Mathcenter Forum

Mathcenter Forum (https://www.mathcenter.net/forum/index.php)
-   ปัญหาคณิตศาสตร์ ประถมปลาย (https://www.mathcenter.net/forum/forumdisplay.php?f=5)
-   -   คิดไม่ออกครับทำอย่างไรดี (https://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=9652)

_P_C_ 15 มกราคม 2010 23:00

คิดไม่ออกครับทำอย่างไรดี
 
1+3+5+7+9+..101
ทำยังไงหรอครับ

2+4+6+8+10 ทำยังไหรอครับ

kabinary 15 มกราคม 2010 23:12

2+4+6+8+10 = 2(1+2+3+4+5)

กิตติ 16 มกราคม 2010 00:25

1+3+5+7+....95+97+99+101
ลองเอา 1จับคู่กับ 101, 3+99 , 5+97 ,7+95...ไปเรื่อยๆ
จะเห็นว่าเลขที่บวกกันเป็นเลขคี่ จาก1-101 มีเลขคี่ 51 ตัว จับคู่ได้25คู่ เศษตัวหนึ่งตรงกลางคือ 51 เพราะผลรวมการบวกแบบหัวท้ายได้เท่ากับ 102 สำหรับ 51บวกกับ51เท่านั้นจึงจะได้ 102 ดังนั้นจึงไม่มีคู่
ดังนั้นผลบวกคือ 25x(102)+51=2500+50+51
ตอบ 2601

napolsmath 16 มกราคม 2010 12:40

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ _P_C_ (ข้อความที่ 75308)
1+3+5+7+9+..101
ทำยังไงหรอครับ


NUTMATH 22 มกราคม 2010 10:26

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ _P_C_ (ข้อความที่ 75308)
1+3+5+7+9+..101
ทำยังไงหรอครับ

1+3+5+7+9+...101

คือผลรวมของเลขคี่ n ตัว = $n^2$
[ที่เริ่มจาก 1]

สูตร $[\frac{ตัวแรก+ตัวหลัง}{2}]^2$

1+3+5 = $3^2$

1+3+5+7 = $4^2$

1+3+5+7+...299 = $150^2$ = 22500

คusักคณิm 22 มกราคม 2010 19:51

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ NUTMATH (ข้อความที่ 75895)
1+3+5+7+9+...101

คือผลรวมของเลขคี่ n ตัว = $n^2$
[ที่เริ่มจาก 1]

สูตร $[\frac{ตัวแรก+ตัวหลัง}{2}]^2$

1+3+5 = $3^2$

1+3+5+7 = $4^2$

1+3+5+7+...299 = $150^2$ = 22500

ไม่จำเป็นต้องจำ คณิตศาสตร์เป็นศาสตร์แห่งเหตุผล ไม่ใช่ความจำ(ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ) :great:

Beta 22 มกราคม 2010 22:57

ดูจากรูปของคุณ NUTMATH(จักรดาว) คงเตรียมตัวสอบใช่มั้ยครับ ส่วนมากโรงเรียนกวดวิชาเข้าโรงเรียนนี้จะให้เทคนิคการจำ แต่คณิตไม่จำเป็นครับ

กิตติ 24 มกราคม 2010 22:04

วิธีการบวกพจน์แรกสุดกับหลังสุด แล้วขยับถัดมาเรื่อยๆ เป็นวิธีที่เขียนไว้ในประวัติศาสตร์ของวิชาคณิตศาสตร์ ผมจำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นคนแก้โจทย์ข้อนี้ด้วยวิธีนี้
มันติดที่ริมฝีปาก ไม่แน่ใจว่าใช่เซอร์ไอแซค นิวตันหรือเปล่า เคยอ่านมานานแล้ว ตั้งแต่เป็นนักเรียนมัธยมปลาย ก็เกือบยี่สิบปีก่อนโน้น

หยินหยาง 24 มกราคม 2010 22:35

ตอบ#8
คนที่ว่าก็ คือ Carl Friedrich Gauss

nutapan 25 มกราคม 2010 12:49

1+3+4+5+.........+50
ใช้สูตร = n/2 [ 2a +(n-1)d]
n เท่ากับ จำนวน
a เท่ากับ จำนวนที่ 1
d เท่ากับ ระยะห่าง

คusักคณิm 25 มกราคม 2010 18:56

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ nutapan (ข้อความที่ 76392)
1+3+4+5+.........+50
ใช้สูตร = n/2 [ 2a +(n-1)d]
n เท่ากับ จำนวน
a เท่ากับ จำนวนที่ 1
d เท่ากับ ระยะห่าง

คืออะไรหรอครับ อนุกรมอะไร :confused:

Puriwatt 25 มกราคม 2010 19:13

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ คusักคณิm (ข้อความที่ 76423)
คืออะไรหรอครับ อนุกรมอะไร :confused:

เป็นสูตรอนุกรมเลขคณิตธรรมดาครับ

ตัวแรก คือ $a_1 = a$
ตัวสุดท้าย คือ $a_n = a+(n-1)d$
(ตัวแรก+ตัวสุดท้าย) คือ $(a_1+a_n) = 2a+(n-1)d$

ดังนั้น $สูตรสำเร็จ\ คือ\ \dfrac{จำนวนตัว}{2}\cdot (ตัวแรก+ตัวสุดท้าย) = \dfrac{n}{2} [ 2a +(n-1)d]$ ครับ

คusักคณิm 25 มกราคม 2010 19:40

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Puriwatt (ข้อความที่ 76428)
เป็นสูตรอนุกรมเลขคณิตธรรมดาครับ

ตัวแรก คือ $a_1 = a$
ตัวสุดท้าย คือ $a_n = a+(n-1)d$
(ตัวแรก+ตัวสุดท้าย) คือ $(a_1+a_n) = 2a+(n-1)d$

ดังนั้น $สูตรสำเร็จ\ คือ\ \dfrac{จำนวนตัว}{2}\cdot (ตัวแรก+ตัวสุดท้าย) = \dfrac{n}{2} [ 2a +(n-1)d]$ ครับ

1+3+4+5+...+50 นะครับ (ไม่มี 2) :confused:

Puriwatt 25 มกราคม 2010 19:58

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ คusักคณิm (ข้อความที่ 76435)
1+3+4+5+...+50 นะครับ (ไม่มี 2) :confused:

ผมเพียงแค่อธิบายลักษณะของสูตรให้ทราบครับ แต่ถ้าจะนำสูตรมาใช้ก็ต้องแยกทำแบบเป็นช่วงครับ

เช่น 1+(3+4+5+...+50) = $1+\frac{48}{2} [2(3)+(48-1)1] = 1+\frac{48}{2} [53]$ คูณเอาเองนะขอรับ :sung:


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 22:09

Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha