Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์ทั่วไป > ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วไป
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 18 กุมภาพันธ์ 2002, 08:05
DIE-HARD DIE-HARD ไม่อยู่ในระบบ
เริ่มฝึกวรยุทธ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 17 กุมภาพันธ์ 2002
ข้อความ: 12
DIE-HARD is on a distinguished road
Icon18 พี่กรครับ

อยากทราบว่าช่วงที่พี่อยู่ ม.4 เนี่ยพี่แบ่งเวลา เรียนหนังสือ และเล่นกีฬา ตอนไหนบ้างครับ แล้วพี่เรียนกวดวิชาไหมครับ แล้วที่เวลาเราสรุปเนื้อหาเนี่ย อ่านไปสรุปรึอ่านรวดเดียวจบแล้วสรุปครับ แล้วตอนนี้พี่แต่งหนังสืออะไรมาบ้างแล้วครับ แล้วพี่คิดว่า หนังสือคู่มือวิชาฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ คมีเนี่ย พี่คิดว่าอาจารย์คนไหนแต่งดีบ้างครับ ขอบคุณคับ
__________________
เด็ก T.P.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 22 กุมภาพันธ์ 2002, 17:05
gon's Avatar
gon gon ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 29 มีนาคม 2001
ข้อความ: 4,608
gon is on a distinguished road
Post

จริง ๆ ในบทความเรื่องเรียนอย่างไร ... พี่ก็เขียนไว้ค่อนข้างยาวและครับ.
เอาเป็นว่าจะตอบให้อีกทีล่ะกัน อาจจะยังไม่เข้าใจกระบวนการทั้งหมด

ประเด็นสำคัญของความคิดพี่อยู่บนสมมติฐานที่ว่า คือ " น่าจะมีวิธีการเรียนที่ดีที่สุดสำหรับตัวเรา "
พี่เริ่มค้นหาแนวทางดังกล่าวตั้งแต่ อยู่ ม.2 ครับ. คือเริ่มมีการวางแผนจัดตารางต่าง ๆ
ก็มีการผิดพลาดและขัดเกลาจนเริ่มเข้าที่ก็ตอน ม. 4 เทอม 2 ครับ. คือ ตอน ม.2 พี่รู้สึกตัวเองว่า
สมองพี่เริ่มมีการเชื่อมต่อประานกันเป็นโครงข่ายครบถ้วน คือ สามารถคิดด้วยตนเอง
ก่อนหน้านั้นเวลาพี่ทำอะไร หรือไปเรียนหนังสือ พี่ไม่เคยคิดครับว่า. เราทำไปทำไม
ที่ทำไปส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะความอยากพื้นฐาน เช่น หิว, ง่วง, ร้อน

สุดท้ายสรุปได้ว่า "การเรียนหนังสือ เป็นศาสตร์หนึ่งในการดำเนินชีวิต" นั่นเอง
จริง ๆ รายละเอียดมันมีมากมาย เพราะพี่เป็นคนชอบคิดและทดลองด้วยตนเอง
สรุปคร่าว ๆ คือ จะทำอะไรให้สำเร็จ ย่อมประกอบด้วย 2 ส่วน คือ กาย และ จิต
ขั้นตอนวิธีการอ่านกนังสือทั้งหมดดังที่พี่เขียนไปแล้วนั้น ก็อยู่ใน 2 ส่วนนี้นั่นเอง
คือ
ขั้นที่ 1. ควบคุมภาวะการหลับนอนและตื่น
หลักการ นอนให้เต็มอิ่ม(ของพี่ 8 ชม.) ตื่นนอน หลับเป็นเวลาทุกวัน
จะบรรลุเมื่อไร เมื่อน้องสามารถนอนแล้วตื่นโดยไม่ต้องนาฬิกาปลุก +- ไม่เกิน 5 นาที และ ก็ไม่ง่วง
ตรงนี้เป้นส่วนของกายนั่นเอง ถ้าน้องทำติดต่อกันยาวนานขึ้น น้องจะมีความรู้สึกว่า สมองมันจะแข็งกล้าครับ.
คำว่าแข็งกล้าในที่นี้ ให้ดูที่ความสามารถในการคิดและรับรู้ได้อย่างยาวนานและมีประสิทธิภาพ
อย่างเดิมที่ เราเรียนติดต่อกัน 1 วัน 6 - 8 คาบ ให้น้องสังเกตดูว่า ตอนคาบสุดท้ายหรือ หลังคาบอากัปกิริยา เพื่อน ๆ ในห้อง
เป้นอย่างไร คำถามคือถ้าไม่มีการพักเลยจะสามารถเรียนคาบต่อไปได้ทันทีใหม ? แน่นอนเราคงอาศัยจากการดูภายนอไม่ได้
ให้น้องดูที่ตัวล่ะกันว่า ก่อนและหลังการปฎิบัติ ความสามารถในการรับรู้ของน้องเพิ่มขึ้นหรือไม่อย่างไร

ขั้นที่ 2. ออกกำลังกายทุกวัน
ตรงนี้ก็ยังกาย หลังเลิกเรียนกลับมาบ้านพี่จะไม่ทำอะไรทั้งสิ้นครับ. ส่วนใหญ่จะเล่นกับแมวที่บ้าน
จน 5 โมงเย็นก็จะไปวิ่งขึ้นภูเขาแถวบ้านครับ. กลับมาราว ๆ 6 โมงกว่า ๆ ก็โหนบาร์ ยึดพื้น ซิทอัพ ฯลฯ
เสร็จก็อาบน้ำ ราว ๆ 1 ทุ่ม จากนั้นก็จะขึ้นชั้นบนไปสะสางการบ้านที่มีหรืองานที่มีอย่างรวดเร็ว ไม่พิถีพิถัน
จากนั้นพอแม่เรียกลงมากินข้าวประมาณ 1 ทุ่มกว่า ๆ ก็จะกินข้าวไปพร้อมๆ กับดูข่าว ครับ.

ขั้นที่ 3. อ่านหนังสือทุกวัน ๆ ละ 2 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด.
กินข้าวเสร็จประมาณ 2 ทุ่ม พี่ก็จะขึ้นชั้นบนต่อไปอ่านหนังสือ
อ่านในเรื่องที่ตัวเองอยากอ่าน วิชาอะไรก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือเมื่ออ่านจบ
ต้องถามตัวเองว่า ที่อ่านไปทั้งหมดนั้น อะไรคือหลัก อะไรคือสิ่งที่ควรจำ อะไรไม่ควรจำ
อะไรที่ต้องจำ ถ้าเป็นวิชาที่ไม่สามารถพิสูจน์ที่มาได้ก็ต้อง สร้างหลักการจำขึ้นมา ด้วยตัวเอง

เมื่อถามตัวเองได้แล้วก็ เริ้มบันทึก ในสมุดยาว ๆ มีเส้น วันที่ xxx ... การสรุปอ่านมาได้ 10
อย่างมากพี่ก็เขียนไปแค่ ไม่เกิน 15 บรรทัด เขียนให้ตัวเองเข้าใจเท่านั้น ไม่ต้องยืดยาว คำ ๆ เดียว ๆ ก็อาจจะพอ
คือ พูดง่าย ๆ ว่า ทุกตัวที่เขียนลงไปเหมือนเป็น key word นั่นเอง

ตรงนี้เป็นเรื่อง ของจิต ถ้าน้องทำได้ นั้นก็หมายความว่าน้องสามารถควบคุมจิตตัวเองอย่างหยาบ ๆ ได้แล้ว

ขั้นที่ 4. นอนตรงเวลา และ ทำสมาธิก่อนนอน
ตรงนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องของจิต เป็นขั้นที่สำคัญที่สุด ถ้าตรงนี้ไม่เยี่ยม 3 ขั้นที่ทำไปทั้งหมด
จะได้ผลลัพธ์ ไม่เกิน 50% เสียเวลาไปเปล่า ๆ
ให้น้องนั่งสมาธิแบบใดก็ได้ จนใจเริ่มนิ่งและสงบ คำว่านิ่งและสงบเป็นเช่นไร
คือน้องจะรู้ว่าตัวเองนั้น หมดความคิด ไม่ใช่ความคิดมันหายไปไหน แต่มันถูกหยุดด้วยการเอาจิต ไปจดจ่อกับกาย
ตามแบบสมาธิ (พี่ใช้อาณาปานสติ เอาจิตไปรวมที่ท้องยุบกับพอง) ตรงนี้น้องต้องเข้าใจว่า สมองเรานั้นทำ 2 อย่าง คือ คิด กับ นึก
การนึก คือ การที่เรามองเห็นเป็นภาพ
การคิด คือ คือเหมือนกับมีเสียงพูดในสมอง
ปกติคนเราทั่วไปมักจะทำสับกันไป ปนกันมา ไม่ได้ค่อยจะสังเกตตัวเองเท่าไร

จากนั้นให้เริ่มนึกในสิ่งที่ตัวเองสรุปไปเมื่อกี๊นี้ น้องจะเห็นเป็นภาพไป ตามตัวหนังสือบนบรรทัดในสมุดของตัวเอง
ใหม่ ๆ อาจทำไม่ได้หรือไม่คล่อง ไม่ต้องตกใจ ถ้านึกไม่ออกให้ เปิดไฟ ไปเปิดดูสมุดที่จดไว้
และนั่นก็หมายความว่า ขณะที่น้องอ่านหนังสือนั้น น้องสมาธิไม่ดีด้วย.

การอ่านห้าม เปิดเพลงฟัง และ เมื่ออ่านจบห้ามทำอย่างอื่น นอกจากนอน(ทำไม?)

นี่เป็นช่วงขณะเปิดเทอม ขณะปิดเทอม คือ ข่วงแห่งการพัฒนา ขั้นตอนยังคงเหมือนเดิม
เพัยงแต่เวลาในการอ่านหนังสือจะมีมากขึ้น เพราะกลางวันไม่ต้องเรียน
เป็นพี่ ๆ จะอ่านเฉพาะเลขไปล่วงหน้า เพราะชอบ อย่างที่เคยว่าไว้ เนื้อหาเลขคร่าว ทั้งหมดถึง ม. 6 พี่อ่านจบแต่ ม.4 แล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการอ่านก็คือ " จงอย่ามุ่งเน้นอ่าน เพื่อที่จะจำ แต่ให้มุ่งเน้นว่าจะเข้าใจได้อย่างไร "
ถ้าเป็นการดูตัวอย่างโจทย์ ก็ต้องตอบคำถามในแต่ละบรรทัดได้ว่า ตรงนี้มาจากไหน ทำไมต้องทำอย่างนี้
และ คิดต่อไปว่า จะทำอย่างอื่นนอกจากวิธีนี้ได้อย่างไร รายละเอียดในการอ่านก็มีมากเขียนคงไม่ไหว

ถ้าเป็นสิ่งที่ต้องจำก็ต้องดูให้เข้าใจก่อนว่า มันมาอย่างไร !!! ลอยมาจากท้องฟ้าหรือเปล่า ไม่เอา.
ปืดเทอมคือเวลาแห่งการฝึกตนอย่างแท้จริง ห้ามคิดที่จะเรียนตามครูให้ห้องเรียน
ถ้าทำเช่นนั้นก็คงยากที่จะถีบตัวเองให้แตกต่างจากเพื่อนอย่างมากได้

--------------------------------------------------------------------------------------------------
การเรียนกวดวิชา ตามความคิดพี่ คือ เรียนในสิ่งที่ตัวเองยังไม่รู้และยาก ๆ ๆ ขึ้นไป มิใช่การเรียนและสอน
แบบตามโรงเรียน เช่น อันนี้ไม่เอา เกินหลักสูตร อันนี้หนูไม่จำ ครูไม่ออกสอบ เป็นต้น.
นั่นคือ โดยการหลักการของพี่ แต่ในความเป็นจริงปรากฎว่า แค่เรียนตามหลักสูตรให้รู้เรื่อง
ส่วนใหญ่ก็แย่แล้ว ทำไมมันเยอะอย่างนี้ รับไม่ไหวบ้าง (เพราะสมองไม่แข็งกล้าไง)

นั่นคือ พี่ไม่สามารถที่จะเรียนพิเศษอย่างนั้นได้ ตอนนั้นพี่อยากให้ใครเปิดสอนหลักสูตร
คณิตโอลิมปิกบ้าง หาไม่เจอ ตำราคณิตศาสตร์ดี ๆ ยังแทบงมเข็ม สำหรับเด็กต่างจังหวัด

สรุป พี่ไม่เคยเรียนกวดวิชาเลย แม้แต่วิชาเดียว
-------------------------------------------------------------------------------------------------
การสรุปบทใด ในวิชาใด จะทำได้เมื่อน้องรู้สึกว่าบรรลุในเรื่องนั้น ๆ แล้ว
สรุปง่าย ๆ ว่าอย่างน้อยน้องต้องทำโจทย์อย่างต่ำ 300 ข้อ จึงจะสรุปได้
------------------------------------------------------------------------------------------------
หนังสือพี่กำลังแต่ง เรื่อย ๆ ยังไม่เสร็จซักเล่ม เพราะพี่เป็นคนค่อนข้างหลายใจ
หมายความว่า คิดไว้เยอะ กำลังทำเรื่อย ๆ เสร็จเมื่อไรจะบอก
---------------------------------------------------------------------------------------------
หนังสือคณิตศาสตร์ สมัยพี่เรียนพี่จะไปอ่านแบบเรียนก่อน
จากนั้นตามด้วยหนังสือของวารสารแม็ค สมัครไว้ 1 ปี พอ สุดท้ายหาข้อสอบทำเรื่อย ๆ ทันที
หนังสือเลข ถ้าของ ม.6 เทอม 2 พี่แนะนำ ของ สุเทพ เรื่องอื่นไม่เคยอ่าน เพราะมันง่าย
หนังสือ ฟิสิกส์ กลศาสตร์ แนะนำ อดิชาติ บ้วนกียาพันธุ์ เรื่องไฟฟ้ากขาก็เขียนแต่พี่ว่าไม่ดี
เคมี ถ้าจำไม่ผิดเป็นของ วินัย รู้สึกว่าจะดี ทุกบท

สรุปว่าพี่จะหาหนังสืออ่านในเรื่องที่พี่คิดว่ามีปัญหาเท่านั้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 22 กุมภาพันธ์ 2002, 22:06
DIE-HARD DIE-HARD ไม่อยู่ในระบบ
เริ่มฝึกวรยุทธ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 17 กุมภาพันธ์ 2002
ข้อความ: 12
DIE-HARD is on a distinguished road
Cool

ผมดีใจมากครับที่พี่กรตอบกระทู้ของผม เพราะมานั่งเปิดทุกวันว่ามีคนมาตอบรึยัง และขอบคุณสำหรับแนวทางที่พี่บอกครับ ผมจะพยายามปฏิบัติให้ได้ทุกอย่างครับ
__________________
เด็ก T.P.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 23 กุมภาพันธ์ 2002, 22:21
<DividedByZero>
 
ข้อความ: n/a
Post

อ่านของคุณ gon แล้วทึ่งดีครับ
ผมเคยคิดจะอ่านหนังสือทุกวันครับ แต่ไม่เคยทำได้เลย
ผมเชื่อว่าแต่ละคนจะมีทางเรียนแบบต่าง ๆ เป็นของตัวเองครับ
สำหรับผม ผมจะอ่านเรื่องที่อยากอ่าน
ไม่เร่งรีบ ไม่มีตาราง
ทำเรื่องที่อยากรู้ตอนนั้น ให้รู้กระจ่างไปเลย
ผมอ่านหนังสือได้เฉพาะตอนดึก ๆ เพราะฉะนั้นจะนอน ตี 2 ขึ้นไปครับ
(แต่วันธรรมดาก็นอนเร็วอะครับ)
ผมยังเสียดายชีวิตวัยเด็กอยู่ ใช้ให้คุ้มหน่อยนะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 10 มีนาคม 2002, 18:18
DIE-HARD DIE-HARD ไม่อยู่ในระบบ
เริ่มฝึกวรยุทธ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 17 กุมภาพันธ์ 2002
ข้อความ: 12
DIE-HARD is on a distinguished road
Wink

ผมนอน 4 ทุ่มก็หลับแล้วครับ ตื่นก็สายอีกต่างหาก ฮิ ฮิ
__________________
เด็ก T.P.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 14 มีนาคม 2002, 01:57
<morning glory>
 
ข้อความ: n/a
Talking

ข้อเดียวพอ สำหรับผู้ที่จะประสพความสำเร็จ

มีวินัย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 22:17


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha