ข้อ 19
$1+3=4$
$1+3+5=9$
$1+3+5+7=16$
$1+3+5+7+..+(2n-1)=n^2$ ;ใช้อุปนัยพิสูจน์ได้ แต่น่าจะเกิน ม.1
$1+3+5+7+..+k=(\frac{k+1}{2})^2$
$351+353+355+..+499 = (1+3+5+7+..+499)-(1+3+5+7+..+349)$
$1+3+5+7+..+349=(\frac{349+1}{2})^2$
$1+3+5+7+..+499=(\frac{499+1}{2})^2$
$351+353+355+..+499 = (\frac{499+1}{2})^2-(\frac{349+1}{2})^2$
$=(\frac{500}{2})^2-(\frac{350}{2})^2$
$=250^2-175^2$
$=(250+175)(250-175)$ ;a^2-b^2=(a+b)(a-b)
ปล. ข้อ 20 เราว่าอาจมีปัญหา ถ้าตัวเลือกที่หนึ่ง เจอ intersex หรือ ambiguous genitalia
ข้อ 9 ให้ลากเส้นที่มีลูกศรหนึ่งบังและสามบัง ยาวออกไปจนตัดกันเป็นสี่เหลี่ยมด้านขนานที่มีประกอบไปด้วยเส้นหนึ่งบังขนานกันและเส้นสามบังขนานกัน
03 มีนาคม 2016 18:56 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ ohmohm
|