มาสรุปความเห็นให้ จขกท. ครับ จากคำถามที่ว่า
แล้วทุกๆ คน ณ ที่นี้ที่มีความสนใจและรักในคณิตศาสตร์ทำอย่างไรถึงจะมาถึงจุดนี้ได้คะ?
ทุกคนคิดว่าเราควรทำอย่างไรดีคะ?
#2 ต้องลองซื้อหนัสือ
#3 เป็นเพราะพยายามทำคนเดียว เดินหน้าไปเรื่อยๆโดยขาดการแนะนำที่เหมาะสมและเพียงพอหรือเปล่าครับ
เขาว่ากันว่า เราจะเข้าใจเรื่องใดเรื่้องหนึ่งจริงๆ เมื่อเราสามารถพูดเล่าเรื่องดังกล่าวให้ใครก็ได้ฟังด้วยคำพูดของตนเองครับ
ง่ายๆก็คืออย่าพูดคนเดียวให้มาเล่าเรื่องให้ #3 ฟังได้ อ้อไม่ต้องห่วงนะว่าจะหายากเพราะคุณกับเค้า คนบ้านเดียวกัน
#4 เค้าจะบอกว่าไม่ยากถ้าเอาจริง ใช้เวลา 3 เดือนเท่านั้น
(ช่วงโปรโมชั่น +555)โดยยึกกฎเหล็กที่ต้องทำง่ายๆ 3 ข้อ
1.เขียนเองทุกวันด้วย
มือ(เพราะกลัวว่าจะใช้อย่างอื่นเขียนแทนมือ)
2.พูดทุกวันด้วย
ปาก (เพราะกลัวว่าจะใช้อย่างอื่นพูดแทนปาก)
3.
นั่งพิสูจน์ทฤษฎีบททุกทฤษฎีบททุกวัน
(ให้นั่งห้ามยืนหรือนอน)
#5 เมื่อรู้ดังนี้เราก็จะเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับโจทย์ได้อย่างรวดเร็ว เพราะที่พิมมาทั้งหมดนี้สมองใช้เวลาคิดแค่เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เป็นประโยคเด็ดครับเค้าคงต้องการจะบอกว่าที่พิมพ์มาทั้งหมดใช้สมองคิดเพียงไม่กี่วินาที
แล้วเวลาที่เหลือทำอะไรครับ คำตอบ
คือไม่ได้คิด ไม่ต้องตกใจเพราะคิดเสร็จแล้วไง+555
#6 ตำราไทยอ่านไม่รู้เรื่อง (สมัยที่#6ใช้เรียน ไม่รู้ใช้สสวท.หรือเปล่า เพราะสสวท มีตั้งแต่ ปี2515 เริ่มผลิตตำราน่าจะประมาณ2519 ปรับปรุงหลักสูตรเรื่อยมา อาจต้องถามท่าน สว หรือคุณเล็กปีเถาะ ว่าเคยเห็นตำราเขียนแบบนี้มั้ย
) ตำราอินเตอร์เข้าใจง่าย จขกท ต้องสรุปเอาเองช่วยไม่ไหวเพราะผมก็งงเหมือนกัน +555 แต่ที่แน่ๆใจความอยู่ที่
สรุปมาเป็นภาษาง่ายๆแบบที่ตัวเองสัมผัสได้ พออ่านแล้ว "รู้สึก" ไปกับมัน
#7 คือมาตอบ #6
ปล.อย่าซีเรียสเพราะมันคือกระทู้ฟรีไสต์ ถ้ากระทู้นี้ส่อไปทางไม่ดีก็ลบได้เลยนะครับ
แล้วทุกๆ คน ณ ที่นี้ที่มีความสนใจและรักในคณิตศาสตร์ทำอย่างไรถึงจะมาถึงจุดนี้ได้คะ?
ผมคิดว่าสิ่งที่คุณถามอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการก็ได้ ผมเข้าใจว่าคุณเพียงติดปัญหาในการเรียนและไม่สามารถทำโจทย์หรือ ทำข้อสอบได้ เพียงแต่คุณคิดว่าคนในที่นี้เก่งสามารถทำโจทย์ได้ และคิดว่าเขารักคณิตศาสตร์ เมื่อคุณเหมือนเขา คุณก็จะทำโจทย์ได้ ถ้าใช่ตามความคิดที่ผมคาดเดาก็ไม่จำเป็นต้องรักคณิตศาสตร์ก็ได้ครับ
มุ่งประเด็นไปที่ปัญหาน่าจะง่ายกว่า เพราะโดยปกติส่วนใหญ่ที่รักคณิตศาสตร์นั้นมาจากการที่เข้าไปมีส่วนรวมกับกิจกรรมทางคณิตศาสตร์แบบซึมซับ(ไม่ว่า การแข่งขัน การเข้าค่ายคณิตศาสตร์ หรือการทำโจทย์อยู่เนื่องนิจ แล้วพบว่าสนุกในการทำคือทำได้หรือได้รับการยกย่องจากกิจกรรมนั้น ก็จะค่อยๆชอบและรักมันเอง) กลับมาที่ปัญหาดีกว่า ที่เราทำโจทย์ไม่ได้หรือไม่เข้าใจ เราเคยตอบคำถามตัวเองหรือไม่ว่าเรียนเรื่องนี้ บทนี้เสร็จมันต้องการบอกอะไรเรา ? อะไรเป็น คีย์เวิร์ดของเรื่องนี้ ? มีเกณฑ์อะไรเป็นตัวบอกว่าเราเข้าใจเรื่องนี้แล้ว ?โจทย์และแบบฝึกหัดที่ทำต้องการทดสอบอะไร และที่ทำไม่ได้เพราะอะไร? เป็นต้น และเราสามารถรู้ได้จากหลักสูตรที่เรียน ปัจจุบันหลักสูตรที่เราเรียนอยู่นั้นไม่ว่าจะเป็นวิชาอะไร จะมีสาระการเรียนรู้ทั้งนั้น และบอกว่าจบบทนี้แล้วหรือเรื่องนี้แล้วต้องรู้อะไรบ้าง อะไรเป็นเกณฑ์ที่ใช้วัด ถ้าเป็นคณิตศาสตร์ก็มักจะเป็นคำถามปลายเปิดเพื่อฝึกคิด เพราะเป็นส่วนหนึ่งของสาระการเรียนรู้ คือกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาตร์ด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของอาจารย์ผู้สอน แต่ก็มีหลายที่หลายโรงเรียนไม่เคยบอกให้เด็กได้รู้เลย ประกอบกับการอธิบายของอาจารย์บางท่านไม่สามารถนำไปสู่สาระการเรียนรู้หรือวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ได้ก็มี สังเกตได้จากคะแนน โอเนต แต่ละช่วงชั้น ที่มีคะแนนต่ำมาก(เป้าของ สทศ. ต้องการให้เด็กมีคะแนนเลี่ยไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 50 ทุกวิชาในปี 2562 ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ถ้ายังไม่รู้เรื่องที่ว่า ทาง สสวท ก็มีคู่มือ หาอ่านจากในนั้นได้ ลองหาซื้ออ่านดูก็ได้ครับ
ถ้าไม่อยากเสียตังค์ก็ลองดูจากที่นี่ครับ
http://www3.ipst.ac.th/secondmath/in...d=48&Itemid=67
อันนี้ของแถม
http://www3.ipst.ac.th/files_eng/Mat...EngVersion.pdf
ส่วนจะฝึกฝนอย่างไรความเห็นข้างบนก็ได้เสนอไปบ้างแล้วลองหยิบไปพิจารณาดูครับ