Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์ทั่วไป > ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วไป
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 23 มีนาคม 2009, 01:13
Onasdi's Avatar
Onasdi Onasdi ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 พฤษภาคม 2005
ข้อความ: 760
Onasdi is on a distinguished road
Default โจทย์ชวนคิด

กำหนดให้การปฏิบัติการกับเลข 4 ตัวที่เรียงกันเป็นวงกลม คือการหาค่าเฉลี่ยของเลขที่ติดกัน แล้วเขียนเลขที่ได้มาใหม่ลงไปในช่องระหว่างตัวเลขเดิม แล้วลบตัวเลขเดิมทิ้ง เช่น เริ่มมามี 2,3,5,7 -> 2.5,4,6,4.5 (เรียงเป็นวงกลม) ถ้าเริ่มด้วยตัวเลข 4 ตัวชุดนึง แล้วทำการปฏิบัติการดังกล่าวไปแล้ว 20 ครั้ง แล้วได้ 1,2,3,4 ซึ่งอาจไม่ได้เรียงลำดับอย่างนี้ คำถามคือ
(i) เราสามารถหาชุดตัวเลขหลังจากที่ทำการปฏิบัติการไปแล้ว 1 ครั้งได้หรือไม่
(ii) เราสามารถหาชุดตัวเลขเริ่มต้นได้หรือไม่
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 23 มีนาคม 2009, 08:23
หมาป่าขาว's Avatar
หมาป่าขาว หมาป่าขาว ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 สิงหาคม 2008
ข้อความ: 166
หมาป่าขาว is on a distinguished road
Default

ผมคิดว่าทั้ง(i)และ(ii)น่าจะหาได้ทั้งคู่แต่ก็ยังคิดไม่ออกเลยนะเนี่ย
__________________
การกระทำของคุณอาจไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่ แต่สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่คุณได้ลงมือทำมันแล้วต่างหาก

มหาตมะ คานธี
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 23 มีนาคม 2009, 09:36
Bebe' Bebe' ไม่อยู่ในระบบ
สมาชิกใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 23 มีนาคม 2009
ข้อความ: 1
Bebe' is on a distinguished road
Default

ยอมแฟ้ค่าาา
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 23 มีนาคม 2009, 13:38
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

ให้ $a_0,b_0,c_0,d_0$ เป็นจำนวนจริงที่แตกต่างกัน ซึ่งมีคุณสมบัติว่า $a_0+c_0=b_0+d_0$

นิยามลำดับ

$a_{n+1}=\dfrac{a_n-c_n+2d_n}{2}$

$b_{n+1}=\dfrac{3a_n+c_n-2d_n}{2}$

$c_{n+1}=\dfrac{a_n+3c_n-2d_n}{2}$

$d_{n+1}=\dfrac{-a_n+c_n+2d_n}{2}$

สังเกตว่า

$a_{n+1}+c_{n+1}=b_{n+1}+d_{n+1}=a_0+c_0$ ทุกค่า $n=0,1,2,...$

ดังนั้น

$\dfrac{a_{n+1}+b_{n+1}}{2}=a_n$

$\dfrac{b_{n+1}+c_{n+1}}{2}=b_n$

$\dfrac{c_{n+1}+d_{n+1}}{2}=c_n$

$\dfrac{d_{n+1}+a_{n+1}}{2}=d_n$

สรุปว่า ถ้ามีชุดตัวเลข $a_0,b_0,c_0,d_0$ ซึ่งมีคุณสมบัติ $a_0+c_0=b_0+d_0$

เราสามารถเจาะเวลาไปหาอดีตของจำนวนชุดดังกล่าวได้ทุกอันดับโดยใช้ลำดับที่สร้างไว้ข้างบน

กลับไปดูที่ชุดตัวเลขในโจทย์ เราสามารถกำหนดให้

$a_0=1,b_0=2,c_0=4,d_0=3$

จะได้ $a_0+c_0=5=b_0+d_0$

ดังนั้นเราสามารถเจาะเวลาไปหาอดีตของ $1,2,3,4$ ได้ทุกอันดับ

ป.ล. ยังไม่ได้แสดงว่าลำดับที่สร้างมานั้นมีค่าต่างกันถ้าจำนวนเริ่มต้นมีค่าต่างกันทั้งหมด เดี๋ยวคืนนี้มาต่อครับ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 24 มีนาคม 2009, 11:15
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

ต่อไปจะพิสูจน์ว่า $a_n,b_n,c_n,d_n$ มีค่าต่างกันทั้งหมด

ถ้า $n=0$ ข้อความจริงจากที่กำหนดไว้

สมมติ $a_n,b_n,c_n,d_n$ มีค่าต่างกันทั้งหมด

สังเกตว่า

$a_{n+1}=b_{n+1}\Leftrightarrow d_{n}=\dfrac{a_n+c_n}{2}=\dfrac{a_0+c_0}{2}=\dfrac{b_n+d_n}{2}\Leftrightarrow b_n=d_n$

$a_{n+1}=c_{n+1}\Leftrightarrow c_n=d_n$

$a_{n+1}=d_{n+1}\Leftrightarrow a_n=c_n$

$b_{n+1}=c_{n+1}\Leftrightarrow a_n=c_n$

$b_{n+1}=d_{n+1}\Leftrightarrow a_n=d_n$

$c_{n+1}=d_{n+1}\Leftrightarrow d_n=\dfrac{a_n+c_n}{2}\Leftrightarrow b_n=d_n$

ดังนั้นจากสมมติฐานในขั้นอุปนัยเราจะได้ว่า $a_{n+1},b_{n+1},c_{n+1},d_{n+1}$ มีค่าต่างกันทั้งหมด

โดยอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์เราจะได้ว่า $a_n,b_n,c_n,d_n$ มีค่าต่างกันทั้งหมด ทุกค่า $n=0,1,2,...$

ส่วนข้างล่างนี้เป็นอดีตของ $1,2,3,4$ ย้อนไป $5$ อันดับ

$1,2,3,4$

$\dfrac{3}{2},\dfrac{1}{2},\dfrac{7}{2},\dfrac{9}{2}$

$\dfrac{7}{2},-\dfrac{1}{2},\dfrac{3}{2},\dfrac{11}{2}$

$\dfrac{13}{2},\dfrac{1}{2},-\dfrac{3}{2},\dfrac{9}{2}$

$\dfrac{17}{2},\dfrac{9}{2},-\dfrac{7}{2},\dfrac{1}{2}$

$\dfrac{13}{2},\dfrac{21}{2},-\dfrac{3}{2},-\dfrac{11}{2}$
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 24 มีนาคม 2009, 12:21
Onasdi's Avatar
Onasdi Onasdi ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 พฤษภาคม 2005
ข้อความ: 760
Onasdi is on a distinguished road
Default

ยังงงๆอยู่อะครับว่าทำไมต้องแสดงว่า $a_n,b_n,c_n,d_n$ มีค่าต่างกันทั้งหมด
แล้วก็ผมคิดว่าคุณ nooonuii ยังไม่ได้แสดงว่า $a_{n+1},b_{n+1},c_{n+1},d_{n+1}$ เป็นอดีตที่เป็นไปได้เพียงชุดเดียวของ $a_n,b_n,c_n,d_n$ (หมายถึงไม่มีเลขสี่ตัวอื่นแล้วที่จะเป็นอดีตของ $a_n,b_n,c_n,d_n$ ได้)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 24 มีนาคม 2009, 13:00
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Onasdi View Post
ยังงงๆอยู่อะครับว่าทำไมต้องแสดงว่า $a_n,b_n,c_n,d_n$ มีค่าต่างกันทั้งหมด
ตอนแรกผมกังวลว่ามันจะมีกรณีที่ชุดตัวเลขบางชุดเป็น fixed point น่ะครับ เช่น $1,1,1,1$

ซึ่งกรณีนี้เราไม่สามารถย้อนอดีตไปหาตัวอื่นได้นอกจากตัวมันเอง

ผมจึงพิสูจน์ให้เห็นว่าถ้าเราเริ่มต้นด้วยจำนวนที่ต่างกันทั้งหมด เราจะสามารถย้อนอดีตไปกี่อันดับก็ได้

เพราะสิ่งที่โจทย์ต้องการคืออดีตของ $1,2,3,4$

ในส่วนของ uniqueness ไม่มีในโจทย์ก็เลยไม่ได้แสดงไว้ แต่พิสูจน์ก็ไม่ยากครับ

ซึ่งจริิงๆแล้วระหว่างทางที่ได้สูตรข้างบนมาผมก็เห็น uniqueness ของลำดับนั้นแล้วแหละ แต่ไม่ได้ระบุไว้

เป็นโจทย์ประยุกต์การแก้ระบบสมการเชิงเส้นที่แปลกและสวยดีครับ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น

24 มีนาคม 2009 13:14 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nooonuii
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 24 มีนาคม 2009, 16:04
Onasdi's Avatar
Onasdi Onasdi ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 พฤษภาคม 2005
ข้อความ: 760
Onasdi is on a distinguished road
Default

ยังไม่ค่อยเข้าใจครับ อดีตของ 1,1,1,1 ก็คือ 1,1,1,1 ถึงจะเหมือนกันแต่ก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอครับ

พออธิบายนิดนึงว่าคำ่ว่า "หาชุดตัวเลขได้" ในโจทย์ ผมตั้งใจจะหมายความว่า จากข้อมูลที่ให้มาจะมีชุดตัวเลขที่ต้องการเพียงชุดเดียว ขออภัยที่เขียนไม่ชัดเจนครับ แล้วคุณ nooonuii เข้าใจคำว่า "หาได้" ว่ายังไงครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #9  
Old 24 มีนาคม 2009, 19:20
Mathcenter_story's Avatar
Mathcenter_story Mathcenter_story ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 ธันวาคม 2008
ข้อความ: 87
Mathcenter_story is on a distinguished road
Send a message via MSN to Mathcenter_story
Default

นั่นสิฮับ ก็ยังงงๆอยู่เหมือนกับคุณ Onasdi @_@?
__________________
ความดีก็เหมือนกางเกงใน ต้องมีติดตัวไว้ แต่ไม่ต้องเอามาโชว์
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #10  
Old 25 มีนาคม 2009, 07:02
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Onasdi View Post
ยังไม่ค่อยเข้าใจครับ อดีตของ 1,1,1,1 ก็คือ 1,1,1,1 ถึงจะเหมือนกันแต่ก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอครับ

พออธิบายนิดนึงว่าคำ่ว่า "หาชุดตัวเลขได้" ในโจทย์ ผมตั้งใจจะหมายความว่า จากข้อมูลที่ให้มาจะมีชุดตัวเลขที่ต้องการเพียงชุดเดียว ขออภัยที่เขียนไม่ชัดเจนครับ แล้วคุณ nooonuii เข้าใจคำว่า "หาได้" ว่ายังไงครับ
ผมว่าผมคิดลึกไปนั่นเองครับ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #11  
Old 28 มีนาคม 2009, 00:10
Onasdi's Avatar
Onasdi Onasdi ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 พฤษภาคม 2005
ข้อความ: 760
Onasdi is on a distinguished road
Default

คำตอบของข้อนี้ไม่ใช่ ได้ทั้งสองข้อ นะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #12  
Old 28 มีนาคม 2009, 01:14
ลูกชิ้น's Avatar
ลูกชิ้น ลูกชิ้น ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ไว
 
วันที่สมัครสมาชิก: 05 มีนาคม 2006
ข้อความ: 216
ลูกชิ้น is on a distinguished road
Default

ทั้ง 1,1,1,1 และ 0,2,0,2 ต่างก็เป็นอดีตของ 1,1,1,1 ไม่ใช่หรอครับ

อันดับก่อนหน้าไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว
แล้วเราจะหาอันดับย้อนไป 9 หรือ 10 อันดับได้ตรงตามใจคนสร้างปัญหาหรอครับ??? งง
__________________
Do math, do everything.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #13  
Old 28 มีนาคม 2009, 01:16
ลูกชิ้น's Avatar
ลูกชิ้น ลูกชิ้น ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ไว
 
วันที่สมัครสมาชิก: 05 มีนาคม 2006
ข้อความ: 216
ลูกชิ้น is on a distinguished road
Default

อา...แต่ถ้าเป็น 1,2,3,4 มีอดีตเพียงหนึ่งตามที่พี่ nooonuii แสดงไว้จริง ๆ ด้วย
__________________
Do math, do everything.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #14  
Old 28 มีนาคม 2009, 22:51
Onasdi's Avatar
Onasdi Onasdi ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 พฤษภาคม 2005
ข้อความ: 760
Onasdi is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ ลูกชิ้น View Post
ทั้ง 1,1,1,1 และ 0,2,0,2 ต่างก็เป็นอดีตของ 1,1,1,1 ไม่ใช่หรอครับ

อันดับก่อนหน้าไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว
แล้วเราจะหาอันดับย้อนไป 9 หรือ 10 อันดับได้ตรงตามใจคนสร้างปัญหาหรอครับ??? งง
ถ้าเปลี่ยนโจทย์ข้างบนสุดเป็น 1,1,1,1 แทน อดีตของ 1,1,1,1 จะเป็น 0,2,0,2 ไม่ได้ึีครับ เพราะว่าอะไรลองคิดดูครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #15  
Old 29 มีนาคม 2009, 01:28
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

ให้ $T:\mathbb{R}^4\to\mathbb{R}^4$ นิยามโดย

$T(a,b,c,d)=\dfrac{1}{2}(a+b,b+c,c+d,d+a)$

ให้ $W=\{(a,b,c,d)\in\mathbb{R}^4:a+c=b+d\}$

พิสูจน์ได้ไม่ยากว่า $W$ เป็น invariant subspace นั่นคือ $T(W)\subseteq W$

ให้ $S=T_{|W}$ จะได้ $S:W\to W$

สมมติว่า $(a,b,c,d)\in W$ โดยที่ $S(a,b,c,d)=(0,0,0,0)$

จะได้ระบบสมการ

$a+b=0$

$b+c=0$

$c+d=0$

$d+a=0$

$a+c=b+d$

แก้ระบบสมการจะได้

$a=b=c=d=0$

ดังนั้น Ker$(S)=\{0\}$

นั่นคือ $S$ เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่ง

แต่ $W$ เป็น 3-dimensional vector space

เราจะได้ว่า $S$ เ้ป็นฟังก์ชันทั่วถึงด้วย

นั่นคือ $S$ เป็น automorphism

สูตรของ $S^{-1}$ นิยามโดย

$S^{-1}(a,b,c,d)=\dfrac{1}{2}(a-c+2d,3a+c-2d,a+3c-2d,-a+c+2d)$

อันนี้เป็นแนวคิดแบบ Linear Algebra ครับ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 00:56


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha