proof, prime number
รบกวนถามหน่อยนะคะ
พิสูจน์ว่า จำนวนเต็ม m,n ใดๆ แล้ว จำนวนเฉพาะ p, ถ้า p|mn แล้ว p|m หรือ p|n ช่วยพิสูจน์หน่อยค่ะ ขอบคุนมากๆค่ะ |
แทน m , n และ p = 2
$2\mid(2)(2)$ จะได้ $2\mid2$ & $2\mid2$ |
ถ้าพิสูจน์แบบเอา ทบ มาอ้าง
เขียนเป็นขั้นตอน จะทำไงอะคะ |
ใช้ ทบ. ของยูคริก
ตัวตั้ง = (ตัวหาร)(ผลหาร) + เศษ แต่ที่เค้าบอกมานั้น แทน p เป็นจำนวนเฉพาะอะไรก็ได้ใช่ไหมครับ ส่วน m,n นั่นเป็นจำนวนนับใดๆ และยังบอกอีกว่าเป็นการหารลงตัว ดังนั้น เศษ = 0 เช่น แทน m เป็น 4 แทน n เป็น 6 และแทน p เป็น 2 mn = p(ผลหาร) + 0 (4)(6) = 2(12) + 0 m = p(ผลหาร) + 0 4 = 2(2) + 0 n = p(ผลหาร) + 0 6 = 2(3) + 0 พอจะเข้าใจบ้างไหมครับ ถ้าผิดพลาดประการใดคงต้องรอให้เทพๆมาเฉลยนะครับ T-T |
ใช้ความสมมูลของประพจน์ที่ว่า $$p\rightarrow (q\vee r)\equiv (p\wedge \sim q)\rightarrow r$$
นั่นคือ ถ้า $p\mid mn$และ $p\nmid m$ แล้ว $p\mid n$ |
เราสามารถเขียนได้ว่า
m=px+a n=py+b โดยที่ x,y,a,b เป็นจำนวนนับ เพราะว่า $p$ หาร $(px+a)(py+b)$ ลงตัวเราจะได้ว่า $p$ หาร $p^2xy+pay+pxb+ab$ ลงตัวด้วย เนื่องจาก p หาร $p^2xy+pay+pxb$ ลงตัวอยู่แล้วเราจึงได้ว่า $p$ ต้องหาร $ab$ ลงตัว และเนื่องจาก $p$ เป็นจำนวนเฉพาะจึงไม่สามารถแยกตัวประกอบได้จึงได้ว่า $a,b$ ต้องมีซักตัวที่ $({a,b},p)=p$ WLOG ให้ $a=pn$ เห็นได้ว่า $m=px+pn=p(x+n) $นั้นคือ p หาร m ลงตัวนั้นเอง |
เอ่อ การแทนค่าเค้าไม่ยอมรับในคณิตศาสตร์ใช่ป่ะครับ
|
อ้างอิง:
ถ้าหากเราอ้างได้ว่า "$p$ ต้องหาร $ab$ ลงตัว และเนื่องจาก $p$ เป็นจำนวนเฉพาะจึงไม่สามารถแยกตัวประกอบได้จึงได้ว่า $a,b$ ต้องมีซักตัวที่ $(\{a,b\},p)=p$" เราก็อ้างแบบนี้ได้ตั้งแต่แรกเลย โดยแทน $a$ ด้วย $m$ และแทน $b$ ด้วย $n$ ไม่ต้องไปแปลงต่อให้ยุ่งยาก |
ครับ รับทราบแล้วครับ
|
พิสูจน์ตามความเห็นที่ 5 ครับ
ให้ $p|mn$ และ $p\not | m$ แล้ว $mn = pq \exists q \in \mathbb{Z}$ และ $m = pq_1+r_1 \exists q_1 \in \mathbb{Z}$ และ $\exists r_1 \in \mathbb{N}$ โดยที่ $0<r_1<p$ ดังนั้น $mn = npq_1 + nr_1$ แต่เนื่องจาก $mn = pq$ เพราะฉะนั้น $nr_1 = pq_2 \exists q_2 \in \mathbb{Z}$ แต่เนื่องจาก $0<r_1<p$ ดังนั้น $p|n$ |
อ้างอิง:
เขาเรียกว่า trial and error หรือการลองผิดลองถูก :D ดูเพิ่มtrial and error link: http://en.wikipedia.org/wiki/Trial_and_error อ้างอิง:
ปล. คนมันเทพ(ล้อเล้นนะ):haha: |
อ้างอิง:
จาก $p\mid mn$ ได้ว่า จะมี $k$ ที่ทำให้ $mn=kp$ นั่นคือ $m=\frac{kp}{n}$ แต่จาก $m\in \mathbf{I} $ และ $n\nmid p$ แสดงว่า $n\mid k$ นั่นคือ $ p\mid m$ ตามต้องการ |
อ้างอิง:
อ้างอิง:
อืม.. ถ้าอย่างนั้น ผมก็ไม่ต้องทำข้างบนยาวๆ ก็ได้ ผมแค่บอกว่า จาก $\frac{mn}{p}$ เป็นจำนวนเต็ม และ $p\nmid m$ แสดงว่า $p\mid n$ ซึ่งใช้วิธีการอ้างเหตุผลเหมือนข้างบน สิ่งที่อ้างคือความจริงสิ่งที่ต้องการพิสูจน์ ดังนั้นมันจึงกลายเป็นการพิสูจน์แบบงูกินหางครับผม วิธีการพิสูจน์ที่เจอในหนังสือของท่าน Euclid ลองอ่านที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Euclid%27s_lemma |
เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 15:50 |
Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha