|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#1
|
||||
|
||||
มีใครได้ใช้วิชาคณิตศาสตร์แบบเป็นรูปธรรมเพื่อ...
มีใครได้ใช้วิชาคณิตศาสตร์แบบเป็นรูปธรรมเพื่อความสำเร็จของงานบ้างครับ แน่นอนจะเอาแบบคณิตศาตร์เพียว ๆ มันคงไม่ได้ เพราะจะว่าไปแล้วศาสตร์นี้ออกจะเป็นแนวปรัชญาเชิงตรรกะ มันจะต้องใช้ประยุกต์เอา
ถ้าที่เห็น ๆ ผมใช้เลยนะครับ แบบเป็นเรื่องเป็นราวเลย การทำธุรกิจ ต้องวางแผนคำนวณราคาขายที่เหมาะสม วางแผนว่าจะซื้อของเข้าร้านอย่างไร ซื้อร้านไหนถูกกว่ากัน บางครั้งมันมีรายการของแถม ของแถมบางอย่างเอามาไม่ได้ใช้หรือขายไม่ออก ค่าของมันก็คือ 0 การเป็น VI การลงทุน มันก็ใช้คณิตศาสตร์บวกกับความสามารถในการคาดการณ์อนาคต ตอนนี้นึกไม่ออก เออมีการทำหนังสือ ใครมีอะไร ๆ ดี แบบใช้ได้จริงในเชิงรูปธรรมโปรดบอกด้วยครับ เผื่อจะได้แนวความคิดดี ๆ ไปทำหนังสือครับ |
#2
|
|||
|
|||
ถูกใจหัวข้อนี้ครับ เลยขอร่วมด้วยช่วยกัน เพราะสอดคล้องกับคำถามทีว่า "เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม"
ผมไม่ได้เป็นครูโดยอาชีพ และคณิตศาสตร์ก็ไม่ใช่สาขาที่เรียน แต่ได้มีโอกาสไปข้องเกี่ยวบ่อย ๆ ๑ ผู้จัดการขายบอกพนักงานว่า ไปลดให้ลูกค้า ลด ๑๐ ซื้อสดลดอีก ๑๐ ได้ปริมาณลดให้อีก ๑๐ พนักงานพบลูกค้าตรงข้อกำหนด จัดการลดเลย ๓๐ เป็นเรื่องเลย ๒ พ่อแม่ขอให้พูดกับลูกเรื่องอย่าซื้อรถเลย เพราะถึงบริษัทก็จอดทั้งวัน ไม่คุ้มค่า ผมได้แสดงให้ดูว่า วันหนึ่ง ๆ รถที่จะซื้อคิดเป็นค่าใช้จ่ายตก วันละ ๕๐๐ บาท เรียกรถไปกลับคุ้มกว่า ทั้งลดปัญหาความเสี่ยงที่ต้องขับเองได้ เขียนแนวนี้ตรงกับที่ต้องการไหมครับ ถ้าใช้ได้จะมาร่วมแสดงความเห็นอีกครับ ไม่ต้องเกรงใจนะครับ ต้องการแบบไหนเสนอมาได้ครับ ขอบคุณที่ให้โอกาสครับ |
#3
|
|||
|
|||
วันก่อนไปกินก๋วยเตี๋ยวสั่งเส้นหมี่แห้งใส่ทุกอย่าง
ผมนั่งปรุงอยู่นานมากกว่าจะได้รสชาดที่ชอบ เพราะเส้นหมี่มันเล็กเลยพันกันนัวเนีย ใส่อะไรลงไปก็จะอยู่แค่รอบนอกไม่ซึมเข้าไปข้างใน ข้างในมันก็เลยจืดๆครับ มานั่งถามตัวเองว่าลวกเส้นหมี่ยังไงไม่ให้พันกันจะได้ปรุงง่ายๆหน่อย ก็นึกถึงวิชาทอพอโลยีที่เคยเรียนมันมีวิชา Knot Theory ซึ่งน่าจะตอบปัญหานี้ได้ ตอนนี้คิดไว้คร่าวๆว่าจะให้นักศึกษาทำเป็น Senior Project ตั้งชื่อหัวข้อว่า ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวยังไงไม่ให้พันกัน ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นแค่ความคิดริเริ่มอาจจะทำได้หรือไม่ได้ก็ได้ แต่จะชี้ให้เห็นว่า ไม่ว่าเรียนวิชาอะไรก็ตามอย่าถามว่าเรียนไปเพื่ออะไร แต่ควรถามตัวเองใหม่ว่า เรียนแล้วมีลู่ทางเอาความรู้ที่เรียนไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ?
__________________
site:mathcenter.net คำค้น |
#4
|
|||
|
|||
ปัจจุบันผมยังเรียนอยู่ครับ ขึ้นปีสอง ภาควิชาคณิตศาสตร์ฯ ประสบการณ์อาจใกล้เคียงกับความต้องการของคำถาม
เทอมที่แล้วจะไปออกค่ายกัน ทางกลุ่มให้ผมรับผิดชอบเรื่องเกมส์ทั้งหมด ผมก็เลยทำออกมาในรูปแบบที่ชอบนั่นคือคาสิโน กติกาง่ายๆ คือ มีไพ่ $7$ ใบ ให้เป็น $A,A,A,B,B,B,Z$ คว่ำไพ่ทั้งหมด แล้วสลับกันหยิบที่ละใบโดยเจ้ามือหยิบก่อน ใครได้ไพ่ที่เหมือนกันก่อนจะชนะ แต่ถ้าได้ไพ่ $Z$ ถือว่าแพ้ทันที จ่ายค่าเข้าเล่นเกมส์ละ $1$ เหรียญ เล่นได้เรื่อยๆจนกว่าจะแพ้ หรือล้มบอสได้ ถ้าชนะ $2$ ตาติด ได้คืน $2$ เหรียญ และ ถ้า $3$ ตาติด จะได้คืน $4$ เหรียญ และได้เจอบอส ถ้าล้มบอสได้ จะได้รางวัลใหญ่ไป จากการคำนวณพบว่า ความน่าจะเป็นในการชนะแต่ละตาของเจ้ามือคือ $\frac{4}{7}$ นั่นคือ ถ้าเล่นไปร้อยเกมส์ เจ้ามือจะแพ้ประมาณ 43 เกมส์ ประเภทของผู้ที่มาพนันจะแบ่งเป็น ชนะสามตารวด คือ $\left\lceil\ 100\times(\frac{3}{7})^3 \right\rceil=8 $ เกมส์ ชนะสองตารวดแพ้ตาสาม คือ $\left\lceil\ 100\times(\frac{3}{7})^2 \right\rceil -8=11$ เกมส์ ชนะตาแรกแพ้ตาสอง $\left\lceil\ 100\times(\frac{3}{7})^2 \right\rceil -8-11=24$ เกมส์ แพ้ตั้งแต่ตาแรก $57$ เกมส์ เพราะฉะนั้นใน $100$ เกมส์ เราจะได้รับเงิน $100$ เหรียญ และจ่ายเงิน $8\cdot 4 + 11\cdot 2 = 54$ เหรียญ ดังนั้น ในแต่ละตา กลุ่มเราจะมีเงินเข้ากระเป๋าเฉลี่ย $0.46$ เหรียญ (จบภาคทฤษฎี) พอถึงวันจริงๆผมก็หวั่นๆว่ามันจะออกมาอย่างที่คิดรึปล่าว เพราะผมไม่เคยเรียนอะไรพวกนี้เลย ผมรู้แค่การคำนวณความน่าจะเป็นเท่านั้น แต่ก็กัดฟันบอกกลุ่มไปว่า "ชัวร์น่า มันต้องกำไรแน่นอน" พอจบกิจกรรมกลุ่มเรามีเหรียญทั้งหมดเกือบๆ $200$ เหรียญ จากต้นทุน $60$ เหรียญ ครับ ผมรู้สึกดีใจมากๆ ปนๆกับความรู้สึกคล้ายๆกับการรอดตาย |
#5
|
||||
|
||||
พูดเสียอยากเรียนเลยครับ
อ้างอิง:
|
#6
|
||||
|
||||
ขอบคุณมากครับ ผมรู้แล้วว่าจะไปเรียนแะไรดี
|
|
|