ข้อสอบ PAT1 ครั้งที่1 ปี2552
ลองทำกันดูครับว่าข้อสอบ PAT1 เป็นอย่างไรครับ ใครอยากเฉลยก็เชิญเลยครับ
http://www.niets.or.th/upload-files/...a39e783381.pdf |
2 ไฟล์และเอกสาร
จากข้อสอบ PAT1 ช่วยคิดข้อ 40 กับข้อ 48 หน่อยครับ (ติดอยู่ 2 ข้อ)
ช่วยเช็คคำตอบด้วยนะครับ 1. 2 2. 1 3. 2 4. 1 5. 2 6. 4 7. 4 8. 1 9. 2 10. 1 11. 3 12. 4 13. 2 14. 3 15. 3 16. 1 17. 1 18. 2 19. 3 20. 3 21. 4 22. 3 23. 1 24. 1 25. 1 26. 4 27. 3 28. 2 29. 2 30. 2 31. 3 32. 2 33. 3 34. 2 35. 3 36. 1 37. 1 38. 1 39. 3 40. 3 41. 4 42. 4 43. 1 44. 4 45. 2 46. 2 47. 4 48. 3 49. 3 50. 3 |
48. ตอบข้อ 2
(ไม่รู้ว่าถูกรึป่าวนะครับ) เพราะว่า P(2552)-Q(2552)=1 แล้วลองหาต่อดูนะครับ |
อ้างอิง:
ส่วนข้อ 40 ตอบข้อ 3 เหมือนกันครับ |
ขอเหตุผลของคำตอบด้วยครับ
ข้อ 40 ตัวเลือก 3 กับ 4 ก็มีลักษณะคล้ายกัน |
ข้อ 48) ตอบ -1
ให้ F(x) = P(x) - Q(x) จากเงื่อนไข P(n) = Q(n) ทุก n = 1, 2, ... , 2551 แสดงว่า P(n) - Q(n) = 0 ทุก n = 1, 2, ... , 2551 นั่นคือ F(1) = P(0) - Q(0) = 0 F(2) = P(1) - Q(1) = 0 ... F(2551) = P(2551) - Q(2551) = 0 การที่ F(1) = 0, F(2) = 0, ... , F(2551) = 0 แสดงว่า F(x) มี x = 1, 2, ... , 2551 เป็นรากของพหุนาม ดังนั้น F(x) = C(x - 1)(x - 2) ... (x - 2551) เมื่อ C เป็นค่าคงตัวที่ไม่เท่ากับ 0 ดังนั้น F(x) = P(x) - Q(x) = C(x - 1)(x - 2) ... (x - 2551) ... (*) จะหาค่า C ทำได้โดยใช้เงื่อนไขต่อมา คือ P(2552) - Q(2552) = 1 แทน x = 2552 ลงในสมการ (*) จะได้ F(2552) = P(2552) - Q(2552) = C(2551)(2550) .... (1) ดังนั้น C = 1/2551! ต่อไปจะหาค่า P(0) - Q(0) ให้แทน x = 0 ลงในสมการ (*) จะได้ F(0) = P(0) - Q(0) = (1/2555!)(-2551!) = -1 |
ขอบคุณครับ พี่ gon เข้าใจมากเลยครับ
แล้วข้อ 40 ละครับ คิดยังไง |
อ้างอิง:
จากนั้นลองถอดค่าสัมบูรณ์ในข้อสามออกมา มันจะจัดรูปไปหา mean = median ได้ |
ขอบคุณครับ พี่ nooonui เข้าใจแล้วครับ งงอยู่ซะตั้งนาน :wacko:
|
ข้อ 31 ผมคิดแล้วไม่ตรงกันอ่ะครับ
ผมตอบ ข้อ 3 |
โอเคครับ ขอแก้ไขข้อ 31 เป็นข้อ 3 เหมือนคุณ b_sawanyaครับ
|
โอ้วขอบคุณ คุณ gon มากนะครับ จะจดจำไว้ในหัวสมองน้อยเลยครับ
|
ช่วยแสดงวิธีทำข้อ 38 หน่อยครับ พอดีลืมๆไม่ได้ทำนาน หัวสมองไม่แล่น บวกกับไม่มั่นใจในคำตอบ คือผมคิดได้ไม่ตรงหงะครับ
|
ข้อ 38 จากโจทย์บ้านหลังแรก พักได้ 3 คน
หลังที่สอง พักได้ 2 คน หลังที่สาม พักได้ 2 คน หา $n(S)$ ก่อนได้ $\frac{7!}{3!2!2!}=210$ จากนั้นแบ่งเป็น 2 กรณี กรณีที่ 1 กิตติและสมานพักบ้านหลังแรก ดังนั้นจะเหลือ คนที่จะพักบ้านหลังแรกได้ 1 คน เราก็นำคน 5 คนที่เหลือมาแบ่งให้อยู่บ้าน 3 หลัง โดยหลังแรกพักได้ 1 คน หลังสอง 2 คน และ หลังสาม 2 คน จะได้ $\frac{5!}{1!2!2!}=30$ วิธี กรณีที่ 2 กิตติและสมานพักบ้านหลังที่สาม ดังนั้นจะเหลืออีก 5 คน พักบ้านหลังแรกได้ 3 คน หลังสองได้ 2 คน ซึ่งจะแบ่งได้ $\frac{5!}{3!2!}=10$ วิธี ดังนั้น $n(E)=30+10=40$ จะได้ $P(E)=\frac{4}{21}$ |
ขอบคุณครับ วิธีคิดเหมือนกัน แต่สงสัยผมทำดึกไปหน่อย เบลอ เลยคิดเลขผิดไป โฮ๊ะ แก่แล้วก็เงี้ยแหละครับ
|
เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 23:26 |
Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha