|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#46
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
ใช้ Sine's Law กับ $\Delta $ ABC ครับ เช่น จาก AB $= 2r_1\cos\alpha$ BC $=2r_3\cos \gamma$ จะได้ว่า $\frac{sin\alpha}{r_1\cos\alpha}=\frac{sin\gamma}{r_3\cos\gamma}\rightarrow r_3=r_1\frac{\tan\gamma}{\tan\alpha}$ เเล้วจับทุก $r$ ให้อยู่ในรูป $r_1$ ครับ เเล้วมันก็จะได้เเบบนั้นมา Jensen ผมอยากใช้ Convex ครับ เเต่เขียน อนุพันธืไม่เป็น
__________________
Vouloir c'est pouvoir |
#47
|
||||
|
||||
#46
ไม่หาอนุพันธ์ แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าถูกครับ |
#48
|
||||
|
||||
#47 ผมไใม่ทราบว่าถูกครับ 555+
ยังไงช่วยอธิบาย เรื่องอนุพันธืหน่อยนะครับ
__________________
Vouloir c'est pouvoir |
#49
|
||||
|
||||
#48
อ่าว แล้วคุณจะใช้ Jensen ได้อย่างไร ถ้าหาอนุพันธ์ไม่เป็น |
#50
|
||||
|
||||
เเล้ว มัน Convex ไหมครับ สรุป
ผล. ชี้เเนะการหาอนุพันธ์ ด้วยครับ อยากรู้มากก... (เวลาผมอ่านในหนังสือการหาอนุพันธ์ เค้าไม่บอกว่าถ้า ฟังก์ชันอยู่ในรูป sin x เเล้วจะหาอย่างไรอ่ะครับ)
__________________
Vouloir c'est pouvoir |
#51
|
||||
|
||||
ลอง Search ดูครับ
Derivative |
#52
|
||||
|
||||
ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมจะลิง Serch ดู
เเต่ ตอนนี้ขอนอน ละ..ง่วง 555+ ปล.คุณ Amankris ทำไม ขึ้นว่าออฟไลน์เเต่สามารถ เขียน# ได้อ่ะครับ (สงสัยมานานเเล้ว รวมถึงท่านอื่นๆด้วยครับ )
__________________
Vouloir c'est pouvoir |
#53
|
||||
|
||||
#52
Invisible Mode ครับ |
#54
|
||||
|
||||
A2 (สอวน) ให้ $p(x),q(x),r(x)$ เป็นพหุนาม สปส. เป็นจำนวนจริงและมีดีกรี 5,4,2 ตามลำดับ โดยที่ $q(x),r(x)$ ต่างเป็น factor ของ $p(x)$
และมีจำนวนจริง $a$ เพียงตัวเดียวที่ทำให้ $p(a)=0$ ถ้า $p(x)$ มีรากซ้ำจงแสดงว่า $r(x)$ เป็น factor ของ $q(x)$ เนื่องจาก $p(x),q(x),r(x)\in\mathbb{R}[x]$ (แปลว่ามี สปส เป็นจำนวนจริง) แสดงว่าถ้าจำนวนเชิงซ้อน $z$ เป็นรากสมการแล้ว $\overline{z} $ ก็เป็นรากด้วย และเป็นผลทำให้รากเชิงซ้อนมีได้เป็นเลขคู่ตัว CaseI:รากซ้ำคือ a ถ้ารากสมการ $p(x)=0$ คือ $a,a,a,a,a$ ก็จบ ถ้ารากสมการ $p(x)=0$ คือ $a,a,a,z,\overline{z}$ ได้ว่ารากสมการ $q(x)=0$ คือ $a,a,z,\overline{z}$ ซึ่งไม่ว่ารากสมการ $r(x)=0$ จะเป็น $a,a$ หรือ $z,\overline{z}$; $r(x)$ ก็จะเป็น factor ของ $q(x)=0$ CaseII:รากซ้ำคือ z รากสมการคือ $a,z,z,\overline{z},\overline{z}$ ดังนั้น $q(x)=0$ มีรากสมการในรูป $z,z,\overline{z},\overline{z}$ เพราะถ้ามี $a$ เป็นรากจะขัดกับ $q(x)\in\mathbb{R}[x]$ นอกจากนี้รากสมการ $r(x)=0$ ก็คือ $z,\overline{z}$ ด้วย เพราะถ้ามี $a$ เป็นรากจะขัดกับ $r(x)\in\mathbb{R}[x]$ เช่นกัน แสดงว่า $r(x)$ เป็น factor ของ $q(x)$
__________________
keep your way.
22 พฤษภาคม 2011 16:45 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ PP_nine |
#55
|
||||
|
||||
#54
ไม่ได้ทำกรณี $a$ เป็นรากซ้ำนะครับ |
#56
|
||||
|
||||
A1 (สอวน) กำหนดลำดับของพหุนาม
$x-1,x+1,(x-1)^2,x^2-1,(x+1)^2,(x-1)^3,(x^2-1)(x-1),(x^2-1)(x+1),(x+1)^3,...$ ให้ $p(x)$ เป็นผลรวมพหุนามพจน์ที่ 1957 และพจน์ที่ 2011 จงหารากจริงสมการ $p(x)=0$ ให้ลำดับดังกล่าวคือ $a_1,a_2,a_3,...$ พิจารณาลำดับ $\frac{a_2}{a_1},\frac{a_3}{a_2},\frac{a_4}{a_3},...$ เขียนได้เป็น $\frac{x+1}{x-1},\frac{(x-1)^2}{x+1},\frac{x+1}{x-1},\frac{x+1}{x-1},\frac{(x-1)^3}{(x+1)^2},\frac{x+1}{x-1},\frac{x+1}{x-1},\frac{x+1}{x-1},...$ ให้ลำดับนี้เป็น $b_1,b_2,b_3,...$ แสดงว่า $b_1 \cdot b_2=x-1$ $b_3 \cdot b_4 \cdot b_5=x-1$ จึงคาดการณืต่อไปว่า $b_6 \cdot b_7 \cdot b_8 \cdot b_9 =x-1$ นั่นคือถ้า $n$ อยู่ในรูปของ $\frac{m(m+1)}{2}$ แล้ว $b_n \cdot b_{n+1} \cdot ... \cdot b_{n+m}=x-1$ แต่ $\frac{61 \cdot 62}{2}=1891$ และ $\frac{62 \cdot 63}{2}=1953$ และ $\frac{63 \cdot 64}{2}=2016$ จึงได้ว่า $b_{1891} \cdot b_{1892} \cdot ... \cdot b_{1952} =x-1$ และได้ $b_{1953} \cdot b_{1954} \cdot \cdot b_{1955} \cdot b_{1956} = \left(\,\frac{x+1}{x-1}\right) ^4$ นั่นคือ $b_{1} \cdot b_{2} \cdot ... \cdot b_{1956}=(x-1)^{61}\cdot\left(\,\frac{x+1}{x-1}\right) ^4=(x-1)^{57}\cdot(x+1)^4$ แต่จากเดิมได้ว่า $b_{1} \cdot b_{2} \cdot ... \cdot b_{1956}=\frac{a_2}{a_1} \cdot \frac{a_3}{a_2} \cdot ... \cdot \frac{a_{1957}}{a_{1956}}=\frac{a_{1957}}{a_1}$ $\therefore a_{1957}=(x-1)^{58}\cdot(x+1)^4$ ในทำนองเดียวกันได้ว่า $a_{2011}=(x+1)^{58}\cdot(x-1)^4$ (สวยดีเนอะ ) และได้ว่าสมกาารที่เราต้องหารากก็คือสมการ $(x-1)^{58}\cdot(x+1)^4+(x+1)^{58}\cdot(x-1)^4=0$ $x=\pm 1$ หรือ $(x+1)^{54}+(x-1)^{54}=0$ ชัดเจนว่าสมการหลังไม่มีรากจริง (แสดงได้ไม่ยากว่า $(x+1)^{54}+(x-1)^{54}\geqslant 2$ $\forall x\in\mathbb{R}$) $\therefore$ รากจริงทั้งหมดของสมการ $p(x)=0$ ก็คือ $\pm 1$
__________________
keep your way.
22 พฤษภาคม 2011 16:49 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ PP_nine |
#57
|
||||
|
||||
__________________
keep your way.
|
#58
|
||||
|
||||
N3 (สอวน) จงหาเลขโดดในหลักสิบของ $$\prod_{ k = 2010 }^{2554} (3^{2^{k+1}}-3^{2^k}+1)$$
เนื่องจาก $3^2\equiv -1 (mod10)$ และ $3^4 \equiv 1 (mod10)$ จึงได้ว่า $3^{2^k} \equiv 1 (mod10)$ สำหรับ $k=2010,2011,...,2554$ $\therefore 100 \mid 3^{2^{k+1}} - 2 \cdot 3^{2^k} +1$ $100 \mid 3^{2^{k+1}} - 3^{2^k} +1 - 3^{2^k}$ $\therefore 3^{2^{k+1}} - 3^{2^k} +1 \equiv 3^{2^k} (mod 100)$ $$\therefore \prod_{k=2010}^{2554} (3^{2^{k+1}}-3^{2^k}+1) \equiv \prod_{k=2010}^{2554} 3^{2^k} (mod100)$$ ต่อไปก็พิจารณา $\sum_{k=2010}^{2554} 2^k (mod 40)$ เพราะ $3^{40} \equiv 1 (mod100)$ โดยสังเกตเศษเหลือดังต่อไปนี้ $2^5 \equiv 32 (mod40)$ $2^6 \equiv 24 (mod40)$ $2^7 \equiv 8 (mod40)$ $2^8 \equiv 16 (mod40)$ $2^{9} \equiv 32 (mod40)$ $2^{10} \equiv 24 (mod40)$ $2^{11} \equiv 8 (mod40)$ $2^{12} \equiv 16 (mod40)$ ... นั่นคือถ้าเรา pack ทั้ง 4 ตัวที่ติดกันเข้าด้วยกัน ก็จะให้เศษเหลือเป็น $32+24+8+16 \equiv 0 (mod 40)$ แต่ตัวที่เราพิจารณามีทั้งหมด $2554-2010+1=545$ ตัว ซึ่งเมื่อ pack 4 ตัวแล้วจะเหลือเศษ 1 ตัวก็คือ $2^{2554}$ (เหรือจะเอา $2^{2010}$ ก็ได้ ซึ่งให้เศษเท่ากัน) และจาก $2554 \equiv 2 (mod 4)$ แสดงว่า $2^{2554} \equiv 24 (mod 40)$ (โดยตารางข้างต้น) $\therefore 3^{\sum_{k=2010}^{2554} 2^k} \equiv 3^{24} \equiv 81(mod100)$ $$\therefore \prod_{k=2010}^{2554} (3^{2^{k+1}}-3^{2^k}+1) \equiv 81 (mod100)$$ จึงได้ว่าเลขโดดหลักสิบเป็น 8
__________________
keep your way.
|
#59
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
ให้ $\displaystyle a=\prod_{i=1}^{n}p_i^{k_i}$ และ $\displaystyle N=\prod_{i=1}^{n}p_i$ โดยที่ $p_i$ เป็นจำนวนเฉพาะที่แตกต่างกัน และ $k_i$ เป็นจำนวนนับ เมื่อ $i\in\left\{1,2,3,\ldots,n\right\}$ จาก $p_i|a$ และ $a|b^c$ จะได้ว่า $p_i|b^c$ เมื่อ $i\in\left\{1,2,3,\ldots,n\right\}$ นั่นคือ $p_i|b$ ทุกๆ $i\in\left\{1,2,3,\ldots,n\right\}$ ฉะนั้น $N|b$ และ $N^a|b^a$ จาก $p_i$ เป็นจำนวนเฉพาะ และ $k_i$ เป็นจำนวนนับ ดังนั้น $p_i\geq2$ และ $k_i\leq2^{k_i}$ (Induction) จะได้ว่า $k_i\leq2^{k_i}\leq p_i^{k_i}\leq a$ เมื่อ $i\in\left\{1,2,3,\ldots,n\right\}$ นั่นคือ $p_i^{k_i}|p_i^a$ ทุกๆ $i\in\left\{1,2,3,\ldots,n\right\}$ ดังนั้น $a|N^a$ เพราะฉะนั้น $a|b^a$ // ข้อนี้ไม่ยาก ไม่ค่อยมีทางเลือกให้ทำมากนัก จึงไม่น่าจะหลงทางกัน |
#60
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
กำหนด จุดศูนย์กลางวงกลมทั้งสาม $X,Y,Z$ มีรัศมี $r_1,r_2,r_3$ ตามลำดับ โดยวงกลม $X,Y$ สัมผัสที่ $C$, วงกลม $Y,Z$ สัมผัสที่ $A$ และ วงกลม $Z,X$ สัมผัสที่ $B$ ให้ $Z\widehat{X}Y=2x,X\widehat{Y}Z=2y,Y\widehat{Z}X=2z$ จะได้ว่า $x+y+z=\dfrac{\pi}{2}$ และได้อีกว่า $C\widehat{A}B=y+z,A\widehat{B}C=z+x,B\widehat{C}A=x+y$ ให้ $w$ เป็น Incircle ของสามเหลี่ยม $XYZ$ จะได้ว่า $w$ สัมผัส $XY,YZ,ZX$ ที่ $C,A,B$ ตามลำดับ นั่นคือ $w$ เป็น Circumcircle ของสามเหลี่ยม $ABC$ ให้ $r$ เป็นรัศมีของ $w$ จะได้ว่า $\dfrac{r}{r_1}=\tan x,\dfrac{r}{r_2}=\tan y,\dfrac{r}{r_3}=\tan z$ และ $\dfrac{AB}{2r}=\sin(x+y),\dfrac{BC}{2r}=\sin(y+z),\dfrac{CA}{2r}=\sin(z+x)$ ดังนั้น $\dfrac{p}{r}=2\left(\cos x+\cos y+\cos z\right)$ นั่นคือ $\begin{array}{rcl} \dfrac{p}{r}\left(\dfrac{r}{r_1}+\dfrac{r}{r_2}+\dfrac{r}{r_3}\right)&=&\left(\cos x+\cos y+\cos z\right) \left(2\tan x+2\tan y +2\tan z\right) \\ &&\\ &=&\left(\cos x+\cos y+\cos z\right)\left[(\tan x+\tan y)+(\tan y+\tan z)+(\tan z+\tan x)\right]\\ &&\\ &=&\left(\cos x+\cos y+\cos z\right)\left(\dfrac{\sin(x+y)}{\cos x\cos y}+\dfrac{\sin(y+x)}{\cos y\cos z}+\dfrac{\sin(z+x)}{\cos z\cos x}\right)\\ &&\\ &=&\left(\cos x+\cos y+\cos z\right)\left(\dfrac{\cos z}{\cos x\cos y}+\dfrac{\cos x}{\cos y\cos z}+\dfrac{\cos y}{\cos z\cos x}\right)\\ &&\\ &\geq&9\\ &&\\ \therefore\dfrac{1}{r_1}+\dfrac{1}{r_2}+\dfrac{1}{r_2}&\ge& \dfrac{9}{p} \end {array}$ // ข้อนี้ไล่มุมได้ไม่ยาก // Point นึง น่าจะอยู่ตรงแสดงว่า วงกลมล้อมรอบ ABC แนบในสามเหลี่ยมรูปใหญ่ แต่ทำได้ไม่ยาก // ส่วนที่ยากจริงๆอยู่ตรง อสมการ ทางเลือกเยอะ จัดรูปได้หลายแบบ ทำให้หลงทางได้ง่าย |
หัวข้อคล้ายคลึงกัน | ||||
หัวข้อ | ผู้ตั้งหัวข้อ | ห้อง | คำตอบ | ข้อความล่าสุด |
ใครมี Shortlisted TMO8 บ้างครับ | ~ArT_Ty~ | ข้อสอบโอลิมปิก | 2 | 07 เมษายน 2012 22:14 |
|
|