน้าไปเลยนะครับว่า ถ้าพิสูจน์ได้ทั้ง 3 ข้อแล้ว นี่เพียงพอกับการที่จะแสดงว่า มีจำวนว Sierpinski numberที่เป็นจำนวนประกอบ เป็นอนันต์ แล้วเหรอครับพี่

อย่าสับสน Sierpinski number (ซึ่งคือ $h$) กับ $h\cdot2^n+1$ นะครับ เราไม่ค่อยจะแคร์กับที่ Sierpinski number จะเป็นจำนวนเฉพาะหรือไม่ แต่จากการพิสูจน์นี้ ถ้าจะทำต่อก็สามารถบอกได้ครับว่า มี Sierpinski number ที่เป็นจำนวนเฉพาะ และที่เป็นจำนวนประกอบ อยู่เป็นอนันต์ทั้งสองแบบ

Hint ของข้อ 3. ก็คือ พยายามเลือก $h$ ให้ $h\cdot2^n+1$ เป็นจำนวนประกอบเมื่อ $32\mid n$ โดยบังคับให้ $h\cdot2^n+1$ หารด้วยตัวประกอบของ $F_5$ ลงตัว ลองดูนะครับ

shinn 25 ธันวาคม 2006 02:32

1.) พี่ครับข้อ 3. ผมไม่เข้าใจโจทย์ครับ ถ้าเขียนเป็นสัญลักษณ์ได้ยังงี้ไหมครับ
"h > 1 $ a Z , h a (mod $F_{ 0 }$.$F_1$.$F_2$.$F_3$.$F_4$.$F_5$) h.$2^n$+1 is composite for all n N

หรือจะเป็น
$ a Z "h > 1 , h a (mod $F_0$.$F_1$.$F_2$.$F_3$.$F_4$.$F_5$) h.$2^n$+1 is composite for all n N


2.) ถ้าเราพิสูจน์ได้ 3 ข้อนี้แล้ว แสดงว่า เราพิสูจน์ว่า มีจำนวน sierpinski number ที่เป็นจำนวนประกอบ อยู่เป็นจำนวนอนันต์ ไหมครับ

3.) โปรเจค นี้ มุ่งไปสู่ปัญหาอะไร เหรอครับ

warut 25 ธันวาคม 2006 05:27

1. แบบหลังครับ
2. ตอบไปก่อนหน้านี้แล้วครับ แต่ก็อย่างที่บอกคือ นี่ไม่ใช่ประเด็นที่เรากำลังสนใจ (หวังว่าตอนนี้น้อง shinn คงทราบแล้วนะครับว่า Sierpinski number คืออะไร ผมเริ่มเป็นห่วงละ :unsure: )
3. ปัญหาว่ามี Sierpinski number อยู่เป็นอนันต์หรือไม่ไงครับ

M@gpie 25 ธันวาคม 2006 08:52

เห็นคุณ shin บอกว่าจะไปสอบ CUTEP มีโครงการเรียนต่อที่จุฬาเหรอครับ บอกได้ไหมครับว่าคณะอะไร? อิอิ

shinn 25 ธันวาคม 2006 18:17

เรียน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ครับ ต่อโท ครับ 5555 ผ่าน CU-TEP แล้วด้วยพี่ รอสอบ math วันที่ 25-28 ม.ค. ครับ แต่ผมอยากเรียน เชียงใหม่ครับ กลัวไม่ติดที่เชียงใหม่เลย ลองที่จุฬา ก่อนครับ
เผื่อมีดวง กับเค้าบ้าง

M@gpie 25 ธันวาคม 2006 18:46

ดีครับๆ ผมแวะเวียนแถวนั้นบ่อยๆ เผื่อมีโอกาสเจอกัน :D

shinn 25 ธันวาคม 2006 19:00

คำถาม
1. มีคนพิสูจน์ได้แล้วใช่ไหมครับว่า
"มีจำนวน sierpinski number(ที่เป็นจำนวนประกอบ)เป็นจำนวนอนันต์"

2.โปรเจค ตอนนี้คือ ต้องเป็นความรู้ใหม่ที่ยังไม่มีคนพิสูจน์ หรือถ้าพิสูจน์ แล้ว ก็ให้เสนอแนวคิดใหม่ที่ดีกว่า หรือ ตั้งทฤษฎีขึ้นมาใหม่
อย่างเช่น ถ้ายังไม่มีคนพิสูจน์ว่า
"มีจำนวน sierpinski number (ที่เป็นจำนวนประกอบ)เป็นจำนวนอนันต์"


ครับผม
ถ้าได้แล้วก็ต้องนำเสนอให้ผ่าน ถึงจะจบปี 4 ครับ กำหนดส่งก็ 10 ม.ค. นี้แล้วอ่าพี่ เศร้า..

warut 25 ธันวาคม 2006 20:18

โอเค... ผมเข้าใจละ (แล้วทำไมไม่บอกให้ละเอียดตั้งแต่แรกนะ ว่าอยากได้ของใหม่) ถ้างั้นก็พิสูจน์ว่ามี Sierpinski number ที่เป็นจำนวนเฉพาะอยู่เป็นอนันต์ (ผมว่ามันจะสวยกว่า "จำนวนประกอบ" นะ) นี่แหละครับใหม่แน่ๆ :cool:

ถามมั่ง... แล้วที่ มข. นี่มีให้ต่อ ป.โท/เอก คณิตศาสตร์รึเปล่าครับ

shinn 25 ธันวาคม 2006 22:05

มีครับ ทั้งโท ทั้งเอกครับ เอกจบไปรุ่นหนึ่งแล้วครับ มีคนเดียว 5555

แล้วจะเริ่มยังไงครับว่า "มีจำนวน sierpinski number ที่เป็นจำนวนเฉพาะ เป็นอนันต์"

warut 25 ธันวาคม 2006 22:23

ไม่เข้าใจคำถามครับ หมายความว่า "จะเริ่มพิสูจน์ยังไง" ใช่เปล่าครับ แล้วข้างบนนั่นทำได้หมดแล้วเหรอครับ

nooonuii 26 ธันวาคม 2006 00:01

ขอถามนอกประเด็นนะครับ ทำไมเด็ก มข. ชอบไปเรียน มช. ครับ ผมเคยคุยกับเพื่อนที่เป็นศิษย์เก่า มข. เขาก็พูดทำนองเดียวกันว่าเด็กมข.ส่วนใหญ่ชอบไปเรียน มช. ครับ :confused:

shinn 26 ธันวาคม 2006 00:04

เพิ่งเคลียร์โจทย์ครับ
ใช่ครับ ถ้าผมพิสูจน์ข้อ 3ได้ แล้วต้องทำอะไรต่อไป ครับ ถึงจะสรุปว่า "มีจำนวนเฉพาะ sierpinski number อยู่อนันต์"

shinn 26 ธันวาคม 2006 00:16

น่าจะเป็นเพราะมหาลัยมีต้นไม้เยอะ บรรยากาศดูเป็นธรรมชาติเหมือนกัน และรุ่นพี่ก็เยอะครับ (ส่วนตัวคือ สอบไม่ติดครับ 5555+++)

warut 26 ธันวาคม 2006 05:08

อ้างอิง:

ข้อความเดิมของคุณ shinn:
ถ้าผมพิสูจน์ข้อ 3ได้ แล้วต้องทำอะไรต่อไป ครับ ถึงจะสรุปว่า "มีจำนวนเฉพาะ sierpinski number อยู่อนันต์"
ใช้ Dirichlet's Theorem on Primes in Arithmetic Progressions ก็ได้แล้วครับ

shinn 27 ธันวาคม 2006 19:19

พี่ครับ ผมรู้ว่าผมพิสูจน์ผิด แต่ก็อยากรู้ว่าผิดตรงไหนครับ แฮ่ๆๆๆ
ข้อ 3.) $ a Z ," h > 1 , h a (mod $F_0$.$F_1$.$F_2$.$F_3$.$F_4$.$F_5$) h.$2^n$+1 is composite for all n N

พิสูจน์ ให้ n = 64q+r บาง q,r Z ที่ 0 r < 64
กรณี r = 0 เลือก a = -1 ให้ h -1 (mod $F_0$.$F_1$.$F_2$.$F_3$.$F_4$.$F_5$)
จาก h.$2^n$+1 (-1).$2^n$+1 (mod $F_0$.$F_1$.$F_2$.$F_3$.$F_4$.$F_5$)
0 (mod $F_0$.$F_1$.$F_2$.$F_3$.$F_4$.$F_5$)
กรณี r 0 ให้ r = s.$2^k$ เมื่อ s เป็นจำนวนเต็มคี่ และ k Z เลือก a = 1
ให้ h 1 (mod $F_0$.$F_1$.$F_2$.$F_3$.$F_4$.$F_5$)
จาก h.$2^n$+1 (1).$2^n$+1 (mod $F_0$.$F_1$.$F_2$.$F_3$.$F_4$.$F_5$)
0 (mod $F_k$) บาง k


ผิดทุกที่เลยไหมครับ คิดไม่ออกที่พี่บอกให้เลือก h

อีกคำถามครับ
นิยามของจำนวน sierpinski number คือ จำนวนเต็มคี่ k ที่ทำให้ k.$2^n$ เป็นจำนวนประกอบ สำหรับทุก n Z ใช่ไหม ครับ :please:

warut 27 ธันวาคม 2006 21:45

อ้างอิง:

ข้อความเดิมของคุณ shinn:
อีกคำถามครับ
นิยามของจำนวน sierpinski number คือ จำนวนเต็มคี่ k ที่ทำให้ k.$2^n$ เป็นจำนวนประกอบ สำหรับทุก n Z ใช่ไหม ครับ

เห็นนิยามแล้วอึ้งครับ :died:

$k\cdot2^n$ มันต้องเป็นจำนวนประกอบอยู่แล้วล่ะครับถ้า $n\ge2$

แล้วถ้า $n\in\mathbb Z$ เวลา $n$ เป็นลบเยอะๆ $k\cdot2^n$ ก็ไม่ใช่จำนวนเต็ม แล้วมันจะเป็นจำนวนประกอบได้ยังไงล่ะครับ

shinn 27 ธันวาคม 2006 22:10

พิมพ์ผิด ครับ 5555+++

นิยามของจำนวน sierpinski number คือ จำนวนเต็มบวกคี่ k ที่ทำให้ k.$2^n$ +1 เป็นจำนวนประกอบ สำหรับทุก n $Z^+$ ใช่ไหม ครับ

แล้วตกลงข้อ 3เป็นไงบ้างครับ
ผิดหมดเลยเหรอครับพี่

warut 28 ธันวาคม 2006 08:16

นิยามโอเคแล้วครับ

สำหรับข้อ 3. เอาเป็นว่าคุณ shin ตอบคำถามอันนี้ก่อนดีกว่านะครับ

ถ้า $p\mid F_5$ และ $32\mid n$, i.e., $n=32t$ ถามว่า $h\cdot2^n+1\equiv\;?\pmod p$
อ้างอิง:

ข้อความเดิมของคุณ warut:
First, try to prove that for each integer $r,\, 1\le r\le31$, the number $2^r+1$ is divisible by some $F_k,\, 0\le k\le4$. Do not use exhaustive calculation; there is a better way.
แล้วอันนี้ทำได้แล้วเหรอครับ ถ้ามั่นใจแล้วว่าทำได้ถูกต้องก็ไม่จำเป็นต้องแปะให้ผมดูหรอกครับ แค่ผมรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆเท่านั้นเอง

shinn 28 ธันวาคม 2006 15:13

First, try to prove that for each integer r;1r31 , the number $2^r$+1 is divisible by some $F_k$;0k4 . Do not use exhaustive calculation; there is a better way.

พิสูจน์ ให้ r = s.$2^k$ บาง s ที่เป็นจำนวนเต็มบวกคี่ ,0k4
$2^r$+1 $2^{s.2^k}$+1 $(-1)^s$ +1 0 (mod $F_k$)

shinn 28 ธันวาคม 2006 15:43

ถ้า p l $F_5$ และ 32 l n , i.e., n=32t ถามว่า h.$2^n$+1 ? (modp)

ตอบครับผม

h.$2^n$+1 h.$(-1)^t$+1 (mod $F_5$)
h.$(-1)^t$+1 (mod p )

ผมยังมองไม่ออกเลยครับว่า จะหา a ตัวไหน ที่ จะทำให้ข้อ 3 เป็นจริง ผมเดาว่านี่ คือ สิ่งที่พี่จะแนะให้ผมหา a ตัวนั้นเจอ !!! ...

shinn 28 ธันวาคม 2006 15:55

ตอนนี้ผมส่งเรื่องไปแล้วครับ สเปเชียล เรื่อง จำนวน sierpinski number ที่เป็นจำนวนเฉพาะ มีอยู่อนันต์

มีสิทธิ์ เปลี่ยนได้ไม่เกินวัน 5 ครับพี่ ผมจะรอดไหมครับ เพราะต้องส่งฉบับ วันที่ 10 มค.ครับ และนำเสนอวันที่ 25 มค. ครับ ตรงกับสอบที่จุฬาฯ ก็อาจจะต้องเสนอก่อนวันที่ 25 อีก ...ผมจะบ้าแล้ว ครับ

warut 28 ธันวาคม 2006 16:10

โอเคครับ แต่ถ้าอยากพิสูจน์แบบไม่ใช้ congruence ก็ทำได้ดังนี้ครับ

เนื่องจาก $s$ เป็นจำนวนคี่ และ $2^r+1=2^{s\cdot2^k}+1=(2^{2^k})^s+1$ จึงหารด้วย $2^{2^k}+1=F_k$ ลงตัว (ตรงนี้เราใช้ความจริงที่ว่า "ถ้า $s$ เป็นจำนวนคี่ แล้ว $x^s+1$ หารด้วย $x+1$ ลงตัวเสมอ" )

จากการทำข้อ 2. เรามาถึงจุดที่ว่าถ้าเราเลือก $h$ ให้มีสมบัติว่า $h\equiv1\pmod{F_0F_1F_2F_3F_4}$ แล้ว $h\cdot2^n+1$ จะเป็นจำนวนประกอบเสมอถ้า $32\!\not|\,n$ ใช่ไหมครับ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องพยายามก็คือ ทำให้ $h\cdot2^n+1$ เป็นจำนวนประกอบเมื่อ $32\mid n$ ด้วย ทีนี้เรารู้แล้วใช่มั้ยครับว่า ถ้า $n=32t$ และ $p\mid F_5$ แล้ว $h\cdot2^n+1\equiv h(-1)^t+1\pmod p$ นั่นคือเราต้องพยายามทำให้ $h(-1)^t+1\equiv0\pmod p$ ใช่เปล่าครับ ดังนั้นเราควรเลือก $h$ อย่างไรดี (ยังไม่ต้องไปสนกับของเดิมที่ว่า $h\equiv1\pmod{F_0F_1F_2F_3F_4}$ อันนั้นเดี๋ยวเราค่อยเอามาผนวกทีหลังครับ เอาแค่กรณี $32\mid n$ อย่างเดียวก่อน) อย่าลืมว่าเรามี $p$ ให้เลือกใช้อยู่ 2 ตัว ตัวนึงคือ 641 ส่วนอีกตัวคือ $F_5/641$ ลองคิดดูนะครับ ไม่ยากหรอก

ป.ล. ใจเย็นครับ ผมอยู่ทั้งคนต้องรอดแน่ (ถ้าคุณ shin เอาจริงด้วยนะ) :cool:

shinn 28 ธันวาคม 2006 17:38

ข้อ 3 ตกลงเราต้องเลือก a หรือ h ครับ ประโยคที่ว่า $ a Z ," h >1,...

เราต้องเลือก a ที่ใช้ได้กับ ทุก h ใช่ไหม ครับ
หรือ ถ้าเลือก h เราติดเป็นตัวแปรได้ไหม ครับ เช่น $(-1)^t$

warut 28 ธันวาคม 2006 18:30

มันเป็นเรื่องของภาษานะครับ ผมเลือกให้ $x=2$ ถามว่าผมเลือก $x$ หรือผมเลือก 2 อะไรทำนองนั้นแหละครับ เข้าใจบ่

แหม...ผมอุตส่าห์พิมพ์ซะยาว เพื่อให้คุณ shin คิดตามเป็น step แต่ก็เหมือนกันทุกครั้ง คุณ shin กระโดดล้ำหน้าผมไปทุกที ผมยังไม่ได้พูดถึง $a$ ตัวนั้นเลยครับ ก็เลยไม่รู้จะตอบยังไง

ผมไม่ชอบการตีความเป็นสัญลักษณ์แบบนั้นเลยครับ งง คำพูดธรรมดาเข้าใจง่ายกว่าตั้งเยอะ ผมจะพูดอันข้อ 3. เป็นภาษาไทย (ปนอังกฤษ) ให้ฟังละกันนะครับ

"มีจำนวนเต็ม $a$ ที่เมื่อ $h\equiv a\pmod{F_0F_1F_2F_3F_4F_5}$ และ $h>1$ แล้ว $h\cdot2^n+1$ เป็นจำนวนประกอบสำหรับทุกจำนวนนับ $n$"

เงื่อนไข $h>1$ เป็นเรื่องรายละเอียดที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อตัดโอกาสที่ $h\cdot2^n+1$ จะเป็น Fermat prime ในการพิสูจน์ช่วง 2 น่ะครับ มันไม่ใช่แก่นของการพิสูจน์

เลือก $h$ ต้องไม่ติดตัวแปรครับ

warut 29 ธันวาคม 2006 07:47

แนะเพิ่มหน่อยนึงครับ

ถ้าเราเลือกให้ $h\equiv1\pmod{641}$ จะเห็นว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนที่อยู่ในรูป $h\cdot2^{32t}+1$ จะต้องเป็นจำนวนประกอบแน่ๆ (ทำไมมันถึงเป็นจำนวนประกอบ?) ถามว่าเราควรเลือกให้ $h\equiv\;?\pmod{F_5/641}$ ดีถึงจะบีบให้จำนวนที่อยู่ในรูป $h\cdot2^{32t}+1$ ที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งเป็นจำนวนประกอบแน่ๆเช่นกัน


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 19:12

Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha