ทฤษฎีที่ผมคิดขึ้น
28 สามารถเขียนอยู่ในรูปผลบวกของจำนวนนับ 2 จำนวนที่แตกต่างกันได้กี่แบบ ถ้าตามปกติเราต้องไล่หาเลขไปเรื่อยแต่ถ้าใช้ทฤษฎีที่ผมคิดขึ้นละก็จะตอบ 14 แบบครับ n=จำนวนรูปแบบจำนวนนับ 2 จำนวนที่แตกต่างกันแล้ว=m m=จำนวนนับใดที่มากกว่า 1 n=m/2
ที่มาของทฤษฎีนี้คือเราต้องลองสังเกตจากจำนวนน้อยๆก่อนโดยหาจาก 10 เนื่องจาก 10 สามารถเขียนอยู่ในรูปผลบวกของจำนวนนับ 2 จำนวนที่อยู่ระหว่าง 1-9 1 2 3 4 5 6 7 8 9 จับคู่จำนวนที่ผลบวกรวมกัน=10 1+9 2+8 3+7 . . . 5+5 เนื่องจาก 10 เป็นเลขคู่เมื่อลบ 1 จึงเป็นเลขคี่เมื่อหาร 2 แล้วจะได้คู่ว่ามีกี่คู่ ให้nแทนเลขคู่ ถ้าเลขคู่สามารถเขียนอยู่ในรูปผลบวกของจำนวนนับ 2 จำนวนที่แตกต่างกันและเลขทัง้ 2 เลขไม่เหมือนกันได้ n/2 -1 |
คืออ่านไม่รุเรื่องอะคับ พิมให้มันเป้นระเบียบหน่อยก็ดีคับ เเหะๆ
|
ดีมากๆเลยอะ
|
ืn/2-1 เหรอคะ
รู้สึกคุ้นๆเหมือนเคยทำโจทย์แล้วเจอแบบนี้นะคะ เยอะมากด้วย เพราะปรกติแล้วเป็นคนจำไม่เก่ง แต่ สูตร/ทฤษฎีนี้อ่ะค่ะ คุ้นเหมือนเคยทำมาแล้วนะคะ ยังไงก็ ลองไปหาดูนะคะว่ามันมีแล้วหรือยัง เพราะเราเองก็อ่ะนะ จำไม่เก่ง เหอะๆ ^^ *แต่ถือว่าเก่งนะคะ อายุ11 ปีเอง ^^ ขยันเข้านะ สู้ๆ |
เด็กอายุ 11 คิดได้แค่นี้ก็เก่งมากแล้วครับ :D
|
ทฤษฎีที่ผมคิดขึ้นอีกทฤษฎีหนึ่งครับ คุณเคยเจอโจทย์คล้ายๆแบบนี้ไหมครับ จงหาเลขที่น้อยที่สุดเมื่อนำ 15 ไปหารแล้วเหลือเศษมากที่สุดคิดง่ายๆครับเศษที่มากที่สุดก็ต้องน้อยกว่าตัวหารอยู่ 1 เสมอคือเศษที่มากที่สุดในกรณีนี้คือ 14 เลขที่น้อยที่สุดเมื่อนำ 15 ไปหารแล้วเหลือเศษมากที่สุด=15+14=29
แต่ถ้าผมจะลองถามกลับกันบ้าง จงหาเลขที่หาร15แล้วเหลือเศษมากที่สุด ปกติก็จะไล่หารไปทีละเลขใช่ไหมครับ คำตอบคือ 8 แต่ถ้โจทย์ถามเลขมากๆเช่น 15623 คงไล่ไม่ไหวแน่ครับ ต้องใช้ทฤษฎีที่ผมคดขึ้นครับ x=จำนวนเต็มบวกใดๆที่มากกว่า 2 n=เลขที่หาร x แล้วเหลือเศษมากที่สุด n= x/2 +1 ที่มาของทฤษฎีนี้คือเรารู้ว่าเลขที่เป็น 1/2 ของจำนวนเดิมย่อมหารจำนวนเดิมได้ 2 การที่จะเหลือเศษมากที่สุดตัวลบต้องมีค่าน้อยเพื่อจะได้เหลือเศษที่มากแต่เมื่อนำ x/2 +1 จะทำให้เมื่อนำ 2 (x/2+1) จะมีค่ามากกว่า x ทำให้ x/2 +1 ต้องx1 อย่างเดียว |
อ้างอิง:
|
เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 11:19 |
Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha