Mathcenter Forum

Mathcenter Forum (https://www.mathcenter.net/forum/index.php)
-   ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วไป (https://www.mathcenter.net/forum/forumdisplay.php?f=1)
-   -   แฟนพันธุ์แท้ คณิตศาสตร์ Marathon (https://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=2880)

nooonuii 19 มิถุนายน 2007 09:19

แฟนพันธุ์แท้ คณิตศาสตร์ Marathon
 
อยากให้กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ถามคำถามเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปทางคณิตศาสตร์ครับ ลักษณะคำถามอาจจะเป็นประวัติของวิชาคณิตศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ ข่าวคราวในวงการคณิตศาสตร์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางคณิตศาสตร์ ฯลฯ
สรุปว่าเป็นคำถามที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ในแง่ใดก็ได้ แต่จะต้องไม่มีคำถามที่เกี่ยวกับการคำนวณหรือการพิสูจน์ครับ สำหรับการเล่นขอใช้กติกาจากกระทู้มาราธอนทั้งหลายที่กำลังเล่นกันอยู่ คือ

ตั้งคำถามทีละหนึ่งคำถาม ใครตอบได้ก็จะได้สิทธิ์เป็นคนถามคำถามข้อต่อไป

ผมขอเริ่มคำถามแรกเป็นตัวอย่างก่อนนะครับ

1. ใครเป็นผู้คิดค้นวิชาแคลคูลัส

M@gpie 19 มิถุนายน 2007 12:21

ขอตอบว่า Leibnitz ครับผม

bell18 19 มิถุนายน 2007 14:13

หนังสือบางเล่มบอกว่า Newton เป็นผู้จุดประกายวิชาแคลคูลัสครับ

TOP 19 มิถุนายน 2007 21:45

ทั้ง Newton และ Leibnitz นั่นละ ทั้งสองคนต่างก็ยอมรับว่า แต่ละคนคิด Calculus ขึ้นมาเองจริงๆ

ไหนๆผมก็เห็นกระทู้ที่เป็นมาราธอนมาหลายกระทู้แล้ว ก็ขอถามคำถามเกี่ยวกับมาราธอนสักหน่อย :yum:

เป็นที่ทราบกันดีว่า ระยะทางสำหรับการวิ่งมาราธอนนั้นคือ 42.195 กิโลเมตร :rolleyes: แต่ทราบกันไหมว่าตัวเลขนี้ มีที่มาอย่างไร


kanakon 19 มิถุนายน 2007 22:02

The name, "marathon", comes from the legend of Pheidippides, a Greek soldier, who was sent from the town of Marathon to Athens to announce that the Persians had been miraculously defeated in the Battle of Marathon. It is said that he ran the entire distance without stopping, but moments after proclaiming his message to the city he collapsed dead from exhaustion. The account of the run from Marathon to Athens first appears in Plutarch's On the Glory of Athens in the 1st century AD who quotes from Heraclides Ponticus' lost work, giving the runner's name as either Thersipus of Erchius or Eucles.[1] Lucian of Samosata (2nd century AD) also gives the story but names the runner Philippides (not Pheidippides).[2]

The Greek historian Herodotus, the main source for the Greco-Persian Wars, mentions Pheidippides as the messenger who ran from Athens to Sparta asking for help. In some Herodotus manuscripts the name of the runner between Athens and Sparta is given as Philippides.

There are two roads out of the battlefield of Marathon towards Athens, one more mountainous towards the north whose distance is about 34.5 km (21.4 miles), and another flatter but longer towards the south with a distance of 40.8 km (25.4 miles). It has been successfully argued that the ancient runner took the more difficult northern road because at the time of the battle there were still Persian soldiers in the south of the plain.

In 1876, Robert Browning wrote the poem "Pheidippides". Browning's poem, his composite story, became part of late 19th century popular culture and was accepted as an historic legend.

ทีมา http://en.wikipedia.org/wiki/Marathon_(sport)#History

ต่อไป(หลายๆท่านอาจรู้คำตอบแล้วก็ได้นะครับ)

ในเมืองๆหนึ่งหนึ่ง จะมีช่างโกนหนวดชายคนหนึ่งที่โกนหนวดให้ผู้ชายทุกคนในเมืองที่ไม่ได้โกนหนวดด้วยตัวเอง

ถามว่า ชายคนผู้นี้โกนหนวดหรือไม่

TOP 19 มิถุนายน 2007 22:47

ประวัติที่ให้มายังไม่ได้อ้างอิงถึงตัวเลข 42.195 เลยนะครับ :rolleyes:

พูดถึงตำนานการวิ่งมาราธอน ตัวเลขที่อ้างอิงช่วงนั้นมีหลายค่าครับ พอจะประมาณได้ว่าราว 40 กิโลเมตร เมื่อการวิ่งมาราธอนถูกนำมาใช้แข่งขันในกีฬาโอลิมปิกช่วงแรก ระยะทางก็ไม่เท่ากัน อยู่ในช่วง 40 - 42 กิโลเมตร จนกระทั่งถึงการแข่งกีฬาโอลิมปิกที่อังกฤษในปี ค.ศ. 1908 จึงกำหนดเป็นค่ามาตรฐานขึ้นโดยถือเอาระยะทาง ที่ใช้ในการแข่งมาราธอนปีนั้นเป็นหลัก ซึ่งก็คือ 42.195 กิโลเมตรนั่นเอง


อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ kanakon (ข้อความที่ 20026)
ในเมืองๆหนึ่งหนึ่ง จะมีช่างโกนหนวดชายคนหนึ่งที่โกนหนวดให้ผู้ชายทุกคนในเมืองที่ไม่ได้โกนหนวดด้วยตัวเอง

ถามว่า ชายคนผู้นี้โกนหนวดหรือไม่

ปัญหาลักษณะนี้ ไม่ตรงกับแนวทางของหัวข้อนี้ครับ :o

2. คิดว่าหลายคนคงรู้จัก Paul Erdos กันพอสมควร ว่าเป็นผู้ที่มีความรักคณิตศาสตร์มาก แต่ท่านทราบไหมว่า มีปัญหาความน่าจะเป็นอันหนึ่งที่ไม่ว่าจะทำอย่างไร Paul Erdos ก็ไม่ยอมรับในคำตอบนั้น :rolleyes: ถามว่าปัญหานั้นคือปัญหาอะไร ? :)

nongtum 19 มิถุนายน 2007 23:40

คำถามของคุณ kanakon เกี่ยวกับเรื่อง Russell's Paradox ครับ หากใครสนใจก็ตอบได้นะครับ

ส่วนที่เฉลยมาราธอน ผมคงไม่สามารถวิ่งได้ขนาดนั้นครับ ขนาดเดินขึ้นเนินไม่ถึงสามร้อยเมตรก็เหนื่อยแล้วครับ ^_^'

เพื่อให้เกมเดินขอถามง่ายๆข้อนึงละกันนะครับ เวลาตอบแถมข้อมูลหรือลิงค์อ้างอิงหน่อยก็ดีนะครับ

2. Fermat's Last Theorem ใช้เวลาแก้(จนมีบทพิสูจน์ที่ถูกต้องครบถ้วน)กี่ปี

nooonuii 21 มิถุนายน 2007 10:14

ของคุณ nongtum ขอเป็นข้อ 3 ละกันนะครับ เพราะมีของคุณ TOP อีกข้อนึง

3. 357 ปีครับ

ขอต่อข้อต่อไปนะครับ ของคุณ TOP นี่ไม่ทราบจริงๆครับ

4. ใครเป็นคนแรกที่พิสูจน์ว่า มีจำนวนเฉพาะเป็นจำนวนอนันต์

Switchgear 21 มิถุนายน 2007 10:59

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ TOP (ข้อความที่ 20033)
2. คิดว่าหลายคนคงรู้จัก Paul Erdos กันพอสมควร ว่าเป็นผู้ที่มีความรักคณิตศาสตร์มาก แต่ท่านทราบไหมว่า มีปัญหาความน่าจะเป็นอันหนึ่งที่ไม่ว่าจะทำอย่างไร Paul Erdos ก็ไม่ยอมรับในคำตอบนั้น :rolleyes: ถามว่าปัญหานั้นคือปัญหาอะไร ? :)

ขอตอบว่า The Monty Hall Problem :)

Switchgear 21 มิถุนายน 2007 11:01

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ nooonuii (ข้อความที่ 20058)
4. ใครเป็นคนแรกที่พิสูจน์ว่า มีจำนวนเฉพาะเป็นจำนวนอนันต์

ขอตอบว่า Euclid

Switchgear 21 มิถุนายน 2007 11:13

ผมขอถามเล่นๆ บ้าง :)

ข้อ 5. หลายคนคงรู้จักชื่อของ James Clerk Maxwell ผู้ตั้งสมการ Maxwell อันโด่งดัง ซึ่ง Maxwell เองจบจาก Cambridge และเก่งคณิตศาสตร์สุดๆ ในยุคนั้น ขอถามว่า:
Maxwell สอบ Tripos เมื่อปีไหน, ได้ตำแหน่งที่เท่าไร และใครคือคนที่เป็น Senior Wrangler ปีนั้น ?

มีเรื่องเล่ากันว่า (อาจเป็นเรื่องแต่ง?) ในวันประกาศผลสอบ Tripos ปีนั้น Maxwell สั่งคนใช้ให้ช่วยวิ่งไปดูว่าใครสอบได้ที่สอง เพราะเขามั่นใจว่าเขาเองได้ที่หนึ่งแน่นอนอยู่แล้ว จึงไม่สนใจที่จะต้องไปดูผลสอบเอง

Switchgear 21 มิถุนายน 2007 11:33

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ nooonuii (ข้อความที่ 20008)
1. ใครเป็นผู้คิดค้นวิชาแคลคูลัส

ใครอยากอ่านรายละเอียดเรื่องนี้แบบเต็มๆ แนะนำให้ลองอ่าน "Chapter V: An Examination of the Claims of Liebnitz and Newton to the Invention of the Analysis of Infinites." ในหนังสือ "A general history of mathematics from the earliest times to the middle of the eighteenth century" แต่งโดย Bossut C. เมื่อปี 1803 อยู่หน้า 359-379

ย่อหน้าแรกสุดเริ่มต้นด้วยข้อความ:

THE productions of genius being of an order infinitely superiour to all other objects of human ambition, we need not be surprised at the warmth, with which Leibnitz and Newton disputed the discovery of the new geometry. These two illustrious rivals, or rather Germany and England, contended in some respects for the empire of science.

บทสรุปย่อหน้าสุดท้ายระบุว่า:

To conclude, whatever length of time the completion of the Principia may have required, we ought not to forget, that this work did not appear till two or three years after Leibnitz had published his differential calculus, and some sketches of the integral.

TOP 22 มิถุนายน 2007 00:02

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Switchgear (ข้อความที่ 20061)
ขอตอบว่า The Monty Hall Problem :)

ใช่แล้วครับ ปัญหานั้นคือ The Monty Hall Problem นั่นเอง ปัญหานี้ฟังคำตอบที่ได้รับแล้ว จะรู้สึกขัดกับสามัญสำนึกยังไงไม่รู้ ปัญหานี้กล่าวโดยสั้นคือ

หากคุณได้ไปเล่นเกมโชว์อันหนึ่ง มีประตู 3 บาน ให้เลือกเปิดเพียงหนึ่งบาน และมีของรางวัลซ่อนอยู่หลังประตูเพียงบานเดียวเท่านั้น หลังจากคุณเลือกประตูมาหนึ่งบาน พิธีกรจะเลือกเปิดประตูบานที่เหลือหนึ่งบานที่ไม่มีของรางวัลซ่อนอยู่ และให้โอกาสคุณอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะเปลี่ยนไปเลือกประตูอีกหนึ่งบานที่เหลือหรือไม่ ปัญหาก็คือ คุณควรจะเปลี่ยนไปเลือกประตูบานที่เหลือดีหรือไม่ :rolleyes:

ฟังดูคร่าวๆ จะรู้สึกว่า สิ่งที่พิธีกรทำอยู่นั้น ไม่เห็นจะเกี่ยวกับประตูบานที่เราเลือกไว้เลย จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ก็มีโอกาสได้รางวัล $\frac{1}{2}$ เท่ากัน แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้นครับ หากเราเปลี่ยนไปเลือกประตูบานที่เหลือหนึ่งบานนั้น จะมีโอกาสได้รางวัลถึง $\frac{2}{3}$ :died:

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Switchgear (ข้อความที่ 20066)
ผมขอถามเล่นๆ บ้าง :)

ข้อ 5. หลายคนคงรู้จักชื่อของ James Clerk Maxwell ผู้ตั้งสมการ Maxwell อันโด่งดัง ซึ่ง Maxwell เองจบจาก Cambridge และเก่งคณิตศาสตร์สุดๆ ในยุคนั้น ขอถามว่า:
Maxwell สอบ Tripos เมื่อปีไหน, ได้ตำแหน่งที่เท่าไร และใครคือคนที่เป็น Senior Wrangler ปีนั้น ?

มีเรื่องเล่ากันว่าในวันประกาศผลสอบ Tripos ปีนั้น Maxwell สั่งคนใช้ให้ช่วยวิ่งไปดูว่าใครสอบได้ที่สอง เพราะเขามั่นใจว่าเขาเองได้ที่หนึ่งแน่นอนอยู่แล้ว จึงไม่สนใจที่จะต้องไปดูผลสอบเอง

จากข้อมูลที่ผมไปค้นมา มีเพียงแห่งเดียวที่บอกว่า Maxwell สั่งคนใช้ให้ช่วยวิ่งไปดู นอกนั้นบอกไว้ว่าเป็น Lord Kelvin (อ้างอิงจาก Wrangler (University of Cambridge) - Past wranglers , Greatest Scotsman Ever...???)

สำหรับคำตอบของข้อนี้คือ

Maxwell สอบ Tripos ปี 1854 ได้ที่สอง (Second Wrangler) โดยผู้ที่ได้ที่หนึ่ง(Senior Wrangler) ในปีนั้นคือ Edward Routh ศิษย์ร่วมสำนักของอาจารย์ William Hopkins (ผู้มีชื่อเล่นหนึ่งว่า "wrangler maker" เพราะลูกศิษย์หลายคนกวาดรางวัล wrangler ไปครอง)

Switchgear 22 มิถุนายน 2007 03:57

คุณ TOP ตอบคำถามเกี่ยวกับ Maxwell ถูกต้องครับ
ส่วนประเด็นว่าสั่งใครไปดูหรือไม่ ผมอาจจำผิดไป น่าจะเป็น Load Kelvin อย่างที่คุณ TOP บอกไว้ :)

bell18 22 มิถุนายน 2007 21:50

คุณ TOP และคุณ Switchgear เป็นสุดยอดแฟนพันธุ์แท้คณิตศาสตร์จริงๆ ของคาระวะจากใจ:please:
ผมขอตั้งคำถามข้อนึงละกันนะครับ เอาใกล้ตัวหน่อย
ข้อ 6. ศูนย์ สอวน.ในประเทศไทย มีทั้งหมดกี่ศูนย์ ศูนย์อะไรบ้าง

nooonuii 24 มิถุนายน 2007 11:38

6. ขอตอบเฉพาะศูนย์สอวน. คณิตศาสตร์นะครับ มี 14 ศูนย์ ครับ

1. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
2. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
3. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
4. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
5. มหาวิทยาลัยนเรศวร
6. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
7. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
8. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
9. มหาวิทยาลัยบูรพา
10. มหาวิทยาลัยศิลปากร
11. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
12. โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
13. โรงเรียนเตรียมทหาร
14. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย

nooonuii 24 มิถุนายน 2007 11:40

7. ใครเป็นคนใช้สัญลักษณ์ $f(x)$ แทนฟังก์ชันเป็นคนแรก

bell18 24 มิถุนายน 2007 21:06

ตอบข้อ 7. นักคณิตศาสตร์ชาวอินเดียชื่อ ศรีนิวาสะ รามานุจัน ไอเยนการ์

nooonuii 25 มิถุนายน 2007 00:08

ข้อ 7 ยังไม่ถูกครับ สัญลักษณ์นี้มีใช้กันก่อนสมัยรามานุจันครับ

TOP 25 มิถุนายน 2007 10:15

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ nooonuii (ข้อความที่ 20185)
7. ใครเป็นคนใช้สัญลักษณ์ $f(x)$ แทนฟังก์ชันเป็นคนแรก

อ้าวยังไม่มีใครตอบอีกหรือ :rolleyes:
Leonhard Euler ครับ นอกจาก $f(x)$ แล้วก็ยังมี $e , \pi, i, \Sigma, \ldots$ อีกมากมาย

8. ประโยคนี้นักคณิตศาสตร์ท่านใดหยิบมาใช้ แล้วเป็นที่รู้จักกันทั่วไป
"If I have seen farther than others, it is because I was standing on the shoulder of giants."

nooonuii 25 มิถุนายน 2007 11:05

8. ใช่ Sir Isaac Newton รึเปล่าครับ:rolleyes:

9. ใครเป็นคนแรก ที่ใช้คำว่า chaos(เค-ออส) ในวิชาคณิตศาสตร์

Switchgear 25 มิถุนายน 2007 18:37

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ nooonuii (ข้อความที่ 20215)
9. ใครเป็นคนแรก ที่ใช้คำว่า chaos(เค-ออส) ในวิชาคณิตศาสตร์

ขอตอบว่า:
The term chaos as used in mathematics was coined by the applied mathematician James A. Yorke.

http://en.wikipedia.org/wiki/James_A._Yorke

nooonuii 26 มิถุนายน 2007 09:27

ข้อ 9. ถูกแล้วครับ คำว่า chaos ปรากฎครั้งแรกในบทความของ James A. Yorke กับ T.Y. Li ชื่อ Period Three Implies Chaos ซึ่งมีทฤษฎีที่สำคัญ ใจความว่า

สำหรับฟังก์ชันต่อเนื่อง $f:[a,b]\to [a,b]$ ถ้าสมการ $f^3(x)=x$ มีคำตอบแล้ว สมการ $f^n(x)=x$ จะมีคำตอบทุกค่า $n\geq 1$ เมื่อ $f^n$ แทนผลประกอบของฟังก์ชัน $f$ $n$ ครั้ง

ทฤษฎีบทนี้รู้จักกันในชื่อ Li-Yorke Theorem เป็นทฤษฎีที่มีชื่อเสียงมากในทาง Dynamics ผลของทฤษฎีนี้นำไปสู่ทฤษฎีที่ว่าฟังก์ชันที่มีคุณสมบัตินี้จะมีคุณสมบัติของความอลวน(chaos) ซึ่งเราเรียกฟังก์ชันลักษณะนี้ว่า chaotic map และทฤษฎีบทนี้ก็คือที่มาของคำว่า chaos ในทางคณิตศาสตร์ครับ ปัจจุบันมีนิยามอยู่หลายแบบของ chaos ทางคณิตศาสตร์ ซึ่งยังไม่มีการรวบรวมให้เป็นหนึ่งเดียว

เพิ่มเติม ล่าสุด James Yorke ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าภาควิชาคณิตศาสตร์ ของ University of Maryland @ College Park เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ เขาจะดำรงตำแหน่งนี้เป็นเวลาห้าปี นอกจากเป็นนักคณิตศาสตร์แล้วเขายังเป็นช่างภาพสมัครเล่นฝีมือดีอีกด้วยครับ ที่ตึกคณิตศาสตร์จะมีรูปที่เขาถ่ายไว้แปะอยู่ตามฝาผนังเต็มไปหมด ผมชอบไปยืนดูอยู่บ่อยๆ สวยดีครับ :great: (คราวก่อนลืมพาพี่ Punk ไปดูเพราะมันอยู่ชั้นล่าง:o )

Rationalism 26 มิถุนายน 2007 10:59

:wub: นอกจากเก่งแล้วยังมีความรู้รอบตัวเยอะอีก :great: สมกับที่เป็นเทพกันจริง ๆ:please:

Switchgear 26 มิถุนายน 2007 18:21

ผมนึกคำถามไม่ออก สละสิทธิ์การตั้งคำถามถัดไป ให้กับใครก็ได้ที่มีคำถามเจ๋งๆ :haha:

Switchgear 26 มิถุนายน 2007 18:53

ขอแสดงความยินดีกับ Webmaster ทุกคนด้วยครับ เนื่องจากเมื่อวานนี้มีการทำลายสถิติผู้เข้าชมพร้อมกันสูงสุด :sung:

จำนวนผู้อยู่ในระบบสูงสุด 154 ท่าน ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2007 เวลา 20:31

nongtum 26 มิถุนายน 2007 20:27

โอเคครับ งั้นผมตั้งละกัน ไม่รู้จะโหดไปหรือเจ๋งพอไหม

10. ''Wir müssen wissen, wir werden wissen'' (We must know, we will know)
เป็นคำจารึกบนป้ายหลุมศพของนักคณิตศาสตร์ท่านหนึ่ง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในช่วงศตวรรษที่ 19-20

นักคณิตศาสตร์ท่านนั้นคือใคร และป้ายหลุมศพดังกล่าวอยู่ที่ใด

TOP 27 มิถุนายน 2007 00:50

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ nooonuii (ข้อความที่ 20215)
8. ใช่ Sir Isaac Newton รึเปล่าครับ:rolleyes:

ใช่แล้วครับ :)

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Switchgear (ข้อความที่ 20249)
ขอแสดงความยินดีกับ Webmaster ทุกคนด้วยครับ เนื่องจากเมื่อวานนี้มีการทำลายสถิติผู้เข้าชมพร้อมกันสูงสุด :sung:

จำนวนผู้อยู่ในระบบสูงสุด 154 ท่าน ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2007 เวลา 20:31

ช่วงใกล้วันที่มีการสอบแข่งขัน ก็เป็นแบบนี้ละครับ :laugh:

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ nongtum (ข้อความที่ 20251)
โอเคครับ งั้นผมตั้งละกัน ไม่รู้จะโหดไปหรือเจ๋งพอไหม

10. ''Wir müssen wissen, wir werden wissen'' (We must know, we will know)
เป็นคำจารึกบนป้ายหลุมศพของนักคณิตศาสตร์ท่านหนึ่ง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในช่วงศตวรรษที่ 19-20

นักคณิตศาสตร์ท่านนั้นคือใคร และป้ายหลุมศพดังกล่าวอยู่ที่ใด

David Hilbert ที่เมือง Göttingen ประเทศเยอรมนี



11. Gauss ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก เรื่องอะไร :rolleyes:

nongtum 27 มิถุนายน 2007 02:30

ข้อ 10 คงไม่ต้องเฉลยเพิ่มเติมแล้วนะครับ :)

11. ''A New Proof That Every Rational Integer Function of One Variable Can Be Resolved into Real Factors of the First or Second Degree''
ในนี้มีบทพิสูจน์ทฤษฏีบทมูลฐานของพีชคณิต (fundamental theorem of algebra.) ด้วยครับ (อ้างจากที่นี่)

12. น้องชายของ Evariste Galois ผู้ซึ่งทำการคัดลอกและส่งผลงานของ Galois ไปให้นักคณิตศาสตร์หลายคนช่วยพิจารณา มีชื่อว่าอะไร

nooonuii 27 มิถุนายน 2007 09:24

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ nongtum (ข้อความที่ 20260)
12. น้องชายของ Evariste Galois ผู้ซึ่งทำการคัดลอกและส่งผลงานของ Galois ไปให้นักคณิตศาสตร์หลายคนช่วยพิจารณา มีชื่อว่าอะไร

ชื่อ Alfred Galois ครับ

13. วิธีการสร้างจัตุรัสกลโดยวิธีของ De La Loubere มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร และทำไมจึงเรียกชื่อเช่นนั้น

Switchgear 27 มิถุนายน 2007 12:24

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ nooonuii (ข้อความที่ 20263)
13. วิธีการสร้างจัตุรัสกลโดยวิธีของ De La Loubere มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร และทำไมจึงเรียกชื่อเช่นนั้น

The Siamese method เพราะว่า De La Loubere เรียนรู้จากคนไทยเมื่อตอนที่เข้ามาเป็นทูตประจำสยาม (ชื่อเดิมของประเทศไทย)

มี link ใน Mathematica เผื่อใครอยากอ่านต่อ
The Siamese method

.................................

สละสิทธิ์ตั้งคำถามถัดไปเช่นเคย ใครมีคำถามเจ๋งๆ ใช้สิทธิ์นี้ได้เลย

nongtum 27 มิถุนายน 2007 17:43

งั้นผมขอถาม Hilbert อีกข้อละกัน

14. Hilbert เคยพูดว่า
"Aber meine Herren, eine Fakultät ist doch keine Badeanstalt!"
(แปล: แต่ท่านทั้งหลายครับ คณะนะครับ ไม่ใช่อ่างอาบน้ำ!)

เพื่อจุดประสงค์ใด พูดเพื่อใคร ร่วมกับใคร

TOP 27 มิถุนายน 2007 18:10

"The University Senate is not a Bath House"

Hilbert พูดกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย เพื่อให้ Emmy Noether ได้เป็นอาจารย์สอนหนังสือในคณะมั้งครับ

nongtum 27 มิถุนายน 2007 18:17

ใช่ครับ ขอกันที่ตรงนี้ไว้ก่อน เดี๋ยวไปเรียนกลับมาเดี๋ยวมาขยายความต่อครับ

คุัณ TOP ตั้งข้อต่อไปได้เลยครับ

คณิตศาสตร์ 27 มิถุนายน 2007 21:12

แล้วใครคือผู้กำเนิดกำหนดคณิตศาสตร์ขึ้นมาล่ะครับ

nooonuii 28 มิถุนายน 2007 07:14

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ คณิตศาสตร์ (ข้อความที่ 20284)
แล้วใครคือผู้กำเนิดกำหนดคณิตศาสตร์ขึ้นมาล่ะครับ

คำตอบที่น่าจะถูกที่สุดของคำถามนี้ก็คือ มนุษย์ ครับ :laugh:

วิทยาศาสตร์ ธรรมชาติสร้าง
คณิตศาสตร์ มนุษย์สร้าง

:)

Switchgear 28 มิถุนายน 2007 21:52

คืนนี้...ไม่มีคำถามตกค้างให้คิดซะแล้ว :haha:

TOP 28 มิถุนายน 2007 23:29

2 ไฟล์และเอกสาร
15. รถจักรยาน ใช่ว่าจะต้องใช้ล้อเป็นวงกลมเสมอไป ล้อเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสก็สามารถขี่บนถนนได้ราบลื่นเช่นกัน เพียงแต่ต้องมีพื้นผิวถนนที่เหมาะสมกับรูปร่างของล้อ คำถามก็คือ พื้นผิวถนนที่เหมาะกับล้อรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มาจากเส้นโค้งที่มีชื่อเรียกว่าอะไร :)
Attachment 107 Attachment 108

nongtum 29 มิถุนายน 2007 02:43

1 ไฟล์และเอกสาร
15. inverted catenaries ครับ
หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้ที่ sciencenews.org, wiki Square wheel, wiki Catenary และ wolfram.com ครับ

16. นักคณิตศาสตร์ในรูปนี้คือใคร มีผลงานที่สำคัญในด้านใด

nooonuii 30 มิถุนายน 2007 03:17

16. ยากจริงๆครับ ขอเดาว่า Riemann ครับ :unsure:


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 19:47

Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha