อยากเสริมว่า ก่อนหน้าที่จะดูเฉลยและเอาเทคนิคนั้นๆไปใช้ต่อ ก็อยากให้ลองพยายามทำข้อนั้นด้วยตัวเองก่อน ยิ่งพยายามคิดเยอะ ก็ยิ่งได้อะไรเยอะ ถ้าเราคิดมันออกมาได้เอง เราจะเข้าใจและได้ประโยชน์มากกว่าการดูเฉลย
อาจารย์ท่านหนึ่งของผมเคยพูดว่า การอ่านเฉลยสิบข้อ ได้ประโยชน์ไม่เท่า การทำโจทย์ได้เองหนึ่งข้อ
และอีกอย่างก็คือ ผมเคยอ่านหนังสือเล่มนึง เค้าแนะนำว่า บางทีการแก้โจทย์ได้ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญกว่าคือกระบวนการระหว่างทางที่เราได้คิดแก้โจทย์นั้นๆ เช่น การที่เราได้นั่งทำโจทย์ไปหนึ่งชั่วโมงแต่ก็ยังแก้ไม่ได้ เราจะรู้สึกเหมือนว่าเราไม่ได้อะไรเลย แต่จริงๆแล้วการที่เราได้คิดเกี่ยวกับโจทย์นั้นๆก็ช่วยพัฒนาความสามารถของเราได้มิใช่น้อย
แล้วก็อยากบอกว่า เวลาที่เราทำโจทย์ได้ข้อนึงแล้ว บางครั้งเราอาจจะลองกลับไปมองวิธีคิดของเราหรือลองวิเคราะห์การได้มาซึ่งคำตอบของเราซึ่งอาจจะเป็นแนวทางสำหรับข้อต่อๆไปได้ บางทีอาจลองคิดว่าทำไมตอนแรกเราถึงมองตรงนี้ไม่ออกน้า อะไรประมาณนี้ รวมทั้งเราอาจจะลองหาทางแก้โจทย์นั้นด้วยวิธีอื่นๆที่แตกต่างออกไปก็ได้ หรือศึกษาแนวคิดของคนอื่นๆก็มีประโยชน์มากเช่นกัน
โดยส่วนใหญ่แล้วโจทย์ระดับมัธยมมักจะตรงไปตรงมาและมีวิธีทำทางเดียวหรือสองทางอย่างมาก แต่สำหรับโจทย์โอลิมปิกแล้วมันมีวิธีคิดหลากหลายมากเลยครับ เช่นให้คนสามคนมาคิดโจทย์ข้อเดียวกัน ก็อาจจะได้วิธีทำที่ต่างกันหมดเลยก็ได้
|