ความคิดเห็นของผมนะครับ
1. คงไม่ต้องถามว่าง่ายไหม ไม่ง่ายครับ โดยเฉพาะน้องๆที่มุ่งหวังจะทำโจทย์ตามหลักสูตรเท่านั้น พอเจอปัญหานอกหลักสูตร ก็จะขอผ่านปัญหาเหล่านี้หมด ทั้งที่จริงแล้วมันไม่เกี่ยวกับในหลักสูตรหรือนอกหลักสูตรเลย หากเห็นเฉลยปัญหาแต่ละข้อ ถามว่าอ่านเข้าใจไหม มีตรงไหนใช้ความรู้นอกเหนือจากที่เรียนมาหรือไม่ ก็ไม่ใช่อีก แสดงว่าความรู้ในหลักสูตรที่ได้เรียนมา เพียงพอต่อการแก้ปัญหาใช่หรือไม่ เนื่องจากมีปัญหาในโลกนี้มากมาย ที่ไม่สามารถใส่ลงในหลักสูตรได้ทั้งหมด ดังนั้นเราไม่ควรจำกัดความสามารถในการแก้ปัญหา เพียงแค่ว่ามันไม่อยู่ในหลักสูตร
ผมไม่ได้มุ่งหวังให้แก้ปัญหาได้ทุกข้อ เนื่องจากทุกคนมีภาระหน้าที่ของตน มีเวลาจำกัด แต่อย่างน้อยก็ควรจะได้เลือกปัญหาที่คิดว่า ตนน่าจะทำได้ ควรจะทำได้ มาลองเล่นกับมันสักหน่อย อย่ามัวแต่สนุกกับปัญหาที่ตนพอจะรู้แนวทางแก้อยู่แล้ว หรืออย่าหลงยึดติดกับสูตรใดๆ ลองหาปัญหาใหม่ที่สร้างความท้าทายให้กับตนเอง มาฝึกปรือจะดีกว่าไหม
เรื่องระดับความยากง่ายนั้น อยู่ที่พวกเราว่าจะวาง Mathcenter Contest ไว้ในระดับไหน จากปัญหาที่ส่งเข้ามา ผมเองพยายามเลือกปัญหาที่แปลกใหม่ ดูแล้วท้าทายดี และเป็นคนละแนวกับการแข่งขันอื่นๆ เพื่อจะได้ไม่ซ้ำซากจำเจ และเป็นทางเลือกกับผู้ที่แสวงหาความแปลกใหม่
2. ระยะเวลาผมคิดว่า แต่ละรอบประมาณ 3 - 4 เดือน ปีหนึ่งก็จะมีประมาณ 3 - 4 รอบ น่าจะกำลังดี
4. ผมว่าปัญหาข้อนี้แก้ได้ยากครับ เอาเฉพาะให้มีสมาชิกมาร่วมตอบปัญหาในเว็บบอร์ดแบบมีสาระ มากกว่าคุยเรื่อยเปื่อยก็มีน้อยแล้วครับ มีข้อสังเกตคือสมาชิกที่ร่วมตอบปัญหาแบบมีสาระ ส่วนใหญ่จะมาร่วมแข่งขันกันถ้วนหน้า นั่นก็หมายความว่าหากเราสามารถสร้างสมาชิกกลุ่มนี้ ให้มากขึ้นได้ ก็จะมีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากขึ้นครับ
เกือบลืม ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ สมาชิกกลุ่มนี้ล้วนแต่เป็นเด็กในค่ายทั้งนั้นเลย เรียกได้ว่าทุกคนมีความก้าวหน้าตามความฝันของตน
สำหรับน้องๆที่กลัวการแสดงความคิดเห็นในเว็บบอร์ด ด้วยคิดว่าการถามในสิ่งที่ตนไม่รู้ จะเป็นการแสดงความโง่เขลาของตนเองออกมา อยากให้เปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะตราบใดที่เราไม่ถาม เราก็จะไม่รู้ตลอดกาล จงยอมรับว่าไม่มีใครรู้ไปหมดทุกเรื่อง และคนอื่นๆจะต้องมีเรื่องราวมากมายที่เราไม่รู้ การได้แลกเปลี่ยนความรู้ โดยเฉพาะการถ่ายทอดความรู้ของเราออกมา จะช่วยให้เรามีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นยิ่งขึ้น มากกว่าการที่เก็บความรู้นั้นไว้กับตัว เพราะอะไรหรือ ก็เพราะเราจะต้องพิจารณาความรู้นั้นในหลายแง่มุม เพื่ออธิบายให้กับคนอื่นๆที่มีความสามารถเรียนรู้ต่างกัน และเราจะต้องเจอกับคำถามทดสอบความเข้าใจที่มีอยู่ว่า เราเข้าใจมันได้ลึกซึ้งพอหรือยัง
ผมเคยคิดแก้ปัญหาข้อนี้ด้วยการ ให้สมาชิกมาลงชื่อขอเปิดการแข่งขัน Mathcenter Contest หากมีคนลงชื่อไว้มากพอ ก็จะเปิดการแข่งขันในระดับที่มีการขอลงชื่อไว้ ระดับใดไม่ลงชื่อแสดงว่ายังหาผู้เข้าร่วมแข่งขันไม่ได้ เปิดไปก็เท่านั้น หากทำตามนี้ผมเกรงว่าจะมีการแข่งขันอยู่ไม่กี่ระดับเท่านั้น
อีกแนวทางหนึ่งคือเปิดการแข่งขันตามปกติ โดยไม่ต้องสนใจว่าจะมีผู้เข้าร่วมแข่งขันหรือไม่ ผู้ที่เข้าร่วมแข่งขันก็จะได้ประโยชน์คือ ได้รับการตรวจคำตอบ คำแนะนำในการตอบ รวมถึงเฉลยที่ถูกต้อง ส่วนผู้ที่ขอดูอย่างเดียว ก็ต้องรอจอมยุทธ์ใจดีมาเฉลยปัญหาให้ หากจอมยุทธ์ไม่ปรากฎตัว ก็คงได้แต่ตัวปัญหาไปนั่งดูต่อไป