Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์โอลิมปิก และอุดมศึกษา > ข้อสอบโอลิมปิก
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #46  
Old 02 กันยายน 2009, 10:43
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ miny View Post
ผลลองคิดดูแล้วครับ ข้ออื่นได้หมดนอกจากข้อ 19 ไม่กล้าคููณกระจาย

1. 1/4
2. 2
3. 10
4. 1005
5. 2575
6. 9
7. 0
8. 1
9. 2
10. 6621
11. 182
12. 1365
13. 6
14. 360
15. 33
16. 5
17. 142
18. 24

20. 6
21. 80
22. 44/3
23. 7.5
24. 49/928
25. 2:3
26. 84
27. 24+8√3
28. 16/45
29. 4√6
30. 6.75

ถ้าใครรู้วิธีคิดข้อ 19 กรุณาบอกด้วย


คุณminy ใช่คนที่สอบได้ที่ 1 ประเทศไทยระดับมัธยมต้นของสมาคมคณิตศาสตร์ฯ เมื่อหลายปีก่อนหรือเปล่าครับ
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #47  
Old 02 กันยายน 2009, 12:06
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

ข้อ 28




$ \because \ \ \ (a+b+c)^2 = (a^2+b^2+c^2) + 2(ab+bc+ca)$

$ (\dfrac{2}{3})^2 = (\dfrac{2}{5}) + 2(ab+bc+ca)$

$(ab+bc+ca) = \frac{1}{45}$ ..............(*)


$\frac{[BDE]}{[ABC]}= \frac{b(1-a)}{1} ......(1)$

$\frac{[CEF]}{[ABC]}= \frac{c(1-b)}{1} ......(2)$

$\frac{[ADF]}{[ABC]}= \frac{a(1-c)}{1} ......(3)$

$[DEF] = [ABC] - [BDE] - [CEF] - [ADF]$

$\frac{[DEF]}{ [ABC]} = 1 - \frac{[BDE]+ [CEF] + [ADF]}{ [ABC]}$


$ \ \ \ \ \ \ \ = 1 - [(b-ab) +(c-bc) + (a -ca)]$

$ \ \ \ \ \ \ \ = 1 - [(a+b+c)-(ab+bc+ca)]$

$ \ \ \ \ \ \ \ = 1 - [(\frac{2}{3})-(\frac{1}{45})]$

$ \ \ \ \ \ \ \ = \frac{16}{45}$
รูปภาพที่แนบมาด้วย
 
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #48  
Old 02 กันยายน 2009, 14:19
Jew's Avatar
Jew Jew ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 กุมภาพันธ์ 2009
ข้อความ: 357
Jew is on a distinguished road
Default

ข้อ 29 นะครับ
เราจะได้ว่ามุม A=x=o=60
หลังจากนั้นใช้ตรีโกณหา xp แล้วลบด้วย รัศมีของวงกลม o ที่เท่ากับ xo ซึ่งหาได้ด้วยตรีโกณ จะได้ py
จะได้ว่า ABP คล้ายกับ DPC หา PC ด้วยสามเหลี่ยมคล้าย
โดยการไล่มุมจะได้มุม p =90 จะได้ $BP^2+PC^2=64$
โดย $BP=\sqrt{2}(ab/2)$
โดย PC สามารถแปลงให้อยู่ในรูป BP ได้โดยใช้ตรีโกณและพีธาโกรัส
รูปภาพที่แนบมาด้วย
 
__________________
สัมหรับคณิตศาสตร์
ผมไม่มีแม้ซึ่งพรสวรรค์ไม่มีแม้โอกาสด้วยอยุ่ต่างจังหวัด
จะมีก็แต่ความรักที่ทุ่มเท....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #49  
Old 02 กันยายน 2009, 16:01
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Jew View Post
ข้อ 29 นะครับ
เราจะได้ว่ามุม A=x=o=60
หลังจากนั้นใช้ตรีโกณหา xp แล้วลบด้วย รัศมีของวงกลม o ที่เท่ากับ xo ซึ่งหาได้ด้วยตรีโกณ จะได้ py
จะได้ว่า ABP คล้ายกับ DPC หา PC ด้วยสามเหลี่ยมคล้าย
โดยการไล่มุมจะได้มุม p =90 จะได้ $BP^2+PC^2=64$
โดย $BP=\sqrt{2}(ab/2)$
โดย PC สามารถแปลงให้อยู่ในรูป BP ได้โดยใช้ตรีโกณและพีธาโกรัส


แล้วทำยังไงต่อครับ

แล้วตอบเท่าไรครับ

รบรวนทำต่ออีกหน่อยครับ
(ผมก็มาติดตรงนี้)
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #50  
Old 02 กันยายน 2009, 16:43
RT OSK RT OSK ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณคุ้มครองร่าง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 กันยายน 2008
ข้อความ: 258
RT OSK is on a distinguished road
Default

ข้อ 19. ตอบ 94
ใช้วิธีแยก 7,777,777,777 = 1,111,111,111 x 7
1,111,111,111 x 1,111,111,111 = 1,234,567,900,987,654,321
x 7 = 8,641,975,306,913,508,247
x 7 = 60,493,827,148,395,061,729
ได้ Sum = 94

แต่น่าจะมีวิธีง่ายกว่านี้?

ขอแนวทาง ข้อ 23. ด้วยครับ

ข้อ 24. ด้วยครับ

02 กันยายน 2009 22:21 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nongtum
เหตุผล: triple post
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #51  
Old 02 กันยายน 2009, 17:29
Jew's Avatar
Jew Jew ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 กุมภาพันธ์ 2009
ข้อความ: 357
Jew is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ banker View Post
แล้วทำยังไงต่อครับ

แล้วตอบเท่าไรครับ

รบรวนทำต่ออีกหน่อยครับ
(ผมก็มาติดตรงนี้)
ผมเขียนผิดครับ
ต้องพูดว่าสามเหลี่ยม AXP คล้ายกับ PDY
แล้วเราสามารถแปลง PY ให้อยู่ในรูป ab/2 ได้
ขอโทษครับ
ที่เหลือเราหา PC โดยใช้สามเหลี่ยมคล้ายได้ครับ
แล้วเราจะได้ว่า PC=PD โดยการไล่มุมครับ
คุณ banker ได้แล้ว่ใช่ไหมครับ
คำตอบไม่กล้าโพสต์ครับกลัวทดผิดแล้วหน้าแตก
ส่วนข้อ 777.. ผมคุณตรงเลยครับดูเหมือนนานแต่ไม่ถึงนาทีครับ
คูณตรงๆ sum(7777777777*7777777777)=94
__________________
สัมหรับคณิตศาสตร์
ผมไม่มีแม้ซึ่งพรสวรรค์ไม่มีแม้โอกาสด้วยอยุ่ต่างจังหวัด
จะมีก็แต่ความรักที่ทุ่มเท....

02 กันยายน 2009 17:30 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Jew
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #52  
Old 02 กันยายน 2009, 18:40
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Jew View Post
ผมเขียนผิดครับ
ต้องพูดว่าสามเหลี่ยม AXP คล้ายกับ PDY
แล้วเราสามารถแปลง PY ให้อยู่ในรูป ab/2 ได้
ขอโทษครับ
ที่เหลือเราหา PC โดยใช้สามเหลี่ยมคล้ายได้ครับ
แล้วเราจะได้ว่า PC=PD โดยการไล่มุมครับ
คุณ banker ได้แล้ว่ใช่ไหมครับ
คำตอบไม่กล้าโพสต์ครับกลัวทดผิดแล้วหน้าแตก

ผมยังติดอยู่ครับ ยังคิดไม่ออก


อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ RT OSK View Post
ขอแนวทาง ข้อ 23. ด้วยครับ
ดูหน้าก่อนหน้านี้แล้วหรือยังครับ
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #53  
Old 02 กันยายน 2009, 19:07
miny's Avatar
miny miny ไม่อยู่ในระบบ
เริ่มฝึกวรยุทธ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 22 มกราคม 2009
ข้อความ: 13
miny is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ banker View Post
แล้วทำยังไงต่อครับ

แล้วตอบเท่าไรครับ

รบรวนทำต่ออีกหน่อยครับ
(ผมก็มาติดตรงนี้)
ข้อ 29
ลากเส้นเชื่อม BO และ OC
เนื่องจาก มุม BAC กาง 45 องศา
ดังนั้น มุม BOC กาง 90 องศา ทำให้สามเหลี่ยม BOC สามเหลี่ยมมุมฉากหน้าจั่ว
เท่านี้เราก็จะหารัศมีของวงกลม O ได้แล้วครับ

02 กันยายน 2009 19:07 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ miny
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #54  
Old 02 กันยายน 2009, 19:41
หยินหยาง's Avatar
หยินหยาง หยินหยาง ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่จักรวาล
 
วันที่สมัครสมาชิก: 06 มกราคม 2007
ข้อความ: 2,921
หยินหยาง is on a distinguished road
Default



ข้อ 29 สำหรับคุณ banker โดยเฉพาะ (เพราะเกรงว่าจะติดอยู่ในเมืองพิศวงนานเกินไป)
แนวคิด กฎของ ไซน์
จากโจทย์ จะพิสูจน์ได้ว่า สามเหลี่ยม AXO เป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า และกำหนดให้ AE =a จึงทำให้ หาความยาว XO ได้เท่ากับ $\frac{2}{\sqrt{3} }a$ แต่ XO เป็นความยาวรัศมี ของวงกลม O พิจารณาสามเหลี่ยม BCD จะได้ว่า มุม D เป็นมุม 45 องศา
ใช้กฎของไซน์ $\frac{BC}{Sin D} =2R$...............(1)
แทนค่าต่างๆลงในสมการ (1)
$\frac{8}{Sin 45^o} =2\frac{2}{\sqrt{3} }a$
$\therefore 2a =AB = 4\sqrt{6} $

หวังว่าคงหาทางออกจากเมืองพิศวงได้แล้วนะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #55  
Old 03 กันยายน 2009, 10:31
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

ตอน 1 ข้อ 2



พื้นที่ผิวทรงกลม $= 4\pi r^2 $

$ \ \ \ \ \ \ \ \ \ \ \ \ \pi = 4\pi r^2 $

$ r = \frac{1}{2} ----> 2 r = 1 \ \ \ \ $ ( = เส้นผ่านศูนย์กลางของทรงกลม )

ให้ลูกบาศก์ยาวด้านละ x หน่วย

จะได้ $x^2 + (\sqrt{2} x)^2 = 1$

$x^2 = \frac{1}{3} = $ พื้นที่ผิวลูกบาศก์หนึ่งหน้า



ลูกบาศก์มี 6 หน้า จึงมีพื้นที่ผิว = 2 ลูกบาศก์หน่วย
รูปภาพที่แนบมาด้วย
 
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)

04 กันยายน 2009 08:22 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ banker
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #56  
Old 03 กันยายน 2009, 10:40
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ หยินหยาง View Post


ข้อ 29 สำหรับคุณ banker โดยเฉพาะ (เพราะเกรงว่าจะติดอยู่ในเมืองพิศวงนานเกินไป)
แนวคิด กฎของ ไซน์
จากโจทย์ จะพิสูจน์ได้ว่า สามเหลี่ยม AXO เป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า และกำหนดให้ AE =a จึงทำให้ หาความยาว XO ได้เท่ากับ $\frac{2}{\sqrt{3} }a$ แต่ XO เป็นความยาวรัศมี ของวงกลม O พิจารณาสามเหลี่ยม BCD จะได้ว่า มุม D เป็นมุม 45 องศา
ใช้กฎของไซน์ $\frac{BC}{Sin D} =2R$...............(1)
แทนค่าต่างๆลงในสมการ (1)
$\frac{8}{Sin 45^o} =2\frac{2}{\sqrt{3} }a$
$\therefore 2a =AB = 4\sqrt{6} $

หวังว่าคงหาทางออกจากเมืองพิศวงได้แล้วนะครับ

ขอบคุณคุณหยินหยางครับ คำตอบของคุณหยินหยางเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆคนที่เข้ามาอ่าน

ผมเองก็เคยโพสต์กฏของไซน์ ทำไมจึงไม่นึกถึงช่องทางนี้น๊าาา มัวแต่เข้ารกเข้าพงกับสามเหลี่ยมคล้ายอยู่ได้
(อย่างว่าแหละน่ะ คน สว. มัก fixed idea)
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #57  
Old 03 กันยายน 2009, 11:04
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ miny View Post
ข้อ 29
ลากเส้นเชื่อม BO และ OC
เนื่องจาก มุม BAC กาง 45 องศา
ดังนั้น มุม BOC กาง 90 องศา ทำให้สามเหลี่ยม BOC สามเหลี่ยมมุมฉากหน้าจั่ว
เท่านี้เราก็จะหารัศมีของวงกลม O ได้แล้วครับ

ขอบคุณคุณminyครับ

ผมก็ลืมมองจุดนี้ไป แบบนี้ดูง่ายกว่าครับ เหมาะกับมัธยมต้น
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #58  
Old 03 กันยายน 2009, 11:10
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

ทีนี้ก็เหลือเรขาคณิต ข้อ 24 (ตอนที่3)

ยังมึนๆอยู่ครับ
ติวหลานก็เคยเจอโจทย์คล้ายๆแบบนี้
ใช้หลักการหมุนแกน กับตัดแปะ แบบนั้นมีแค่ไม่กี่เส้น ก็หมุนง่าย
แต่นี่มีหลายเส้นมาก และอัตราส่วนไม่เป็นครึ่งๆแบบที่เคยทำ
หมุนไปหมุนมา พาลจะหัวหมุนตาม

ท่านใดมีวิีธีทำสวยๆไหมครับ
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #59  
Old 03 กันยายน 2009, 12:32
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

ข้อ 18 ตอน 2



จากสูตร $Sum k^2 = \frac{n(n+1)(2n+1)}{6}$

จะเห็นว่า $100$ ประกอบด้วย $4 * 25 $

ดังนั้นต้องหา $n$ หรือ $n+1$ หรือ $2n +1 =25$ และ ตัวที่ หารด้วย $6$ ได้ $4$ หรือพหุคูณของ $4$

$n$ ตัวแรกคือ 12 ----> 2n +1 =25
แต่กรณีนี้ ไม่มี 4 หรือพหุคูณของ $4$ เกิดขึ้น

$n$ ตัวต่อไปคือ 23 ----> n +1 =24
แต่ไม่มี 25

$n$ ตัวต่อไปคือ 24 ----> n =24, ซึ่ง หารด้วย 6 หลือ 4 และ n+1 = 25

ลองแทนค่า

$Sum 24^2 = \frac{24(24+1)(2\cdot 24 +1)}{6}$

$ \ \ \ \ \ \ \ \ \ \ \ \ = \frac{24 \cdot (25)\cdot (49)}{6}$

$ \ \ \ \ \ \ \ \ \ \ \ \ = 4900$

ดังนั้น $n$ ตัวแรกที่มี 100 เป็นตัวประกอบ คือ 24
รูปภาพที่แนบมาด้วย
 
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)

04 กันยายน 2009 08:21 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ banker
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #60  
Old 03 กันยายน 2009, 16:32
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ banker View Post
ทีนี้ก็เหลือเรขาคณิต ข้อ 24 (ตอนที่3)

ยังมึนๆอยู่ครับ
ติวหลานก็เคยเจอโจทย์คล้ายๆแบบนี้
ใช้หลักการหมุนแกน กับตัดแปะ แบบนั้นมีแค่ไม่กี่เส้น ก็หมุนง่าย
แต่นี่มีหลายเส้นมาก และอัตราส่วนไม่เป็นครึ่งๆแบบที่เคยทำ
หมุนไปหมุนมา พาลจะหัวหมุนตาม

ท่านใดมีวิีธีทำสวยๆไหมครับ

เท่าที่ลองกะคร่าวๆ น่าจะได้ $\frac{144}{4900}$ หรือ $\frac{36}{1225}$ หรือ $0.029$
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 07:58


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha