Mathcenter Forum

Mathcenter Forum (https://www.mathcenter.net/forum/index.php)
-   ฟรีสไตล์ (https://www.mathcenter.net/forum/forumdisplay.php?f=6)
-   -   อาชีพนักคณิตศาสตร์ รายได้มากกว่า หมอ (https://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=12323)

banker 20 พฤศจิกายน 2010 10:08

อาชีพนักคณิตศาสตร์ รายได้มากกว่า หมอ
 
ผลสำรวจพบ8อาชีพเงินเดือนเกินแสน



จาก การสำรวจข้อมูลอาชีพที่ทำรายได้สูงที่สุดปี 2552 พบ 8 อาชีพเงินเดือนเกินแสน นักบินมาอันดับหนึ่งส่วนผู้จัดการฝ่ายฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์รายได้สูง กว่าซีอีโอ ขณะที่นักคณิตศาสตร์เงินเดือนมากกว่าหมอ




นายบุญเลิศ ธีระตระกูล ผู้อำนวยการกองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน เปิดเผยว่าจากการสำรวจข้อมูลอาชีพที่ทำรายได้สูงที่สุดปี 2552 พบว่าผู้บริหารในระดับผู้จัดการในธุรกิจต่างๆเป็นอาชีพเฉลี่ยต่อเดือนสูงติดลำดับต้นๆของประเทศ ขณะที่อาชีพที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะมีอาชีพนักบิน วิศวกร ผู้พิพากษา สถาปนิก นักคณิตศาสตร์และแพทย์ติดอันดับ 20 อาชีพที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสูงที่สุดด้วย

สำหรับอาชีพที่มีรายได้เกิน 1 แสนบาท/เดือนมี 8 อาชีพประกอบด้วย 1.อาชีพนัก บิน 2.41 แสนบาท 2.วิศวกรเหมืองแร่และนักโลหะการ 2.35 แสนบาท 3.ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 1.53 แสนบาท 4.กรรมการและผู้บริหารระดับสูง 1.38 แสนบาท 5.ผู้พิพากษา 1.21 แสนบาท 6. อาชีพสถาปนิกรายได้ 1.17 แสนบาท 7.ผู้บริหารองค์การนายจ้าง-ลูกจ้าง 1.06 แสนบาท และ 8.วิศวกรเคมี 1.05 แสนบาท

เป็นที่น่าสังเกตว่าอาชีพผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์เป็นอาชีพที่ มีรายได้สูงกว่ากรรมการและผู้บริหารระดับสูง และจำนวนก็มีน้อยกว่าคือผู้จัดการฝ่ายโฆษณามีประมาณ 3,700 คน ส่วนกรรมการและผู้บริหารระดับสูงมีถึง 1.6 หมื่นคน

สำหรับอาชีพที่มีรายได้ในช่วง 6 หมื่น-1 แสนบาทมี 12 อาชีพ ในจำนวนนี้อาชีพผู้จัดการฝ่ายจัดหาและจำหน่ายสินค้ามีระดับรายได้สูงที่สุดในบรรดาอาชีพระดับผู้จัดการด้วยกัน และพบว่าอาชีพนักคณิตศาสตร์มีรายได้สูงกว่าแพทย์

โดยผู้จัดการฝ่ายจัดหาและจำหน่ายสินค้ามีรายได้ 8.5 หมื่นบาท นักคณิตศาสตร์ 7.3 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายผลิตและปฏิบัติการด้านการบริการทางธุรกิจ 7 หมื่นบาท แพทย์ 6.9 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายผลิตและปฏิบัติการด้านผลิต 6.7 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายอื่นๆซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ 6.6 หมื่นบาท

ผู้จัดการทั่วไปด้านการผลิต 6.4 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนา 6.4 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไปด้านการเกษตร 6.3 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไปด้านการก่อสร้าง 6.2 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไป 6.2 หมื่นบาท และข้าราชการอาวุโส 6.2 หมื่นบาท

ref : คมชัดลึก วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2553


หมดยุคทองของอาชีพแพทย์แล้ว
(แต่ถ้าใจรัก ชอบ อึด อยากช่วยคน ก็ยังน่าเรียนอยู่ครับ)

nooonuii 20 พฤศจิกายน 2010 11:35

นักคณิตศาสตร์ที่ว่าเงินเดือนขนาดนั้นนี่ตำแหน่งศาสตราจารย์หรือเปล่าครับ :laugh:

kabinary 20 พฤศจิกายน 2010 13:20

อาชีพ ติวเตอร์รุ่งสุดๆ หมอบางคนยังทิ้งเข็มมาเปนติวเตอร์เลย 555+

กิตติ 22 พฤศจิกายน 2010 09:39

นอกจากรายได้แล้ว สิ่งที่บทความไม่ได้บอกคือ เรื่องของภาษี....หลังหักจ่ายภาษีแล้วเป็นยังไง....
ไม่ได้คิดว่าอาชีพไหนรายได้จะมากกว่ากัน สิ่งที่สำคัญกว่าคือ สิ่งไหนเป็นคำตอบของชีวิตมากกว่า
สิ่งไหนเป็นการเติมเต็มชีวิตมากกว่า

PoomVios45 22 พฤศจิกายน 2010 11:22

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ kabinary (ข้อความที่ 103749)
อาชีพ ติวเตอร์รุ่งสุดๆ หมอบางคนยังทิ้งเข็มมาเปนติวเตอร์เลย 555+

เห็นด้วยคร๊าบบบบบบ

Suwiwat B 22 พฤศจิกายน 2010 20:57

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ PoomVios45 (ข้อความที่ 103859)
เห็นด้วยคร๊าบบบบบบ

ขอเห็นด้วยอีกคนนะครับ :great:

กิตติ 23 พฤศจิกายน 2010 09:56

ข้อมูลที่บทความตั้งใจเสนอนั้น ผมรู้สึกไม่ชอบใจยังไงไม่รู้ ในแง่ของการเอาตัวเลขเงินเดือนมาชี้วัด เพื่อจะบอกอะไรหรือครับ
อาชีพนี้รายได้ดีกว่าอาชีพนั้น เพื่ออะไรครับ มันชี้ชัดเลยว่าสังคมเราเดี๋ยวนี้เป็นสังคมที่เอาเงินเอาวัตถุเป็นตัวตั้ง มันง่ายไปหรือเปล่าครับที่บอกว่าอาชีพนี้เงินเดือนสูง กว่าจะผ่านขั้นตอนผ่านการรับรองจนเข้าสู่แต่ละอาชีพนั้นมีความยากลำบากเช่นเดียวกัน และการจะดำรงอาชีพนั้นต่อไปนั้น นอกจากความรู้แล้วยังมีปัจจัยอื่นอีก อาชีพแต่ละอาชีพก็มีความเสี่ยง เรากำลังชี้ทางให้เด็กอยากเป็นโน่นเป็นนี่ด้วยเอาผลตอบแทนเป็นที่ตั้ง น่ากลัวครับ
สำหรับผมแต่ละอาชีพมีเกียรติเท่าเทียมกัน ผมก็คงทำอาหารสู้คนเปิดร้านอาหารขายไม่ได้ ผมคงตัดผมไม่เก่งเท่ากับช่างตัดผม....ทุกอาชีพมีเกียรติและความภูมิใจในอาชีพเช่นเดียวกัน
ลูกผมสองคนอายุสิบกว่าขวบ ก็มีความเห็นไปตามกระแส อยากทำอาชีพนี้อาชีพนั้น เพราะรายได้ดี
สังคมกำลังจะเดินไปในทางไหนกันหนอ.....

pure_mathja 23 พฤศจิกายน 2010 18:14

อาชีพคุณครู

ครูทั่วประเทศมีทั้งหมด 432,942 คน

ระดับ คศ.3 (ชำนาญการพิเศษ) มีจำนวน 100,818 คน คิดเป็น 23.29%
ขั้นต่ำ 18,910 บาทขั้นสูง 50,550 บาท + วิทยฐานะ 5,600 x 2 = 11,200 บาท
เทียบเท่า >>>> ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ขั้นสูง 50,550 บาท
>>> เงินเดือนรวม 61,750 บาท ซึ่งเป็นครู 1 ใน 4 ของประเทศเรา

ระดับ คศ.4 (เชี่ยวชาญ) มีจำนวน 1,275 คน คิดเป็น 0.29%
ขั้นต่ำ 23,230 บาท ขั้นสูง 59,770 บาท + วิทยฐานะ 9,900 x 2 = 19,800 บาท
เทียบเท่า >>>> รองศาสตราจารย์ขั้นสูง 59,770 บาท
>>> เงินเดือนรวม 79,570 บาท ซึ่งเป็นครูไม่มากของประเทศเรา


ระดับ คศ.5 (เชี่ยวชาญพิเศษ)
มีจำนวน 3 คน >> ณ วันนี้เหลือแค่ 2 คนละ
(สูงสุดแล้ว)
ขั้นต่ำ 28,550 บาท ขั้นสูง 66,480 บาท + วิทยฐานะ 15,600 x 2 = 31,200 บาท
เทียบเท่า >>>> ศาสตราจารย์ ระดับ 9-10 64,340 บาท
>>>> ศาสตราจารย์ระดับ 11 66,480 บาท


สรุป เงินเดือนครูก็ใกล้แสนเหมือนกัน 66,480 + 31,200 = 97,680 บาท ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
แต่จะมีใครรู้ว่าเงินเดือนครูเป็นแบบนี้บ้างอะ
ฝากไว้อีก 1 อาชีพนะครับ

krutuay 24 พฤศจิกายน 2010 14:48

อาชีพครูกว่าจะไปถึงระดับ คศ.3 ต้องใช้เวลาอย่างน้อย เป็น 10 ปี ก่อนจะถึงตรงนั้น ก็ต้องรับเงินเดือน 7,960 บาท ค่าครองชีพ 1500 บาท
รวมแล้วก็ 9,460 บาท และค่อยๆ ไต่ไปเรื่อยๆ ซึ่งอยู่ที่ความพอใจของผู้บริหาร และความไม่แน่นอนของหลายฝ่ายที่ขนนโยบาลมั่วๆ ออกมา
ซึ่งผมมองว่าคนที่มาเป็นครูเขาคงไม่ได้มองที่ตรงนี้เป็นสำคัญ (ยกเว้นที่เป็นแล้วและกำลังเรียกร้องปรับเงินเดือน)
แต่ปัญหาของครูจริงๆ คงเป็นปัญหาเรื่องภาษีสังคมและหนี้สินที่มีมากมาย มากกว่า

pure_mathja 24 พฤศจิกายน 2010 20:09

ที่ผมยกอาชีพนี้มาเพื่อให้เห็นถึงข้อมูลนะครับ เพื่อให้หลายๆ คนได้รับทราบข้อมูลกัน
ปัจจุบัน start 8,700 รวมค่าครองชีพ 1,500
พอครบ 2 ปีเค้าปรับเงินเป็น 11,930 บาทนะครับ

ตอนนี้ก็มีการส่งเสริมมาที่ครูกันเป็นส่วนมาก ด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้ว
คนอีกหลายๆ คนชอบบอกว่าเงินเดือนครูน้อยๆ ข้าราชการทุกระดับก็น้อยเหมือนกันหมดนะครับ
แพทย์ นายร้อยจบใหม่ ครู ที่รับราชการก็เท่ากันหมด
แต่ก็ไม่เป็นที่ยอมรับกันในอาชีพครู ทั้งๆที่ทุกๆ อย่างก็ส่งเสริมหมด

ในความคิดของผมเองอาีชีพ ครู อีกไม่นานก็จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ด้วยการผลักดันจากหลายๆ ด้าน แต่ขึ้นอยู่กับว่า เด็กคนใดจะเห็นช่องทางและมองออกมากกว่ากัน
การเป็นครูก็ต้องพร้อมด้วยกายและใจ อยู่ไหนก็อยู่ได้ลูกศิษย์มากมาย

อีกไม่นานครูไทยเกินครึ่งก็อาจจะไม่ลำบากเหมือนเก่า เพราะตอนนี้ 1 ใน 4 ก็สบายด้วยเงินเดือนไปละ
พูดเรื่องนี้แล้วยาวครับละเอียดอ่อนมาก (เรื่องเงิน กับ จิตใจความเป็นครู)

ผมแค่นำเสนอ 1 อาชีพที่น่าสนใจและมาแรงในแวดวงข้าราชการไทยเท่านั้นเองครับ

ครูนะ 24 พฤศจิกายน 2010 21:50

ประเทศไทย จะวัดคนที่เงิน เอาเงินเป็นตัวตั้ง

คนเป็นครูก็อยากมีเงินมากๆ เพราะบางทีลูกศิษย์ไม่เคารพครูเพราะครูจน

ลูกศิษย์มีพ่อเป็นเจ้าของโรงงาน รวยมากจะทำอะไรก็ได้

และที่สำคัญคนจน จะถูกเอาเปรียบและถูกทำร้ายมาก เกิดวงจร โง่ จน เจ็บ

ตั้งแต่แนวคิดของคนไทยที่หล่อหลอมมาว่าต้องแย่งชิง ต้องอยู่รอด เพราะทรัพยากรมีจำกัด

ดังนั้น อะไรที่แย่ๆ เลวๆ คนไทยส่วนใหญ่ทำตามกันหมด ใครทำดีจะถูกกลั่นแกล้งและถูกหาว่าโง่

ผมเห็นด้วยกับคุณกิตติครับ

ไอ้ความคิดแบบนี้เมื่อไหร่จะหมดไปซะที แล้วคนไทยส่วนใหญ่คิดอยากจะทำอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องเหนื่อยและได้เงินมาก

มีการแบ่งว่าอาชีพนั้นดีกว่าอาชีพนี้ เพราะเงินมากกว่า

ข้าราชการสาย ก ดีกว่าสาย ข สาย ข ดีกว่าสาย ค

มีการดูถูกและกดหัวกันอย่างมาก ไม่รูปแบบใดก็แบบหนึ่ง จะเรียกว่าชนชั้นก็ได้ครับ

ข้าราชการไทยโกงกิน ไปร่วมมือกับนักธุรกิจ เพราะเงิน ส่วนนักธุรกิจก็อาศัยข้าราชการ

ทำให้ไม่ต้องเสียภาษี หรือแลกกับผลประโยชน์บางอย่างในทางธุรกิจ คงต้องมองแล้วว่ามันคุ้มที่

จ่ายให้ข้าราชการ นักการเมืองก็โกงกิน คิดจะทำลายชาติบ้านเมืองท่าเดียว

ระบบการศึกษาไทยทุกวันนี้เละเทะ จนเยาวชนส่วนใหญ่พิการทางสมอง

ท่าจะเป็นความคิดของผู้นำไทยบางคนมั้ง ที่อยากให้เป็นแบบนี้

อนาคตครูต้องเรียน 6 ปี และมีการจะปรับเงินเดือนครูขั้นต่ำเป็น 15,000 บาทต่อเดือน

ไม่รู้ว่าเอาอะไรคิด เพราะการเป็นครูมันอยู่ที่จิตวิญญาณไม่ใช่ให้เรียนหลายปีจบแบบนี้

ที่อยู่ในระบบ ที่มีจิตวิญญาณความเป็นครูจริงๆ มีน้อยมากครับ

บางคนไม่สมควรได้ คศ.3, 4, 5 ก็ได้ ถ้าดูจริงๆ แล้วจะรู้ว่าได้เพราะอะไร ส่วนใหญ่

พวกนี้ไม่ได้สนใจเด็กครับ สนแต่เงินและอำนาจ

ที่สำคัญเงินเดือนเยอะแต่ไม่ค่อยทำงาน

และตอนนี้โกงกินทุกองค์กร ใครรวย ใครมีอำนาจคนยกย่อง ไม่สนว่าจะรวยหรือมีอำนาจมาจากไหน

แม้แต่รูปปั้นตำรวจอุ้มเด็ก ยังต้องรับของเซ่นจากประชาชน เพียงเท่านี้ก็มองออกแล้วครับ

ว่าประเทศไทยจะไปทางไหน

หยินหยาง 24 พฤศจิกายน 2010 22:58

ตอนแรกที่อ่านข่าวนี้ รู้สึกว่า มันเป็นข่าวที่ไม่ควรจะมาทำเป็นข่าว อันเนื่องมาจากความรู้สึกที่ว่า เป็นข่าวที่อาจทำให้คนเสพข่าวนี้เข้าใจคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากข้อมูลที่ผิดพลาดหรือไม่ครบ ขาดซึ่งการกลั่นกรองอย่างมืออาชีพ เพราะมีการพาดหัวว่า พบ 8 อาชีพเงินเดือนเกินแสน นักบินมาอันดับหนึ่งส่วนผู้จัดการฝ่ายฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์รายได้สูง กว่าซีอีโอ ขณะที่นักคณิตศาสตร์เงินเดือนมากกว่าหมอ อย่างแรกที่ขัดกับความรู้สึกก็คือ เงินเดือนของ ผู้จัดการฝ่ายฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์รายได้สูง กว่าซีอีโอ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ โดยทางทฤษฎีหรือทางปฏิบัติก็แล้วแต่ เพราะซีอีโอคือเบอร์หนึ่งของบริษัท นั่นหมายถึงความรับผิดชอบสูงสุดในองค์กร หลักของการจ่ายเงินเดือนไม่ว่าที่ไหนก็ใช้หลักนี้ทั้งนั้น ยกเว้นบริษัทเล็กๆหรือครอบครัว การพิจารณาเงินเดือนนั้น เค้าดูจาก

1. ความรับผิดชอบ ก็คือตำแหน่งหน้าที่ในการทำงาน
2. ความสามารถและประสบการณ์ และวิสัยทัศน์ ภาวะผู้นำ
3. ความเสี่ยงรวมถึงลักษณะของงาน และความขาดแคลนในสายอาชีพนั้นมีมากน้อยขนาดไหน
4..
เอาแค่ 3 ข้อก็คงเป็นไปไม่ได้ ลองคิดดูกันเล่นๆ ซีอีโอต้องปรับเงินเดือนผู้จัดการฝ่ายฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ซึ่งเป็นลูกน้องให้มีเงินเดือนสูงกว่าตัวเอง ซึ่งถ้าเป็นข้อมูลตามที่ว่าจริงก็แสดงว่าน่าจะมาจากคนละองค์กรซึ่งมีฐานข้อมูลที่แตกต่างกัน ซึ่งอย่างนี้ในการทำวิจัยไม่ควรนำมาเปรียบเทียบเพราะไม่เกิดประโยชน์แต่หากจะนำมาใช้ก็ต้องระบุให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้คนอ่านเข้าใจคลาดเค ลื่อนได้ ซึ่งถือเป็นสาระหลักของการวิจัย
อีกอย่างสิ่งที่ควรระบุอย่างยิ่งในข่าวควรเป็นจำนวนตัวอย่าง ในแต่ละอาชีพ ขนาดขององค์กรโดยอาจแบ่งจากยอดรายได้ของบริษัทก็ได้ อายุการทำงานในอาชีพนั้น เป็นต้น ซึ่งอย่างนี้ถึงจะทำให้เห็นถึง career path ของอาชีพนั้นว่าต้องทำถึงเท่าไร อย่างอาชีพนักบิน ก็ควรระบุด้วยเป็นกัปตัน หรือผู้ช่วยนักบิน และเงินเดือนนักบินก็มีการแบ่งอีกเพราะจะมีอีกส่วนที่ให้กับนักบินคือค่านำขึ้นเครื่องและลง ต่อเที่ยวบิน ซึ่งไม่น้อยครับ ถ้าไม่ได้ทำการบินก็ไม่ได้
ส่วนเรื่องค่านิยมหรือทัศนคติต่ออาชีพต่างๆนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสังคมครับ และผมก็ไม่เชื่ออีกครับว่าเงินเดือนหมอจะน้อยกว่านักคณิตศาสตร์ ผมไม่รู้ว่าใช้ตัวอย่างจากไหน หรือสุ่มตัวอย่างจากไหน หมอผ่าตัดหัวใจ ผ่าแต่ละเคส ก็ได้ครั้งละเป็นหมื่นแล้วครับ นักคณิตศาสตร์บางครั้งทำงานทั้งปียังไม่เท่าหมอบางคนทำแค่เดือนเดียว แต่ถ้านักคณิตศาสตร์ที่มักมีคนพูดถึงอยู่บ่อยว่ามีเงินเดือนสูงก็จะเป็นนักคณิตศาตร์ประกันภัย ซึ่งพวกนี้ต้องไปสอบเอาใบ cert. มานะครับ ถึงจะได้เงินเดือนเป็นแสน แต่ทั้งประเทศไทยตอนนี้ผมว่านับคนได้(ถ้าจำไม่ผิดเคยอ่านข่าวเมื่อปีที่แล้ว 6คนครับ) รู้สึกว่าจะยาวไปละ พอก่อนครับ:):)

krutuay 24 พฤศจิกายน 2010 23:14

ขอบคุณคุณ pure_mathja ที่นำข้อมูลที่ถูกต้องมานำเสนอ
เงินเดือนครูวุฒิป.ตรีทุกวันนี้ เริ่มที่ 8700 บาท และค่าครองชีพอีก 1500 บาท
ส่วนวุฒิป.โท เริ่มที่ 9700 บาท ขอโทษด้วยครับที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง

nooonuii 24 พฤศจิกายน 2010 23:43

เห็นด้วยกับคุณ ครูนะ ในหลายประเด็น

คนไทยเราส่วนใหญ่สนใจแต่ ทำเงิน แต่ไม่ยอม ทำงาน ครับ

หากย้อนกลับไปดูหลายๆเหตุการณ์ในบ้านเมืองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

จะเห็นว่าคนไทยเราเป็นอย่างนี้จริงๆ เศร้าใจ แต่ยังไม่สิ้นหวังครับ

Keehlzver 25 พฤศจิกายน 2010 11:55

จะเข้ามาบอกว่าเห็นด้วยกับคุณกิตติทุกเเง่มุม


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 12:43

Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha