การเดินทางกลับบ้านครั้งนี้ เหตุการณ์ดูสงบกว่าที่คาดไว้ บนรถไฟไม่มีทหารเดินถือปืนเหมือนครั้งก่อน (อาจเป็นเพราะผมกลับเร็วกว่าปกติก็ได้
)
หนังสือที่ผมเลือกมาอ่านเล่มแรกคือ "ล่ารหัสมรณะ (Digital Fortress)" เขียนโดย แดน บราวน์ ผู้เขียนคนเดียวกับหนังสือ "รหัสลับดาวินซี" ที่โด่งดังมากจนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ที่กำลังจะเข้าฉายเร็วๆนี้ (แต่ผมก็ยังไม่เคยอ่าน
)
เป็นเรื่องเกี่ยวกับหน่วยงานถอดรหัส ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ (NSA) ที่มี ทรานส์แอลทีอาร์ สุดยอดเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่สามารถถอดรหัสใดๆ ในโลกนี้ได้สำเร็จโดยใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่แล้วความภาคภูมิใจเหล่านี้ก็หมดไป เมื่อมีบุคคลคิดค้นวิธีเข้ารหัสแบบหนึ่ง ซึ่งทำให้สุดยอดคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ ไม่สามารถถอดรหัสได้เลย และบุคคลนั้นกำลังประมูลขายเทคนิคการเข้ารหัสแบบนี้ หากคนทั้งโลกใช้วิธีการเข้ารหัสแบบใหม่นี้เมื่อใด ก็จะทำให้ฝ่ายถอดรหัสกลายเป็นง่อย ไม่สามารถดักอ่านอีเมลล์ของใคร แม้แต่เด็กประถม
หนังสือเล่มนี้บอกไว้ว่า ซีซาร์เป็นนักเข้ารหัสคนแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อคนเดินสารของเขาเริ่มถูกซุ่มโจมตี และข่าวลับของเขาถูกขโมยไป เขาจึงคิดค้นวิธีการง่ายๆในการเข้ารหัสคำสั่งของตน เขาเรียบเรียงข้อความเสียใหม่ เพื่อให้ดูไม่มีความหมาย แต่ละข้อความมักจะมีจำนวนตัวอักษร เป็นกำลังสองสมบูรณ์ คือ สิบหก ยี่สิบห้า หนึ่งร้อย ขึ้นอยู่กับว่าซีซาร์ต้องการสั่งความมากน้อยแค่ไหน เขาสั่งลูกน้องอย่างลับๆว่า ...
รหัสลับแบบง่ายๆอีกอันหนึ่งที่กล่าวถึงในหนังสือ คือการเลื่อนตัวอักษรไปข้างหน้า 1 ลำดับ เช่น
HL FKZC VD LDS จะกลายเป็น IM GLAD WE MET การเข้ารหัสง่ายๆแบบนี้ ถูกนำมาใช้กับการตั้งชื่อคอมพิวเตอร์ควบคุมยานอวกาศ ที่ชื่อ HAL ในเรื่อง 2001 A Space Odyssey ของผู้กำกับ Stanley Kubrick เช่นกัน คอมพิวเตอร์ตัวนี้จึงสื่อถึง IBM ยักษ์ใหญ่แห่งวงการคอมพิวเตอร์นั่นเอง
เนื่องจากมีเรื่องราวเกี่ยวกับด้าน IT อยู่พอสมควร จึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT อ่านแล้วสนุกกับมันยิ่งขึ้น ปมที่วางไว้ก็ไม่ได้ซับซ้อนจนถึงกับอ่านแล้วเครียด อ่านสบายๆ รวดเดียวจากบ่ายสามกว่าๆ จนถึงสี่ทุ่มก็จบแล้ว
สุดท้ายฝากรหัสลับอันสุดท้าย จากหนังสือเรื่องนี้เผื่อว่าใครอยากจะแกะดู
PFEE SESN RETM PFHA IRWE OOIG MEEN NRMA
ENET SHAS DCNS IIAA IEER BRNK FBLE LODI
นี่เป็นการเข้ารหัสแบบโบราณของซีซาร์ สังเกตได้จากจำนวนตัวอักษรเป็น กำลังสองสมบูรณ์ คือ 4*16=64 ตัวอักษร ซีซาร์สั่งลูกน้องอย่างลับๆว่า เมื่อไรที่ข้อความมาถึง พวกเขาจะต้องแปลงข้อความเป็นตารางเลขยกกำลังสอง และเมื่อทำเสร็จแล้วก็ให้อ่านจากบนลงล่าง แล้วข้อความลับนั้นก็จะปรากฎแก่สายตาได้อย่างน่าอัศจรรย์
เราจึงนำข้อความมาเขียนลงบนตารางขนาด 8x8
\[\begin{array}{cccccccc}
P & F & E & E & S & E & S & N \\
R & E & T & M & P & F & H & A \\
I & R & W & E & O & O & I & G \\
M & E & E & N & N & R & M & A \\
E & N & E & T & S & H & A & S \\
D & C & N & S & I & I & A & A \\
I & E & E & R & B & R & N & K \\
F & B & L & E & L & O & D & I
\end{array}\]
เมื่ออ่านจากบนลงล่าง ตัดคำ และเว้นวรรคให้ถูกต้อง ก็จะกลายเป็นข้อความว่า
PRIME DIFFERENCE BETWEEN ELEMENTS RESPONSIBLE FOR HIROSHIMA AND NAGASAKI