Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์โอลิมปิก และอุดมศึกษา > ข้อสอบโอลิมปิก
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #46  
Old 11 กันยายน 2012, 09:48
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Pain 7th View Post

Geometry

1. วงกลม I แนบในสามเหลี่ยมมุมแหลม ABC สัมผัส AB,BC,CA ที่ F,D,E ตามลำดับ ลากส่วยสูง AK และ ให้ P เป็นจุดบน AK ซึ่งทำให้ AP เป็นเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลม M ที่สัมผัสภายนอกวงกลม I และตัด AB,AC ที่ X,Y ตามลำดับ ถ้า AE=15,XY=8 และรัศมีวงกลม M คือ 5 จงหา BC
รูปทั่วไปเป็นแบบนี้
Name:  3797.jpg
Views: 1539
Size:  23.0 KB

แต่ถ้าเป็นข้อสอบที่เติมคำตอบ ไม่ต้องแสดงวิิธีทำ เราก็ลักไก่ สร้าง ABC เป็นสามเหลี่ยมหน้าจั่วดังรูป
(ยังไงสามเหลี่ยมหน้าจั่วมุมแหลมก็ต้องเป็นคำตอบหนึ่งของสามเหลี่ยมมุมแหลมใดๆแหละน่า)

Name:  3798.jpg
Views: 1464
Size:  29.6 KB

จะได้ $AX = 4\sqrt{5} $

โดยสามเหลี่ยมคล้าย

$\frac{8}{2s} = \frac{4\sqrt{5} }{15+s}$

$s = \frac{15}{4}(\sqrt{5} +1)$

$BC = \frac{15}{2}(\sqrt{5} +1)$


เดี๋ยวค่อยหาวิธีพิสูจน์รูปแบบทั่วไป
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #47  
Old 11 กันยายน 2012, 14:38
Beatmania's Avatar
Beatmania Beatmania ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณคุ้มครองร่าง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤษภาคม 2011
ข้อความ: 279
Beatmania is on a distinguished road
Default

#47 AM-GM ปกติครับ พี่จูกัดเหลียงคิดลึกจัง

ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #48  
Old 11 กันยายน 2012, 19:23
จูกัดเหลียง's Avatar
จูกัดเหลียง จูกัดเหลียง ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 21 กุมภาพันธ์ 2011
ข้อความ: 1,234
จูกัดเหลียง is on a distinguished road
Default

5555 จริงด้วยครับ
ส่วนข้อเรขากับอสมการอีกอันคิดไม่ออกอ่ะครับ ช่วย Hint หน่อย
__________________
Vouloir c'est pouvoir
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #49  
Old 11 กันยายน 2012, 19:26
Euler-Fermat's Avatar
Euler-Fermat Euler-Fermat ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 ตุลาคม 2011
ข้อความ: 448
Euler-Fermat is on a distinguished road
Default

ผมเติม โจทย์ให้ หน่อยซึ่งบางข้อผมยังคิดไม่ออกเหมือนกัน
Algebra
1.จงแยกตัวประกอบของ
$(x+1)^3(x^2+1)^2(x^3+1) = 450x^5 $

2.ให้ $x_i$ เป็น จำนวนจริงที่ $0<x_i<1 $
จงแสดงว่า $(x_1+x_2+....+x_n+1)^2 \geq 4(x_1 ^2 +x_2^2+...+x_n^2)$

Geometry
1.กำหนดรูปหกเหลี่ยม ABCDEF มีสมบัติว่า AB=BC , CD = DE , EF = FA
จงแสดงว่า$ \dfrac{BC}{BE}+ \dfrac{DE}{DA}+ \dfrac{FA}{FC} \geq \dfrac{3}{2}$

2.กำหนด ABCDE เป็นรูปห้าเหลี่ยม ซึ่ง AB = BC, มุม ABE+มุม DBC = มุม EBD และ มุม AEB+มุม BDC = 180
จงพิสูจน์ว่า จุด Orthocenter ของ สามเหลี่ยม BDE อยู่บน AC

11 กันยายน 2012 19:44 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Euler-Fermat
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #50  
Old 11 กันยายน 2012, 20:39
Thgx0312555's Avatar
Thgx0312555 Thgx0312555 ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 สิงหาคม 2011
ข้อความ: 885
Thgx0312555 is on a distinguished road
Default

2.algebra
จาก $0<x_i<1,x_i^2<x_i$
$(x_1+x_2+\cdots+x_n+1)^2=(x_1+x_2+\cdots+x_n-1)^2+4(x_1+x_2+\cdots+x_n) \ge 4(x_1^2+x_2^2+\cdots+x_n^2)$
จึงได้ตามต้องการครับ
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล
---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้

11 กันยายน 2012 20:47 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Thgx0312555
เหตุผล: $x_n$
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #51  
Old 11 กันยายน 2012, 21:29
Thgx0312555's Avatar
Thgx0312555 Thgx0312555 ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 สิงหาคม 2011
ข้อความ: 885
Thgx0312555 is on a distinguished road
Default

ข้อ $x^y=y^x$
เห็นได้ชัดว่า x กับ y ต้องมีชุดของจำนวนเฉพาะที่หารลงตัวร่วมกัน
เมื่อ x,y>1
ให้ $x=p_1^{i_1}p_2^{i_2}\cdots p_n^{i_n}, y=p_1^{j_1}p_2^{j_2}\cdots p_n^{j_n}$

พิจารณา $z$ เมื่อ $p^z_m || x^y, 1 \le m \le n$
จาก $x^y=y^x$ จะได้ $i_my=j_mx$

นั่นคือ $\dfrac{i_m}{j_m} = \dfrac{x}{y}=\dfrac{c}{d}$ เมื่อ $\dfrac{c}{d}$ เป็นเศษส่วนอย่างต่ำ

จาก $c|i_m$ และ $d|j_m$
ให้ $a = p_1^{\frac{i_1}{c}}p_2^{\frac{i_2}{c}}\cdots p_n^{\frac{i_n}{c}}$

จึงได้ $x=a^c,y=a^d$

WLOG ให้ $c \ge d$
ถ้า $c=d$ เห็นได้ชัดว่าสมการเป็นจริง (กรณีนี้จะได้ x=y)
ถ้า $c>d$
จาก $\dfrac{c}{d}$ เป็นเศษส่วนอย่างต่ำของ $\dfrac{x}{y}$
$c=a^{c-d},d=1$

$c=a^{c-1},y=a$
ซึ่งผลเฉลยเดียวที่สอดคล้องคือ $a=2,c=2$ (ถ้า a=1 จะขัดแย้งกับเงื่อนไข)
(x,y)=(2,4),(4,2)

ถ้า x หรือ y เท่ากับ 1 ได้คำตอบเดียวเป็น (1,1)

$\therefore x=y \ \bigvee \ (x,y)=(2,4),(4,2)$ เป็นผลเฉลยของสมการนี้ครับ <แอบยาว>
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล
---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #52  
Old 13 กันยายน 2012, 00:30
~ArT_Ty~'s Avatar
~ArT_Ty~ ~ArT_Ty~ ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 03 กรกฎาคม 2010
ข้อความ: 1,081
~ArT_Ty~ is on a distinguished road
Default

Geometry 1 ลองใช้ Ptolemy's Inequality ดูครับ ไม่แน่ใจว่าได้มั้ย =3="
__________________
...สีชมพูจะไม่จางด้วยเหงื่อ แต่จะจางด้วยนํ้าลาย...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #53  
Old 13 กันยายน 2012, 10:49
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Euler-Fermat View Post

Geometry
1.กำหนดรูปหกเหลี่ยม ABCDEF มีสมบัติว่า AB=BC , CD = DE , EF = FA
จงแสดงว่า$ \dfrac{BC}{BE}+ \dfrac{DE}{DA}+ \dfrac{FA}{FC} \geq \dfrac{3}{2}$
ยังคิดไม่ออก เอารูปมาใส่ให้ก่อน เผื่อมีคนต้องการใช้

ACE เป็นสามเหลี่ยมด้านเท่าหรือเปล่า ?

Name:  3801.jpg
Views: 760
Size:  27.0 KB


ยังไม่ได้ลอง Ptolemy's Inequality
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #54  
Old 13 กันยายน 2012, 11:27
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Euler-Fermat View Post

2.กำหนด ABCDE เป็นรูปห้าเหลี่ยม ซึ่ง AB = BC, มุม ABE+มุม DBC = มุม EBD และ มุม AEB+มุม BDC = 180
จงพิสูจน์ว่า จุด Orthocenter ของ สามเหลี่ยม BDE อยู่บน AC
รูปครับ (ใส่ค่ามุมที่สมมุติขึ้นไว้ให้ด้วย) เผื่อคนสนใจนำไปใช้ (กำลังสอนหลานใช้ GSP)



Name:  3802.jpg
Views: 1092
Size:  30.7 KB
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #55  
Old 13 กันยายน 2012, 16:00
polsk133's Avatar
polsk133 polsk133 ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 14 สิงหาคม 2011
ข้อความ: 1,873
polsk133 is on a distinguished road
Default

#55 ก็ลองสิครับ จะได้ทำได้อีกข้อ
__________________
เพจรวมโจทย์คอมบินาทอริกที่น่าสนใจ
https://www.facebook.com/combilegends
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #56  
Old 13 กันยายน 2012, 17:57
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ polsk133 View Post
#55 ก็ลองสิครับ จะได้ทำได้อีกข้อ
คนบ้ายุ ลองก็ลอง ลองมั่วดู

Name:  3803.jpg
Views: 755
Size:  27.2 KB

ถ้า ABCE แนบในวงกลม โดย Ptolemy's theorem จะได้

$ox = 2oa \ \ \to x = 2a \ \ \to \frac{BC}{BE} = \frac{1}{2}$

ทำนองเดียวกัน จะได้

$ \frac{DE}{DA} = \frac{1}{2}$

$ \frac{FA}{FC} = \frac{1}{2}$

นั่นคือ
$ \frac{BC}{BE} + \frac{DE}{DA} + \frac{FA}{FC} = \frac{1}{2} + \frac{1}{2} + \frac{1}{2} = \frac{3}{2}$



ถ้า ABCE ไม่แนบในวงกลม โดย Ptolemy's inequality จะได้

$ oa +oa \geqslant ox \ \ \to 2a \geqslant x \ \ \to \frac{BC}{BE} \geqslant \frac{1}{2}$

ทำนองเดียวกัน จะได้

$ \frac{DE}{DA} \geqslant \frac{1}{2}$

$ \frac{FA}{FC} \geqslant \frac{1}{2}$

นั่นคือ
$ \frac{BC}{BE} + \frac{DE}{DA} + \frac{FA}{FC} \geqslant \frac{1}{2} + \frac{1}{2} + \frac{1}{2} \geqslant \frac{3}{2} \ \ \ Q.E.D.$


ดูๆไปมันยังทะแม่งๆ มีช่องใหว่อยู่

(คงต้องพิสูจน์ว่า สามเหลี่ยมข้างในเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า และพิสูจน์ Ptolemy's inequality ด้วยหรือเปล่า )
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #57  
Old 13 กันยายน 2012, 18:02
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

ขอยืมที่มีคน proof ไว้แล้ว


proof of Ptolemy's inequality
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #58  
Old 13 กันยายน 2012, 20:07
Thgx0312555's Avatar
Thgx0312555 Thgx0312555 ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 สิงหาคม 2011
ข้อความ: 885
Thgx0312555 is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ banker View Post
(คงต้องพิสูจน์ว่า สามเหลี่ยมข้างในเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า และพิสูจน์ ด้วยหรือเปล่า )
ถ้าไม่เป็นสามเหลี่ยมด้านเท่าล่ะครับ + Ptolemy's inequality ไม่ต้องพิสูจน์ก็ได้
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล
---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #59  
Old 14 กันยายน 2012, 20:37
Pain 7th Pain 7th ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 17 เมษายน 2012
ข้อความ: 198
Pain 7th is on a distinguished road
Default

#48 คำตอบไม่เท่ากับผมอ่ะครับ ขอลองตรวจทานก่อน ลองคิดกรณีทั่วๆ ไปด้วยนะครับ

อสมการข้อ 2 ข้องคุณ จูดกัดเหลียง ทำไงอ่ะครับ ผมทำแล้วกลับข้างตลอดเลยมันน่าจะ sharp มากๆเลยอ่ะ = =
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #60  
Old 15 กันยายน 2012, 13:08
Pain 7th Pain 7th ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 17 เมษายน 2012
ข้อความ: 198
Pain 7th is on a distinguished road
Default

combinatorics ข้อแรกนะครับ ก็ให้ $x_i$ แทนจำนวน ชั่วโมงในการอ่านหนังสือตั้งแต่วันแรกถึงวันที่ i ดังนั้น

$1 \leq x_1 < x_2<x_3 < ... <x_ {37} \leq 60$

โจทย์บอกให้พิสูจน์ว่า ต้องมีช่วงเวลาที่อ่านหนังสือรวมกันได้ 13 ชั่วโมง ดังนั้นต้องมีน $x_j=x_k+13$

$x_i , i=1,2,3,...,37$ เป็นจำนวนเต็มแตกต่างกัน ดังนั้น $x_i+13,i=1,2,3...,37$ เป็นจำนวนเต็มแตกต่างกัน

$x_1+13 <x_2+13 <x_3+13 < ... < x_{37}+13 \leq 73$

ใน $x_1,x_2,...,x_{37},x_1+13,x_2+13,...,x_{37}+13$ อยู่ในช่วง $1-73$

ดังนั้น จะมี $x_j=x_k+13$ จะได้ $x_j-x_k =13$ โดย $1 \leq k < i \leq 37$
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 03:50


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha