ข้อ 9
สังเกตว่าหลักสิบไม่โดนสลับ เมื่อบวกกับตัวมันเองจะได้ตัวเลขที่เป็น 2 เท่าของเลขโดดในหลักสิบ ดังนั้น หลักร้อยและหลักหน่วยบวกกันจะต้องได้ 2 เท่าของหลักสิบ หลักสิบเป็นเลข 1 : 210 หลักสิบเป็นเลข 2 : 123, 321, 420 หลักสิบเป็นเลข 3 : 135, 531, 234, 432, 630 หลักสิบเป็นเลข 4 : 147, 741, 246, 642, 345, 543, 840 หลังจากนั้น ถ้าหลักสิบเป็นเลข 5 ก็จะมีตัวทด และทำให้ผลบวกไม่ได้ตรงตามเงื่อนไข นับดูแล้วมี 16 จำนวนที่ตรงตามเงื่อนไข |
ข้อ 10
1. แต่ละจำนวนประกอบด้วย เลขโดดไม่ซ้ำกัน 3 ตัว 2. เลขโดดแต่ละตัวเป็นจำนวนเฉพาะ 2 3 5 7 3.แต่ละตัวมีเลขโดด ในหลักร้อยและหลักหน่วยต่างกะนอยู่ 3 ก็มี 5 และ 2 ก็จะได้ 572 532 275 235 4.จำนวนหนึ่ง หาร 7 ลงตัว และอีกจำนวนหนึ่ง หาร 11 ลงตัว 572 และ 275 หาร 11 ลงตัว 532 หาร 7 ลงตัว ถ้าเลือก 572 และ 532 ตอบ 40 แต่ถ้าเลือก 275 และ 532 ตอบ 257 |
1 ไฟล์และเอกสาร
|
ข้อ 8
136-40 = 96 216-136 = 80 216 - 40 = 176 หา ห.ร.ม. ของ 96, 80 และ 176 ได้ 16 ตอบ 16 |
1 ไฟล์และเอกสาร
อ้างอิง:
|
1 ไฟล์และเอกสาร
Attachment 11173
$c = 48$ $d = 12$ $(c*d) = (48 \div 3) + (12 \times 2) = 16 + 24 = 40$ edit ทำไม่จบ $(c*d) +3 = 40+3 = 43 $ |
ข้อ 7
วิธีแรก ให้สองจำนวนเป็น $4a$ และ $a$ (เพราะจะหารกันได้ 4) จาก จำนวนสองจำนวนคูณกันได้ 256 จะได้ $4a\times a = 256$ นั่นคือ $a^2 = 64$ ดังนั้น $a = 8$ และ $4a = 32$ ตอบ 8+32 = 40 วิธีที่สอง คิดแบบเด็กประถม ก็ไล่ตัวประกอบของ 256 เอาเลยครับ :haha: (อาจจะใช้การแยกตัวประกอบช่วย) ซึ่งตัวประกอบของ 256 ที่หารกันได้ 4 คือ 32 กับ 8 นั่นเอง |
1 ไฟล์และเอกสาร
ข้อ 6
ข้อนี้ตอบ 52 ซึ่งแสดงลำดับการคิดตามลูกศรในภาพที่แนบเลยครับ |
1 ไฟล์และเอกสาร
Attachment 11178
เลขโดดจำนวนเฉพาะ 2, 3, 5, 7 หลักร้อยกับหลักหน่วยต่างกัน 3 2x5 5x2 กรณี 2x5 235 หารด้วย 7 ไม่ลงตัว และหารด้วย 11 ไม่ลงตัว 275 หารด้วย 11 ลงตัว กรณี 5x2 532 หารด้วย 7 ลงตัว 572 หารด้วย 11 ลงตัว จับคู่ 572 กับ 532 ผลต่าง 40 จับคู่ 532 กับ 275 ผลต่าง 257 ข้อนี้มีสองคำตอบ 40 กับ 257 |
ข้อ 5
จาก $a\times b = a, a \not= 0$ จะได้ $b = 1$ จาก $8\times c = 1, b = 1$ จะได้ $c = \frac{1}{8}$ จาก $e + b = b$ จะได้ $e = 0$ จาก $d - 5 = e, e = 0$ จะได้ $d = 5$ ดังนั้น $d\div c = 5\div\frac{1}{8} = 40$ |
ข้อ 4
$a = \frac{3}{5}$ $b = \frac{5}{9}$ $\frac{1}{a\times b} = \frac{1}{\frac{3}{5}\times\frac{5}{9}} = \frac{1}{\frac{1}{3}} = 3$ |
อ้างอิง:
35 จาก 40 ก็เตรียมสอบรอบสองได้เลยนะครับ ไม่ต้องรอประกาศผลรอบแรก :great: วิทย์ ได้แบบนี้หรือเปล่า :great: |
1 ไฟล์และเอกสาร
ข้อ 3
เนื่องจาก จำนวนจำนวนด้านบน(ตัวเศษ)แต่ละตัว เป็น 3 เท่าของจำนวนด้านล่าง(ตัวส่วน) ตามภาพที่แนบมาด้วย ดังนั้น ผลหารจึงมีค่าเป็น 3 ตอบ 3 |
คุณ banker ข้อ 11. น่าจะตอบ 43 นะ
เพราะ. C * d = 40. แต่โจทย์ถามว่า (c * d) + 3 = ? เลยคิดว่าต้องตอบ 43 ขออภัยถ้าผิดพลาด มือใหม่หัดเฉลย |
อ้างอิง:
|
เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 10:21 |
Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha