โจทย์ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ และ สมการ ที่น่าปวดหัว
(ผู้พยายามอยากรู้) ขอคำแนะนำจาก (ผู้รู้):great:
ผมมักจะมีปัญหา เรื่อง การตีโจทย์ทางคณิตศาสตร์ ให้แตกครับ หรือ การตีความหมายจากโจทย์คณิตศาสตร์ ไปเป็นสมการ แล้วนำไปสู่คำตอบครับ ผมเจอโจทย์ปัญหา ที่ต้องตีความ ที่มันซับซ้อน ออกมาเป็น สมการก่อน ถึงจะไปหาคำตอบ ผมไม่สามารถทำมันได้ครับ ไม่ว่าจะเป็น 1. โจทย์ปัญหาเปอร์เซ็นต์ ร้อยละ กำไร ขาดทุน 2. โจทย์ปัญหาสมการทั่วไป 3. โจทย์ปัญหาที่ถามอายุ ในอดีต,ปัจจุบัน... ผมก็เจอปัญหากับตัวผมเองครับ ก็เลยจะขอคำแนะนำเพือนๆ ขั้นตอนการทำ....สำคัญนะ :) ของเพือนๆ ที่ใช้คิด เวลาเจอโจทย์ปัญหาต่างๆ คำตอบไม่สำคัญครับ ขอแนวคิด/หลักการ วิธีการคิด เพราะผมอยากเข้าใจ:kaka: 1. $\frac{4}{5}$ ของอายุนาย ก. รวมกับ $\frac{3}{4}$ ของอายุนาย ข. จะมากกว่าอายุนาย ก. 3 ปี ถ้านาย ข. อายุ 12 ปี อัตราส่วนอายุนาย ก. ต่ออายุนาย ข. เป็นเท่าไร ก. 4 : 1 ข. 4 : 3 ค. 5 : 1 ง. 5 : 2 2. กระเป๋าใบหนึ่งติดราคาไว้ 230 บาท จะได้กำไร 15% ถ้าขายไปในราคา 210 บาท จะได้กำไรกี่เปอร์เซ็น ก. 5% ข. 10% ค. 12% ง. 15% 3. ในการสอบครั้งหนึ่งมีผู้สอบได้ 73% ซึ่งจำนวนผู้สอบได้มีจำนวนมากกว่าผู้สอบตก 230 คน มีผู้เข้าสอบทั้งหมดกี่คน ก. 460 คน ข. 500 คน ค. 600 คน ง. 620 คน 4. ขายของชนิดหนึ่งราคา 330 บาท ได้กำไร 10% ต้นทุนของสิ่งนี้เป็นเท่าไร ก. 300 บาท ข. 310 บาท ค. 315 บาท ง. 320 บาท 5. ถ้าหกในเจ็ดของรายได้ของมานี น้อยกว่ารายได้ของมานะอยู่ 300 บาท ถ้ามานีมีรายได้ 700 บาท มานะมีรายได้เท่าไร ก. 6ปี ข. 7ปี ค. 8ปี ง. 9ปี |
สันนิษฐานว่าปัญหาเกิดจาก 3 ส่วนครับ. :rolleyes:
ส่วนที่ 1. ไม่รู้ความหมายพื้นฐานที่นักคณิตศาสตร์ได้ตกลงกันเอาไว้ เช่น คำว่า "ของ" หมายถึง การคูณ เช่น 3/5 ของ 10 หมายถึง (3/5) x 10 คำว่า "เป็น, อยู่, คือ" แทน เครื่องหมาย เท่ากับ = หรือไม่ได้ฝึกแปลสมการเป็นคำพูดมาจนชำนาญก่อน เช่น 8 - 5 = 3 อาจจะเขียนเป็นภาษาได้ว่า "5 น้อยกว่า 8 อยู่ 3" หรือ "8 มากกว่า 5 อยู่ 3" ซึ่งเมื่อเขียนเป็นสมการ เช่น "x - 5 = 3" อาจจะเขียนเป็นภาษาได้ว่า "จำนวนจำนวนหนึ่งมากกว่า 5 อยู่ 3" เป็นต้น. ส่วนที่ 2. ไม่รู้หลักการคำนวณพื้นฐานอย่างกระจ่างหรือความจริงบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ได้แก่ การเทียบบัญญัติไตรยางศ์ จะต้องเขียนอย่างไร อะไรอยู่ด้านซ้าย อะไรอยู่ด้านขวา การคิดร้อยละ ถ้าเป็นเรื่องกำไร ขาดทุน จะต้องสมมติให้ทุน มีค่าเท่ากับ 100 ฯลฯ ความจริงบางอย่างที่ซ่อนอยู่ เช่น คนสองคน ถ้ามีอายุห่างกัน 5 ปี ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปีก็ตามที(ถ้ายังไม่ตาย) คนทั้งสองก็จะต้องมีอายุห่างกัน 5 ปี ตลอดไป เป็นต้น. ส่วนที่ 3. ไม่ได้ฝึกใช้สมองในส่วนของการนึกเป็นรูปภาพครับ :rolleyes: คือเวลาอ่านโจทย์ เมื่ออ่านไปทีละประโยค แล้วไม่ได้นึกหรือเห็นเป็นภาพปรากฎขึ้นในสมอง ซึ่งการนึกเป็นภาพหรือแก้ปัญหาโดยใช้ภาพนี้ จะช่วยให้เราตั้งสมการได้ง่าย ซึ่ง George Polya จัดเป็นหนึ่งในเทคนิคการแก้ปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า Draw a picture. เมื่อสมองผมอ่อนล้าหรือหมดพลัง ไม่สามารถจินตนการภาพขึ้นมาในสมองได้ครบถ้วน หรือรู้สึกเหนื่อย แต่จำต้องคิดเลข ตอนนั้น ผมจะจับดินสอขึ้นลองเขียนภาพคร่าว ๆ ดูครับ. อื่น ๆ ที่ต้องทำเพื่อเพิ่มพลังสมองในการคิด นั่นก็คือ การได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอต่อเนื่องกัน เป็นเวลานาน ๆ การอดนอนหรือนอนไม่เพียงพอ จะส่งผลต่อพลังในการเรียนรู้ทำความเข้าใจและการแก้ปัญหาครับ. การตัดสิ่งเร้า เช่นการเสพข่าวจำนวนมาก การไม่ดูทีวีมากเกินไป การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การฝึกนั่งสมาธิต่อเนื่องกัน จะช่วยให้จิตสงบมีพลังและทำเรื่องที่เคยคิดว่ายากได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ. :great: และสุดท้าย การอ่านทำความเข้าใจด้วยตัวเอง จากหนังสือแบบเรียนพื้นฐาน เช่นระดับประถม http://www.scimath.org/math-ebook จะช่วยเติมเต็มหลายอย่างที่เรายังขาดอยู่ครับ. :D |
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ :wub::wub:
เป็นคำแนะนำที่ดี มากๆ เลยครับ ผมจะนำไปพัฒนาให้ดีขึ้น ผมจะต้องไปหาซื้อหนังสือ ประถมศึกษา มาฝึกแล้ว :kaka::kaka: พื้นฐานผมไม่ดี พอไปในระดับสูงๆ ผมไม่สามารถนำมาต่อ ยอดได้เลย :haha: ขอบคุณครับ:please::please::please::please::please: |
ร้อยละและเปอร์เซนสำคัญมาก ต้องพยายามต่อไปนะครับ
ร้อยละเช่น 75% = 75 ส่วน 100 ครับ |
เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 19:39 |
Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha