Mathcenter Forum

Mathcenter Forum (https://www.mathcenter.net/forum/index.php)
-   ปัญหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย (https://www.mathcenter.net/forum/forumdisplay.php?f=3)
-   -   ปัญหาคณิตศาสตร์ (https://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=1478)

promath 02 พฤษภาคม 2005 16:25

ปัญหาคณิตศาสตร์
 
ปัญหาคณิตศาสตร์น่าคิด

คำถามที่001:จำนวนเด็ดของคุณครู ของคุณมานะ เอกจริยวงศ์


คุณครูกำหนดจำนวนสามหลักขึ้นมาจำนวนหนึ่ง แล้วให้สุดาหารด้วย 4 มานีหารด้วย 6 และ วีระหารด้วย 9 เพื่อหาเศษจากการหาร
สุดาตอบว่าได้เศษ 3 ขณะที่มานีได้เศษ 2 และวีระได้เศษ 1
ปรากฏว่า เมื่อตรวจสอบแล้ว มีเด็กคิดผิดอยู่คนหนึ่ง
อยากทราบว่า ใครคิดผิด และถ้าจำนวนที่ครูกำหนดขึ้นเป็นจำนวนที่เด็กสองคนซึ่งหาร ได้ถูกต้อง พบว่า ไม่มีจำนวนสามหลักใดน้อยกว่าอีกแล้ว อยากทราบว่า คุณครูกำหนดจำนวนใด มาให้
รหัส 157-006-2548-001

gon 02 พฤษภาคม 2005 22:37

สมมติให้ x แทนจำนวนเต็มดังกล่าว ;)

x หารด้วย 4 แล้วเหลือเศษ 3 แล้ว จะสามารถเขียนได้ว่า
x = 4p + 3 เมื่อ p เป็นจำนวนเต็มใด ๆ
ในทำนองเดียวกัน x = 6q + 2 , x = 9r + 1

ตรวจสอบว่าอันใดไม่จริง : ลองจับคู่ 4p + 3 = 6q + 2 6q - 4p = 1 จะพบว่าสมการนี้ไม่มีทางเป็นจริง เพราะ ด้านซ้ายมือของสมการ คือ 6q - 4p จะต้องมี 2 เป็นตัวประกอบเสมอ แต่ ด้านขวามือของสมการ คือ 1 ไม่มี 2 เป็นตัวประกอบ แสดงว่า ไม่ 4p + 3 ก็ 6q + 2 จะต้องมีอันใดอันหนึ่งไม่ถูกต้อง :rolleyes:

ลองจับคู่ 6q + 2 = 9r + 1 9r - 6q = 1 จะพบว่าสมการนี้ไม่มีทางเป็นจริง เพราะ ด้านซ้ายมือของสมการ คือ 9r - 6q จะต้องมี 3 เป็นตัวประกอบเสมอ แต่ ด้านขวามือของสมการ คือ 1 ไม่มี 3 เป็นตัวประกอบ แสดงว่า ไม่ 6q + 2 ก็ 9r + 1 จะต้องมีอันใดอันหนึ่งไม่ถูกต้อง :rolleyes:

แต่ทั้ง 2 อันมี 6q + 2 อยู่ แสดงว่า 6q + 2 นั่นล่ะที่ไม่ถูก :cool: นั่นคือ x = 4p + 3 = 9r + 1 จากตรงนี้ทำต่อได้หลายวิธี วิธีทีง่าย ๆ คือ ให้หามาว่าจำนวนเต็มบวกใด ที่มีค่าน้อยที่สุด ซึ่งหารด้วย 4 แล้วเหลือเศษ 3 และ หารด้วย 9 แล้วเหลือเศษ 1 (เป็นเลข 2 หลัก)

จากนั้นก็นำจำนวนดังกล่าว บวกทีละ 36 (ค.ร.น. ของ 4 กับ 9) ไปเรื่อย ๆ จนได้เลข 3 หลักที่มากที่สุด แต่ไม่เกิน 1000 ดังนั้นเลขดังกล่าวของครูคนนี้ คือ 9?? :D

promath 03 พฤษภาคม 2005 19:20

ปัญหาคณิตศาสตร์น่าคิด

คำถามที่002:หาเหรียญปลอม จากคุณเก่ง วิบูลย์ธัญญ์

มีถุงใส่เหรียญ 5 ถุง ในแต่ละถุงมีเหรียญอยู่มากกว่าถุงละ 7 เหรียญ โดยมีเหรียญปลอม อยู่ 2 ถุง เหรียญแท้และเหรียญปลอมแตกต่างกันเฉพาะน้ำหนัก โดยเหรียญแท้และเหรียญปลอมหนักเหรียญละ 50 และ 49 กรัม ตามลำดับ ให้หาถุงใดบ้างบรรจุเหรียญปลอมโดยการใช้ตาชั่งเพียงครั้งเดียวและต้องชั่งเหรียญน้อยอันที่สุด

รหัส 157-006-2548-002

promath 03 พฤษภาคม 2005 19:37

ปัญหาคณิตศาสตร์น่าคิด

คำถามที่003:สอบเชาวน์ จากคุณ นาวาเอกสอาด สุนทโรวาท

ในการสอบเชาวน์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง มีข้อสอบ ชวนฉงนอยู่ 2 ข้อ ปัญหาทั้งสองข้อนั้นคือ "นครใดอยู่ไกลขึ้นไปทางเหนือกว่ากัน กรุงเทพฯหรือมนิลา" กับ "ดวงอาทิตย์จะตกทางด้านไหนของคลองปานามาล่าช้ากว่ากัน ทางด้านมหาสมุทรปาซิฟิก หรือ ทางด้านมหาสมุทรอัตลันติก
มีนักเรียนตอบได้ถูกทั้งสามข้อรวม 37 คน หนึ่งในสามของนักเรียนทั้งหมดตอบผิดในปัญหาแลตติจูด หนึ่งในสี่ตอบผิดในปัญหาดวงอาทิตย์ตก และหนึ่งในห้าตอบผิดทั้งสองปัญหา
อยากทราบว่ามีนักเรียนเข้าตอบปัญหาเชาวน์นี้กี่คน

รหัส 157-006-2548-003

promath 04 พฤษภาคม 2005 09:36

:p ผู้ที่สนใจที่จะให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับ แคลคูลัสเบื้องต้น ที่มีหัวข้อดังนี้
ลิมิตของฟังก์ชัน
ความต่อเนื่องของฟังก์ชัน
อัตราการเปลี่ยนแปลง
อนุพันธ์ของฟังก์ชัน
ความชันของเส้นโค้ง
การหาอนุพันธ์ของฟังก์ชันพีชคณิตโดยใช้สูตร
อนุพันธ์ของฟังก์ชันคอมโพสิท
อนุพันธ์อันดับสูง
การประยุกต์ของอนุพันธ์อย่างง่ายและอย่างยาก
ปริพันธ์
ปริพันธ์ไม่จำกัดเขต
ปริพันธ์จำกัดเขต
พื้นที่ที่ปิดล้อมด้วยเส้นโค้ง
โอเปอเรชันตรงข้ามกับการหาอนุพันธ์
:D ;) สามารถโพสท์ข้อความมาในหัวข้อนี้ได้ครับ ให้หัวข้อเดียวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีมากหน่อย ก็จะดีครับ ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ :rolleyes:

R-Tummykung de Lamar 04 พฤษภาคม 2005 14:15

ข้อ 157-006-2548-003 นี่ ผมว่าแปลกๆนะครับ

เพราะว่า มีคำถามอยู่ 2 อันแต่ลองดูข้อความนี่สิครับ "มีนักเรียนตอบได้ถูกทั้งสามข้อรวม 37 คน " ผมว่าคงเป็น ตอบถูกทั้งสองข้อมากกว่าครับ


คือ ให้ คนที่เข้าสอบทั้งหมด x คน
ใช้เซตเข้ามาช่วยนะครับ ให้
A = เซตของคนที่ตอบผิดข้อแรก
B = เซตของคนที่ตอบผิดข้อที่สอง

จากโจทย์ได้ว่า
n(A) = \( \displaystyle{ \frac{x}{3}} \)
n(B) = \( \displaystyle{ \frac{x}{4}} \)
n(AB) = \( \displaystyle{ \frac{x}{5}} \)
n((AB)') = 37
\ n(U) = \( \displaystyle{ \frac{x}{3}+ \frac{x}{4}- \frac{x}{5}+37} \)

ก็จะได้สมการว่า \( \displaystyle{ \frac{x}{3}+ \frac{x}{4}- \frac{x}{5}+37 = x} \)
ซึ่งแก้สมการได้ x = 60 ครับผม :D

ปล. คำถามที่เอามาจากไหนหรือครับ เห็นมีที่มาจากคนนั้นคนนี้ แล้วก็เอาไปทำอะไรหรอครับ เห็นมีรหัสด้วย อีกอย่าง จะตั้งคำถามไว้ 999 คำถามเลยหรือครับ เห็นตั้งรหัสซะ 001

promath 04 พฤษภาคม 2005 16:24

ปัญหาคณิตศาสตร์น่าคิด

คำถามข้อ004: เลขยกกำลัง1 จากpromath

โจทย์ต่อไปนี้มีคำตอบว่าอย่างไร ช่วยคิดหน่อยครับ :D
1) (23+7)(23-7) :p
2) 3x+4+3x-5 = 9 :(

ตอบคำถามของคุณ R-Tummykung de Kamar
บางคำถามนั้นผมเอามาจากสมาคมคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทยครับ และที่มีชื่อคนอื่นเข้ามาด้วยเป็นการยกย่องผู้ที่ถามคำถามครับ จะได้รู้ว่าใครเป้นผู้ตั้งโจทย์หรือนำโจทย์มา ที่มีรหัสก็เพราะว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของผมมันมีระบบพิเศษที่ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านของเขาครับ และที่ตั้งไว้เป็น 001 เพราะอาจจะมีคำถามถึงข้อ 999 ก็เป็นได้ครับ อิอิ... :D ;)

R-Tummykung de Lamar 05 พฤษภาคม 2005 01:55

ข้อ 004
1.) ก็ ผลต่างกำลังสองธรรมดา
\ มันคือ (23)2-(7)2 = 12 - 7 = 5

2.) ข้อนี้น่าจะสมมติตัวแปรให้
a = 3x+4
b = 3x-5

\( \displaystyle{ \begin{array}{rcl} a+b&=&9\\a^2-b^2&=&9\\ \therefore a-b&=&1 \\แก้สมการ\ \ ได้\ \ a\ =\ 5\ \ และ\ \ b\ =\ 4 \end{array} } \)
แทนค่ากลับได้ x = 7

ปล. R-Tummykung de Lamar ครับ ไม่ใช่ R-Tummykung de Kamar

gon 05 พฤษภาคม 2005 23:35

ข้อ 2. งงกับคำถามครับ. โจทย์บอกว่าเหรียญมันอยู่ในถุง แล้วจะชั่งเหรียญได้ยังไง แกะออกมาจากถุงชั่งได้หรือครับ. อีกอย่างตาชั่งบอกมาไหมว่า เป็นระบบแบบใด แบบมีตัวเลข หรือ แบบถ่วงน้ำหนักสมดุล :rolleyes:

promath 06 พฤษภาคม 2005 16:08

คำถามข้อที่005:หากจะจ่าย ต้องคิดแล้วคิดอีกจนเวียนหัว จากสสวท.

ร้านค้าแห่งหนึ่งมีลูกจ้าง 3 คน คือ แดง น้อย และจิต โดยแต่ละคนเสนอค่าจ้างทำงานชั่วโมงละ 100 110 120 บาท ตามลําดับ และมีงาน 3 อย่าง คือ a b และ c
จํานวนชั่วโมงที่แดงทํางาน a, b และ c คือ 7.5, 8 และ 4.5 ชั่วโมง ตามลําดับ
จํานวนชั่วโมงที่น้อยทํางาน a, b และ c คือ 6, 8.5 และ 5 ชั่วโมง ตามลําดับ และ
จํานวนชั่วโมงที่จิตทํางาน a, b และ c คือ 6.5, 7 และ 3.5 ชั่วโมง ตามลําดับ
อยากทราบว่านายจ้างควรใหลูกจ้างคนใดทํางานอย่างใดที่สามารถทํางานนั้นเสร็จ และจ่ายเงินน้อยที่สุด และถ้านายจ้างต้องการรับลูกจ้างเพื่อเข้าทํางานทั้งสามอย่างเพียงหนึ่งคน เขาควรรับลูกจ้างคนใดเข้าทํางานจึงจะจ่ายน้อยที่สุด
รหัส 157-006-2548-005 :)

ปล.1 ขอโทษครับสำหรับคุณ R-Tummykung de Lamar ขออภัยอย่างยิ่งครับ เนื่องจากผมพิมพ์เร็วไปหน่อยแล้วผิด ผมก็ไม่ได้ตรวจทานหรือกลับมาแก้ไขอีกรอบ มันอาจจะทำให้คุณไม่ค่อยพอใจในตัวผมเท่าไรนัก แต่ผมขอโทษอย่างสูง คราวหลังผมจะปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่านี้ครับ :(

ปล.2 หากมีผู้ตอบคำถามถูกแล้ว ผมจะเข้าไปเฉลยให้ครับ :rolleyes:

R-Tummykung de Lamar 06 พฤษภาคม 2005 23:49

อ้างอิง:

ข้อความเดิมของคุณ promath:
คำถามข้อที่005:หากจะจ่าย ต้องคิดแล้วคิดอีกจนเวียนหัว จากสสวท.
ปล.1 ขอโทษครับสำหรับคุณ R-Tummykung de Lamar ขออภัยอย่างยิ่งครับ เนื่องจากผมพิมพ์เร็วไปหน่อยแล้วผิด ผมก็ไม่ได้ตรวจทานหรือกลับมาแก้ไขอีกรอบ มันอาจจะทำให้คุณไม่ค่อยพอใจในตัวผมเท่าไรนัก แต่ผมขอโทษอย่างสูง คราวหลังผมจะปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่านี้ครับ :(
[ 06 พฤษภาคม 2005 16:11: ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ promath ]


แหม .. :p ผมก็ไม่ได้ขนาดนั้นซักหน่อย ความผิดพลาดเนี่ย มีบ้างก็เป็นเรื่องปกติครับ ไม่ต้องคิดมาก ;)

nongtum 08 พฤษภาคม 2005 03:27

ข้อที่005 ในที่นี้จะสันนิษฐานว่างานหนึ่งงานทำได้คนเดียว หากใครคิดกรณีสามัคคีชุมนุม(หนึ่งงานหลายคน)ได้ ลอง post มานะครับ
เราจะคิดค่าใช้จ่ายทีจะเกิดขึ้นเมื่อแต่ละคนทำงานแต่ละอย่างเสร็จดังนี้
\[
\begin{array}{*{20}c}
{คนงาน} & {JobA} & {JobB} & {JobC} & {รวม} \\
{แดง} & {750} & {800} & {450} & {2000} \\
{น้อย} & {660} & {935} & {550} & {2145} \\
{จิต} & {780} & {840} & {420} & {2040} \\
\end{array}
\]
จากตาราง เราจึงสรุปได้ว่า ควรจะให้ น้อยทำงาน A แดงทำงาน B จิตทำงาน C และหากต้องจ้างคนเดียว ควรจ้างแดง

Grimmyredrum 09 พฤษภาคม 2005 01:12

ข้อ2
สมมตว่าเปนตาชั่งแบบเปงตัวเลข
เราทราบว่า เหรียญจริงหนักกว่าปลอม 1 กรัม

โจทย์บอกให้ชั่งเหรียญให้น้อยอันที่สุด
>>>แสดงว่าน่าจะหยิบเหรียญออกมาจากถุงเพื่อนำมาชั่งได้

เราจะเลือกเหรียญจำนวนซ้ำกันไม่ได้ เพราะ หากเลือกเหรียญจำนวนซ้ำกัน จะไม่สามารถแยกได้ว่าถุงไหนเป็นเหรียญปลอม เพราะ นน.จะขาดหายไปเป็นจำนวนเท่าๆกันด้วย

ถุงแรก เราจะไม่หยิบเหรียญออกมา
>>>ถ้าชั่งแล้ว นน. ครบ แสดงว่าถุงนี้เปงเหรียญปลอม ในกรณีที่ 4 ถุงที่เหลือนั้นมี เหรียญปลอมอยู่ 1 ถุง (กรณีอื่น แสดงว่าถุงนี้เป็นเหรียญจริง)
ซึ่งจะทราบได้จาก

ถุงที่สอง เราจะหยิบเหรียญออกมา 1 เหรียญ
>>>ถ้าชั่งแล้ว นน. ขาดไป 1 กรัม แสดงว่าถุงนี้เปงเหรียญปลอม

ถุงที่สาม เราจะหยิบเหรียญออกมา 2 เหรียญ
>>>ถ้าชั่งแล้ว นน. ขาดไป 2 กรัม แสดงว่าถุงนี้เปงเหรียญปลอม

ถุงที่สี่ เราจะหยิบเหรียญออกมา 4 เหรียญ
(หยิบ 3 เหรียญไม่ได้ เพราะ ถ้านน. ขาดไป3กรัม จะไม่สามารถบอกได้ว่า ถุงที่เป็นเหรียญปลอมคือ ถุงที่สอง-สาม หรือ ถุงแรก-สี่)
>>>ถ้าชั่งแล้ว นน. ขาดไป 4 กรัม แสดงว่าถุงนี้เปงเหรียญปลอม

ถุงที่ห้า เราจะหยิบออกมา 7 เหรียญ
(หยิบ 5 หรือ 6 เหรียญไม่ได้ในทำนองเดียวกัน)
>>>ถ้าชั่งแล้ว นน. ขาดไป 7 กรัม แสดงว่าถุงนี้เปงเหรียญปลอม

จากนั้นเอาจำนวนเหรียญที่ได้มาชั่งก้อจะทราบว่า ถุงใดเป็นถุงปลอม
  • ถ้าชั่งแล้วนน.ขาดไป 1 แสดงว่าถุงที่เป็นเหรียญปลอมคือ ถุงแรก + ถุงที่สอง(0+1 = 1)
  • ถ้าชั่งแล้วนน.ขาดไป 2 แสดงว่าถุงที่เป็นเหรียญปลอมคือ ถุงแรก + ถุงที่สาม(0+2 = 2)
  • ถ้าชั่งแล้วนน.ขาดไป 4 แสดงว่าถุงที่เป็นเหรียญปลอมคือ ถุงแรก + ถุงที่สี่(0+4 = 4)
  • ถ้าชั่งแล้วนน.ขาดไป 7 แสดงว่าถุงที่เป็นเหรียญปลอมคือ ถุงแรก + ถุงที่ห้า(0+7 = 7)
  • ถ้าชั่งแล้วนน.ขาดไป 3 แสดงว่าถุงที่เป็นเหรียญปลอมคือ ถุงที่สอง + ถุงที่สาม(1+2 = 3)
  • ถ้าชั่งแล้วนน.ขาดไป 5 แสดงว่าถุงที่เป็นเหรียญปลอมคือ ถุงที่สอง + ถุงที่สี่(1+4 = 5)
  • ถ้าชั่งแล้วนน.ขาดไป 8 แสดงว่าถุงที่เป็นเหรียญปลอมคือ ถุงที่สอง + ถุงที่ห้า(1+7 = 8)
  • ถ้าชั่งแล้วนน.ขาดไป 6 แสดงว่าถุงที่เป็นเหรียญปลอมคือ ถุงที่สาม + ถุงที่สี่(2+4 = 6)
  • ถ้าชั่งแล้วนน.ขาดไป 9 แสดงว่าถุงที่เป็นเหรียญปลอมคือ ถุงที่สาม + ถุงที่ห้า(2+7 = 9)
  • ถ้าชั่งแล้วนน.ขาดไป 11 แสดงว่าถุงที่เป็นเหรียญปลอมคือ ถุงที่สี่ + ถุงที่ห้า(4+7 = 11)

ซึ่งชั่งเหรียญทั้งหมด 0+1+2+4+7 = 14 เหรียญ(น้อยสุดยังอะ)
====================================
ถ้าเป็นตาชั่งแบบถ่วงดุล
. . .ถ้าให้ชั่งแค่ครั้งเดียว ตอนนี้ยังคิดไม่ออกคับ TT

promath 10 พฤษภาคม 2005 08:44


promath 10 พฤษภาคม 2005 15:54

คำถามที่006:เงินสิบสตางค์หายไปไหน จากคุณพิเชษฐ วิชัยดิษฐิ


:) :) :rolleyes: นายพานิช และ น.ส.บัญชี ต่างก็เป็นพ่อค้าและแม่ค้าในตลาดแห่งหนึ่ง เขาและเธอต่างก็ขายมะม่วงด้วยกัน นายพานิช ขายมะม่วง 3 ผล ราคา 5 สตางค์ วันหนึ่งเขาขาย 60 ผล ได้เงิน 1 บาท น.ส.บัญชี ขายมะม่วง 2 ผล ราคา 5 สตางค์ วันหนึ่งเขาขาย 60 ผล ได้เงิน 1.50 บาทเพื่อเป็นการเห็นอกเห็นใจกัน นายพานิช จึงเอ่ยปากชวน น.ส.บัญชีมาร่วมค้าขายกัน โดยขายมะม่วงไปคราวละ 5 ผล ราคา 10 สตางค์ (เพราะว่าราคาของพานิช 3 ผล 5 สตางค์ ของบัญชี 2 ผล 5 สตางค์ เอามาร่วมกัน 5 ผล ราคา 10 สตางค์) วันหนึ่ง ๆ จะขายไป 120 ผล ปรากฏว่าเงินที่ขายได้เท่ากับ 2.40 บาท :D
สุดท้ายนี้ใคร่ไหว้วานท่านผู้อ่านช่วยพ่อแม่ค้าทั้งสองด้วยว่า เงิน 10 สตางค์ หายไปไหน
รหัส 157-006-2548-006 :eek:

Grimmyredrum 10 พฤษภาคม 2005 21:35

-ข้อ6

เพราะว่าอัตราส่วนผลไม้ที่ขายไปของคนทั้งสองมันไม่เท่ากันครับ

คุณ พาณิช จะขายเป็นจำนวนมากกว่าครือขาย(3/5)*100%(72ผล) ส่วนอีกคนจะขาย(2/5)*100%(48ผล)

ไม่ได้ขายคนละ 60 ผลเท่ากัน จึงทำให้เงินที่ได้ไม่เท่ากับตอนแรกด้วย


ปล.
แต่ถึงแม้ว่าจะขายแบบนี้(รวมกัน 5ผล ผลละ10สต.) ก้อยังคงไม่มีใครได้กำไร-ขาดทุนจากตอนแรกเลยครับ :)

promath 14 พฤษภาคม 2005 12:36

:D สวัสดีครับ ผมมาอีกแล้วครับ หวังว่าคงจะไม่เบื่อกันนะครับ ถ้าใครมีปัญหาคิดไม่ออกและไม่ยากเกินไปที่จะให้ผมไปตอบล่ะก็ ผมจะลองแวะเข้าไปครับ แต่เอ! ทำไมห้องของเด็กประถมมีแต่คนระดับเจ๋ง ๆ (ที่ไม่ใช่ประถมเข้าไปตอบล่ะครับ) ผมเจอเข้าไปทีเดียว มึนครับ :confused:

คำถามข้อที่007:เศษส่วนชวนฉงน จาก promath's friend

คำถามข้อนี้เป็นคำถามที่ผมได้รับมาจากเพื่อนผมอีกทีครับ ตอนแรกเจอคำถามก็แสนจะง่าย คิดไม่ยาก แต่ไหง พอเฉลยแล้ว มันไม่ได้ตามที่ผมคิดครับ เลยอยากลองให้คนอื่นลองคิดดู (แต่จริง ๆ แล้ว วิธีเฉลยคำตอบของข้อนี้มันไม่ค่อยจะถูกต้องตามหลักคณิตศาสตร์หรอกนะครับ) คำถามมีอยู่ว่า

ถ้า \( \frac{1}{4} \) ของ 40 = 6
แล้ว \( \frac{1}{3} \) ของ 40 มีค่าเท่าไรครับ
คิดดูดี ๆ นะครับ :rolleyes:
ระวังโดนโจทย์หลอกนะ เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน :cool:

รหัส 157-006-2548-007

passer-by 15 พฤษภาคม 2005 16:18

สำหรับคำถามข้อ 7
40 ในที่นี้ น่าจะเป็น 406 ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้อนี้ต้องตอบ 8 ครับ

promath 16 พฤษภาคม 2005 11:59

มีใครคิดจะเพิ่มคำตอบหรือแสดงวิธีทำที่แปลกแตกต่างไปอีกไหมครับ ช้าเกินไป เดี๋ยวผมจะใส่เฉลยแล้วนะครับ (ไม่หรอก ถ้าผมเปิดเทอมแล้ว จะมาโพสท์ข้อความกับพี่ ๆ ไม่ได้บ่อยอย่างนี้แล้วนะครับ รีบรีบกันหน่อยนะ) :D :p :) :(

Grimmyredrum 16 พฤษภาคม 2005 22:27

อย่าบอกนะว่า
ถ้า 1/4 ของ 40 = 6
แล้ว 1/3 ของ 40 = 6*4/3 = 8 :(

หรือจะบอกว่า ตอบเท่าไหร่ก้อได้ ดีอ่า เพราะ
ถ้า---->แล้ว
F------>X T

R-Tummykung de Lamar 16 พฤษภาคม 2005 22:47

แหม ผมก็ว่างั้นแหละ เพราะว่า 1/4 ของ 40 คือ 6 มันเป็นเท็จ ดังนั้น
F T T
F F T

ดังนั้น ผมว่า ตอบอะไรก็ถูกครับ
เห็นโจทย์ทิ้งท้ายนิดนึงว่า อย่าโดนโจทย์หลอกนะครับ :D

passer-by 16 พฤษภาคม 2005 23:47

จริงๆ ตอนแรก ก็จะตอบ ว่า เลขอะไรก็ได้ เหมือนคุณ R-Tummykung de Lamar ซึ่งเป็นไปตามหลักตรรกศาสตร์ แต่ไปสะดุดกับที่ คุณ promath ที่บอกว่า :
อ้างอิง:

ข้อความเดิมของคุณ promath:
(แต่จริง ๆ แล้ว วิธีเฉลยคำตอบของข้อนี้มันไม่ค่อยจะถูกต้องตามหลักคณิตศาสตร์หรอกนะครับ)
ก็เลย คิดว่า มันคงมีอะไรแอบแฝงอยู่ในโจทย์มั้ง
บังเอิญเห็นว่า 40 ในฐาน 6 ทำให้ประโยค "เหตุ" เป็นจริง พอดี ก็เลย คิดว่าน่าจะตอบ 8 แต่ก็แน่นอนล่ะครับ ว่าถ้าตอบ 8 จริงๆ โจทย์ก็ไม่ควรเขียนเช่นนี้ เพราะ เลขฐานอื่นที่ไม่ใช่ฐานสิบ ก็ควรใส่ฐานกำกับไว้เสมอ

promath 17 พฤษภาคม 2005 10:53


promath 17 พฤษภาคม 2005 11:20

มีหลายคนคงว่าผม ที่ตั้งคำถามที่มันยากจนทำให้ตนเองแทบเฉลย หรือเฉลยให้เข้าใจไม่ได้ ไม่เป็นไรครับ ขอแก้ตัวด้วยคำถามนี้ รับรองว่าง่ายและเฉลยให้เข้าใจกันได้แน่นนอนครับ (อย่ากังวล :( )

คำถามข้อที่008: อยู่ที่เดียวกัน ขัดกันไม่ได้ จาก promath เอง :D

แม่ค้า 3 คน นั่งขายมะม่วงอยู่ในตลาดติดกัน และต่างสัญญากันว่าจะต้องขายมะม่วงในราคาเดียวกัน และเมื่อขายหมดแล้ว ต้องได้เงินเท่ากันด้วยนะ ถ้าแม่ค้าคนแรกมีมะม่วง 33 กิโลกรัม คนที่สองมี 29 กิโลกรัม และคนที่สามมี 27 กิโลกรัม จงอธิบายว่าแม่ค้าทั้งสามคนขายมะม่วงในราคาอย่างไร จึงจะได้ตรงตามเงื่อนไขข้างต้น
รหัส 157-006-2548-008

ปล. คราวนี้ไม่หลอกไม่ลวง คิดกันตรงๆ เลยนะครับ :) :cool:

promath 17 พฤษภาคม 2005 16:36

:o แหม! คำถามข้อที่008 ยังไม่มีใครตอบเลย ดันนึกคำถามข้อที่009และข้อที่010 ได้เสียและ

คำถามข้อที่009:เศษส่วนปริศนา จาก promath

;) ถ้าเราเขียน\( \frac{2}{5}\) ในรูปของผลบวกของจำนวนเศษส่วนที่มีเศษเป็น 1 จะได้ดังนี้\[ \frac{2}{5}=\frac{1}{3}+\frac{1}{15} \]
:rolleyes: เราอาจจะตีความสมการข้างบนได้ดังนี้ คือ ในการแบ่งของ 2 ชิ้น ให้กับคน 5 คน ก่อนอื่นเราจะแบ่งแต่ละชิ้นออกเป็น 3 ส่วนเท่ากัน (ซึ่งจะได้ 23 = 6 ชิ้น) แล้วเอา 5 ชิ้นแบ่งให้กับ 5 คน หลังจากนั้นแบ่ง 1 ชิ้นที่เหลืออกเป็น 5 ส่วนเท่ากันอีกครั้ง แล้วแบ่งให้ทุกคน ก็เป็นอันเสร็จพิธี
:D อาศัยหลักการคิดข้างต้น ให้ลองหาตัวเลขที่อยู่ในช่องว่างสิครับ :D
\[ \frac{3}{5}=\frac{1}{...}+\frac{1}{...} \]
\[ \frac{4}{5}=\frac{1}{...}+\frac{1}{...} \]
เดี๋ยวมาแก้ไขอีกรอบนะครับ เอาแค่นี้ก่อนเด้อ

R-Tummykung de Lamar 17 พฤษภาคม 2005 16:37

อ้างอิง:

ข้อความเดิมของคุณ promath:
1. ให้ x แทนจำนวนของ 40 และให้ y แทนจำนวนอีกจำนวนหนึ่ง จะได้ว่า
\[\frac{1}{4}x = 6 = y\]
2. แก้สมการตามปกติครับ โดยนำ 4 ไปคูณกับสมการทั้งสองข้างดังนี้
\[ (4)(\frac{1}{4}x) = (6)(4) = y \]

ตรงนี้ผมว่าไม่ถูกต้องครับ เพราะว่า ถ้าจะคูณ ก็ต้องคูณทั้ง 3 ส่วนเลยครับ จุดนี้ จึงน่าจะกลายเป็น \(\displaystyle{\frac{1}{4}x\ \ =\ \ (6)(4)\ \ =\ \ 4y\qquad} \) ครับ :D


แล้วโจทย์ข้อนี้ ผมว่าคิดแบบนี้ไม่ได้อะครับ เพราะว่า 40 มันคือตัวเลข ไม่ใช่ตัวแปร แทนค่าลงไปมันก็ไม่จริงครับ ;)

R-Tummykung de Lamar 17 พฤษภาคม 2005 17:47


R-Tummykung de Lamar 17 พฤษภาคม 2005 17:49

อันนี้ตอนแรกพิมพ์ผิดครับ ...board น่าจะมี option เพิ่มคือ สามารถลบข้อความของตัวเองได้ด้วยนะครับ ;)



R-Tummykung de Lamar 17 พฤษภาคม 2005 19:15

พิสูจน์ได้ละครับ :D
\(\displaystyle{\begin{array}{rcl}ให้\ \ \sqrt{4a-5}&=&y\\4a-5&=&y^2\\4a&=&y^2+5\\a&=&\frac{y^2+5}{4}\\&=&\frac{y^2+1}{4}+1\\ \therefore 4&|&y^2+1& จะได้\ \ y\ \ ต้องเป็นจำนวนคี่\ (กำลังสองได้คี่ บวกกันจะได้คู่ ให้ y = 2k+1)\\4&|&(2k+1)^2+1\\4&|&4k^2+4k+2\\&&\ \ เนื่องจาก 4\ |\ 4k^2\ \ และ\ \ 4\ |\ 4k\\\therefore 4&|&2 \end{array}}
\)

เย้ ...ขัดแย้ง สรุปว่า ไม่มีจำนวนเต็มบวก a ที่ทำให้ 4a - 5 เป็นจำนวนเต็ม ;)

ส่วน 5(4a - 5)ก็คล้ายๆกันครับ สุดท้ายจะได้ 20|y2+5 ซึ่งก็ใช้ผลพลอยได้จากข้อ 1 ครับ คือ แม้แต่ 4 ยังหาร ไม่ลง แล้ว 20 จะหารลงหรือ จะพบว่าขัดแย้งเหมือนกันครับ :D

promath 18 พฤษภาคม 2005 14:25

ขออภัยคุณ R-Tummykung de Lamar ครับ สำหรับข้อ 009 โจทย์ข้อ 2 นี่ คุณพิมพ์และคิดอย่างหนักหน่วงเลยนะครับ ความจริงแล้ว ผมยังพิมพ์โจทย์ไม่เสร็จครับ เครื่องคอมพ์มันเจ๊งก่อน โจทย์เลยไม่ครบ ขออภัยครับ ผมขอแก้โจทย์ข้อ009ใหม่และเพิ่มโจทย์ให้พร้อมข้อ 010 ครับผม

คำถามข้อที่009:เศษส่วนปริศนา จาก promath :rolleyes:

:D ถ้าเราเขียน \( \frac{2}{5}\) ในรูปของผลบวกของจำนวนเศษส่วนที่มีเศษเป็น 1 จะได้ดังนี้\[ \frac{2}{5}=\frac{1}{3}+\frac{1}{15} \]

เราอาจจะตีความสมการข้างบนได้ดังนี้ คือ ในการแบ่งของ 2 ชิ้น ให้กับคน 5 คน ก่อนอื่นเราจะแบ่งแต่ละชิ้นออกเป็น 3 ส่วนเท่ากัน (ซึ่งจะได้ 23 = 6 ชิ้น) แล้วเอา 5 ชิ้นแบ่งให้กับ 5 คน หลังจากนั้นแบ่ง 1 ชิ้นที่เหลืออกเป็น 5 ส่วนเท่ากันอีกครั้ง แล้วแบ่งให้ทุกคน ก็เป็นอันเสร็จพิธี
อาศัยหลักการคิดข้างต้น ให้ลองหาตัวเลขที่อยู่ในช่องว่างสิครับ
\[ \frac{3}{5}=\frac{1}{....}+\frac{1}{.....} \]
\[ \frac{4}{5}=\frac{1}{....}+\frac{1}{.....}+\frac{1}{.....} \]
\[ \frac{57}{70}=\frac{1}{....}+\frac{1}{.....}+\frac{1}{.....} \]
\[ \frac{43}{70}=\frac{1}{....}+\frac{1}{.....}+\frac{1}{.....}+\frac{1}{.....} \]
\[ \frac{9}{10}=\frac{1}{....}+\frac{1}{.....}+\frac{1}{.....} \]

รหัส 157-006-2548-009=edit{1} :cool:

promath 18 พฤษภาคม 2005 15:06

:) :( อิอิ 2 ข้อต่อมาครับ (หัวไวคิดคำถามเร็ว)

คำถามข้อที่010:จำนวนธรรมชาติ จาก promath เองขอรับ :D

:D สมมติให้ < > เป็นเครื่องหมายแสดงถึงการบวกเลขแต่ละหลักของจำนวนธรรมชาติใด ๆ ต่อ ๆ กัน จนได้เลขหลักเดียว เช่น
\[<1456> = <1+4+5+6> = <16> = <1+6> = 7 \]
ในทำนองเดียวกันจะได้ว่า\[ <518> = <5+1+8> = <14> = <1+4> = 5 \]
ถามว่าถ้า\( \displaystyle{<<A>\times17> = <A>-1} \)
ค่าของ <A> จะเป็นเท่าใด :confused:
และเมื่อเรียงเลขธรรมชาติ 4 หลัก A ที่มีค่า <A> = 5 จากน้อยไปหามาก จงหาว่าค่าที่สามจะเป็นเท่าใด

รหัส 157-006-2548-010

- - - - - - - - - - - - - -

คำถามข้อที่011:ที่ดินของบุญล้อม จาก promath เจ้าเก่า ;)

บุญล้อมมีที่ดินอยู่จำนวนหนึ่ง และเขาก็ต้องการที่จะใช้ลวดความยาว 2 ไมล์ ล้อมที่ดินของตนเอง
หากกำหนดให้ลวดที่มีความยาว 1 ไมล์ล้อมที่ดินรูปวงกลมได้ 40 เอเคอร์ แล้วบุญล้อมสามารถใช้ลวดที่มีอยู่ทั้งหมดล้อมกับไม้ 14 ท่อน ที่ติดอยู่รอบที่ดินตนเองโดยใช้จนหมด ไม่เหลือลวดอีกเลย และยังสามารถล้อมได้หมด 1 รอบด้วย อยากทราบว่าบุญล้อมมีที่ดินอยู่กี่เอเคอร์

:eek: *ALERT ไม่จำเป็นต้องคิดขนาดหรือพื้นที่ของไม้นะครับ คิดแค่เฉพาะขนาดของที่ดินอย่างเดียว เพราะไม้เหล่านั้นมันปักอยู่ในอาณาเขตที่ดินและที่ดินเป็นรูปวงกลมด้วยนะครับอย่าลืม

รหัส 157-006-2548-011 :rolleyes:

promath 18 พฤษภาคม 2005 15:52

คุณ R-Tummykung de Lamar ครับ ผมขอชมเชยและยกย่องว่าวิธีคิดคำตอบของคุณในข้อ008นั้น เยี่ยมยอดมากเลยครับ :D คราวนี้ผมลองเปลี่ยนตัวเลขในโจทย์ข้อ008ดู ขอย้ำว่าเปลี่ยนแล้ว ไม่ทราบว่าคุณจะลองคิดอีกรอบดีไหมครับ โดยให้พวกเธอทั้ง 3 คน ยังมีสถานะเป็นแม่ค้าเช่นเดิม มิเปลี่ยนแปลงครับ

R-Tummykung de Lamar 20 พฤษภาคม 2005 20:55


promath 21 พฤษภาคม 2005 09:59

เก่งมากครับคุณ R-Tummykung de Lamar แต่ผมคิดว่าแม่ค้า 3 คนนี้ ดูท่าจะงกมากนะครับ เพราะฉะนั้น งกขนาดนี้ ต้องเก็บเงินกันหน่อยแล้ว :D

มาดูกันดีกว่าว่าแม่ค้า 3 คนนี้ จะขายอย่างไร หากพวกหล่อนไม่ยอมแจกฟรีกันอย่างง่ายๆ ตามแบบฉบับของผม


R-Tummykung de Lamar 21 พฤษภาคม 2005 10:55

ไปแบ่งเป้น 2 ครั้งอย่างนี้ มันก็เหมือนกับว่า ขายในราคาที่ไม่เท่ากันน่ะสิครับ
ลองดูตัวอย่างนี้นะครับ
ครั้งที่ 1
ขาย 33 กก. 1 บาท
แม่ค้าคนที่ 1 ขาย 33 ลูก ได้เงิน 1 บาท
แม่ค้าคนที่ 2 ขาย 0 ลูก ได้เงิน 0 บาท
แม่ค้าคนที่ 3 ขาย 0 ลูก ได้เงิน 0 บาท
ครั้งที่ 2
ขาย 29 กก. 1 บาท
แม่ค้าคนที่ 1 ขาย 0 ลูก ได้เงิน 0 บาท
แม่ค้าคนที่ 2 ขาย 29 ลูก ได้เงิน 1 บาท
แม่ค้าคนที่ 3 ขาย 0 ลูก ได้เงิน 0 บาท
ครั้งที่ 3
ขาย 27 กก. 1 บาท
แม่ค้าคนที่ 1 ขาย 0 ลูก ได้เงิน 0 บาท
แม่ค้าคนที่ 2 ขาย 0 ลูก ได้เงิน 0 บาท
แม่ค้าคนที่ 3 ขาย 27 ลูก ได้เงิน 1 บาท

เห็นไหมครับ เหมือนกับแยกเป็นภาคๆอะครับ ดูเหมือนกับว่ากำหนดราคาไม่เท่ากัน :mad:
ดังนั้น ผมว่าถ้าจะให้โจทย์สมบูรณ์ ต้องบอกว่า ต้องขายราคาเดียวตลอดครับ :D

nongtum 21 พฤษภาคม 2005 20:03

เอาเท่าที่คิดออกก่อนนะครับ


นี่เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การกระทำย้อนกลับไม่ง่ายเสมอไป คิดเลขกันอุตลุต

R-Tummykung de Lamar 21 พฤษภาคม 2005 20:34

\(\displaystyle{\frac{57}{70} \ \ แบ่งเป็น เศษส่วน\ 3\ ตัวไม่ได้ครับ ต้อง\ 4\ ตัวครับ (สงสัยโจทย์ผิด)\ ผมลองใช้\ \ \ computer\ \ search\ \ \ ดูแล้วครับ }\) :D

nongtum 21 พฤษภาคม 2005 20:54

W00t, สมมติฐานที่ตั้งไว้คงไม่จริงแล้วละครับ ในกรณีที่เขียนเป็นสี่ตัวบวกกัน จะได้
\[\frac{57}{70}=\frac{35+14+7+1}{70}=\frac{1}{2}+\frac{1}{5}+\frac{1}{10}+\frac{1}{70}\]
ยังไงรบกวนน้อง promath มาช่วยเช็คโจทย์หรือเฉลยด้วยครับ อ้อ เช็คโจทย์ข้อ 10 ด้วยครับ ไม่แน่ใจว่าตัวอย่างที่ให้ถูกไหม
ปล. น้อง tummy ครับ search ตก a ไปตัวนึงครับ ^^

R-Tummykung de Lamar 21 พฤษภาคม 2005 21:28

ขอบคุณมากครับ ..ถ้าเจอผมพิมพ์อะไรผิดช่วยบอกเลยนะครับ ยินดีแก้ไขครับ ;)

Tony 22 พฤษภาคม 2005 18:47



เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 06:22

Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha