Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์มัธยมศึกษา > ปัญหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 08 สิงหาคม 2015, 20:22
Vand3rfool Vand3rfool ไม่อยู่ในระบบ
สมาชิกใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 03 มีนาคม 2015
ข้อความ: 9
Vand3rfool is on a distinguished road
Default ช่วยหน่อยครับบ โจทย์ยาก



ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 08 สิงหาคม 2015, 20:44
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

ข้อ $4$ พิมพ์เงื่อนไขตกไปหรือเปล่าครับ ถ้ามีแค่นี้จะไม่มีฟังก์ชันที่สอดคล้องเงื่อนไขนะ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 08 สิงหาคม 2015, 21:39
กขฃคฅฆง's Avatar
กขฃคฅฆง กขฃคฅฆง ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 21 เมษายน 2015
ข้อความ: 419
กขฃคฅฆง is on a distinguished road
Default

1. แยกตัวประกอบ

2. $f'(x) = \displaystyle{\sum_{i = 1}^{2014} (x-1)(x-2)...(x-i)'...(x-2014)}$

3. $2^b(2^{a-b}-1) = 33554400$

4. ตามที่คุณ nooonuii บอก

5. ทั้งหมด - f(1) $\not=$ 3 และ f(2) เป็นจำนวนคี่

6. แทน y=0 , x=x-f(0)

7. โลปิตาล

8. แทนค่า x=0
__________________
เหนือฟ้ายังมีอวกาศ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 10 สิงหาคม 2015, 19:32
Vand3rfool Vand3rfool ไม่อยู่ในระบบ
สมาชิกใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 03 มีนาคม 2015
ข้อความ: 9
Vand3rfool is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ กขฃคฅฆง View Post
1. แยกตัวประกอบ

2. $f'(x) = \displaystyle{\sum_{i = 1}^{2014} (x-1)(x-2)...(x-i)'...(x-2014)}$

3. $2^b(2^{a-b}-1) = 33554400$

4. ตามที่คุณ nooonuii บอก

5. ทั้งหมด - f(1) $\not=$ 3 และ f(2) เป็นจำนวนคี่

6. แทน y=0 , x=x-f(0)

7. โลปิตาล

8. แทนค่า x=0


มีอีกครับช่วยหน่อย เอ่อผมขอวิธีข้อ 2,7,8 แบบเต็มๆได้มั้ยครับ คิดไม่ออกจริงๆ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 11 สิงหาคม 2015, 00:11
tngngoapm's Avatar
tngngoapm tngngoapm ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 13 พฤศจิกายน 2014
ข้อความ: 462
tngngoapm is on a distinguished road
Default

ข้อ2)ลองใช้นิยามทำดูได้ดังนี้ครับ
$1.$ $$f'(1)=\lim_{h \to 0} \frac{f(1+h)-f(1)}{h}=\lim_{h \to 0} \frac{(h)(h-1)(h-2)...(h-2013)-0}{h}=\lim_{h \to 0}(h-1)(h-2)...(h-2013)=-(2013!)$$
$2.$ $$f'(2014)=\lim_{h \to 0} \frac{f(2014+h)-f(2014)}{h}=\lim_{h \to 0} \frac{(2013+h)(2012+h)...(1+h)(h)-0}{h}=\lim_{h \to 0}(2013+h)(2012+h)...(1+h)=(2013!)$$
$3. $$f'(1)+f'(2014)=-(2013!)+(2013!)=0$

11 สิงหาคม 2015 00:12 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ tngngoapm
เหตุผล: พิมพ์ผิด
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 11 สิงหาคม 2015, 23:09
กขฃคฅฆง's Avatar
กขฃคฅฆง กขฃคฅฆง ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 21 เมษายน 2015
ข้อความ: 419
กขฃคฅฆง is on a distinguished road
Default

7. จากโจทย์จัดรูปได้ $\dfrac{(16-x)\sqrt{8+x}-(16+x)\sqrt{8-x} }{x^3} $

โลปิตาลได้ $\dfrac{\frac{1}{2\sqrt{8-x}}-\frac{1}{2\sqrt{8+x} } }{x} $

โลปิตาลอีกครั้งก็ออกแล้วครับ

8. พิจารณา $k=13,14,15,...,2012$

$f(k) = f(f(k+2001) = f(k+1)$

ดังนั้น $f(13)=f(14)=...=f(2013)=13$

$f(0)=f(f(2001))=f(13)=13$

9.ยกกำลังสองทั้งสองข้าง

10. $det(adjA) = (detA)^{n-1}$ เมื่อ $n$ คือจำนวนหลัก(หรือแถว)
__________________
เหนือฟ้ายังมีอวกาศ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 11 สิงหาคม 2015, 23:35
Suwiwat B's Avatar
Suwiwat B Suwiwat B ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 พฤษภาคม 2008
ข้อความ: 569
Suwiwat B is on a distinguished road
Default

ให้เเนวคิดคร่าวๆลองไปทำละเอียดตามที่บอกนะครับ

7. จัดรูปในก้อนนั้นได้ $\frac{23}{x^3}[(8-\sqrt{64-x^2} )(\sqrt{8+x}-\sqrt{8-x})] $
จับ rationalization ( = คอนจูเกต ตามภาษาที่เราชอบเรียกกัน) ทั้งสองวงเล็บด้านหลังก็ทำให้กำจัดเจ้า $x^3$ ได้เเล้วครับ

8. เเนวนี้ไม่มีอะไรเลยครับ ... คือเค้าถาม f(0) เราก็เเทนลงไปเเล้วก็ไล่ไปตามเงื่อนไขของเค้า เเต่เราก็ต้องสังเกตอะไรบางอย่างไปด้วยระหว่างที่เราทำเพราะไม่งั้นชาตินี้คงได้เขียนไปอีกยาว 5555

$$f(0) = f(f(2001)) = f(f(f(4002))) = f(f(2002))$$

จากตรงนี้เราพอไปต่อได้เลยว่ามันจะเกิดเป็น $=f(f(2003)) = f(f(2004)) = f(f(2005)) = ... = f(f(2012))= f(f(2013)) = f(13)$ ถูกมั้ยครับ

เราก็เลยมองไปต่อจาก $f(0)=f(13)$ว่า

$f(0)=f(13)=f(14)=f(15)=.... = f(2012) = f(2013)$

เราเลยได้ว่า $f(0) = f(2013) = 2013-2000 = 13$

9. ทางด้านซ้ายได้ออกมาเป็น
$$\sqrt{2}sin(3x+\frac{\pi}{4})=\frac{1}{4}$$
$$sin(3x+\frac{\pi}{4})=\frac{1}{4\sqrt{2}}$$

เเละมุมที่เราจะดูอยู่ในช่วง $\frac{\pi}{4}\leqslant 3x+\frac{\pi}{4}\leqslant 27\pi + \frac{\pi}{4}$

ต่อไปเราต้องมาเเกะว่า sin อะไรหว่า ได้ $\frac{1}{4\sqrt{2}}$ ก็ลองคิดดูว่า $sin\frac{\pi}{4}=\frac{1}{\sqrt{2}}$ ดังนั้นมุมที่ทำให้ $sin ?? = \frac{1}{4\sqrt{2}}$ มันต้องน้อยกว่า \frac{\pi}{4} เเน่นอน สมมตว่าคำตอบนั้นเป็น $A$ นั่นเเปลว่าใน 1 รอบการหมุนจาก $\frac{\pi}{4}$ ถึง $\frac{\pi}{4} + 2\pi$ ก็จะผ่านคำตอบทั้งหมด 2 ครั้ง นั่นคือ $180-A$ กับ $360 + A$ (นึกไม่ออกลองวาดรูปดูนะครับเเล้วจะเห็นภาพ)

$\frac{\pi}{4}$ ถึง $\frac{\pi}{4} + 2\pi$ โดนคำตอบไป 2 ครั้ง
$\frac{\pi}{4}+2\pi$ ถึง $\frac{\pi}{4} + 4\pi$ โดนคำตอบไป 2 ครั้ง
$\frac{\pi}{4}+4\pi$ ถึง $\frac{\pi}{4} + 6\pi$ โดนคำตอบไป 2 ครั้ง

ไปเรื่อยๆ

$\frac{\pi}{4}+24\pi$ ถึง $\frac{\pi}{4} + 26\pi$ โดนคำตอบไป 2 ครั้ง
สุดท้าย
$\frac{\pi}{4}+2ุ6\pi$ ถึง $\frac{\pi}{4} + 27\pi$ โดนคำตอบไป 1 ครั้ง

สรุปว่ามีคำตอบทั้งหมด 27 คำตอบ

10. จากสูตรที่โด่งดังมากๆๆๆๆในอดีตการสอบ entrance ซึ่งนานเหลือเกินว่า
$$det(adj(A)) = det(A)^{n-1}$$
เมื่อ n เป็นมิติของ matrix
อัดเข้าไปในสิ่งที่เค้าให้มา เเล้วจะได้ว่าคำตอบเป็น 8 ดังนั้น det(A) = 2
__________________
ต้องสู้ถึงจะชนะ

CCC Mathematic Fighting

เครียด เลย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 19:41


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha