ดูหนึ่งข้อความ
  #8  
Old 15 พฤษภาคม 2007, 19:38
passer-by passer-by ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 เมษายน 2005
ข้อความ: 1,442
passer-by is on a distinguished road
Smile

ผมตัดบางช่วงของเนื้อข่าวจาก นสพ. วันนี้ เกี่ยวกับเบื้องลึกสาเหตุการตายของ เด็ก ม.6 ที่เล่าไว้ข้างบน มาให้อ่านกันครับ
------------------------------------------------------
ช่วงเย็นวันที่ 12 พ.ค. นายจิรัฎฐากรณ์ ลูกชาย ได้รับข้อความจากเพื่อนแจ้งให้ทราบว่าไม่ติดคณะวิศวกรรมจุฬาฯ ที่ไว้อันดับ 1 แต่ไปติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เลือกไว้อันดับ 2 ทำให้นายจิรัฎฐากรณ์เครียดมากถึงกับร้องตะโกนออกมาเสียงดังว่า เมื่อสอบเข้าจุฬาฯไม่ได้ก็จะขอตาย พร้อมขออนุญาตตนและผู้เป็นพ่อว่า ลูกขอตาย เพราะเมื่อไม่ได้เรียนในมหาวิทยาลัยที่ชอบ หากเรียนไปก็ไม่มีความสุข พร้อมบอกด้วยว่า เหตุผลการตายไม่ใช่คนโง่ แต่จะทำให้ผู้ใหญ่ ในบ้านเมืองได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของเด็กๆ ที่ต้องมารับผลของการบริหารงานจัดระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ผิดพลาดแล้วให้เด็กเป็นผู้รับกรรม

แม่ผู้สูญเสียลูกชายกล่าวด้วยว่า หลังได้ยินคำพูดของลูกชายถึงกับตกใจมาก พยายามพูดปลอบใจว่า เมื่อสอบติดที่ไหนก็เรียนไปตามนั้น แต่ผู้ตายตอบกลับว่า เมื่อปีที่แล้วสอบได้คะแนนดี ประกาศครั้งแรกคะแนนสูง จนสามารถจะเลือกคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้ตามความตั้งใจ แต่เมื่อประกาศครั้งที่ 2 ทำให้คะแนนตกลงมากจนเข้าไม่ได้ ต้องเรียนที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม กรุงเทพฯแทน กระทั่งมีการสอบโอเน็ต-เอเน็ตใหม่ เมื่อคะแนนออกมาต่ำไม่สามารถที่จะเข้าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้ตามที่ตั้งความหวังไว้ครั้งแรก จึงหันไปเลือกคณะวิศวกรรม จุฬาฯ เป็นอันดับ 1 แต่เมื่อผลสอบออกมาไม่ได้อีกจึงรู้สึกผิดหวังเพิ่มเป็นทวีคูณ และคิดว่าสาเหตุทั้งหมดมาจากผู้ใหญ่บริหารงานไม่ดีไปลดคะแนนของเด็ก ทำให้หลายคนสอบเข้าคณะที่ตนเองชอบไม่ได้

นางภาพรกล่าวอีกว่า การตายของลูกชายครั้งนี้ไม่ใช่ได้รับความกดดันจากพ่อแม่ เพราะเป็นลูกคนเดียว จึงปล่อยให้ลูกเป็นอิสระในการเลือกเรียน ต้องการซื้ออุปกรณ์การเรียนอะไร พ่อแม่จัดให้หมด ไม่เคยบังคับลูกว่า จะต้องเรียนคณะไหน แต่ที่ต้องมาตายเพราะผู้ใหญ่ไม่รับผิดชอบ จัดระบบการศึกษาพลาดแล้วปล่อยให้เด็กต้องมาตายสังเวยต่อการบริหาร อยากขอร้องว่า ขอให้การตายของลูกตนครั้งนี้เป็นบทเรียน และเป็นคนสุดท้ายต่อความผิดพลาดของผู้ใหญ่ และขอให้เด็กๆ ที่สอบไม่ติด อย่าได้คิดสั้นอีกเลย เพราะจะทำให้พ่อแม่ต้องชอกช้ำ เสียใจต่อการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตเป็นอย่างมาก และขอเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ออกมาแสดงความรับผิดครั้งนี้ด้วย

--------------------------------------------------

นอกจากสิ่งที่ผมพูดไว้ก่อนหน้าแล้ว จากข่าวนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่า โรคเสพติดสถาบัน ยังมีอยู่ทุกยุคทุกสมัยจริงๆ
ผมอาจจะเป็นคนส่วนน้อยที่ไม่ค่อยซีเรียสกับสถาบันเท่าไหร่ และผมก็ได้ค้นพบว่าการเรียนใกล้บ้าน ช่างวิเศษจริงๆ (แต่ต้องควบคุมตัวเองได้ด้วยนะครับ )
__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้