Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์มัธยมศึกษา > ปัญหาคณิตศาสตร์ ม. ต้น > ข้อสอบในโรงเรียน ม.ต้น
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 06 เมษายน 2013, 13:59
math ninja's Avatar
math ninja math ninja ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 23 กุมภาพันธ์ 2010
ข้อความ: 125
math ninja is on a distinguished road
Default IWYMIC 2001

บุคคล http://www.taimc2012.org/problem/200...Individual.pdf
ทีม http://www.taimc2012.org/problem/2001-IWYMIC-Team.pdf
มาช่วยกันเฉลย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 12 เมษายน 2013, 23:08
ATEKROW's Avatar
ATEKROW ATEKROW ไม่อยู่ในระบบ
เริ่มฝึกวรยุทธ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 21 มีนาคม 2013
ข้อความ: 25
ATEKROW is on a distinguished road
Default

แม้ว่าจะดูเก่า แต่บางข้อก็ค่อนข้างยากเหมือนกันนะครับนี่...
แต่บางข้อเป็นแบบฝึกในค่ายประถมก็มีนะครับ
__________________
มองมุมกลับ...ปรับมุมมอง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 12 เมษายน 2013, 23:17
Suwiwat B's Avatar
Suwiwat B Suwiwat B ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 พฤษภาคม 2008
ข้อความ: 569
Suwiwat B is on a distinguished road
Default

1. หา n ทั้งหมดที่ทำให้ $1+2+...+n$ เป็นตัวเลข 3 หลักที่เป็นเลขโดดเดียวกัน
มี 9 กรณี 111 ถึง 999 ไล่ไปให้ครบ จะได้ว่าเป็น $\frac{n(n+1)}{2} = 666$ เท่านั้น เพราะจะได้ว่า $n=36$ จำนวนเดียว

7. หาจำนวนเฉพาะ p ที่ทำให้มีจำนวนเต็ม x,y ที่ทำให้
$p+1 = 2x^2$ เเละ $p^2 + 1=2y^2$

สมมติว่า x,y เป็นจำนวนเต็มบวก เเละเห็นได้ชัดว่า p เป็นจำนวนคี่ จับสมการมาลบกัน
$$p(p-1) = 2(y-x)(y+x) $$
p เป็นจำนวนคี่ ดังนั้น p หาร 2 ไม่ลงเเน่ๆ เเบ่งเป็น 2 กรณี
ถ้า p หาร y-x จะได้ $p \leqslant y-x$ ทำให้ $p-1 \geqslant 2y+2x$ ซึ่งเป็นไปไม่ได้
ดังนั้น $p \leqslant y+x$ เเละ $p-1 \geqslant 2(y-x)$ ทำให้ได้ว่า $p+1 \leqslant 4x$ เเต่จากโจทย์ทำให้ได้ว่า
$2x^2 \leqslant 4x$ จะได้ว่า $x\leqslant 2$
ถ้า $x=1$ จะได้ $p=1$ ไม่เป็นจำนวนเฉพาะ
ถ้า $x=2$ จะได้ $p=7$ เป็นจำนวนเฉพาะ
__________________
ต้องสู้ถึงจะชนะ

CCC Mathematic Fighting

เครียด เลย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 12 เมษายน 2013, 23:37
Suwiwat B's Avatar
Suwiwat B Suwiwat B ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 พฤษภาคม 2008
ข้อความ: 569
Suwiwat B is on a distinguished road
Default

9. หาค่า $\sqrt{12-\sqrt{24}+\sqrt{39}-\sqrt{104}} - \sqrt{12+\sqrt{24}+\sqrt{39}+\sqrt{104}}$

ให้ $a = \sqrt{12-\sqrt{24}+\sqrt{39}-\sqrt{104}} - \sqrt{12+\sqrt{24}+\sqrt{39}+\sqrt{104}}$ จะได้

$$a^2 = 24 + 2\sqrt{39} - 2\sqrt{(12+\sqrt{39})^2 - (\sqrt{24}+\sqrt{104})^2}$$
$$a^2 = 24 + 2\sqrt{39} - 2\sqrt{55+2\sqrt{624}}$$
$$a^2 = 24 + 2\sqrt{39} - 2\sqrt{(\sqrt{39}+4)^2}$$
$$a^2 = 24 + 2\sqrt{39} - 2(\sqrt{39}+4)$$
$$a^2 = 24 + 2\sqrt{39} - 2\sqrt{39} - 8$$
$$a^2 = 24 - 8 =16$$
$$a = 4,-4$$

เเต่ $\sqrt{12-\sqrt{24}+\sqrt{39}-\sqrt{104}} < \sqrt{12+\sqrt{24}+\sqrt{39}+\sqrt{104}}$ ทำให้ $a<0$ นั่นคือ $a=-4$
__________________
ต้องสู้ถึงจะชนะ

CCC Mathematic Fighting

เครียด เลย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 12 เมษายน 2013, 23:58
Suwiwat B's Avatar
Suwiwat B Suwiwat B ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 พฤษภาคม 2008
ข้อความ: 569
Suwiwat B is on a distinguished road
Default

section B ข้อที่ 1
ให้ a,b เป็นจำนวนจริงบวกที่ไม่เท่ากัน $A = \frac{a+b}{2} , G = \sqrt{ab}$ จงเเสดงว่า $G < \frac{(a-b)^2}{8(A_G)} < A$

$$(a-b)^2 = (a+b)^2 - 4ab = 4(A+G)(A-G)$$
$$\therefore \frac{(a-b)^2}{8(A_G)} = \frac{4(A+G)(A-G)}{8(A-G)} = \frac{A+G}{2}$$

ทำให้ได้ว่า $G < \frac{A+G}{2} < A$ ซึ่งเป็นจริงเสมอ จาก $a\not= b$ ทำให้ $A\not= B $
__________________
ต้องสู้ถึงจะชนะ

CCC Mathematic Fighting

เครียด เลย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 13 เมษายน 2013, 00:10
Suwiwat B's Avatar
Suwiwat B Suwiwat B ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 พฤษภาคม 2008
ข้อความ: 569
Suwiwat B is on a distinguished road
Default

ข้อ 6 ประเภททีม
หมุนสามเหลี่ยม ABP ให้ด้าน AB ทับด้าน AC จุด P กลายเป็นจุด P' ลากเส้น PP' จะพบว่าสามเหลี่ยม APP' เป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า ได้ว่าด้าน PP' = 4 เเล้วส่งผลให้สามเหลี่ยม PP'C เป็นสามเหลี่ยมมุมฉาก ทำให้มุม AP'C มีค่า 150 องศา ทำให้

$$AC^2 = 4^2 + (4\sqrt{3})^2 - 2(4)(4\sqrt{3})cos150\circ = 112$$

พื้นที่สามเหลี่ยม $ABC = \frac{\sqrt{3}}{4}AC^2 = 28\sqrt{3}$
__________________
ต้องสู้ถึงจะชนะ

CCC Mathematic Fighting

เครียด เลย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 13 เมษายน 2013, 11:55
ATEKROW's Avatar
ATEKROW ATEKROW ไม่อยู่ในระบบ
เริ่มฝึกวรยุทธ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 21 มีนาคม 2013
ข้อความ: 25
ATEKROW is on a distinguished road
Default

ขอร่วมเฉลยด้วยคนครับ..
ข้อสอง ประเภทเดี่ยว ตามรูปครับผม
ลาก CE แล้วแบ่งเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า ได้ CE=4 ครับ
จะได้พื้นที่คือ $7 \sqrt{3} $ ครับผม
รูปภาพที่แนบมาด้วย
 
__________________
มองมุมกลับ...ปรับมุมมอง

13 เมษายน 2013 17:01 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ ATEKROW
เหตุผล: เพิ่มเติม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 14 เมษายน 2013, 13:12
Suwiwat B's Avatar
Suwiwat B Suwiwat B ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 พฤษภาคม 2008
ข้อความ: 569
Suwiwat B is on a distinguished road
Default

8. จงหารากจริงของสมการ
$$\sqrt{3x^2-18x+52} + \sqrt{2x^2-12x+162} = \sqrt{-x^2+6x+280}$$
ให้ $-x^2 +6x = A$ จะได้ $\sqrt{-3A+52} + \sqrt{-2A+162} = \sqrt{A+280}$
ทำให้เห็นว่า $-3A+52\geqslant 0$ เเละ $-2A+162\geqslant 0$ เเละ $A+280\geqslant 0$ นั่นคือ $-280\leqslant A\leqslant \frac{52}{3}$
$$\sqrt{-3A+52} + \sqrt{-2A+162} = \sqrt{A+280}$$
$$\sqrt{-2A+162}=\sqrt{A+280}-\sqrt{-3A+52} $$
$$-2A+162=A+280-3A+52-2\sqrt{A+280}\sqrt{-3A+52} $$
$$(A+280)(-3A+52)=7225$$
$$3A^2+788A-7335=0$$
$$A=9,-\frac{815}{3}$$
นำไปตรวจคำตอบจะได้เเค่ $A=9$
$$-x^2 + 6x = 9$$
$$x=3$$
__________________
ต้องสู้ถึงจะชนะ

CCC Mathematic Fighting

เครียด เลย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #9  
Old 14 เมษายน 2013, 13:29
gon's Avatar
gon gon ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 29 มีนาคม 2001
ข้อความ: 4,608
gon is on a distinguished road
Smile

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Suwiwat B View Post
8. จงหารากจริงของสมการ
$$\sqrt{3x^2-18x+52} + \sqrt{2x^2-12x+162} = \sqrt{-x^2+6x+280}$$
ให้ $-x^2 +6x = A$ จะได้ $\sqrt{-3A+52} + \sqrt{-2A+162} = \sqrt{A+280}$
ทำให้เห็นว่า $-3A+52\geqslant 0$ เเละ $-2A+162\geqslant 0$ เเละ $A+280\geqslant 0$ นั่นคือ $-280\leqslant A\leqslant \frac{52}{3}$
โหดมากครับ.

อีกวิธีหนึ่งคือ

ให้ $A = \sqrt{3x^2-18x+52} = \sqrt{3(x-3)^2 + 25}$

และ $B = \sqrt{2x^2-12x+162} = \sqrt{2(x-3)^2+144}$

และ $C = \sqrt{-x^2+6x+280} = \sqrt{-(x-3)^2+289}$

จะเห็นว่า $A \ge 5, B \ge 12, C \le 17$ แสดงว่า $A + B \ge 17$

ดังนั้นสมการเป็นจริงก็ต่อเมื่อ $A = 5$ และ $B = 12$ และ $C = 17$ เท่านั้น

ซึ่งจะเกิดเมื่อ $x = 3$
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #10  
Old 14 เมษายน 2013, 14:25
Suwiwat B's Avatar
Suwiwat B Suwiwat B ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 พฤษภาคม 2008
ข้อความ: 569
Suwiwat B is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ gon View Post
โหดมากครับ.

อีกวิธีหนึ่งคือ

ให้ $A = \sqrt{3x^2-18x+52} = \sqrt{3(x-3)^2 + 25}$

และ $B = \sqrt{2x^2-12x+162} = \sqrt{2(x-3)^2+144}$

และ $C = \sqrt{-x^2+6x+280} = \sqrt{-(x-3)^2+289}$

จะเห็นว่า $A \ge 5, B \ge 12, C \le 17$ แสดงว่า $A + B \ge 17$

ดังนั้นสมการเป็นจริงก็ต่อเมื่อ $A = 5$ และ $B = 12$ และ $C = 17$ เท่านั้น

ซึ่งจะเกิดเมื่อ $x = 3$
ผมก็พยายามหาๆอยู่ว่ามันน่าจะมีอะไรเเบบนี้เกิดขึ้น .. เเต่ผมมองไม่ออก .. จัดยกกำลังสองไปเลย
ข้อ 2 section B ไม่ค่อยมั่นใจนะครับ

จาก $3^{2x} - 3\times 3^x = p$
จะได้ $3^x = \frac{3\pm \sqrt{9+4p}}{2}$
เพื่อให้ได้ x ที่เป็นจำนวนจริงบวกที่เเตกต่างกัน คือ $x>0$ นั่นคือ $3^x > 1$
ทำให้ได้ว่า $9+4p>0$ (ถ้าเป็น 0 จะได้ x ที่เหมือนกัน) เเละ $\frac{3+ \sqrt{9+4p}}{2}>1$ เเละ $\frac{3 - \sqrt{9+4p}}{2}>1$
$p>-\frac{9}{4}$ เเละ $3 - \sqrt{9+4p}>2$
$p>-\frac{9}{4}$ เเละ $p<-2$
ทำให้ได้ว่า $-\frac{9}{4}<p<-2$
__________________
ต้องสู้ถึงจะชนะ

CCC Mathematic Fighting

เครียด เลย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #11  
Old 14 เมษายน 2013, 14:48
Suwiwat B's Avatar
Suwiwat B Suwiwat B ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 พฤษภาคม 2008
ข้อความ: 569
Suwiwat B is on a distinguished road
Default

ข้อ 6. เดี่ยว
วาดรูปเเล้วจะเห็นได้ว่าถ้าสมมติให้ $BD=a , CE=a+1 , AF = a+2$ จะได้ว่า $BF=a , DC=a+1 , AE=a+2$
จาก $พื้นที่สามเหลี่ยม = rs$ โดย $s = \frac{2a+1+2a+2+2a+3}{2} = 3a+3$
$$\sqrt{(3a+3)(a)(a+1)(a+2)} = 4(3a+3)$$

$$a(a+1)(a+2)(3)(a+1) = 16(9)(a+1)^2$$

เเต่ $a+1 \not= 0$

$$a(a+2) = 48$$
$a$ เป็นจำนวนเต็ม เห็นได้ว่า $a=6$
ดังนั้นด้านของสามเหลี่ยมคือ $ 2a+1,2a+2,2a+3$ คือ $13,14,15 $
__________________
ต้องสู้ถึงจะชนะ

CCC Mathematic Fighting

เครียด เลย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #12  
Old 27 สิงหาคม 2013, 15:24
Thamma Thamma ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณคุ้มครองร่าง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 19 กุมภาพันธ์ 2013
ข้อความ: 307
Thamma is on a distinguished road
Default

ข้อ 10. มีวิธีงดงามในการหาคำตอบข้อนี้ไหมคะ

ข้อ 3. กรุณาแนะนำวิธีพิสูจน์ด้วยนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ
รูปภาพที่แนบมาด้วย
   
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #13  
Old 01 กันยายน 2013, 18:05
gon's Avatar
gon gon ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 29 มีนาคม 2001
ข้อความ: 4,608
gon is on a distinguished road
Icon22

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Thamma View Post
ข้อ 10. มีวิธีงดงามในการหาคำตอบข้อนี้ไหมคะ

ข้อ 3. กรุณาแนะนำวิธีพิสูจน์ด้วยนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ
ข้อ 10 ยังหาวิธีสวย ๆ ไม่ได้เลยครับ.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #14  
Old 05 กันยายน 2013, 00:48
gon's Avatar
gon gon ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 29 มีนาคม 2001
ข้อความ: 4,608
gon is on a distinguished road
Icon20

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Thamma View Post
ขอบคุณทีช่วยตอบคำถามนะคะ

แนะนำวิธีไม่ค่อยสวยก็ได้ค่ะ





05 กันยายน 2013 01:14 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 3 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ gon
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #15  
Old 05 กันยายน 2013, 11:34
Thamma Thamma ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณคุ้มครองร่าง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 19 กุมภาพันธ์ 2013
ข้อความ: 307
Thamma is on a distinguished road
Lightbulb

ขอบคุณมากค่ะที่กรุณาอธิบายอย่างละเอียด เข้าใจได้ง่าย
เพิ่งรู้จัก mod เป็นครั้งแรก

วิธีป่าเถื่อนนี่เจ๋งจริงๆ !

แต่สงสัยอยู่เรื่องหนึ่งว่า ตัวเลข 31 มีที่มาอย่างไรคะ

05 กันยายน 2013 12:01 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Thamma
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply


หัวข้อคล้ายคลึงกัน
หัวข้อ ผู้ตั้งหัวข้อ ห้อง คำตอบ ข้อความล่าสุด
IMO 2001 ข้อ 2 ครับ Beatmania อสมการ 7 17 ตุลาคม 2011 15:16
15 หลักสุดท้ายของ 2001^2001ช่วยทีครับ การบ้านวิชา ทฤษฎีจำนวน amity ทฤษฎีจำนวน 5 13 กันยายน 2011 16:18
Flanders MO 2001 Catt ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วไป 2 25 ตุลาคม 2001 18:42
ผลการแข่งขันคณิตโอลิมปิก ปี2001ที่ USA <sj_khom@yahoo.com> ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วไป 2 14 กรกฎาคม 2001 14:15
APMO 2001 ข้อ4 <ลองทำดูสิ> พีชคณิต 8 25 เมษายน 2001 18:32


กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 01:11


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha