ผมพิสูจน์ Goldbach's Conjecture ได้แล้วครับ
ช่วงนี้ผมเหนื่อยสุดๆ เมื่อวานซืนนอนตี 5 เมื่อคืนนอนตี 3 เพราะมัวแต่มาพิสูจน์ Goldbach's conjecture อยู่ครับ
ที่ว่า ''จำนวนเต็มคู่ที่มากกว่า 2 ใดๆ สามารถเขียนในผลบวกจำนวนเฉพาะได้ 2 จำนวน'' อยากรู้ว่าโลกนี้มีคนพิสูจน์ได้รึยังครับ ?? ผมหาข้อมูลในเน็ตก็ยังไม่เจอนะ ส่วนผมพิสูจน์ได้แล้วครับ ความยาว 2 หน้ากระดาษ A4 พอดีๆ :D ผมพิสูจน์แล้วพบว่าข้อคาดการณ์นี้ ''ถูกต้อง'' ครับ ทำให้มันไม่เป็น conjecture อีกต่อไป :cool: แต่ถ้าให้เทียบความยากกับ FLT ผมว่า FLT ยังยากกว่าครับ FLT ผมคิดเกือบเดือน ส่วน Goldbach คิดแค่ 2 วัน การพิสูจน์ก็ไม่ได้ใช้ความรู้อะไรสูงเลยครับ แค่มีความรู้พื้นฐานเรื่องจำนวนเฉพาะเล็กน้อยก็ทำได้แล้ว กับ บวก ลบ คูณ หาร ธรรมดา อยากถามว่า มีใครพิสูจน์ข้อคาดการณ์นี้ได้รึยังครับ ?? ปล. อยากเสนอผลงาน แต่ไม่รู้จะเข้าหาใคร อีกแล้ว :please: |
ทีแรกตั้งใจว่าจะพิสูจน์ สมมุติฐานของรีมันน์ ครับ แต่คิดไม่ออกซักที เลยหาอย่างอื่นที่มันง่ายกว่า ก็มาเจอ Goldbach นี่แหละครับ :D
จริงๆผมก็ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับมันมากหรอก ลองพิสูจน์เล่นๆเท่านั้นเอง แต่ผมเป็นคนชอบคิดโจทย์ยาก คิดแล้วมันสนุก วิธีพิสูจน์ Goldbach เน้นการ สมมุติว่าจริง แล้ว ขัดแย้ง ครับ ทำแบบนี้อยู่หลายครั้งเลย กว่าจะคิดออก ถือว่ายากพอสมควร |
ขออภัยครับ ผมพบจุดที่ผิดพลาดของตัวเองแล้ว :p ผมยังพิสูจน์ไม่ได้ทั้งหมด
แต่ที่แน่ๆ ผมพิสูจน์ได้แล้วว่า จำนวนคู่ที่มี 3 เป็นตัวประกอบ ทุกตัว เช่น 6 , 12 , 18 , 24 , ... สามารถเขียนในรูปแบบ จำนวนเฉพาะ 2 จำนวนได้ :happy: ถือว่าคืบหน้ามาหน่อยนึงแล้ว ส่วนที่เหลือ คิดว่าน่าจะคลี่คลายในไม่ช้า :D |
งั้นลองบอกไอเดียที่พิสูจน์ใน #3 มาซักเล็กน้อยได้มั้ยครับประมาณว่า Hint อะไรเเบบนี้
|
อ้างอิง:
แล้วทำการพิสูจน์ครับ จะพบว่า ถ้าจำนวนนั้นมีอยู่จริงๆ จะพบว่าต้องไม่มี 3 เป็นตัวประกอบ ดังนั้นถ้าจำนวนใดก็ตามที่มี 3 เป็นตัวประกอบ ก็ไม่ตรงตามเงื่อนไข ดังนั้นจะต้องเขียนในรูปผลบวกของจำนวนเฉพาะได้ :happy: แต่การพิสูจน์ต่อจากนี้ก็ไม่ง่าย เพราะไม่ใช่ว่าจำนวน ที่ไม่มี 3 เป็นตัวประกอบจะไม่สามารถเขียนเป็นผลบวกจำนวนเฉพาะได้เสมอไป แต่จำนวนที่ว่านั้น ต้องไม่มี 3 เป็นตัวประกอบ งง ป่ะครับ อิอิ |
ในที่สุดผมก็พิสูจน์ Goldbach's Conjecture ได้แบบสมบูรณ์แล้วครับ ไม่เกินความพยายามของผมจริงๆ :D
บทพิสูจน์นี้จัดว่าสวยงามครับ :great: แต่ก็ยังสวยงามน้อยกว่า FLT ตอนนี้ก็นับว่าผมมีผลงาน บทพิสูจน์ยากๆ 2 ผลงานแล้วครับ คือ FLT กับ Goldbach's Conjecture :cool: เป้าหมายต่อไป คือพิสูจน์ สมมุติฐานของรีมันน์ ครับ เป็นงานที่ท้าทายจริงๆ :cool: |
ผมไปเจอข่าวนี้มาไม่รู้ว่ามีอัพเดทกว่านี้มั้ย >> https://jusci.net/node/2581
ตอนนี้ยังไม่มีใครพิสูจน์ Goldbach Conjecture ได้นะครับ ผมจะเป็นคนแรกรึป่าว ?? :rolleyes: Terence Tao ก็ยังไม่มีการพิสูจน์ตรงนี้นะครับ บทพิสูจน์ของผมเรียบง่ายมากเลย มีแค่ บวก ลบ คูณ หาร ล้วนๆครับ แต่ก็พิสูจน์ได้ :D |
ลองส่งไปให้ Terence Tao ตรวจสอบให้สิครับ นี่ลิ้งสำหรับติดต่อครับ มีทั้ง email , Office phone , Fax
http://www.math.ucla.edu/~tao/tags.html |
อ้างอิง:
แต่ของผมนี่ไม่ต้องตรวจเลยครับ ถูกต้องแน่นอน เพราะมันเป็นอะไรที่ elementary สุดๆ ใช้ความรู้ระดับมัธยมเท่านั้นเอง:cool: ผมแปลกใจนะว่า ทำไมมันถึงเป็นปริศนามานานตั้ง 200 กว่าปี ผมคิด 3 วันก็ออกละ แต่กว่าจะคิดออก ก็เล่นเอาปวดหัวสุดๆไปเลย มึนตึบๆ :blood: |
อ้างอิง:
|
ผมบอกใบ้ให้นะครับ เผื่อจะมีคนพิสูจน์ได้แบบผม
บทพิสูจน์นี้จะจบลงตรงที่ จำนวนที่ผมสมมุติมาตอนแรก ที่บอกว่าต้องไม่มี 3 เป็นตัวประกอบ ใช่มั้ยครับ ? เมื่อพิสูจน์ต่อไปเรื่อยๆ จะพบว่ามันไม่มีจำนวนอะไรเป็นตัวประกอบเลย นอกจากตัวมันเอง ทั้งๆที่ ตัวเองเป็นจำนวนคู่แท้ๆ แต่ดันทำตัวเหมือนจำนวนเฉพาะ :haha: ดังนั้นที่ผมสมมุติไว้จึงไม่จริง ทำให้ Goldbach's Conjecture ได้สิ้นสุดลง ไม่เป็น conjecture อีกต่อไป :cool: พิสูจน์แล้วว่า ''จริง'' :great: ขอพักสมองหน่อยช่วงนี้ ทั้งงานก็หนัก ทั้งโจทย์ก็ยาก เดี๋ยวค่อยลุยสมมุติฐานของรีมันน์ต่อ :D ปล. ขออภัยที่ไม่ได้โพสลง เพราะเป็นลิขสิทธิ์ทางปัญญา |
อ้างอิง:
ได้แต่คิดเองเออเองอยู่คนเดียว รู้อยู่คนเดียวว่าตัวเองคิดถูก ทำถูกไปเสียหมด มันขัดกับหลักการทางวิทยาศาสตร์นะท่าน เพราะสิ่งที่จะประกาศเป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์จะต้องมีการตรวจสอบและทำซ้ำได้ ผมไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไรจากสังคมนะ อยากให้มีคนยอมรับเหรอ หรือแค่ต้องการปั่นหัวคนไปวันๆ ถ้าจะให้ผมแนะนำอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง ลองทำแบบคนนี้นะครับ Shinichi_Mochizuki สิ่งที่นายคนนี้ทำคือตีพิมพ์ผลงานตัวเองลงเวบส่วนตัวแค่นั้นเองครับ แล้วก็เปิดสัมมนาพูดถึงงานของตัวเองให้คนอื่นฟัง อ้อสิ่งที่นายคนนี้ทำออกมาเรียกว่า inter-universal Teichmüller theory ครับ ซึ่งผลพลอยได้ที่ตามมาคือ ทฤษฎีนี้จะพิสูจน์ abc conjecture ได้ และเมื่อ abc conjecture เป็นจริง จะทำให้มีลู่ทางในการพิสูจน์ Fermat's Last Theorem ด้วย ผมอยากให้คุณทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันมากกว่านี้นะ ถ้าคุณต้องการประกาศให้โลกรู้ว่าตัวเองคิดวิธีพิสูจน์ conjecture ได้จริงและคุณกล้าพอ เป็นกำลังใจให้ครับ ผมเองก็อยากเห็นคนไทยมีผลงานในระดับนี้เหมือนกัน |
เข้าใจครับ ตอนนี้ผมกำลังหาคน endorse ผลงานให้อยู่
อยากลง arxiv มาก มีตั้งสองผลงานแล้ว จริงๆมีมากกว่านี้ แต่ผลงานอื่นมันง่าย คิดว่าใครๆก็ทำได้ พูดถึงความกล้า ผมอยากไปยืนหน้าห้องบรรยายแบบ แอนดรู ไวล์ มากครับ ให้ใครมาฟังก็ได้ ยินดีให้ตรวจสอบ เพราะมั่นใจ :D แต่ผมเป็นพนักงานบริษัทครับ ไม่ได้อยู่ในแวดวงการศึกษา ไม่รู้จะมีเวทีให้ผมขึ้นไปพูดมั้ย อยากขึ้นมาก :laugh: ถ้ามีสัมนาวิชาการ ที่ไหนก็บอกผมด้วยนะครับ จะไปพิสูจน์ให้ดู ปล. ไม่รู้ติดต่อ Terence Tao มาเป็น endorsement ให้ผมได้มั้ย จะได้ลงซักที |
สงสารเหมือนกันครับ แต่อ่าน ๆ ไปแล้วก็เริ่มสนุกดี เหมือนอ่านนิยายเพ้อฝัน มุขเยอะดี อยากรู้ว่าจะมีมุขอะไรต่อ นับถือครับ :please::please: รออ่านนิยายต่อเรื่อย ๆ ครับ อย่าให้แฟน ๆ ผิดหวัง
|
ผมว่าในเว็ปนี้ก็คงมีหลายคนที่อยู่ในวงการวิชาการ เพราะอย่างนี้ผมถึงเข้ามาเว็ปนี้ไง
ถ้าคิดว่าผมไม่กล้านะ ถ้าใครมีงานสัมนาวิชาการเกี่ยวกับผลงานวิจัยพวกนี้ เชิญผมไปด้วยได้มั้ย ? ผมจะพิสูจน์หน้ากระดานแบบสดๆไปเลย ถ่ายคลิปไว้ด้วยก็ๆได้นะ ถ้าสงสัยตรงไหนก็แย้งได้ ยินดีเสมอ ทุกคนจะได้เป็นพยานว่าผมทำได้จริงๆ ผมจะได้สบายใจว่าไม่มีใครขโมยผลงานด้วย พิสูจน์กันจะๆไปเลย ระหว่างการยอมรับจากสังคม กับ การรักษาลิขสิทธิ์ทางปัญญา ผมเลือกการรักษาลิขสิทธิ์ทางปัญญานะครับ ไม่ต้องยอมรับผมก็ได้ ไม่เป็นไร ผมก็ไม่ได้ต้องการขนาดนั้น เพราะลิขสิทธิ์ทางปัญญาสำคัญกว่า เมื่อใดก็ตามที่ผมเห็นแล้วว่าเปิดเผยแล้วปลอดภัยจากการคัดลอก แล้วพิสูจน์ว่าจริง ถึงตอนนั้นก็มีคนเชื่อผมเองแหละครับ เพราะฉะนั้น ตอนนี้ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ :D |
เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 09:52 |
Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha