ดูหนึ่งข้อความ
  #14  
Old 31 ธันวาคม 2007, 13:56
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Default

โจทย์อันแรกที่ควรจะต้องทำให้หมดทุกข้อ ก่อนจะเริ่มหาโจทย์ที่อื่นมาทำก็คือ แบบฝึกหัดในหนังสือเรียนครับ เพราะนั่นเป็นพื้นฐานสำคัญมากที่เราต้องรู้ทั้งหมด

เวลาทำโจทย์ก็หมั่นสังเกตถึงความแตกต่าง หรือแนวทางในการตั้งโจทย์แต่ละข้อด้วย จะได้ไม่ทำแต่โจทย์แนวเดิมที่เปลี่ยนโจทย์นิดหน่อย ให้เสียเวลามากเกินไป (ที่เขียนมานี่หมายถึง เรามองโจทย์แนวนี้ได้ทะลุไปถึงแนวทางแก้ปัญหาทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงลงแรงคิดเลขเท่านั้น แต่หากยังทำแบบนี้ไม่ได้ ก็ยังต้องหมั่นฝึกฝนกับโจทย์แนวนี้ต่อไปนะครับ )

อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือ โจทย์ที่ดีมักจะแต่งมาให้ได้เลขลงตัวสวยๆ เวลาคิดเลขไปเรื่อยๆในแต่ละขั้นตอน แล้วได้เลขออกมาสวยงาม อาจเป็นเหมือนหลักไมล์ให้เราคิดว่าเดินมาถูกทางแล้ว และเดินต่อไปจนได้คำตอบสุดท้ายที่สวยงามออกมา เมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้วอย่าเพิ่งรีบจากไป ลองทบทวนตนเองดูสักนิดว่าที่เดินมาถึงนี่ได้สำเร็จ มาด้วยความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง หรือเดินมั่วจนเจอหลักไมล์สวยๆ แล้วก็เดินหาหลักไมล์ต่อๆไปจนถึงจุดหมาย (ที่บังเอิญตรงกับตัวเลือกข้อหนึ่ง) หากเป็นอย่างแรกก็ขอแสดงความยินดีด้วย แต่ถ้าเป็นกรณีหลังคุณต้องกลับไปฝึกพื้นฐานให้ดีกว่านี้

เรื่องการถามคนอื่น ทำได้นะครับ แต่ขอให้เป็นตัวเลือกสุดท้าย หากพิจารณาแล้วว่าเวลาที่เสียไปไม่คุ้มค่า ยังมีเรื่องอื่นอีกมากรอให้ศึกษา ที่เขียนแบบนี้ก็เพราะ การคิดแก้ปัญหายากด้วยตนเองจนสำเร็จ แม้จะเสียเวลาอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ได้รับ ไม่อาจได้มาด้วยวิธีอื่น นั่นคือ ความเชื่อมั่นในตนเองว่าสามารถทำโจทย์ยากได้ และทักษะเฉพาะตัวทุกรูปแบบสำหรับแก้โจทย์ประหลาดที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน จะถูกพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ทักษะเหล่านี้ต้องหมั่นฝึกปรือสะสมประสบการณ์เองนะครับ ยิ่งเจอปัญหายากมากและเอาชนะได้นี่เรียกว่าพลังวัตรเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจทีเดียว อ้อทำสำเร็จแล้วก็อย่าลืมศึกษาวิธีแก้ปัญหานี้ของสำนักอื่นด้วยละ เผื่อว่าจะมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่า

เรื่องของเวลาที่ใช้ สำหรับพี่ดูเรื่องความล้าทางความคิดเป็นหลัก หากรู้สึกว่าคิดจนหัวสมองมึนตื้อไปหมด ไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลาคิดต่อครับ คิดไปก็เท่านั้น หยุดคิดเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า เชื่อไหมครับว่าในระหว่างนั้นจิตใต้สำนึกยังคอยคิดหาวิธีแก้ปัญหาให้เราตลอดเวลา มีปัญหามากมายที่ได้แนวคิดแก้ปัญหาใหม่ ระหว่างพักผ่อนสมอง แต่จะมีสิ่งเหล่านี้ได้ ต้องมีพลังวัตรสะสมมากพอระดับหนึ่ง

เรื่องของความเครียดเวลาทำโจทย์ไม่ได้ อยู่ที่เรามองมันอย่างไร ตัวพี่เองไม่เคยทำโจทย์แล้วเกิดความเครียด เพราะมองว่ามันคือเกมฝึกสมองอันหนึ่ง เป็นความท้าทายที่ต้องแก้ปัญหาให้ได้ หากยังคิดไม่ออกตอนนี้ก็ไม่เป็นไร เปลี่ยนไปทำข้ออื่นก่อนแล้วจึงมาเก็บตกข้อที่เหลือ ตอนเช้าคิดไม่ออก เดี๋ยวตอนเย็นหรือกลางคืนก็คิดออก วันนี้คิดไม่ออก พรุ่งนี้ก็คิดออก มะรืนนี้ก็คิดออก ปัญหาบางอย่างเคยคิดเป็นปีก็มี ไม่เห็นจะต้องไปเครียดกับมัน ขอให้ได้ทำโจทย์ด้วยความรู้สึกสนุกและมีความสุขก็พอแล้ว ส่วนคำตอบทีได้จะหาได้หรือไม่นั้นเป็นเพียงค่าตอบแทนเล็กน้อย ในระหว่างเดินทางไกลมาจนถึงจุดหมายปลายทาง เท่านั้นเอง จงให้ความสำคัญกับความสุขระหว่างเดินทาง มากกว่าจะสนใจความสุขที่ได้รับเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้