Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์โอลิมปิก และอุดมศึกษา > เรขาคณิต
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #16  
Old 25 กรกฎาคม 2008, 17:34
t.B.'s Avatar
t.B. t.B. ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 17 มิถุนายน 2007
ข้อความ: 634
t.B. is on a distinguished road
Default

หมายความว่า ข้อนี้ต้องบอก รัศมีทั้งสอง ของวงกลมวงเล็ก2วงข้างใน มาด้วยรึเปล่าครับ จึงจะได้จุด Q ที่แน่นอน ที่ซึ่งสามารถลาก PQ และ PC แล้วทำให้จากจุด C มาตั้งฉากกับ O ได้ และมีเส้นเดียว(เพราะจุดCโดนfixไว้ด้วยความยาวด้าน3เหลี่ยม)? ผมเข้าใจถูกรึเปล่าครับ
__________________
I am _ _ _ _ locked

25 กรกฎาคม 2008 17:34 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ t.B.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #17  
Old 25 กรกฎาคม 2008, 18:38
passer-by passer-by ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 เมษายน 2005
ข้อความ: 1,442
passer-by is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ t.B. View Post
หมายความว่า ข้อนี้ต้องบอก รัศมีทั้งสอง ของวงกลมวงเล็ก2วงข้างใน มาด้วยรึเปล่าครับ จึงจะได้จุด Q ที่แน่นอน ที่ซึ่งสามารถลาก PQ และ PC แล้วทำให้จากจุด C มาตั้งฉากกับ O ได้ และมีเส้นเดียว(เพราะจุดCโดนfixไว้ด้วยความยาวด้าน3เหลี่ยม)? ผมเข้าใจถูกรึเปล่าครับ
คุณ t.B. ใจเย็นๆก่อนนะครับ ผมไม่ได้หมายถึงตัวโจทย์ครับ ดังนั้นลืมเรื่องจุด C ไปได้เลย

ผมกำลัง focus ไปที่ Hint แรกของคุณ Puriwatt ที่บอกว่า
"เส้นสัมผัสทั้ง 3 เส้น ที่ลากผ่านจุดสัมผัสของวงกลมที่ A,B, Q จะตัดกันที่จุดเดียว(สมมุติให้เป็นจุด P)"

Hint ดังกล่าวนั้นเป็นจริง โดยไม่ขึ้นกับเงื่อนไขOC ตั้งฉากกับเส้นสัมผัสร่วมครับ

จากนั้นผมพยายามจะสื่อว่า PA=PB=PQ ไม่ใช่เหตุผลที่ยืนยันว่า 3 เส้นสัมผัสไปตัดกันที่จุดเดียว (นั่นคือสื่งที่ผม mark ไว้ในความเห็นก่อนหน้าของผม)

การจะบอกว่า 3 เส้นสัมผัสตัดกันที่จุดเดียว ควรจะต้องเริ่มจากการให้เส้นสัมผัสที่ A, B ไปตัดกันที่จุดๆหนึ่งก่อน (สมมติเป็น P) จากนั้นลาก PQ แล้วอธิบายให้ได้ว่า PQ เป็นเส้นสัมผัสครับ

ถ้าตอบคำถามนี้ได้ ก็เท่ากับเป็นการพิสูจน์ Hint แรกของคุณ Puriwatt ครับ
__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #18  
Old 28 กรกฎาคม 2008, 23:46
Onasdi's Avatar
Onasdi Onasdi ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 พฤษภาคม 2005
ข้อความ: 760
Onasdi is on a distinguished road
Default

มีอีกวิธีมาให้ดูกันครับ

ทำต่อจากคุณ Puriwatt ที่สร้างจุด P ขึ้นมานะครับ
ให้ Q อยู่บน AC ที่ทำให้ BQ ขนานกับ OC
ABCO concyclic เลยได้ $\angle BAC=\angle BOC$
ต่อไป $\angle ABQ=\angle ABO - \angle QBO=\angle BAO - \angle BOC=\angle BAO - \angle BAC=\angle OAC=\angle OBC$
ดังนั้น $\triangle BQA \sim \triangle BCO$
และก็พบว่า $\angle CBQ=\angle CBO +\angle OBQ=\angle QBA +\angle BAC=\angle BQC$ จึงได้ว่า $CB=CQ$

ดังนั้น $\displaystyle{\frac{AO}{CO}=\frac{BO}{CO}=\frac{AB}{AQ}=\frac{26}{25-3}=\frac{13}{11}}$
รูปภาพที่แนบมาด้วย
 
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #19  
Old 31 กรกฎาคม 2008, 18:51
Onasdi's Avatar
Onasdi Onasdi ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 พฤษภาคม 2005
ข้อความ: 760
Onasdi is on a distinguished road
Default

ได้ไปดูหนังมาแล้วครับ คิดว่าอันนี้คงเป็น solution ในหนัง (เดาเอาจากที่เด็กเขียนครับ)

ขั้นแรกพิสูจน์ว่า ABCO cyclic ตามวิธีของคุณ Puriwatt เลยครับ
ต่อจากนั้น กำหนดจุด E บน AC ที่ทำให้ $\angle AOE=\angle BOC$
จะเห็นได้ไม่ยากว่า $\triangle AOE\cong \triangle BOC$ จึงได้ $AE=BC=3$
และได้อีกว่า $\triangle OAB \sim \triangle OEC$ (ทั้งคู่หนัาจั่ว) ดังนั้น $\frac{OA}{OC}=\frac{AB}{EC}=\frac{AB}{AC-AE}=\frac{26}{25-3}=\frac{13}{11}$

(จริงๆแล้วเห็นในหนังเค้าใช้ปโตเลมีด้วย แต่ผมคิดว่ามันก็ซ้ำกับการใช้สามเหลี่ยมคล้ายครับ)
รูปภาพที่แนบมาด้วย
 
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 10:06


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha