ดูหนึ่งข้อความ
  #1  
Old 29 กันยายน 2012, 06:47
passer-by passer-by ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 เมษายน 2005
ข้อความ: 1,442
passer-by is on a distinguished road
Default ปีแห่งการเดินทาง : Hat Yai & Singapore Focus

ปีนี้ เป็นปีที่ผมเดินทางบ่อยมากๆครับ หลักๆก็จะไป หาดใหญ่ กับ สิงคโปร์ เป็นประสบการณ์ที่มีครบทุกรสชาติ และ ขอหยิบยกบางมุมมอง ในทัศนคติของผม มาเล่าสู่กันฟังครับ

10 เรื่องของ HAT YAI ที่ต้องขยาย

ปีนี้ ผมมีธุระที่ต้องลงไปหาดใหญ่มาแล้ว 4 รอบครับ ในสายตาของเด็ก กทม.ชานเมืองอย่างผม หาดใหญ่มี direction การพัฒนาให้กลายเป็น กรุงเทพ สาขา 2 ที่ไม่มีรถไฟฟ้าครับ โดยรอบนอกก็คล้ายๆ ต่างจังหวัดทั่วไป แต่ไส้ใน จะเริ่มมีความเป็นเมืองมากขึ้น

ดังนั้น ใครที่คิดว่าจะมา shopping ที่หาดใหญ่ ขอให้สำรวจราคา เทียบกับกรุงเทพมาให้ดีนะครับ เพราะไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะถูกกว่ากรุงเทพ ผมเข้าใจว่า หาดใหญ่พยายามจะพัฒนาให้มีในสิ่งที่ กทม.มี ผมสังเกตว่า ทีนี่มีร้านหมอฟันเยอะมาก ใครที่อยากกิน Sukishi ,ยาโยอิ ,ราเม็ง แบบตามห้างในกรุงเทพ ที่นี่มีให้กินแน่นอนครับ

ที่หาดใหญ่จะมี คนจีน มาเลย์ สิงคโปร์เข้ามาเที่ยวไม่ขาดสายครับ (ผมว่าเยอะพอๆกับคนไทยมาเที่ยวอีกนะ) อาจจะเป็นเพราะ เขามาแล้วได้อารมณ์เหมือน กรุงเทพ และบินมาไม่ไกล แถมมาถึง ก็ได้ทำทุกอย่างแบบ one stop service ทั้งเที่ยว กิน ชอปปิ้ง ไหว้พระ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ หลายร้านที่นี่ จะมีป้ายภาษาจีนแนบข้างหลังเสมอ และเจ้าของร้านหลายคนพูดภาษาจีนได้

ผมได้รวบรวม 10 อย่างที่ต้องเอามาบอกต่อ จากการลงไปหาดใหญ่ เอาไว้เป็นข้อมูลประกอบการท่องเที่ยวของสมาชิกท่านอื่นนะครับ

10. คัตเอาท์หนังโรง : หากขับรถมุ่งตรงจากสนามบินมายัง ชุมทางรถไฟหาดใหญ่ หรือผ่านหน้าตลาดเทศบาลนคร ที่คนที่นี่เรียกกันว่า พลาซ่า จะเห็นคัตเอาต์หนังโรงที่กำลังฉายตอนนี้ เป็นฝีมือการวาดของคน ที่อาจจะเหมือนพระเอกตัวจริงบ้าง ไม่เหมือนบ้าง แต่ก็ให้อารมณ์คลาสสิคไปอีกแบบ และคงไม่มีให้เห็นในกรุงเทพแน่นอน

9. สยามนครินทร์ : เป็นห้างที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย (และข้ามถนนยากมาก) ส่วนตัวผมชอบห้างนี้นะ เพราะเวลาไม่รู้จะกินอะไร ก็จะมา food court ที่นี่ แล้วก็ข้างในจะมี super market อยู่ด้วย จุดเด่นของสยามนครินทร์ ที่ผมเห็นมี 2 อย่างครับ คือ จะมีชั้นนึง เป็น zone พวกอุปกรณ์ ไอที เหมือน I.T. Mall ในกรุงเทพ แต่เรื่องราคา ไม่ทราบเหมือนกันครับ และดูเหมือนเป็น I.T. Zone แห่งเดียวของหาดใหญ่ กับจุดเด่นอีกอย่างที่ผม surprise มากคือ มีร้านค้าแนวศึกษาภัณฑ์ผสม supermarket ตั้งอยู่ด้วย ข้างในมีครบ ทั้งอุปกรณ์ทดลองวิทยาศาสตร์ เครื่องดนตรี อุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์เตรียมค่ายลูกเสือ etc. บวกกับ ถ้วย ชาม หม้อ เครื่องครัว เรียกได้ว่า มาที่เดียวน่าจะได้ของครบนะครับ

8. ลูกพรุน : สินค้าที่ผมฟันธงว่า มาแล้วได้ราคาถูกกว่า กรุงเทพแน่นอน คือ ลูกพรุน Sunsweet ครับ ราคาจะตกห่อละ 60 -70 บาท ขึ้นกับร้านค้า วางขายในตลาดกิมหยงครับ แต่ตลาดใกล้เคียงก็มีเหมือนกัน (ในสยามนครินทร์ก็มีครับ) ถ้าซื้อกรุงเทพ อย่างต่ำก็ 100 บาท นอกจากลูกพรุน แล้วที่ค่อนข้างจะถูก อีกอย่างคือ ถั่ว พิตตาชิโอ้ครับ

7. Duty Free ชายแดน ไทย มาเลเซีย : อันนี้ นอกเรื่องนิดนึง เพราะ zone นี้ อยู่นอกหาดใหญ่ครับ แต่ยังอยู่ในสงขลา แถว อำเภอสะเดา ถ้าขับรถออกไปทางสะเดา จะเห็นสวนยางพารา สลับกับโรงงานอุตสาหกรรมครับ และถ้ามาจังหวะดีๆ จะได้เห็นพาเหรด รถ trailer บรรทุกของข้ามไปฝั่งมาเลเซีย จอดรอผ่านด่าน ยาวหลายกิโลเมตรเลยครับ บริเวณแถวนั้น ค่อนข้างเจริญนะครับ ผมได้ข้อมูลจากคนในหาดใหญ่ว่า เป็นนโยบายแม่ทัพภาค ที่แก้ปัญหาไฟใต้ โดยสร้างความเจริญให้ท้องถิ่น คนในท้องถิ่นจะได้ช่วยกันดูแล ไม่ให้เกิดเหตุระเบิด ไม่งั้นมันก็จะกระทบเศรษฐกิจของท้องถิ่นครับ
Duty free หรือร้านปลอดภาษี ที่ผมพูดถึง อยู่ฝั่งมาเลเซียครับ ขอบอกว่า มีคนไทยทำงานที่นี่เยอะมาก และมีของเลียนแบบบ้านเราเยอะมาก เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือ พวก แบรนด์ ที่ไม่ต้องตกใจว่า ทำไม นิชคุณกับ พีช พชร หน้าเปลี่ยนไป ของที่มีเยอะมากที่นี่คือ พวกเหล้า กับ พวกช็อคโกแลตครับ และไม่ต้องกลัวว่า จะต้องมาแลกเงินริงกิตมาเลเซียกันวุ่นวาย เพราะนอกจากค่าจอดรถแล้ว เวลาซื้อของทุกอย่าง สามารถจ่ายเป็นเงินไทยได้ครับ

6. สองแถว/ สามล้อครองเมือง : ถ้าไม่นับการเดิน พาหนะหลักของนักท่องเที่ยว ก็คือ สามล้อกับ สองแถวครับ อย่าได้หวังว่าจะเห็นรถเมล์ รถแท็กซี่แบบใน กทม. ถ้าเอาแบบราคาถูกก็ต้องสองแถวครับ ราคาประมาณ 10 บาท มาถี่มากๆ แต่ถ้าเอาแบบ 24 ชั่วโมง non stop service ก็ต้องสามล้อ แต่ราคาเป็นแบบตกลงกันเอง ไม่มีมิเตอร์ ดังนั้นต้องระวังเรื่องการโก่งราคานะครับ ส่วนตัวผม มาที่นี่ จะนั่งแต่สองแถว กับเดินเป็นหลัก แล้วก็นั่งรถยนต์(ของคนอื่น)บ้าง เลยไม่เจอประสบการณ์ตรงเรื่องสามล้อโก่งราคาครับ

5. พระประจำเมือง : บริเวณสวนสาธารณะเทศบาลนคร จะเป็นที่ตั้งของหอดูดาว , ice dome ,และเป็นที่ประดิษฐานของพระประจำเมือง ท้าวมหาพรหม และเจ้าแม่กวนอิมครับ (เรียกว่าครบทั้ง จีน พราหมณ์ พุทธ) ผมไม่แน่ใจว่าเด็กที่มาแข่ง TMO ล่าสุด ได้มาเที่ยวที่นี่รึป่าว แต่บอกได้เลยว่า ทางขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 แห่ง ชันมากครับ และเดินขึ้นไปจากด้านล่าง อาจจะไม่รอด ควรจะมีคนขับรถพาขึ้นไป ระหว่างท้าวมหาพรหมกับพระประจำเมือง จะมีกระเช้าลอยฟ้าเชื่อมถึงกันครับ ถ้าคนทั่วไปต้องเสียประมาณ 100 บาทครับ
ส่วนตัว ผมชอบ มาสักการะพระประจำเมืองครับ ไปมา 4 รอบ ได้มาไหว้ 2 รอบแล้ว จากข้างบนสามารถมองลงมาเห็นวิวหาดใหญ่โดยรอบครับ และมีร้านเบเกอรี่ และขายของที่ระลึกอยู่บนนั้น

พระประจำเมือง

ท้าวมหาพรหม

วิวหาดใหญ่จากพระประจำเมือง

4. สามวัด สามอารมณ์ : วัดในหาดใหญ่ที่ขอ recommend มี 3 ที่ครับ คือ วัดหาดใหญ่ใน หรือเรียกว่าวัดมหัตตมังคลาราม (เวลาถามทาง อย่าใช้ชื่อหลังนะครับ เพราะมีคนท้องถิ่นหลายคนทำหน้างงๆ ) จุดเด่นของวัดนี้ คือ มีพระนอนขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ วัดต่อมาคือ วัด ถาวรวราราม อยู่ใกล้ๆกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หรือ ม.อ.ที่เพิ่งจัด TMO นั่นแหละครับ จุดเด่น คือ เป็นวัดจีน ที่สวยมาก โดยเฉพาะเก๋งจีนแบบในหนัง และพระมาลัยโปรดนรก องค์มหึมา ส่วนวัดสุดท้าย คือ วัดหงส์ประดิษฐาราม หรือที่คนพื้นที่ เรียกว่า วัดคอหงส์ ภายในเป็นวัดสไตล์โรงเรียนวัด ที่ดูเจริญมาก และเป็นที่ตั้งของศาลองค์พ่อจตุคามรามเทพครับ เวลาหยอดตู้ทำบุญหน้าศาล จะมีนวัตกรรม พรมน้ำมนต์ผ่านสายยาง ให้ด้วยครับ เป็นการบูรณาการวิทยาศาสตร์กับสังคมศึกษาอีกแบบนึง

3. เจดีย์สแตนเลส : ผมไปที่นี่ ตอนมาหาดใหญ่ครั้งล่าสุดครับ ทางไปจะผ่านถนนปุณณกันต์ ข้างๆ ม.อ.ครับ จากนั้นจะมีลูกศรเลี้ยวซ้าย ทางขึ้นก็วิบากใช้ได้ครับ วิบากกว่า ทางขึ้นไปไหว้พระประจำเมืองเยอะมาก ขับรถขึ้นไปประมาณ 20 นาทีครับ จะเจอ สิ่งที่เรียกว่า พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพ ไตรมงคล เข้าใจว่าสร้างถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสที่ในหลวงครองราชย์ครบ 60 ปี หลังจากลงรถ ก็เข้าใจได้ทันทีว่า ทำไมทางขึ้นมันวิบากเช่นนี้ คือเป็นวัดที่ไว้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมครับ เรียกว่า ถ้าไม่มีศรัทธา คงไม่มีใครขึ้นมาแน่ๆ เพราะเดินทางลำบากมาก ภายในมีปริศนาธรรมเยอะมากครับ และถ้าจะเข้าไปภายในเจดีย์ จะมี zone กั้นให้ถอดรองเท้า 50เมตรก่อนถึงเจดีย์ครับ

2. รถชนที่หาดใหญ่ : เรื่องนี้ ขอเล่าเป็นอุทาหรณ์ครับ เพราะเกิดกับผมจริงๆ ตอนลงไปหาดใหญ่ครั้งล่าสุดเมื่อกลางกันยายนครับ คือถนนที่นี่ ต้องใช้สติในการข้ามสูงมากครับ เพราะวินัยการจราจร (โดยเฉพาะการจอดรถ) ของคนที่นี่ สุดจะบรรยาย ที่ผมโดนชน เป็นถนนสาม lane หน้าตลาดกิมหยงครับ เวลาประมาณ 10 โมงครึ่ง คือตรงนั้นจะเป็น 2 lanes เลี้ยวซ้าย อีก lane เลี้ยวขวา ตอนนั้นผมกำลังจะข้ามถนนไปซื้อของที่เซเว่น หน้าตลาดครับ และ รถ 2 lanes จอดติดไฟแดงอยู่ ผมก็ข้ามไป 2 lanes แล้ว แต่ลืมดู lane ที่สาม ก็จะรีบข้าม เพราะกลัวไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียว จังหวะนั้น พอดีครับ มีรถสามล้อสไตล์รถขายของเก่า ที่มีกระบะข้าง ขับมา สรุปก็คือ ผมถูกชนกระแทกลงไปข้างฟุตบาท พอดี เหตุกาณ์เกิดเร็วมากครับ รู้แต่ว่าไม่สลบแต่แผลตามแขน ขาก็เยอะอยู่ ที่หนักสุด คือในเหงือก ซึ่งไม่รู้ว่ากระแทกกับอะไร เพราะเลือดไหลจากปากมากสุด ก็ยังดีครับที่คนขับสามล้อ พาผมไปส่งโรงพยาบาลชุมชน และตอนเย็นผมต้องไปพบทันตแพทย์อีกรอบ ให้เขาเย็บแผลในเหงือกให้ เพราะเป็นแผลช้ำในจากการกระแทก คือถ้ามองจากข้างนอก จะเห็นแผลตรงมุมปากนิดเดียว แต่ในปาก เป็นรูตรงกลางลึกมาก และด้านข้างๆ เหวอะหวะมากครับ นับถึงวันนี้ ก็ดีขึ้นมากแล้วครับ กินได้ตามปกติ
จากการถูกชนครั้งนี้ ทำให้ผมได้สูตรในการข้ามถนนสามเลน ว่าข้าม 2 เลนแล้ว คงต้องหยุดระทึกขวัญกลางถนนแป๊บนึง เพื่อรอรถเลนที่ 3 ขับผ่านไป ไม่งั้นคราวหน้าอาจไม่โชคดีแบบนี้

1. รวมฮิตร้านอร่อย : ที่ผมจะ recommend ก็มี ร้านแต่เตี้ยมครับ เป็นร้านสไตล์ติ่มซำ ที่ร้านในกรุงเทพ เอาชื่อไป copy เป็นโชคดี ติ่มซำ แต่ขอบอกว่า คนละเจ้ากับที่หาดใหญ่นะครับ ที่นี่เขาประกาศชัดเจนว่าไม่มีสาขาในกรุงเทพ ร้านนี้ต้องให้เครดิตพี่ nooonuii ครับ เพราะเป็นคนพาผมไปกิน ตอนลงมาหาดใหญ่ครั้งแรก ติ่มซำที่นี่มีให้เลือกเยอะมากๆๆ ตกเข่งละ 16 บาท และเปิด 2 รอบ คือ เช้ากับเย็น ร้านต่อมา อยู่ที่เดียวกับพระประจำเมืองครับ ชื่อ ร้านบนเขา ก็ขายอาหารไทยทั่วไปสไตล์ร้านอาหารใหญ่ๆใน กรุงเทพ ความอร่อยใช้ได้เลยครับ และจะได้เห็นวิวหาดใหญ่อีกด้วย ร้านที่สาม ชื่อ เซาะอึ๊งครับ เป็นร้านข้าวต้มที่ข้าวอร่อยมาก และใส่เผือกเพิ่มความหอม (ข้าวสวยก็มีนะครับ) มีกับข้าวให้เลือกหลากหลาย ข้างในบรรยากาศไม่เลว วันที่ผมไปกิน ผมว่าผัดใบปอมันเค็มไปหน่อย แต่อย่างอื่นโอเคครับ เซาะอึ๊งมีหลายที่ครับ สาขาที่ผมไปกิน อยู่ตรงโรงแรม วีแอล หาดใหญ่ เข้าใจว่าเปิดตอนเย็นถึงกลางคืนนะครับ ร้านที่สี่ คือ บะหมี่ มุยอา ครับ เครื่องบะหมี่อาจจะธรรมดา แต่เส้นบะหมี่สุดยอดครับ หน้าร้านจะมีขายซาลาเปาลูกใหญ่มาก ร้านเปิดบ่ายๆครับ จริงๆ ยังมีอีกหลายร้าน เช่น ร้านกันเอง และร้านกระท่อมเดือนเพ็ญขนมจีนเส้นสด

----------------------------------------------------------------------------------

ติดตามตอนต่อไป จะพาไป focus เรื่องที่ต้องขยายในสิงคโปร์ 15 เรื่องครับ
__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว

30 กันยายน 2012 01:32 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ passer-by
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้