|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#16
|
||||
|
||||
ใช่ค่ะ เพราะครูสมัยนี้สอนพิเศษด้วยไง ถ้าเขาสอนที่โรงเรียนหมด แล้วใครจะมาเรียนพิเศษกับเขา ถูกไหม?
ปล.เป็นสิ่งที่ไร้จัรรยาบันครูมากเลย (จรรยาบันพิมพ์ถูกเปล่าเนี่ย 555+)
__________________
ยิ้มเท่านั้นที่ครองโลก
5555 17 มิถุนายน 2008 21:33 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ mathematiiez |
#17
|
|||
|
|||
บางวิชาจำเป็น แต่ระวังเบื่อหากฝึกตั้งแต่เด็ก บางครั้งหากวิชาที่ต้องการทักษะพิเศษ เช่น ดนตรี แพทย์ หรือ วิชาที่ต้องการระบบประสาทที่ล้ำกว่าปกติ ก็อย่าฝืน แต่ก็อย่าขยาดก่อนลิ้มลอง หากเชื่อว่าดี
อาจารย์ที่ดี วัดกันที่อะไร วัดกันที่ความรู้ด้านเครื่องมือเทคโนโลยี ในปัจจุบันหรือ ผมพบว่าด้านเทคโนโลยีนี้ มีความซับซ้อน เพราะเป็นศาสตร์ที่รวมแนวคิดจากหลายวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน จึงต้องการผู้รู้ทั้งหลักการและมีเวลาพอในการทดสอบความรู้ เงินทุนในการศึกษาก็จำเป็น หากสำรองไว้มากๆ ที่สุดจะดี เพราะของดี ไม่มีใครปล่อยง่ายๆ และไม่มีใครเฝ้ารอความหวัง ให้เสียเวลา... |
#18
|
|||
|
|||
ต้องดูที่คนสอนครับ และเป้าหมายในการเรียน
1) ถ้าเป็นคนหัวช้า อ่านหนังสือเองก็ไม่เข้าใจ มีคนสอนก็น่าจะดี 2) ถ้าเป็นคนเก่งที่หัวดีมาก การเรียนในระบบอาจจะถ่วง ก็เรียนพิเศษ แต่ดูคนสอนอีกทีว่า ทำให้รักในคณิตได้แค่ไหน สรุป ต้องอ่านโจทย์ดีๆ แล้วเลือกวิธีการทำโจทย์ ถ้ายังไม่ได้ ก็ ขีดเขียนๆ ไปก่อนเดี๋ยวก็เจอทางไปเอง |
#19
|
||||
|
||||
จริงๆไม่จำเป็นแต่ถ้าเราอ่อนวิชาไหนแล้วเราอาจอ่นาเพิ่มได้หรือเรียนก็ได้
__________________
อยากเก่งต้องขยัน อยากทันต้องขวนขวาย |
#20
|
||||
|
||||
ไม่จำเป็น เสริมเฉพาะวิชาที่ด้อยเท่านั้น
__________________
คนที่เก่งเขาจะคิดว่าตัวเองโง่ ส่วนคนที่โง่จะคิดว่าตนเองเก่งเสมอ |
#21
|
||||
|
||||
ขอบคุณครับ
|
#22
|
||||
|
||||
แล้วแต่คนครับ บางคนขวนขวายด้วยตนเองได้จากการอ่านหนังสือ หาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตก็ได้ครับไม่เปลืองสตางค์ด้วยครับ แต่การเรียนพิเศษก็มีข้อดีเช่นเีดียวกันบางทีอาจทำให้่เรื่องที่เราไม่เข้าใจกระจ่างกว่าการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
|
#23
|
||||
|
||||
เห็นด้วยครับ... จริงๆแล้วการเรียนรู้ด้วยตนเองนั้นเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ว่าข้อเสียมันคือบางครั้งเราอาจจะไม่รู้หรือไม่สังเกตข้อผิดพลาดของตนเอง ถ้ามีคนมาช่วยเตือนก็จะทำให้สามารถพัฒนาตนเองได้อีกขั้นหนึ่งครับ
|
#24
|
||||
|
||||
ก็....แล้วแต่คนล่ะนะ อยู่ที่ตัดสินใจ ถาเรียนแล้วดีกับตัวเอง (ไม่เปลืองมาก) ก็เรียนไปเถอะ ^^
__________________
ยิ้มเท่านั้นที่ครองโลก
5555 |
#25
|
||||
|
||||
เรียนดีว่าครับ เพราะอาจารย์สอนพิเศษเหมือนจะให้ความรู้มากกว่าในห้องเรียนนะครับ
|
#26
|
||||
|
||||
เอ๋ แต่การสอนพิเศษเขาชอบพาตะลุยโจทย์ไม่ใช่หรอครับ แล้วที่เขาเอามาสอนเขาจะคัดแค่ที่ออกข้อสอบบ่อยๆ มันเลยดูเหมือนได้อะไรมาก แต่มันจะไม่ค่อยได้บอกที่มาที่ไปหรอกครับ ถ้าความรู้ที่ว่าคือความเข้าใจในเนื้อหาและหลักการ ผมว่าในห้องเรียนมีมากกว่าครับ แน่นอนครับ เมื่อมีเวลาสอนมากกว่าย่อมสอนได้เข้มข้นกว่านะผมว่า
__________________
I think you're better than you think you are. |
#27
|
||||
|
||||
ก็ ส่วนใหญ่ (สำหรับเรานะ^^)
ที่เรียนพิเศษเพื่อไปสอบเข้า รร.อื่นๆและแข่งขันไง เพราะที่เรียนพิเศษจะสอนไม่เหมือนใน รร. แต่บางที่ก็มีที่สอนเรื่องแบบเดียวกับ ร.. ที่เปิดเพื่อนร.ที่เรียนแล้วไม่เข้าใจอะไรประมาณนี้ ^^
__________________
ยิ้มเท่านั้นที่ครองโลก
5555 |
#28
|
|||
|
|||
โลกเรามันก็แปลก ผมก็งงว่าเราอยู่ในโลกแบบไหน จึงต้องเผชิญกับปัญหาหรือความรู้ของปราชญ์ที่ลึกล้ำและกว้างไกล เกินกว่าพื้นฐาน หรือเป็นเพราะเราเข้าใจผิด ว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนจะดีไปซะหมด หรือเข้าใจว่าการเฝ้าดูฝันของผู้อื่นเป็นสิ่งเร้าใจที่พึงกระทำ อย่างหลังนี้คล้ายกับการไปเรียนพิเศษ ซึ่งบางคนอาจรู้สึกขัด
ว่าการเรียนพิเศษใช่สิ่งที่จำเป็นเสมอไป เรื่องตรงนี้คล้ายกับว่าความเชื่ออื่นที่ว่าดีกว่านั้นมีอยู่ เช่น เชื่อตามศาสนา ที่ต้องมีผู้มีจิตศรัทธาจึงมีการเผยแผ่หรือ? และก็มีรู้แบบไม่เข้าใจ(ที่ได้มาโดยการเปรียบเทียบ) ที่เป็นเรื่องที่น่าฉงนอีกเรื่อง ที่ว่าเราจะเข้าใจแบบเด็กๆ เมื่ออายุมากๆ จะดี (เปรียบได้กับคนที่เจอปัญหาใหม่ตลอด) เหมือนด็อกเตอร์ทำวิจัยใหม่ๆ เจอปัญหาที่ผู้อื่นผูกไว้ ให้แก้ไขปรับปรุง เรื่องนี้ผมว่าเป็นมากกว่าอาชีพที่ต้องรับผิดชอบ เป็นเรื่องของความเชื่อของสังคม ที่ว่าเวลาจิตแพทย์แก้ปัญหาเค้าจะนำเอากลุ่มคนที่เจอปัญหาคล้ายๆ กัน มาแลกเปลี่ยนความเห็น ตรงนี้คล้ายกับที่ลัทธิคอมมิวนิสด้วย ที่มุ่งแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมสังคมเป็นหลัก โดยยึดหลักแบบนักเขียนตำราในรูปแบบเฉพาะทางที่ตนเองเชื่อถือว่าดี แต่อาจไม่ดีไปซะหมด หากดูที่ผลอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ซึ่งจริงๆก็เป็นไปไม่ได้ ที่ความเท่าเทียมจะเป็นจริง เคยมีคนว่า มีที่ได้มาก(หมอและคนรวย) และได้น้อย(ลูกชาวบ้านที่ไม่ใช่คนรวย) ผมให้ข้อมูลข้างบนแบบที่รู้มาผสมกับความเห็นส่วนตัวที่ได้มาจากประสบการณ์ และมักน้อยในเรื่องการศึกษาอาจจะเป็นเรื่องดี เพราะเราเรียนเลขอาราบิก และเรียนตามความเชื่อแบบสุดโก่ง จนธรรมชาติตามไม่ทันใจ |
#29
|
||||
|
||||
อ่านเอาเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปเรียนพิเศษหรอกครับ นอกจากเราอ่านแล้วไม่เข้าใจจริง ๆ ก็ค่อยหาคนช่วยสอนเพิ่มอาจปรึกษาคุณครู หรือ เพื่อน หรือเข้ามาปรึกษากันใน Mahtcenter ก็ได้ เพราะจริง ๆ แล้วการเรียนพิเศษจะทำให้คุณทำโจทย์ได้เป็นบางข้อ แต่ถ้าคุณเข้าใจจริง ๆ คุณจะต้องทำได้ทุกข้อส่วนการทำได้เร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของตัวคุณเอง เหมือนที่ Feyman บอกว่า "คุณจะไม่รู้อะไรเลยจนกว่าคุณจะได้ลงมือทำ"
__________________
กลับมาแล้วจ้า |
#30
|
|||
|
|||
อ่านเอาก็ได้ไม่ต้องทำโจทย์ทั้งหมดหรอก กว่าจะฝึกจนคล่อง ก็เหมือนเต่ากับกระต่าย เพราะบ้างก็ไม่ได้ใช้ หากโชคดีจึงได้ใช้ ซื้อหนังสือรวมโจทย์ที่มีเฉลยอ่านเป็นเบื้องต้นจะดีกว่านะ แต่ต้องมีตังค์เยอะๆ ซื้อตุนไว้
และอ่านเลขไปเพื่ออะไร เห็นที่เค้าใช้เลขกันจะแจกฟรี คือส่วนมากจะเป็นคนมีตังค์ที่ไปถึงยอด ได้ทำซ็อฟแวร์ก็ว่าสุดยอดแล้วละมั้ง และ Lecture ของ Feynman น่าอ่านมากๆ ครับ อาจเพราะมีเนื้อหาไปทางวิศวกรรมนิดๆ มีการเปรียบให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของระหว่างสาขาฟิสิกส์กับสาขาอื่นๆ ต่างจากหนังสือทางคณิตศาสตร์นามธรรมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งประสบการณ์เป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ ในการทำความเข้าใจ เช่น Abstrat Algebra 13 กรกฎาคม 2008 04:06 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ kongp |
|
|