โครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ
 

ผมไม่ทราบว่า โรงเรียนอื่นๆ ต้องซื้อหนังสือเรียนกันหรือเปล่าครับ เพราะทางโรงเรียนแจ้งว่าจากโครงการนี้ของรัฐ ทางโรงเรียนจะจัดหาหนังสือให้
และให้ใช้อย่างถนอมเพื่อจะได้ส่งมอบต่อให้กับรุ่นน้องต่อไป ผมงงตรงที่โดยปกติเมื่อจบแต่ละช่วงชั้นเรามักจะมีการสอบแข่งขัน(ป.6 ม.3 ม.6) โดยจะต้องดูหนังสือทบทวนทั้งช่วงชั้นเพื่อเปลี่ยนโรงเรียนหรือเข้ามหาวิทยาลัย แต่ถ้าเราต้องส่งมอบหนังสือให้กับรุ่นน้องต่อไป แล้วเราจะเอาอะไรมาทบทวนดู หรือมันจะเป็นโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ....ย.ย.(ให้ทายว่าควรย่อมาจากอะไร) สุดท้ายคนที่ใฝ่รู้ก็ต้องซื้อหนังสือเองเพื่อไว้ดูหรือทบทวนอยู่ดี และที่โชคร้ายไปกว่านั้นสำหรับคนที่ไม่ใส่ใจอยู่แล้วอาจถือเป็นข้ออ้างได้เลย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการของระบบการศึกษาของไทยที่ดูแล้วต้องบอกว่าไม่ธรรมดา

ปล. โรงเรียนอื่นเป็นอย่างนี้หรือไม่ หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป:confused:

เหมือนกันครับ แต่ต่างตรงที่โรงเรียนผมหนังสือไม่พอกับจำนวนคน (มี 500 เล่ม แต่มีคน 900 กว่า) ถ้าจะยืมก็ห้ามเอากลับครับ(หลายๆวิชา) ห้ามขีดเขียน จดบันทึก อีก(โห!!) สุดท้ายก็ซื้ออยู่ดีครับ

โรงเรียนผมก็เป็นหนังสือยืมเรียนครับ เขาบอกว่าให้ใช้อย่างถนุดถนอมเช่นกันครับ แล้วทีนี้จะขีดเขียนในหนังสือได้ไหม เหอๆๆ
เป็นโครงการที่แปลกๆดีนะครับ

แล้ว แบบฝึกหัด ล่ะ :p
จะให้ลอกลงสมุดหมดเลยหรอ!!

วันที่4 ไปรับหนังสือ ปรากฏว่า เหลือแต่ วิทย์ นอกนั้นหมด ต้องรอ ตายพอดี:p
จะไปซื้อร้านหนังสือ ก็หมด เศร้า!!:D

เมื่อร่วมแสดงความคิดเห็นแล้วถ้าใครอยากร่วมสนุกในการทายปัญหาก็เชิญได้ครับ
โครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ....ย.ย. ให้ทายว่า ย.ย. ย่อมาจากอะไร
ก.ยอดเยี่ยม ข. ยอดแย่ ค.ยุ่งยาก ง.ยุ่งเหยิง จ.ยวบยาบ ฉ.โยกเยก ช.โยเย
ปล.ข้อนี้ไม่มีเฉลย เพราะแล้วแต่มุมมองครับ

ซ.ยับเยิน:haha:

ในความหมายของผมย.ย.ย่อมาจาก ${{ย^{ย}}^ย}^{ย.....infinty}$ ฮา
เก็บหนังสือไว้ให้รุ่นน้อยเหรอครับแต่ถ้ารุ่นพี่มันเขียน........ลงไปอ่ะครับจะทำไง
ถ้าคุณเป็นนักเรียนไทยคุณต้องจำคำนี้ครับ"คุณภาพยอดแย่คือธาตุแท้แห่งการศึกษาไทย"

เป็นครับ ผ.อ.โรงเรียนเขาก็แนะนำว่าให้ผู้ปกครองและนักเรียนไปซื้อเหอะ ไอ้ที่ได้ให้เก็บไว้ เพราะว่าเขาเชื่อว่าเด็กโรงเรียนเขาคงไม่เขียนลงหนังสือ หรือทำ mark ไว้ ไม่ได้

ขอแทรกนิดหนึ่งครับ ผมว่าวิจารณ์กันพอหอมปากหอมคอก็พอนะ อย่าถึงขนาดต้องคิดจะฆ่าแกงกันเลยครับ เสียดสีบ้างพอขำๆ ก็ ok แต่ถ้าจะให้เยี่ยมยอดละก็มีเสนอแนวทางแก้ไขก็ไม่เลวครับ เผื่ออาจมีผู้หลักผู้ใหญ่แวะเข้ามาดูอาจฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เอ๊ะ เราคิดโครงการนี้ไปได้ไงนี่ นี่ยังไม่ได้คิดถึงขนาดตอนจัดซื้อจะมีพวกร้านหนังสือวิ่งกันให้ขวักไขว่ อีกทั้งตอนพิจารณาว่าหนังสือเล่มนี้จะถูกทดแทนเมื่อไร แล้วยัง...ถ้าให้บอกให้หมด เดี๋ยวคนคิดโครงการจะคิดมากกันไปใหญ่ เข้าตำราที่ว่า คนคิด(โครงการ)ไม่ได้เรียน คนเรียนไม่ได้คิด ประเภทคิดแทนกันทั้งนั้น...

โรงเรียนผมไม่เห็นพูดว่าไงเลยครับ ?

เอ๊ะ ยังไงง - -

หมายเหตุ ครูที่โรงเรียนผม 90% ไม่ได้สอนตามหนังสือครับ - - ยกเว้นภาษาไทย

มันไม่จำเป็นเสมอไปนี่ครับ ว่าครูต้องเป็นอย่างนั้น ผมว่าไทยเราก็ยังมีครูที่ดี ๆ อีกเยอะมากครับ :great:

เข้าใจในเจตนาดีของโครงการนี้ครับ

แต่ข้อบกพร่องก็คงต้องแก้กันไป

เรื่องหนังสือเรียนผมว่า

รัฐบาลให้กระทรวงศึกษาธิการทำหนังสือดีๆมีคุณภาพ

แต่ราคาถูก ออกมาขายน่าจะดีกว่า

ไหนๆก็จะต้องเสียงบประมาณซื้อหนังสือมาแจกเด็กแล้ว

เอาเงินส่วนนี้ไปจ้างนักวิชาการเก่งๆในแต่ละสาขาวิชา

มาทำหนังสือเรียนให้มีคุณภาพดีกว่าไหม

ให้ค่าตอบแทนเขาเยอะๆหน่อย รับรองว่าออกมาดีแน่นอน

ระบบให้ยืมแล้วส่งคืนเนี่ย ผมว่า ย. ย. = ยับเยิน แน่นอนครับ :D

ขึ้น ม.4 มานี่ผมเลื่อมใสอาจารย์ทุกคนเลยครับ โดยเฉพาะครูฟิสิกส์ :sung: ส่วนเรื่องของโครงการเรียนฟรี 15 ปี ของผมฟรีจริงๆครับ ไม่ได้เสียค่าไรเท่าไหร่เลย ค่าสมุด 340 บาทหนังสือก็ไม่เกิน 200 บาท ชีทฟรี(มีการบ้านอาจารย์จะถ่ายแจกอ่ะครับ) แต่ปัญหาที่คาใจคือ ''มันจะดีขึ้นจริงๆหรอ'' อย่างว่าล่ะครับ เรื่องใหญ่แบบนี้ต้องค่อยๆแก้ จะทำปุ๊บดีปั๊บก็ไม่ใช่ เป็นกลังใจให้แล้วกันเนาะ :)

ไม่มีใครเกลียดครูเหรอครับหรือมีแค่ผมก้บคุณปลาทูทอดสองคน

คือว่า...
ครูในความหมายของหลายๆ คน คือ ผู้ให้ความรู้
ซึ่งอาจมีร้ายบ้าง ดีบ้างเป็นธรรมดา

ครูบางคนคือหมอ(อาจารย์หมอ)
ครูบางคนคือวิศวะ(อาจารย์วิศวะ)
การเป็นครูไม่จำเป็นว่าจะจบคุรุหนิ
จะเรียนแพทย์เอย วิศวะเอย วิทยาเอย ฯลฯ

สำหรับผม บอกได้เรียนว่า
ถ้าไม่มีครู ผมคงไม่มีวันนี้

ครูตั้งใจอบรมสอนศิษย์ ถ้าไม่มีครูก็ไม่มี บุคคลสำคัญหลายๆคน

ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดีครับ

มีใครกล้าพูดเปล่าว่าไม่เคยได้ความรู้จากครูเลยครับ

ครูไม่เลวและดีเสมอไปครับ :great: