#16
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
อ้างอิง:
แล้วเราจะพบว่า (x-a)(x-b)(x-c)=0 เป็นสมการเดียวกันครับ เราสามารถกระจายสมการนี้ได้เป็น $x^3-(a+b+c)x^2+(ab+ac+bc)x-abc =0$ ** เทียบสัมประสิทธิ์กันจะได้ -(a+b+c) = -5 , +(ab+ac+bc) = +7 และ -abc = +6 ** เรานำชุดแรก -(a+b+c) = -5 มายกกำลังสองได้เป็น $(a+b+c)^2$ = 25 กระจายได้เป็น 25 = $a^2+b^2+c^2+2ab+2ac+2bc$ = $a^2+b^2+c^2$ +2(ab+ac+bc) ดังนั้น $a^2+b^2+c^2$ = 25 - 2(ab+ac+bc) = 25 -2(7) = 11 ตอบครับ |
#17
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
อ้างอิง:
ดังนั้นเราจะได้รูปของพหุนามP(x) เป็น $P(x) = q(x)(x-1)(x-2)+ax+b$ เรามีวิธีแก้ปัญหานี้ได้หลายแบบเช่น แบบที่ 1 เมื่อนำ P(x) มาหารด้วย (x-2) เหลือเศษ3 และหารด้วย (x-1) เหลือเศษ 2 แสดงว่า ax+b = a(x-2)+3 = ax +(3-2a) และ ax+b = a(x-1)+2 = ax+(2-a) เทียบพจน์ได้ b = (3-2a) = (2-a) จะได้ค่า a = 1 และได้ b = 1 ดังนั้น $P(x) = q(x)(x-1)(x-2)+ax+b = q(x)(x-1)(x-2)+(x+1) $ แบบที่ 2 เมื่อนำ P(x) มาหารด้วย (x-2) เหลือเศษ3 และหารด้วย (x-1) เหลือเศษ 2 2.1) ถ้าเราแทนค่า x = 2 ลงในพหุนามP(x) แล้วทุกชุดในพหุนามP(x) ที่มี (x-2) เป็นตัวประกอบ จะมีค่าเป็นศูนย์ และเราได้สมการเป็น P(2) = 2a+b = 3 ----(1) 2.2) ถ้าเราแทนค่า x = 1 ลงในพหุนามP(x) แล้วทุกชุดในพหุนามP(x) ที่มี (x-1) เป็นตัวประกอบ จะมีค่าเป็นศูนย์ และเราได้สมการเป็น P(1) = 1a+b = 2 ----(2) แก้สมการ(1) และ(2) จะได้ค่า a = 1 และได้ค่า b = 1 , ดังนั้นพหุนาม $P(x) = q(x)(x-1)(x-2)+(x+1) $ |
#18
|
||||
|
||||
ขอบคุณครับ
__________________
เรียนรู้ชีวิต ลุถึงวิชชา เข้าสู่ปัญญา นำพาชีวิต |
|
|