อยากถามรุ่นพี่ ว่าตอนอยู่ ม.6 แบ่งเวลายังไงครับ
 

สวัสดีครับ

มีเรื่องอยากปรึกษารุ่นพี่ทุกๆคนครับ พอดีผมกำลังจะเปิดเทอม ม.6แล้ว

แต่ว่าช่วงนี้ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ ไหนจะกังวลเรื่องที่จะไม่ได้คุยกับเพื่อน ไม่ได้เล่น
ต้องอ่านหนังสือเยอะขึ้นกว่าเก่า ฯลฯ

อยากทราบว่า แบ่งเวลายังไงครับ ถึงจะไม่เครียดจนเกินไป
เพราะว่าในหัวของผมตอนนี้ มีเวลาให้แค่อ่านหนังสือ ยังไม่ได้เผื่อเวลาพักเลยครับ
เพราะกลัวจะอ่านหนังสือไม่ทัน
แล้วยิ่งเพื่อนที่เรารู้จักกันผ่านเน็ตด้วย บางทีถ้าผ่านไปนานๆก็กลัวว่าจะลืมนะครับ

ขอคำปรึกษาด้วยนะครับ

ขอบคุณมากครับ

ปล.ลืมบอกไปนะครับ ผมไม่ได้เรียนพิเศษนะครับ อยู่บ้านอ่านหนังสือเองครับ

แห่ะะๆ ดีครับ เราคิดว่า ก็เริ่มอ่านตั้งแต่ปิดเทอมไปเลยอ่ะครับ แบ่งว่า จันทร์ พุธ ศุกร์ ก็อ่านซัก2วิชาแบบหลัก ส่วนเวลาก็แล้วแต่ความไหวอ่ะครับ ส่วนอังคาร พฤหัส เสาร์ ก็อ่านอีกสองวิชาอ่ะครับ วันอาทิตย์ก็อาจจะพักผ่อนอ่ะครับ อย่าหักโหม เดี๋ยวะไม่ได้อะไรเลย แต่ย้ำว่าพักบ้างนะครับ เพราะถ้าทำแบบนี้ตลอดๆ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป จะดีครับ อ่านทันแน่ เก็ยทีละเล็กละน้อยอ่ะครับ แล้วต้องมีวินัยในตัวเองครับ ก็ประมานนี้อ่ะครับ สู้ๆนะครับ เราก็เข้า ม ปีนี้ อิอิ สู้ๆนะครับ

อย่างที่ คห บนกล่าวงับ

แบ่งเวลาดี
หาที่อ่านที่เราชอบ (บางคนชอบเงียบๆ ห้องสมุด บางคนอาจจะข้างนอกเปิดเพลงฟัง)

แต่ขอบอกว่า การอ่านหนังสือไม่ใช่การอ่านให้จบนะครับ
การอ่านหนังสือ คืออ่านแล้วเข้าใจ

อ่านหน้าเดียว แต่เข้าใจ แล้วจำได้ตลอด ดีกว่าตะบี้ตะบันอ่านทั้งหมดแน่นอน

ตั้งใจเรียนในห้องไว้ก่อนละครับ เป็นไปได้นั่งหน้าสุดเลย เสียงครูชัดดีและไม่หลับด้วย (หรือจอมยุทธอาจไม่ชอบ ก็แล้วแต่สะดวก อยู่ที่ตัวเรามากกว่าครับ)
ถ้ากลับบ้านเร็ว หลับซะหน่อย:haha: หาอะไรทานเติมพลังกาย ซัก 2ทุ่ม เริ่มเอา letter ที่เรียนมาออกมาทวนซ้ำอีกรอบ หาหนังสือมาอ้างอิงในหัวข้อที่ไม่เข้าใจ จดเพิ่มเติมในสิ่งนั้น
ทวนเสร็จก็เริ่มอ่านหนังสือ*ตามบทของแต่ละวิชา(ง่ายดี:p) เอาทีละบทให้แจ่มแจ้ง แล้วค่อยเปลี่ยนบทเรียน เลิกก็ประมาณ 2 ยาม หรือตี1 ตี2 นู้นครับ...เอาร่างกายเราว่า
--------------------
*ลองสร้างตารางอ่านหนังสือขึ้นมา จะช่วยได้เยอะครับ

ตามความเห็น #2 #3 และที่จะตามมาอีก ก็ลองปรับและเปลี่ยนให้เข้ากับต้วเองมากที่สุด นอนดึกหน่อยก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวก็ชิน ... ใช้เวลา 24 ชั่วโมงให้คุ้มครับ:wacko::wacko:

สถานการณ์เดียวกันเลย
ผมก็เอาเวลาปิดเทอม(ที่เพื่อนๆนั่งเตรียมเอนท์)ไปทำอย่างอื่น...เพื่อไม่ให้เสียดายไปตลอดชีวิต ^^
ผมว่าอ่านยังไงจะให้ทันหมดอ่ะยากนะ
ควรเรียงลำดับความสำคัญก่อนว่า เราจะเข้าคณะอะไร ใช้วิชาอะไรบ้าง เรียงความสำคัญก่อนหลัง ถ้ามีเวลาพอก็อ่านวิชาที่สำคัญรองๆลงมา
ที่สำคัญ อย่าคิดว่าอ่านหนังสือจะทำให้เครียด
ถ้าเป็นอะไรก็ตามที่ผมสมัครใจจะทำ ผมจะไม่เครียดกับสิ่งนั้นเลย
ต่อให้ตื่นมาอ่านหนังสือทั้งวัน เป็นอาทิตย์ๆก็ยังได้ ถ้าผมสนุกกับมัน ^^

อันนี้คือสิ่งที่ผมทำมาตลอดตั้งแต่ม. 6 เป็นต้นมาครับ

ผมจะตั้งเป้าไว้ก่อนเลยว่าวันหนึ่งๆผมจะต้องอ่านหนังสือวันละกี่ชั่วโมง

ตอนม. 6 ผมอ่านแค่วันละ $1$ ชั่วโมงเองครับ (ไม่นับเวลาที่อยู่ในโรงเรียน) อ่านก่อนนอนทุกวัน

แต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหลังจากเรียนสูงขึ้น ล่าสุดตอนนี้ผมตั้งไว้ว่าอ่านหนังสือกับสอนหนังสือวันละรวมกัน $8$ ชั่วโมง

เมื่อตั้งเป้าหมายได้แล้วผมจะทำตารางการอ่านหนังสือขึ้นมา โดยแบ่งกระดาษเป็นช่องๆละครึ่งชั่วโมง (ตอนนี้ตารางของผมจะมี $16$ ช่องต่อวัน)

เมื่ออ่านครบครึ่งชั่วโมงก็จะกาทิ้งไปหนึ่งช่อง ทำอย่างนี้ไปจนครบตามเป้าหมายต่อวันก็จะหยุดแล้วก็ใช้เวลาที่เหลือสำหรับการพักผ่อน

ตารางเวลาของผมจะยืดหยุ่นพอสมควร ไม่ได้อ่านติดต่อกันตลอด แต่ขอให้เก็บได้ครบตามจำนวนที่ต้องการก็พอ

บางวันเก็บได้ไม่ครบก็จะยกยอดไปวันต่อไป สรุปคือจะไม่เสียเวลาที่ตั้งใจอ่านไว้แน่นอนครับ อ้อตารางของผมไม่มีวันหยุดครับ

ทำทุกวัน ผมเชื่อว่าการอ่านหนังสือทุกวันจะทำให้ได้ long-term memory มากกว่าอ่านแบบหามรุ่งหามค่ำแต่ไม่สม่ำเสมอ

จะมีหยุดบ้างก็ตอนไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ครับ

( ส่วนตัวผม )อย่างแรก ก็ต้องรู้วิชา ที่ถนัดของเราก่อน และ วิชาด้อยของเรา (ไม่เกี่ยวกับวิชาที่เราชอบหรือไม่ชอบนะ แต่ไอที่เราถนัดเรามักจะชอบใช่ไหมหล่ะ :))

วิชาที่เราถนัดก็ รีบอ่านให้มันจบ ๆ ไปก่อนเลย แล้วตะลุยทำแบบฝึกหัด
วิชาที่ด้อยมาก ๆ ก็ใช้เวลากับมันให้เยอะหน่อยแค่นั้นเอง :)

ส่วนตารางเวลา แล้วแต่คนครับ แต่เน้นความสม่ำเสมอของการอ่าน :great:

เมื่อก่อนผมก็ยังนั่งแก้สมการชีวิตอยู่เลยครับ คือมันพบความไม่สมเหตุสมผลหลายอย่างเลย

กล่าวคือ ผมเลือกที่จะเรียนวิศวกรรม เพราะผมเองก็มีความฝัน ซึ่งฝันอันนั้นมันต้องใช้เงินมหาศาล และผมเชื่อว่าวิศวกรรมจะนำพาผมไปสู่ตรงจุดนั้น

(ผมค่อนข้างถนัดฟิสิกส์ และก็รักคณิตศาสตร์เลยเลือกทางนี้)

แต่ในใจผมก็ยังบอกว่าอยากเรียนคณิตศาสตร์ทุกวัน ผมมีความลังเลทุกวัน เวลาตอบคนอื่นก็ตอบได้ไม่เต็มเสียง

แต่พอวันหนึ่ง ผมลองทบทวนรัฐธรรมนูญของตัวเองดู ไตร่ตรองดีๆ จนได้ข้อสรุปที่สมเหตุสมผลซักที ซึ่งผมเองไม่เคยรู้สึกดีอย่างนี้มานานมากแล้ว

ตอนนี้ happy มากๆครับ ผมตัดสินใจแล้วว่าจะเรียน "คณิตศาสตร์" ครับ :happy:

ปล. ผมไม่แปลกใจเลยที่คนเก่งคณิตมากๆหลายๆคนเลือกเรียนคณิตศาสตร์ทันที แต่ผมก็ยังไม่เก่งขนาดนั้นก็ต้องมีความลังเลบ้างแหละนะ :laugh:

ทำในสิ่งที่รักย่อมดีกว่าอยู่แล้ว ยินดีด้วยนะครับคุณ Real Matrik :great:

ตอนนี้...เหนื่อยครับ =="

อ๊าาา ไม่ได้เข้าบอร์ดรชนี้มาเป็นปี คิดถึงมากๆๆๆ เลย ^^

หลังจากผ่านศึกแอ๊ดมิดชั่นมา

ปล.ไม่รู้พิมไหนดี มาลงกระทู้นี้ละกันนะครับ สมาชิกใหม่ๆเยอะเหมือนกันนะนี่ ^^

#11
ตอนนี้พี่เรียนไหนอ่ะครับ

ไม่อยากหรอกค่ะถ้าแบ่งเวลาเป็น
 

ตอนพี่อยู่ ม.6 พี่ก็ไม่เคยเรียนพิเศษเหมือนกัน แต่ใช้การแบ่งเวลาอ่านหนังสือเอง แค่เวลาเรียนในห้องก็ตั้งใจเรียนให้มากกว่าเดิมไม่เข้าใจถามทันที เลิกเรียนก็รีบกลับบ้านทำกิจวัตรส่วนตัวให้เสร็จมีกินข้าวหนังตอนเย็นนิดหน่อย แล้วก็เริ่มจากการทำการบ้านให้เสร็จทบทวนบทเรียนที่เรียนมาวันนี้อันไหนไม่เข้าใจก็ติ๊กไว้แล้วหาคำตอบ ถ้าหาไม่เจอก็เก็บไปถามครูวันรุ่งขึ้น ถ้าเวลาเหลือก็ดูเนื้อหาที่จะเรียนวันต่อไป ปกติตอนนั้นพี่นอนห้าทุ่มเที่ยงคืนเป็นปกติแต่ตื่นเช้าทุกวันแต่ก็ไม่เช้ามากเพราะโรงเรียนไม่ไกลมากและทางไปโรงเรียนรถก็ไม่ติด อันนี้น้องก็ลองแบ่งเวลาเอาส่วนเสาร์พี่จะทบทวนที่เรียนมาทั้งสัปดาห์และฝึกทำข้อสอบย้อนหลังเองทุกสัปดาห์ส่วนวันอาทิตย์พี่จะใช้เวลาช ่วยงานแม่และได้พักผ่อนไปหนึ่งวัน พี่คิดว่าในหนึ่งสัปดาห์เราควรพักผ่อนบ้างเผื่อให้สมองเราได้ผ่อนคลายบ้าง พี่ก็ทำอย่างนี้ปีนึงค่ะ ต้องบอกก่อนว่าโรงเรียนที่พี่เรียนไม่ใช่โรงเรียนดังอะไรการแข่งขันไม่สูง แต่สิ่งที่พี่ทำตลอดหนึ่งปีมันก็ส่งผลให้พี่ได้เรียนที่ดีๆ ที่ธรรมศาสตร์ จนตอนนี้พี่จบแล้วค่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยสำหรับตัวเราคือความมีวินัยกับตัวเองถ้าน้องทำได้ก็ไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้วแหละค่ะ ก็ขอให้โชคดีน่ะค่ะกับการสอบ ตั้งใจให้มากๆยังพอมีเวลาอยู่ค่ะ:rolleyes:

#12 เรียนที่ มข จ้า ^^

มาแล้วก็ ตอบกระทู้นี้ดีกว่า เรื่องการอ่านหนังสือ น้องอย่าไปเครียดเลยพี่ว่านะ เพราะพี่ได้พิสูจน์ ตัวเองเเล้วว่าการที่เราเคร่งเครียดไป บางทีมันไม่เหมาะกับตัวเรา

อย่างเช่นพี่ อ่านไรแทบตาย อ่านมันให้หมด มันมึนๆ เครียดๆ ทำข้อสอบจิงๆมันคิดไม่ออกอ่ะน้อง สอบตรงไม่ติดพ่อด่า เเม่ว่า แฟนทิ้ง (เว่อร์ไปและเรา ฮ่าๆ)

พี่เลยเปลี่ยน การอ่านใหม่ เอาแบบ เราอ่านไปเรื่อยๆสบายๆ แบบอ่านจบหน้าทวนไปหน้า

เสร็จแล้วประเด็นสำคัญคือเราต้องหาสมุดโน้ตคู่ใจ มาสรุปที่เราอ่าน คิดว่าเรื่องไรมาน่าจะออก ก่อนนอนสามสิบนาทีหยิบมาอ่าน เพราะเขามีวิจัยว่า ถ้าเราอ่านก่อนนอน จะจำแม่นเลยละ แต่ห้ามเลยเที่ยงคืน

สามสิบนาทีพอ เน้นทำข้อสอบย้อนหลังเยอะๆ อิ้งเอาให้แม่นๆ เพราะมันตัดกันวิชานี้ละ

ส่วนก่อนวันสอบไม่ต้องอ่านนะ ฟังเพลงกระดิกเท้าไปสบายๆ วันสอบ กินข้าว อาบน้ำ ปะแป้งตรางู เย็นๆ ไปสอบ ชิวๆ ตอนพี่สอบพี่ไม่ได้หวังเลยนะ สอบ 2000 คน เอา 30 คน

เลยทำตัวสบายๆ ตอนนั้นพี่รู้สึกหัวมันโล่ง โจทย์ไรต่างๆ มันก็นึกออก ต่างกับที่ สอบผ่านๆมาเพราะเราหวังมากเลยเครียด หัวตื้อหมดเลย

วันประกาศผลพี่แทบช็อค พี่สอบติด อ๊ากกกก!!!!

หวังว่าน้องจะได้รูู้สึกเหมือนที่พี่ได้รับ มันดีมากๆเลยละ :)

ปล. นี้เป็นแนวการอ่านหนังสือของพี่นะ น้องไม่ต้องทำตามหรอกเพราะว่า แต่ละคนมันไม่เหมือนกัน บางคนชอบอ่านที่เงียบๆ บางคนชอบอ่านที่มีเสียง

พี่เป็นอีกคนที่อ่านเงียบๆไม่ได้ ไม่งั้นตายคาหนังสือเเน่ ฮ่าๆ ไม่จำเป็นต้องทำเหมือนคนอื่น น้องต้องหาวิธีของน้องให้ได้นะครับ และตั้งใจ สู่้ๆนะครับ

จาก Rx30 KKU :D

พี่เสริมความเห็น #5 นิดหนึ่ง น้องอย่าคิดว่า เรียงลำดับความสำคัญ ตามคณะที่เข้านะ เพราะพี่เจอมาเเล้ว ฮ่าๆเน้นๆเลย สอบหมอที่ผ่านมาเนี่ย

ฟิสิกส์ ยากกกกจาด ชีวะกะคณิต ไม่ยากอย่างที่คิดเลย ตอนเเรกพี่ก็คิดว่า ฟิสิกคงออกพื้นๆละ หมอไม่ได้ใช้หรอก

ออกมาจิงๆ ชีวะพื่นๆ ฟิสิก พูดได้คำเดียว อะไรมันฟะ น่ากลัวอยากเอาหมอไปสร้าง รพ มั่ง ยากก่า ถนัดวิศวะอีก

เอาชัวร์ๆนะน้อง ฟันคะเเนนอิ้ง ให้ได้เยอะๆ ถึงอันไหนน้อย เราได้เปรียบเพื่อนมาก จิงๆนะ มันมีประโยชน์ตอนมหาลัยด้วยละ

ไงน้องทุ่มวิชานี้ไม่ผิดหวังเเน่นอน เชื่อพี่ :))

ไม่ต้องกังวลครับ เปิดเทอมก็ได้คุย ได้เล่น อยู่แล้ว



เรื่องนี้ขอแนะนำว่าอย่าไปยึดติดกับมันมาก ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ควรเพลาๆ ลง ก็จะดี



ก่อนจะแบ่งเวลา ก็ต้องวางแผน อยู่ ม.6 แล้วคงพอรู้ว่าตัวเองจะสอบเข้าที่ไหน ก็ต้องวางกำหนดการสอบไว้ให้ชัดเจน เช่น ถ้าจะสอบหมอ ก็ต้องลงในโปรแกรมว่า สอบวิชาเฉพาะปลายตค. สอบวิชาสามัญกลาง มค. จากนั้นก็ต้องหาแผนสองมารองรับว่าต้องสอบอะไรอีก เช่น GAT/PAT หรือ สอบตรง ซึ่งควรจะเอาเท่าที่จำเป็นจริงๆ อย่าไปสอบดะทุกอย่าง เพราะมันเหนื่อย แล้วยิ่งไม่ติดบ่อยๆ มันจะเสียกำลังใจ

พอได้ตารางเวลา ก็เช็คว่าต้องสอบวิชาอะไรบ้าง แล้วลงตารางอ่านหนังสือให้สัมพันธ์กับกำหนดการสอบ การกำหนดเวลาอ่านแต่ละวันก็แล้วแต่คน อย่างตอนผมอยู่ ม.6 ผมอ่านวันละ 1 ชั่วโมงก่อนนอน อาทิตย์ละ 6 วัน ยกเว้นวันเสาร์ซึ่งเป็นฟรีเดย์

จากนั้นก็เตรียมหนังสือที่จะตลุยอ่านหรือตลุยโจทย์ว่าจะอ่านเล่มไหนก่อนหลัง อันนี้จำเป็นมาก บางคนอ่านมากเกินไปจนมึนหรืออ่านไม่ทัน บางคนก็อ่านน้อยไปจนไม่ครอบคลุม