|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#1
|
|||
|
|||
โจทย์ในหัวข้อทฤษฏีบททวินามหนังสือสอวน
กำหนด$P(x)$เป็นพหุนามกำลัง n ที่สอดคล้องกับ $P(x)=2^k k\in {1,2,3,4,....,n+1}$ จงหา $P(n+2)$
ป.ล.ผมต้องการแค่วิธีหา $P(0)$ ครับเพราะวิธีที่ผมคิดมันต้องใช้ P(0) อ่ะครับ แต่ถ้าใครมีวิธีอื่นก็จะดีมากเลยนะครับ
__________________
math or physic สอบมหิดลเสร็จค่อยคิดละกัน บางทีก็...ไม่รู้สินะ |
#2
|
|||
|
|||
หมายถึงอย่างนี้หรือเปล่าครับ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น |
#3
|
|||
|
|||
ถ้าโจทย์เป็นแบบเดียวกับคุณ nooonuii บอก
ลองใช้ P(x) ตัวนี้ครับ $$ P(x)= \bigg( 1+ \binom{x}{1}+\binom{x}{2} +\cdots +\binom{x}{n} \bigg) + \frac{(x-1)(x-2)...(x-n)}{n!} $$ โดย $ \binom{x}{i}$ เป็นพหุนามดีกรี i กำหนดโดย $ \binom{x}{i} = \frac{x(x-1)...(x-i+1)}{i!}$
__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว |
#4
|
||||
|
||||
งั้นถ้า $x<n$
$P(x)$ ก็หาค่าไม่ได้หรือครับ
__________________
เหนือฟ้ายังมีฟ้าแต่เหนือข้าต้องไม่มีใคร ปีกขี้ผื้งของปลอมงั้นสินะ ...โลกนี้โหดร้ายจริงๆ มันให้ความสุขกับเรา แล้วสุดท้าย มันก็เอาคืนไป... |
#5
|
|||
|
|||
หาได้ครับ ดูที่นิยามของ $\binom{x}{i}$ ดีกว่าครับ
มันก็คือพหุนามนี่เอง ถ้าโยงไปหา $\binom{n}{i}$ จะทำให้งง ที่ผมคิดไว้ก็คล้ายๆกันคือสร้าง $Q(x)=1+\dfrac{x}{1!}+\dfrac{x(x-1)}{2!}+\cdots+\dfrac{x(x-1)\cdots (x-n+1)}{n!}$ แล้วก็พิสูจน์ว่า $P(x)=kQ(x)$ สำหรับบาง $k$ $k$ หาได้จาก $P(n+1)$ ครับ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น |
#6
|
||||
|
||||
อ๋อ
Get แล้วครับ THX ครับ
__________________
เหนือฟ้ายังมีฟ้าแต่เหนือข้าต้องไม่มีใคร ปีกขี้ผื้งของปลอมงั้นสินะ ...โลกนี้โหดร้ายจริงๆ มันให้ความสุขกับเรา แล้วสุดท้าย มันก็เอาคืนไป... |
#7
|
|||
|
|||
ครับ ขอบคุณครับ
ขอโจทย์พวกหลักการสร้างฟังก์ชั่น เพื่อการนับสองทางและหลักหนึ่งต่อหนึ่งทั่วถึงเลยนะครับ 1.ให้ $x\in \left\{1,2,3,...,n\right\}$ $A=\left\{S\subseteq X \left.\,\right| n\not\in S\right\} $ และ $B=S\left\{\subseteq X\left|\,\right. n\in S\right\}$ จงใช้หลักหนึ่งต่อหนึ่งทั่วถึงเพื่อพิสู่จน์ว่า จำนวนสมาชิกของเซต A=จำนวนสมาชิกของเซต B 2.ตั๋วรถเมล์เป็นเลข 6 หลักตั้งแต่ 000000 ถึง 999999 ถ้าผลบวกของเลขโดดใน 3 หลักแรกเท่ากับผลบวกของเลขสามหลักหลังแล้วจะถือว่าเป็นตั๋วโชคดี ถ้าผลบวกของโดดทุกตัวเป็น 27 แล้วจะถือว่าเป็นตั๋วดี จงหาว่ามีตั๋วโชคดีมากกว่าตั๋วดีอยู่กี่ใบ ถ้าเป็นไปได้อยากได้ solution เต็มครับจะได้ศึกษาแนวทางการเขียนพิสูจน์ด้วยครับ ผมเขียนพิสูจน์คอมบิไม่ค่อยเป็นครับ
__________________
math or physic สอบมหิดลเสร็จค่อยคิดละกัน บางทีก็...ไม่รู้สินะ 07 พฤศจิกายน 2010 17:24 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nut@satit |
#8
|
|||
|
|||
1. นิยาม $f:A\to B$ โดย $f(S)=S^{c}$
สมมติว่า $S^c=T^c$ จะได้ $(S^c)^c=(T^c)^c$ $S=T$ ดังนั้น $f$ เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่ง ถ้ากำหนด $T\in B$ จะได้ว่า $n\not\in T$ นั่นคือ $n\in T^c$ ดังนั้นเลือก $S=T^c$ เนื่องจาก $n\in S$ จะได้ $S\in A$ และได้ว่า $f(S)=S^c=(T^c)^c=T$ ดังนั้น $f$ เป็นฟังก์ชันทั่วถึง
__________________
site:mathcenter.net คำค้น |
|
|