Mathcenter Forum

Mathcenter Forum (https://www.mathcenter.net/forum/index.php)
-   ข้อสอบในโรงเรียน ม.ต้น (https://www.mathcenter.net/forum/forumdisplay.php?f=32)
-   -   TME ม.1 2556 (https://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=19826)

ben10 31 สิงหาคม 2013 21:59

ข้อ28ผมตอบ 9 ครับ

boat25451 31 สิงหาคม 2013 22:10

แล้วกรณี (1,1) เป็นไปได้กี่กรณีครับ

Puriwatt 31 สิงหาคม 2013 22:29

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ boat25451 (ข้อความที่ 164323)
แล้วกรณี (1,1) เป็นไปได้กี่กรณีครับ

(1,1) เป็น 1 กรณี -> เพราะโยนพร้อมกันครับ
ลูกใหญ่, ลูกเล็ก ต่างออก 1 ทั้งคู่

boat25451 31 สิงหาคม 2013 22:45

ข้ิอ 21 มีจำนวนไหนบ้างคับ

Puriwatt 31 สิงหาคม 2013 22:50

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ boat25451 (ข้อความที่ 164325)
ข้ิอ 21 มีจำนวนไหนบ้างคับ

X = 1, 4, 9, 16, 36, 144 มี 6 จำนวน

หยินหยาง 31 สิงหาคม 2013 23:12

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Puriwatt (ข้อความที่ 164296)
สรุปเฉลย ตอนนี้
1. 7
2. 16
3. 64
4. 867
5. 750
6. 407
7. 14
8. 6
9. 12
10. 14
11. 792
12. 16
13. 3
14. 35
15. 200
16. 756 (ทุกกรณี) , 28 (จำนวนที่แตกต่างกัน)
17. 15
18. 80
19. 35
20. 245
21. 6
22. 53
23. 16
24. 153
25. 192
26.16
27. 771
28. 93
29. 6
30. 118 (ช่วง 40~60 หนีกันไม่พ้น)

คุณ Puriwatt ยังไม่เลิกสอบอีกหรือครับ :D หรือว่ายังมีเจ้านายคนเล็กสอบหรือครับ แต่ก็ยังให้ความรู้กับเพื่อนสมาชิกเหมือนเดิมนะครับ

Puriwatt 31 สิงหาคม 2013 23:45

ลูกชายคนเล็กของผมสอบชุดนี้ ผมเลยเข้ามาดูและลองเฉลยเล่นสนุกๆ
เป็นการเคาะสนิมไปในตัว เพื่อกันสมองเสื่อมในวัยอันสมควรครับ :D

boat25451 01 กันยายน 2013 09:42

แล้วตกลงข้อ 16 น่าจะตอบอะไรครับ

y_jung 01 กันยายน 2013 12:52

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Puriwatt (ข้อความที่ 164320)
(9×1)×(2×1)×(1×1) =18 ไม่เท่ากับ 12 ตามโจทย์ครับ
หรือ โจทย์แต่ละชุดไม่เหมือนกัน(ผมเห็นว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 ชุด)
ถ้าเป็น 12 จะตอบ 61+21+11 = 93
ใช้การแยกตัวประกอบต่างๆเช่น
1. 12=6×2×1 -> 6+2+1=9 มากสุด 61, 21, 11
2. 12=4×3×1 -> 4+3+1=8 กลางสูง
3. 12=3×2×2 -> 3+2+2=7 กลางๆ


ขอบคุณมากค่ะ คุณPuriwatt ที่ช่วยให้หนูเข้าใจแล้วว่าหนูคิดผิดอย่างไร หนูอ่านโจทย์ผิดค่ะ หนูอ่านผลคูณเลขโดด เป็น ผลบวกเลขโดด เลยคิดผิดไปค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

mathislifeyess 01 กันยายน 2013 16:51

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Puriwatt (ข้อความที่ 164296)
สรุปเฉลย ตอนนี้
1. 7
2. 16
3. 64
4. 867
5. 750
6. 407
7. 14
8. 6
9. 12
10. 14
11. 792
12. 16
13. 3
14. 35
15. 200
16. 756 (ทุกกรณี) , 28 (จำนวนที่แตกต่างกัน)
17. 15
18. 80
19. 35
20. 245
21. 6
22. 53
23. 16
24. 153
25. 192
26.16
27. 771
28. 93
29. 6
30. 118 (ช่วง 40~60 หนีกันไม่พ้น)

อยากทราบเฉลยละเอียดข้อ8 12 19 23 25 26 30 ครับ:please::please:

น้องเจมส์ 02 กันยายน 2013 08:40

ข้อ30 ตาเจมส์หลงทางไปครึ่งชั่วโมงก็ยังคิดไม่ออก
ช่วยชี้แนะให้ด้วยครับ ^_^

FedEx 02 กันยายน 2013 14:05

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ น้องเจมส์ (ข้อความที่ 164424)
ข้อ30 ตาเจมส์หลงทางไปครึ่งชั่วโมงก็ยังคิดไม่ออก
ช่วยชี้แนะให้ด้วยครับ ^_^

ลองดูจาก links ข้างล่างนี้ครับ คุณ Puriwatt เฉลยไว้ (ความคิดเห็นที่ 6)

http://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=19824

my melody 02 กันยายน 2013 18:18

8.เขาจะให้จุด a และ b ห่างจากจุดที่กำหนดให้ โดยระยะทางที่ห่างจากจุด 2 จุดที่กำหนดให้จะต้องเท่ากัน ต้องนำระยะห่างมาบวกกันจะได้ทราบตจุด a และ b
โดย a = -4+10 = 6 แล้ว หาร 2 จะได้ 3
b = -6+9 = 3 แล้ว หาร 2 จะได้ 1.5
โจทย์ถามว่า a + 2b ได้เท่าไร
= 3 + 2 (1.5)
= 3 + 3
= 6 ค่ะ

Puriwatt 03 กันยายน 2013 00:26

ข้อ 19. แนวคิด พื้นที่ผิว = พื้นที่ผิวข้าง + 2(พื้นที่หน้าตัด) = $2 \pi rh + 2(\pi r^2)$ แทนค่ากันเองนะ
ข้อ 23. (ร้อย,ห้าสิบ,สิบ) = (6,1,0), (6,0,5), (5,3,0), (5,2,5), (5,1,10),..., (1,10,5), (1,9,10)
รวมเป็น 2+4(3)+2 = 16 รูปแบบ

Puriwatt 03 กันยายน 2013 01:16

ข้อ 26. (1) ตัวเลขของ A อยู่ในตัวเลขรวมกันของ(B กับ C)
และ (2) ตัวเลขรวมกันของ(B กับ C) อยู่ในตัวเลขของ A
แสดงว่า ตัวเลขของ A เทียบเท่ากับ ตัวเลขรวมกันของ(B กับ C)

สมมุติให้ A มีตัวเลข 1, 2, 3, 4, 5, 6 และ B มีตัวเลข 1, 2, 3, 4
แสดงว่า C มีตัวเลข 5, 6 เป็นอย่างน้อย และ C อาจจะมี 1, 2, 3, 4 หรือไม่ก็ได้
--> แต่ละตัวเลขอาจจะถูกเลือกหรือไม่ถูกเลือก = 2 วิธี, มีเลข 4 ตัว ก็เป็น $2\times 2\times 2\times 2 = 2^4 = 16$ แบบ
แบบเดียวกับการหาสมาชิกของเพาเวอร์เซต หรือการโยนเหรียญในการเลือกนั่นเอง
--> การเลือกมา 0, 1, 2, 3, 4 มีวิธีเลือกเป็น $\binom{4}{0}+ \binom{4}{1}+\binom{4}{2}+\binom{4}{3}+\binom{4}{4} = 1+4+6+4+1 = 16$ แบบ
คือ C อาจจะเขียน 5, 6 หรือ 5, 6, 1 หรือ 5, 6, 2 หรือ...หรือ 5, 6, 3, 4 หรือ...หรือ 5, 6, 1, 2, 3, 4 ก็ได้

** มันคือเรื่องเซต แต่ต้องพยายามอธิบายให้กับเด็ก ม.1 โดยใช้ภาษารากฐานก่อนจะกลายเป็นเซต ยากแท้น้อ **
นิยามเซต --> ถ้า $A \subset (B\cup C)$ และ $(B\cup C) \subset A$ แล้ว $A = (B\cup C)$

ข้อ 25. พื้นที่ผิว = พื้นที่ผิวข้าง + พื้นที่ผิวรู = $6(5^2-1^2)+6(1\times 2\times 4) $ = 192 ตร.ซม.
--> รูในแต่ละหน้าจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส $1cm \times 1cm$ มีความลึก 2 cm จากผิวหน้า


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 11:00

Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha