|
|
|||||||
| สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
  |
|
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
|
#16
26 มกราคม 2011, 17:50
|
||||
|
||||
^
^ ^ ^ อืม
__________________
มหิดลรอบ2คือความยากที่มองเห็น แล้วใครบอกวิทย์ง่ายละครับเนี่ย ไม่จริงซักนิด ม้า้ายยย T T 
|
|
#17
26 มกราคม 2011, 18:32
|
||||
|
||||
|
ส่วนเล่ม ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น นั้นต้องการแสดงให้เห็นว่า "ธรรมะพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์" และ "บางสิ่งที่ไอน์สไตน์ค้นพบ พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้มาก่อนแล้วนับพันปี" จุดสำคัญก็คือหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เขียนในลักษณะของนิยายหรือเรื่องสั้น แต่มีลักษณะให้ข้อมูลทั้งวิทยาศาสตร์และศาสนาพร้อมการวิเคราะห์ ตลอดจนการแทรกข้อคิดเห็นของผู้เขียนลงไปจำนวนมาก นอกจากนี้ผู้จัดพิมพ์ยังเป็นสำนักพิมพ์ที่มีผลงานน่าเชื่อถือสูงมาก อันเกิดจากการให้ความสำคัญกับคุณภาพของหนังสือและสิ่งพิมพ์ต่างๆ เสมอมา
อย่างไรก็ดี สำนักพิมพ์จัดหนังสือเล่มนี้อยู่ใน ชุดธรรมะวิทยาศาสตร์ ซึ่งหมายความว่าแม้จะมีผู้อ่านส่วนหนึ่งอ่านเพื่อความบันเทิง แต่ก็ย่อมจะมีผู้อ่านอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องการทราบข้อเท็จจริงทั้งทางวิทยาศาสตร์และธรรมะ และต้องการจะเข้าใจว่าวิทยาศาสตร์และธรรมะมีความสัมพันธ์กันอย่างเป็นเหตุเป็นผลอย่างไร พูดถึงตรงนี้ก็นึกขึ้นมาได้ว่า ไม่เพียงแต่วิทยาศาสตร์เท่านั้นที่ต้องได้รับการตรวจสอบความถูกต้อง แม้แต่ประเด็นทางธรรมะต่างๆ ที่ผู้เขียนกล่าวอ้าง ก็น่าจะมีผู้รู้ทางปรัชญาและพุทธศาสนามาตรวจสอบด้วยเช่นกัน หากสำนักพิมพ์ต้องการให้หนังสือที่จัดพิมพ์ขึ้นทุกเล่มในชุดธรรมะวิทยาศาสตร์นี้มีคุณภาพสูงและเชื่อถือได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งผู้เขียน ผู้อ่าน และสำนักพิมพ์นั้นๆ เอง มองในระยะยาวออกไป ย่อมเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการอ้างถึงหนังสือเล่มหนึ่งๆ ออกไป เพื่ออ้างอิงหรือเพื่อต่อยอดทาง ความคิด หากหนังสือที่ถูกอ้างถึงผิดพลาดมากเสียแล้ว ผลลัพธ์ในภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไรก็สุดจะหยั่งถึงครับ ผมคิดว่า ธรรมะที่ผู้เขียนกล่าวถึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อวิทยาศาสตร์ที่กล่าวถึงแต่อย่างใดเลยนะครับ ขอแนะนำว่าให้อ่านจบทั้ง 2 เล่มแล้วจะเห็นอะไรบางอย่า่งยิ่งกว่า พลิกดูไปมาไม่กี่หน้านะครับ 
__________________
ขว้างมุขเสี่ยว ๆ ใส่กันน่าจะมันแฮะ
|
|
#18
26 มกราคม 2011, 21:38
|
||||
|
||||
|
เคยเห็นนังสือ แล้วก็ดูแบบผ่านๆ นะครับ
อารามณ์ผมคง ไม่เห็นต้องเอามาเปรียบเทียบกันเลย (คิดแบบนั้นจริงๆ ) . ส่วนเรื่องศาสนา ผมว่าลองแวะไปพันทิป ห้องศาสนาดูก็น่าจะดีนะครับ จะได้มุมมองทางศาสนาที่ลึกมาก ๆ ขึ้น
__________________
มนุษย์เราเอยเกิดมาทำไม นิพพานมีสุขอยู่ไยมิไป...
|
|
#19
27 มกราคม 2011, 05:44
|
||||
|
||||
|
เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ ผมว่ามันต้องเจาะลึกทั้งสองอย่างเองโดยตัวบุคคลนั้นๆ เมื่อรู้ลึกจริงแล้วค่อยมาเปรียบเทียบนะครับ ไม่ใช่ว่าเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาเป็นร้อยเล่ม อ่านหนังสือเกี่ยวกับคณิตศาสตร์จนเก่งแคลคูลัส แค่นั้นยังไม่พอหรอกครับ ต้องปฏิบัติจริง ในที่นี้ก็คือ ต้องเข้าใจคณิตศาสตร์ทุกมุมมอง หรือต้องเข้าใจพระพุทธศาสนาจริิง เพราะแค่อ่านหนังสือ ไม่ได้แปลว่าถูกต้องเสมอไป ของจริงต้องลองทำดูเองครับ
อย่างพระพุทธเจ้าเองท่านไม่ได้บอกให้เชื่อในพระพุทธศาสนา ท่านแค่บอกแค่ความเป็นจริงเกี่ยวกับธรรมชาติเท่านั้น ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่บุคคลถึงได้เกิด กาลามสูตรขึ้น ส่วนคณิตศาสตร์เกิดจากข้อตกลงของเหล่านักปราชญ์ ซึ่งก็เหมือนวิทยาศาสตร์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะยังไม่มีใครรู้จริง รู้เท่าที่เห็นด้วยตาเท่านั้น อย่างเช่นถ้ามีทฤษฎีใหม่ ที่ถูกต้องแม่นยำกว่าทฤษฎีเดิม ก็จะตัดทฤษฎีเก่าทิ้ง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าทฤษฎีใหม่นั้นถูกต้องที่สุด เพราะวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ในส่วนของมนุษย์นั้นมีขอบเขตจำกัดอยู่มากมาย เพียงแค่ตัดสินในสิ่งที่ตาเห็นและอ้างอิงได้เท่านั้น
|
|
#20
27 มกราคม 2011, 19:29
|
||||
|
||||
|
สำหรับผม คณิตศาสตร์คือความจริงที่ถูกต่อยอดมาเรื่อย มี 1-10 ไม่พอจึงต่อยอดมาเรื่อยๆ มาเป็น จำนวนนับ บวก ลบ คูณหาร ต่อๆมาจนเป็นวิชายากๆครับ (เดานะครับ)
|
|
#21
09 มีนาคม 2011, 23:57
|
||||
|
||||
|
อ้างอิง:
|
|
#24
10 มีนาคม 2011, 20:08
|
||||
|
||||
|
#22
คงเอามาจากที่นี่ครับ ความเห็นที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/to...X10295847.html แต่ถ้าสนใจ Demarcation Problem คืออะไร ลองศึกษาได้จากที่นี่ http://www.soaziglebihan.org/1001-PH...1-Chapter2.pdf อันนี้เป็นของแถม http://www.google.com/books?hl=th&lr...roblem&f=false ในพุทธศาสนาเท่าที่ศึกษาไม่ได้บอกไว้ว่าเป็นวิทยาศาสตร์ แต่ผู้ที่ศึกษาอาจคิดว่าเป็นวิทยาศาสตร์ก็อีกเรื่องหนึ่งก็เป็นความเห็นแต่ละบุคคล ซึ่งอาจมองในแง่คำสอนในศาสนาที่เป็นเหตุเป็นผล ซึ่งผลเกิดจากการกระทำ(กรรม) พุทธ แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ส่วน Demarcation Problem อยู่ใน philosophy of science น่าจะลองคิดดูว่าทำไมต้องพูดเรื่องนี้ เพราะอะไร ... ปล.1 มีอยู่ 2 เรื่องที่เค้าบอกว่าไม่ควรถกเรื่องความคิดเห็น 1. การเมือง 2. ศาสนา ปล.2 แต่ก็มีเรื่องที่คนเค้ามักชอบคุยกัน คือ เรื่องของคนอื่น
|
| |
|
|
