Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์มัธยมศึกษา > ปัญหาคณิตศาสตร์ ม. ต้น > ข้อสอบในโรงเรียน ม.ต้น
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #16  
Old 10 ตุลาคม 2012, 18:28
whatshix's Avatar
whatshix whatshix ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 23 พฤศจิกายน 2009
ข้อความ: 430
whatshix is on a distinguished road
Default



ตัวอย่างชุดที่ 1
จาก $3! = 3\times2\times1 = 6$
จะได้ $6! = 6\times5! = 3!\times5!$

ตัวอย่างชุดที่ 2
จาก $4! = 4\times3\times2\times1 = 24$
จะได้ $24! = 24\times23! = 4!\times23!$

ตัวอย่างชุดที่ 3
จาก $5! = 5\times4\times3\times2\times1 = 120$
จะได้ $120! = 120\times119! = 5!\times119!$

ตัวอย่างชุดที่ 4
จาก $6! = 6\times5\times4\times3\times2\times1 = 720$
จะได้ $720! = 720\times719! = 6!\times719!$

ตัวอย่างชุดที่ 5
จาก $7! = 7\times6\times5\times4\times3\times2\times1 = 5040$
จะได้ $5040! = 5040\times5039! = 7!\times5039!$
__________________
จริงๆแล้ว ผมคือเด็กแว้นซ์ที่ปลอมตัวมาเป็นครูสอนคณิตศาสตร์

10 ตุลาคม 2012 22:17 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ whatshix
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #17  
Old 10 ตุลาคม 2012, 21:42
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default



ลูกเต๋า 1 ลูก มี 6 หน้า ผลรวมทั้ง 6 หน้า เท่ากับ 21

สามลูก มีผลรวมเท่ากับ 63

แต่เมื่อนำทั้ง 3 ลูก มาตั้งซ้อนกัน ก็จะเหลือจำนวนหน้า 13 หายไป 5

ถ้าต้องการให้หน้าที่มองเห็นมีผลรวมมากที่สุด ก็ต้องซ่อนหน้าที่ไม่เห็นให้ใีผลรวมน้อยที่สุด

ลูกบน หายไป 1 หน้า ซ่อน 1 วางล่างสุด

ลูกกลาง หายไป 2 หน้า คือ บน กับล่าง ใช้เลข 1 กับ 2

ลูกล่างสุด หายไป 2 หน้า คือ บน กับล่าง ใช้เลข 1 กับ 2

ดังนั้นเลขที่หายไปเท่ากับ 1+1+2+1+2 = 7

ดังนั้นผลรวมมากที่สุดคือ 63 - 7 = 56
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #18  
Old 10 ตุลาคม 2012, 21:45
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default




ข้อนี้ก็เหมือนข้อ 3

ลูกเต๋า 1 ลูก มี 6 หน้า ผลรวมทั้ง 6 หน้า เท่ากับ 63

สามลูก มีผลรวมเท่ากับ 189

แต่เมื่อนำทั้ง 3 ลูก มาตั้งซ้อนกัน ก็จะเหลือจำนวนหน้า 13 หายไป 5

ถ้าต้องการให้หน้าที่มองเห็นมีผลรวมมากที่สุด ก็ต้องซ่อนหน้าที่ไม่เห็นให้มีผลรวมน้อยที่สุด

ลูกบน หายไป 1 หน้า ซ่อน 1 วางล่างสุด

ลูกกลาง หายไป 2 หน้า คือ บน กับล่าง ใช้เลข 1 กับ 2

ลูกล่างสุด หายไป 2 หน้า คือ บน กับล่าง ใช้เลข 1 กับ 2

ดังนั้นเลขที่หายไปเท่ากับ 1+1+2+1+2 = 7

ดังนั้นผลรวมมากที่สุดคือ 189 - 7 = 182
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #19  
Old 10 ตุลาคม 2012, 21:56
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default



ข้อนี้ง่ายที่สุด

คิดแบบเด็กประถม ตัวหารมาก ผลลัพธ์น้อย

แค่มองๆ ก็ตอบได้แล้ว

Name:  0110.jpg
Views: 593
Size:  31.7 KB
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #20  
Old 10 ตุลาคม 2012, 22:13
alvamar alvamar ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 01 กันยายน 2012
ข้อความ: 79
alvamar is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:

ลูกเต๋า 1 ลูก มี 6 หน้า ผลรวมทั้ง 6 หน้า เท่ากับ 21

สามลูก มีผลรวมเท่ากับ 63

แต่เมื่อนำทั้ง 3 ลูก มาตั้งซ้อนกัน ก็จะเหลือจำนวนหน้า 13 หายไป 5

ถ้าต้องการให้หน้าที่มองเห็นมีผลรวมมากที่สุด ก็ต้องซ่อนหน้าที่ไม่เห็นให้ใีผลรวมน้อยที่สุด

ลูกบน หายไป 1 หน้า ซ่อน 1 วางล่างสุด

ลูกกลาง หายไป 2 หน้า คือ บน กับล่าง ใช้เลข 1 กับ 2

ลูกล่างสุด หายไป 2 หน้า คือ บน กับล่าง ใช้เลข 1 กับ 2

ดังนั้นเลขที่หายไปเท่ากับ 1+1+2+1+2 = 7

ดังนั้นผลรวมมากที่สุดคือ 63 - 7 = 56
ลูกบาศก์ลูกนี้ 1 กับ 2 ไม่ได้ตรงข้ามกันไม่ใช่หรอครับ
ลูกบาศก์ลูกนี้เหมือนลูกเต๋าเลยนิครับ กฎของลูกเต๋าที่ว่าด้านที่ตรงข้ามมีผลรวมเท่ากับ 7 เสมอ

เพราะงั้น 13 ด้านที่เราเห็นจะมี

4 ด้านของลูกล่างสุด (อีก 2 ด้านอยู่ล่างสุด ส่วนอีกด้านโดนลูกที่อยู่ด้านบนทับไว้)
4 ด้านของลูกตรงกลาง (อีก 2 ด้านอยู่ด้านใต้กับบนเหมือนลูกที่ 1)
และ 5 ด้านของลูกบนสุด (ด้านล่างสุดถูกวางไว้ แต่อีกด้านไม่ถูกบัง)
= 4 + 4 + 5 = 13 ด้าน

ลูกเต๋าลูกแรกกับลูกตรงกลางไม่ว่าจะวางยังไง ผลรวมของ 8 ด้านนั้น จะได้เท่ากับ 7 x 4 = 28
เพราะด้่านตรงข้ามรวมกันย่อมได้ 7 มีคู่ตรงข้ามทั้งหมด 4 คู่

ส่วนลูกสุดท้าย 4 ด้านที่เห็นจากด้านข้าง รวมกันได้ 14 (7แต้ม x ด้านตรงข้าม2คู่ )
เหลืออีก 1 ด้าน ให้ด้านนี้เป็นแต้มที่คะแนนเยอะที่สุดคือ 6

รวมกันได้ 28+14+6 = 48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #21  
Old 10 ตุลาคม 2012, 22:16
alvamar alvamar ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 01 กันยายน 2012
ข้อความ: 79
alvamar is on a distinguished road
Default



ข้อนี้ ด้านที่อยู่ตรงข้ามกันคือ 8-4 ,16-2 , 32-1 มีผลรวมทุกด้าน = 63
ใน 2 ลูกล่างต้องให้ด้านคู่ตรงข้ามที่โดนบังมีผลรวมน้อยที่สุด คือ 8-4 = 12
ดังนั้น ทั้ง 2 ลูกนี้ (หรือ 8 ด้านที่มองเห็น) มีผลรวมเท่ากับ 2[63-12] = 102

ลูกเต๋าบนสุดจะต้องเอาลูกที่มีแต้มต่ำที่สุดโดนบัง นั่นคือ 1
ดังนั้น 5 ด้านนี้ก็จะรวมกันได้ = 63-1 = 62

ฉะนั้น ผลรวมของ 13 ด้านนี้คือ = 102+62 = 164

โอ้ ตอนนี้คิดผิดเหมือนกันครับ ..

10 ตุลาคม 2012 22:22 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ alvamar
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #22  
Old 12 ตุลาคม 2012, 19:51
artty60 artty60 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤศจิกายน 2010
ข้อความ: 1,036
artty60 is on a distinguished road
Default

ข้อ3. ตอบ 48

ข้อ4. ตอบ 164



ตอบ 8 วิธี



$a=\sum_{n = 1}^{49} \frac{(2n+1)^2+1}{(2n+1)^2-1}$

$\frac{(2n+1)^2+1}{(2n+1)^2-1}=\frac{4n^2+4n+2}{4n^2+4n}=1+\frac{1}{2n(n+1)}$

$a=49+\sum_{n = 1}^{49}\frac{1}{2n(n+1)}$ ซึ่ง $\sum_{n = 1}^{49}\frac{1}{2n(n+1)}<1$

$\therefore N=49$

หมายเหตุ พิสูจน์ว่าค่าของ $\sum_{n = 1}^{49}\frac{1}{2n(n+1)}<1$

$\sum_{n = 1}^{49}\frac{1}{2n(n+1)}=\sum_{n = 1}^{49}\frac{1}{2}[\frac{1}{n}-\frac{1}{n+1}]=\frac{1}{2}(1-\frac{1}{50})=\frac{49}{100} $



จำนวนนี้จะมากสุดเมื่อ $a+\frac{1}{b+\frac{1}{c}}$ น้อยสุด $\therefore \frac{1}{b+\frac{1}{c}}$ น้อยสุด ดังนั้น$a=1, b=2,c=1$

$\therefore \frac{1}{a+\frac{1}{b+\frac{1}{c}}}=\frac{3}{4}$

จำนวนนี้จะน้อยสุดเมื่อ $a+\frac{1}{b+\frac{1}{c}}$ มากสุด $\therefore \frac{1}{b+\frac{1}{c}}$ มากสุด ดังนั้น$a=2, b=1,c=2$

$\therefore \frac{1}{a+\frac{1}{b+\frac{1}{c}}}=\frac{3}{8}$

เพราะฉะนั้นตอบต่างกัน $=\frac{3}{8}$

12 ตุลาคม 2012 21:00 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ artty60
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #23  
Old 12 ตุลาคม 2012, 23:21
artty60 artty60 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤศจิกายน 2010
ข้อความ: 1,036
artty60 is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ whatshix View Post
ขออนุญาต copy ไอเดียในการเฉลยข้อ 2 ครับ



$2^{22}+1 = [(2^{11})^2+2(2^{11})+1]-2(2^{11})$
$= (2^{11}+1)^2-2(2^{11})$
$= (2^{11}+1)^2-2^{12}$
$= (2^{11}+1)^2-(2^6)^2$
$= (2^{11}+1-2^6)(2^{11}+1+2^6)$
$= (2048+1-64)(2048+1+64)$
$= 1985\times2133$
$= 5\times397\times2133$

a+b+c = 5+397+2133 = 2535
บวกเลขตอนท้ายผิดครับ ต้องเป็น 2113
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #24  
Old 13 ตุลาคม 2012, 10:34
artty60 artty60 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤศจิกายน 2010
ข้อความ: 1,036
artty60 is on a distinguished road
Default


น่าจะ $b<a<c$ นะ เพราะตัวหารของ c น้อยกว่าของ a ดูหลายชั้นก็มึนแฮะ


ข้อนี้โจทย์ให้มากำกวม งงๆแฮะ พิจารณาทีละอัน

จาก$d_2=k$ แสดงว่าตัวหารของ n มีแค่2ตัว? ถ้าใช่ นั่นแสดงว่า n เป็นจำนวนเฉพาะ

ถ้าเป็นอย่างนี้ต้องอาศัยความจำของเจ้าหมาป่าแล้วล่ะ

1-1000 มีจำนวนเฉพาะ 168 ตัว

1001-2000 มีจำนวนเฉพาะ 135 ตัว

รวม 2003 และ 2011

ดังนั้น จำนวนเฉพาะตั้งแต่2ถึง2012มีทั้งหมดเท่ากับ 305 ตัว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #25  
Old 13 ตุลาคม 2012, 15:53
artty60 artty60 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤศจิกายน 2010
ข้อความ: 1,036
artty60 is on a distinguished road
Default


หาค่า$\sqrt{3039162537A6}$ ก็จะเห็นว่า $A=9$ และได้ $n=81$
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #26  
Old 15 ตุลาคม 2012, 23:44
artty60 artty60 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤศจิกายน 2010
ข้อความ: 1,036
artty60 is on a distinguished road
Default


ตามเงื่อนไขเบอร์สวย

$d_1d_2d_3=d_4d_5d_6$ หรือ $d_1d_2d_3=d_5d_6d_7$

จำนวนวิธีเลือกเลข 0 ถึง 9 มาใส่ ใน$d_1d_2d_3$ ได้ $=9\times 9\times 9$

ถ้า$d_1d_2d_3=d_4d_5d_6$จะเหลือ $d_7$ ซึ่งสามารถเลือกเลข0-9มาใส่ได้ทั้งหมด

ถ้า$d_1d_2d_3=d_5d_6d_7$จะเหลือ $d_4$ ซึ่งสามารถเลือกเลข0-9มาใส่ได้ทั้งหมด

เพราะฉะนั้นจำนวนวิธีทั้งหมด $=2\times 9\times 9\times 9\times 9=13122$

แต่มีจำนวนที่ซ้ำกันได้หาก $d_1d_2d_3$ เป็นเลขตอง $d_1d_2d_3d_4d_5d_6d_7$ ก็จะเป็นเลขเดียวกันหมด

ซึ่งมีได้ 9 หมายเลข เพราะฉะนั้นมีเบอร์สวยตามเงื่อนไขทั้งหมด $13122-9=13113$ วิธี
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #27  
Old 21 ตุลาคม 2012, 09:06
artty60 artty60 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤศจิกายน 2010
ข้อความ: 1,036
artty60 is on a distinguished road
Default

ครบหมดแล้ว ถ้ามีเฉลย ช่วยลงเฉลยที่ถูกต้องให้หน่อยครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #28  
Old 01 พฤศจิกายน 2012, 20:03
whatshix's Avatar
whatshix whatshix ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 23 พฤศจิกายน 2009
ข้อความ: 430
whatshix is on a distinguished road
Default



ตอบ 8

วิธีคิดอยู่ในกระดาษทดครับ
รูปภาพที่แนบมาด้วย
 
__________________
จริงๆแล้ว ผมคือเด็กแว้นซ์ที่ปลอมตัวมาเป็นครูสอนคณิตศาสตร์

01 พฤศจิกายน 2012 20:05 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ whatshix
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 00:41


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha