|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#16
|
|||
|
|||
ก็มีน่าจะอยู่
|
#17
|
||||
|
||||
โดยส่วนตัวผมว่ามนุษย์ทุกคนไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินว่าใครถูกใครผิดหรอกครับ
|
#18
|
||||
|
||||
สำหรับผมนะครับ ผมเป็นไทย ผมเกิดเมืองไทย แล้วผมก็ ไทยรักไทยครับ
__________________
100 คนคิด 10 คนทำ 1 คนสำเร็จ |
#19
|
||||
|
||||
หวังว่าคุณคงไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลนะครับ ไม่งั้นจะยุ่งกันใหญ่ เพราะผู้พิพากษาก็คงไม่มีสิทธิที่จะตัดสินคุณได้
|
#20
|
|||
|
|||
ผมว่าอาจมีคนไทยไปด่าเขาก่อนก็ได้นะครับ เขาเลยว่ามา
|
#21
|
||||
|
||||
ข้าพคิดว่าพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถตัดสินได้ว่าใครถูกใครผิดอาจเพราะมนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงจิตใจของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้
|
#22
|
||||
|
||||
โทษครับ ตกคำว่า ดู หน้าถูก
__________________
|
#23
|
||||
|
||||
ผมพิมพ์ถุกแล้วครับ
|
#24
|
||||
|
||||
#8 พูดได้โดนใจมากครับ ตอนนี้ผมก็มีเรื่องกีฬาสีอยู่ ฮาๆๆ แต่ว่าบางร.ร.เค้าก็ดีนะครับเช่น ร.ร.เตรียมให้เด็ก ม.5จัดกีฬาสี ส่วนเด็ก ม.6 เตรียมสอบครับ
#15 ก็โดนครับ อย่าไปเหมารวมทั้งประเทศเค้าเลยครับ ถ้าเราเหมารวมแบบนั้นก็ไม่ต่างจาก คนที่มาดูถูกเรานะครับ ว่าแค่เฉพาะเวปไซด์นั้นก็พอ แต่ระบบการศึกษาไทยล้มเหลวจริงๆครับ เกิดจากทุกส่วนเลยครับ ทั้งตัวเด็ก ครู แผนการศึกษา การสอบเข้า การแอตมิชชั่น มันเชื่อมโยงกัน ล่มเหลวสุดๆ ก็ GAT/PAT นี่แหละครับ ส่วนใน ร.ร.ผมตอนนี้ก็เซ็งแบบที่ #13 ว่าอะครับ ทำไม วิชาไร้สาระพวก เต้นรำ กีฬา งานช่าง ศิลปะ สั่งงานเยอะแยะมากมาย ทั้งๆที่ผมต้องเตรียมตัว เอ็น ไหนจะต้องตัดเกรียนไปเรียน ร.ด. แล้วยังต้องมาเจอที่ ร.ร.ตรวจผม ตรวจเครื่องแบบ จับคนที่ฟังเพลงmp3 หาว่าอยู่ในโลกส่วนตัว (ฟังตอนเดินเข้ามาใน ร.ร.ตอนเช้านะ ไม่ได้ฟังในตอนเรียน หรือตอนเข้าแถว) โคตรจะไร้สาระเลยครับ ส่วนไอพวก สูบบุหรี่ ต่อยกัน หรือชู้สาว ก็ปล่อยไม่ยุ่ง เพราะ พ่อแม่ มันมีอำนาจ ก็เพราะมันเป็นซะยังงี้ประเทศชาติถึงไม่เจริญ พวกระบบเพื่อนพ้อง เอื้อประโยชน์กันเอง ไม่ค่อยเห็นถึงความถูกต้องกันสักเท่าไร แย่ๆครับ เห้อ อาจจะนอกเรื่องไปซะหน่อย ก็ต้องขอโทดด้วยนะครับ -*-
__________________
Not Me But You |
#25
|
||||
|
||||
ผมมีความคิดเห็นคล้ายกับคุณหยินหยางมาก เพราะว่า ตอนผมเรียนมัธยมฯ ก็ไม่ได้ไปเรียนพิเศษ เนื่องจากเรียนที่โรงเรียนมาพอแล้ว และการบ้านก็น้อยมากๆ จึงมีเวลาหัดเล่นดนตรี, ว่ายน้ำ, อ่านหนังสือ ฯลฯ วัยเรียนเป็นวัยที่มีความสุข, สนุกสนานมากๆ จนบัดนี้ผมยังจำเนื้อหาที่เรียนได้หลายวิชาเลยครับ (การเรียนแบบนี้หายไปใหน?)
และจากการสังเกตุวิธีการเรียนการสอนของโรงเรียนดังๆ ในจังหวัดระยองที่ผมอยู่ และจากหลายท่านที่โพสลงในกระทู้นี้ ทำให้ผมทราบว่าเป็นปัญหาเดียวกัน คือ หลายๆโรงเรียนพยายามวางระบบจัดการ การศึกษาพื่อที่โรงเรียนจะได้มีชื่อเสียงเป็นเลิศด้านวิชาการมากขึ้น แต่อนิจจา.. การวางระบบเพื่อจัดการการศึกษาที่คิดว่าดีนั้น กลับสร้างความถดถอยมากขึ้น ทำให้ความเป็นเลิศทางวิชาการไม่สามารถเป็นจริงได้ในภาวะปกติ จึงเกิดระบบการศึกษาพิเศษนอกโรงเรียนขึ้นมากมาย สำหรับนักเรียนที่อยากจะเป็นเลิศในด้านวิชาการต่างๆ เพราะอะไร? ทำไม? 1. ผมคิดว่าผู้รับนโยบายแต่ละท่านคงจะไม่เข้าใจกระบวนการเรียนรู้ และจัดลำดับความสำคัญของแต่ละรายวิชาไม่ถูก จึงกลัวที่จะไม่มีความสำคัญ เลยให้งานหรือการบ้าน แก่เด็กแบบมากๆ จนน่าใจหาย ไม่ทราบว่าจะเรียนเพื่อให้รู้วิธีการ, ทำความเข้าใจถึงอาชีพต่างๆ(คหกรรม, ช่างไฟ, ช่างไม้, วาดเขียน ฯลฯ) หรือจะให้จริงจังถึงขนาดผู้ประกอบอาชีพนั้นๆ โดยไม่ได้ตระหนักถึงระยะเวลาที่มี และเป้าหมายการเรียนรู้ที่ได้ตั้งไว้เดิม (คล้ายกับหลงทาง) หรือ อาจจะเกิดจากประสพการณ์เดิมของครูที่ผ่านการเรียนรู้มาด้วยความยากลำบาก จึงคิดว่าเด็กทุกคนเรียนรู้ได้ด้วยวิธีการนี้อย่างเดียว ซึ่งการเรียนรู้ของเด็กสามารถแยกได้ตามเด็กทั้งสี่แบบคือ อุคฆฏิตัญญู, วิปจิตัญญู, เนยยะ และปทปรมะ ตามหลักของดอกบัวสี่เหล่านั่นเอง "อยากสร้างความเป็นเลิศ แต่ใช้วิธีการสร้างที่ผิด แล้วผลงานจะเลิศได้อย่างไร" 2. ครูบางท่านในห้องเรียนจะสอนแบบผ่านๆ แล้วแนะนำนักเรียนให้ไปเรียนพิเศษนอกเวลา จึงจะสอนละเอียด และมีตัวอย่างข้อสอบมาให้ทำ เมื่อผลสอบกลางภาคออกมา มักพบว่าเด็กที่เรียนพิเศษกับครูคนนั้น ได้คะแนนสูงกว่าเด็กอื่นที่ไม่ได้เรียนด้วย เพราะข้อสอบดันคล้ายกับโจทย์ที่ครูให้เป็นตัวอย่างนั่นเอง ทำให้ผู้ปกครองเครียดไปหลายคน เลยส่งลูกไปเรียนกับครูคนนั้นเพิ่ม ครูสร้างเวร แต่เด้กรับกรรม ผมก็ได้แต่คิดว่า "สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามเวรตามกรรม" 3. การที่เด็กจะสอบเข้าเรียนต่อในสถาบันที่มีการแข่งขันสูงได้นั้น ต้องมีการเตรียมตัวดี ทั้งความรู้, ประสพการณ์, สภาพจิตใจ ฯลฯ ในโรงเรียนที่มีการจัดการดี จะลดปริมาณงานและการบ้านในปีสุดท้ายลงเพื่อให้เด็กมีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น อย่างที่โรงเรียนเตรียมอุดม ทำมาตลอดนั่นเอง เหมือนโค้ชที่จัดดปรแกรมฝึกซ้อมให้นักกีฬา และภายในโรงเรียนเตรียมยังมีการจัดการแข่งขันตอบปัญหาวิชาการในวิชาต่างๆ บนเวทีให้ซ้อมมืออีกด้วยครับ (วันเดือนปีที่ผ่านมา โอ้ ต.อ.จ๋ารักยังแจ่มจ้าไม่เลือน สระน้ำคูบัวตามเตือน... ) 4. ผู้ปกครองมักจะมีความอยากให้ลูกเด่นดังและเลือกเรียนอย่างที่ตนเองหวัง จึงกดดันลูกทั้งแบบที่รู้ตัวบ้างลืมตัวบ้าง ทำให้ลูกเกิดความเครียดจนขาดความสุขสดใสที่ควรจะมีจะได้ในวัยเด็ก ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้และจดจำ ซึ่งทางที่ดีควรมองโลกในแง่ดี และสร้างความสุขให้ลูก เพื่อที่จะได้เป็นภูมิคุ้มกันจิตใจให้สามารถเกิดความสว่างในยามที่คิดว่าทุกข์ที่สุดในชีวิตได้ ขอฝากไว้ให้คิดครับ "ไม่อยากทุกข์มาก ก็อย่าตั้งความหวังมากเกินไปอย่างไม่มีเหตุผล เมื่อพยายามดีที่สุดแล้ว ถึงแม้ผลจะไม่สำเร็จดังที่หวัง ก็ยังได้ความรู้ติดตัว เอาไว้สู้ในครั้งหน้า " 5. ในแง่ของต้องการผู้เรียนด้านคณิตศาสตร์ เพียงแค่ความรู้ และความเข้าใจ ยังไม่เพียงพอที่จะทำข้อสอบได้ ต้องหมั่นฝึกฝนตนเองด้วยการทำโจทย์ที่หลากหลาย จึงจะมีความชำนาญอย่างแท้จริง เสมือนการเรียนกวดวิชาเพื่อเพิ่มความมั่นใจและแสวงหาโจทย์พร้อมแนวคิดใหม่ๆ มาเพิ่มเติม แบบที่คุณหยินหยางกล่าวไว้นั่นเอง "ถ้าเราสามารถวิเคราะห์ข้อบกพร่องของตัวเองได้ และหมั่นแก้ไขข้อบกพร่องนั้นๆ แล้วผลก็จะดีเอง เหตุสงสัย --> ผลก็สงสัย , เมื่อทำลายความสงสัยในที่ใด ก็สิ้นสงสัยลงในที่นั้น " ฝากไว้แค่นี้ก่อนครับ เพราะเป็กระทู้เกาหลี (แต่ก็อยากตอบ คงไม่ว่ากัน) |
#26
|
||||
|
||||
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับทีว่าวิชาไร้สาระชอบสั่งงานเยอะมากเลยครับ
แต่โรงเรียนผมก็มีดีอย่างหนึ่งครับคือตอนม.5จะเรียนวิชาคณิตศาสตร์ถึงของม.6ให้จบเลยครับ เวลาที่เหลือก็จะเป็นการอ่านหนังสือครับ บางวันม.6ก็ว่างแทบไม่มีเรียนเลยครับช่วยให้ทบทวนบทเรียนได้ดีมากครับ ไม่ค่อยเข้มงวดเท่าไรในเรื่องทรงผมเพื่อนผมมันใส่ wax มาโรงเรียนยังไม่โดนเลยครับ แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันครับคือ...........นึ่กไม่ออกอ่ะ...แต่มันต้องมี่แน่ๆ ว่าแต่คุณ Purriwat ทำงานที่ thainox หรือเปล่าครับ คือเหมือนกับคุณ Purriwat จะคล้ายกับอาจารย์สอนพิเศษผมที่ระยองเลยอ่ะครับ 28 มิถุนายน 2009 17:35 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ roseisred01 |
#27
|
||||
|
||||
พวกคุณขยันพิมพ์อย่างนี้
ขอนับถือขอนับถือ อยากพิมพ์เก่งจัง
__________________
จด จด จด |
#28
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
ผมมักจะตั้งคำถามกับตนเองเสมอว่า "ที่จังหวัดระยอง มีบุคลากรที่ทรงคุณวุฒิมากมาย แต่คุณภาพการศึกษากลับไม่ได้เจริญอย่างที่ควรจะเป็น และเราจะสามารถช่วยสนับสนุนการศึกษาได้อย่างไร เพราะเมื่อเข้าไปช่วยแบบฟรีๆ ก็มักจะมีคนกลัวว่าจะไปแย่งลูกค้า งงจริงๆกับการศึกษาแบบไทยๆ หรือประเทศของเราไม่สามารถพัฒนาด้วยบุคลากรที่มีใจรักและอยากเสียสละเพื่อการศึกษาอย่างจริงใจ.." ความเจริญของประเทศชาติ ย่อมเกิดจากคนในชาติดำเนินอยู่ในหลักแห่งความเจริญ คือ การปฏิบัติเพื่อความเป็นผู้ตื่นอยู่(ไม่หลงมัวเมา) เป็นผู้สำรวมกายวาจาใจ(ทำดี พูดดี คิดดี) ไม่แสวงหาโดยละโมภ(เสียสละ) * ความรู้ เมื่อสถิตย์อยู่ในใจผู้ละโมบ ก็มักจะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตน โดยไม่เห็นแก่ส่วนรวม แต่เมื่อความรู้นั้น สถิตย์ลงในใจคนดี ก็จะสามารถยังประโยชน์และความเจริญให้แก่มหาขนได้ครับ * ขอโทษด้วยที่บ่นมากไปหน่อย คงเนื่องจากเริ่มแก่จนผมหงอกไปมากแล้ว |
#29
|
||||
|
||||
เพียงอยาก หรือเพียงแค่รู้แล้ว ยังไม่เพียงพอ ต้องฝึกฝนให้เป็นด้วย จึงจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองได้
วิชาทุกอย่าง เมื่อฝึกทำให้มาก จนเกิดความชำนาญ แล้วจะสามารถทำได้คล่องขึ้นเองครับ |
#30
|
||||
|
||||
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปประเทศไทยจะเป็นยังไงต่อไปครับเนี่ย เพราะตอนนี้เพราะว่าการศึกษาไม่ดีเนี่ยแหละ ต่างชาติมาเอาอะไรต่อมิอะไรไปเยอะเลย
__________________
เหนือฟ้ายังมีฟ้าแต่เหนือข้าต้องไม่มีใคร ปีกขี้ผื้งของปลอมงั้นสินะ ...โลกนี้โหดร้ายจริงๆ มันให้ความสุขกับเรา แล้วสุดท้าย มันก็เอาคืนไป... |
|
|