Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์มัธยมศึกษา > ปัญหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย > ข้อสอบในโรงเรียน ม.ปลาย
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #16  
Old 19 สิงหาคม 2014, 10:48
artty60 artty60 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤศจิกายน 2010
ข้อความ: 1,036
artty60 is on a distinguished road
Default

Name:  A00.png
Views: 460
Size:  4.0 KB
ข้อง่ายๆก็เมาได้ ข้อ4. ต้องมาเขียนบนเส้นจำนวน สรุป คำตอบ $\,\frac{1}{3}<x<1\,$ใช่รึเปล่าครับ

ส่วนข้อ2.อ่านแล้วก็ยังเข้าใจแบบนั้น คงต้องให้ช่วยชี้แนะแล้วล่ะครับ หรือว่า $\,A\cap C=\varnothing $ !

ถ้าเป็นแบบนั้น $\,nD=nB-8\Rightarrow 1\leqslant nD\leqslant 11$

19 สิงหาคม 2014 11:57 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ artty60
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #17  
Old 19 สิงหาคม 2014, 11:08
lek2554's Avatar
lek2554 lek2554 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กันยายน 2010
ข้อความ: 1,035
lek2554 is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ artty60 View Post
ข้อง่ายๆก็เมาได้ ข้อ4. ต้องมาเขียนบนเส้นจำนวน สรุป คำตอบ $\,\frac{1}{3}<x<1\,$ใช่รึเปล่าครับ
$x\not= \frac{1}{2} $ ครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #18  
Old 19 สิงหาคม 2014, 11:55
Chalard Chalard ไม่อยู่ในระบบ
เริ่มฝึกวรยุทธ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 22 พฤศจิกายน 2011
ข้อความ: 23
Chalard is on a distinguished road
Default

วาดรูป y = tan(x-1) กับ y = tan(x - 1/3) ในระนาบ xy เดียวกัน โดยหลักการเลื่อนกราฟ แล้วพิจารณาค่า y ที่ต่างกันเมื่อคูณกันก็มีค่าน้อยกว่า 0
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #19  
Old 19 สิงหาคม 2014, 12:08
artty60 artty60 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤศจิกายน 2010
ข้อความ: 1,036
artty60 is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ lek2554 View Post
$x\not= \frac{1}{2} $ ครับ
เออใช่แฮะ! เห็นเป็นกำลังสองกับกำลังสี่เลยคิดว่าเป็นบวกไม่เอามาพิจารณาเลย ผมมักง่ายไปหน่อย

ขอบคุณคุณlek2554มากครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #20  
Old 19 สิงหาคม 2014, 12:27
polsk133's Avatar
polsk133 polsk133 ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 14 สิงหาคม 2011
ข้อความ: 1,873
polsk133 is on a distinguished road
Default

ข้อ4. เหมือนจะยังขาดนะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #21  
Old 19 สิงหาคม 2014, 15:53
lek2554's Avatar
lek2554 lek2554 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กันยายน 2010
ข้อความ: 1,035
lek2554 is on a distinguished road
Default

ข้อ 4.
Name:  y=tan(x).JPG
Views: 431
Size:  29.2 KB

$x\in \left(-\frac{\pi }{2}+\frac{1}{3} ,-\frac{\pi }{2}+1\,\right)\cup \left(\frac{1}{3} ,\frac{1 }{2}\,\right)\cup \left(\frac{1}{2} ,1\,\right)$อันนี้ผิดครับ

แก้ใหม่ตามที่คุณ polsk133 บอก $x\in \left(-\frac{\pi }{2}+\frac{1}{3} ,-\frac{\pi }{2}+\frac{1}{2}\,\right)\cup \left(-\frac{\pi }{2}+\frac{1}{2} ,-\frac{\pi }{2}+1\,\right)\cup \left(\frac{1}{3} ,\frac{1 }{2}\,\right)\cup \left(\frac{1}{2} ,1\,\right)$

19 สิงหาคม 2014 20:35 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ lek2554
เหตุผล: แก้คำตอบ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #22  
Old 19 สิงหาคม 2014, 19:34
polsk133's Avatar
polsk133 polsk133 ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 14 สิงหาคม 2011
ข้อความ: 1,873
polsk133 is on a distinguished road
Default

ยังขาด $x\not= \dfrac{-\pi}{2}+\dfrac{1}{2}$ ไปอีกหน่อยนึงครับ

ปล.อันนี้ต้องเครดิตคุณ Thgx0312555 เลยครับ ทีแรกผมก็ไม่รู้เช่นกัน 555

20 สิงหาคม 2014 01:25 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ polsk133
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #23  
Old 19 สิงหาคม 2014, 20:29
lek2554's Avatar
lek2554 lek2554 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กันยายน 2010
ข้อความ: 1,035
lek2554 is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ polsk133 View Post
ยังขาด $x\not= \dfrac{-\pi}{2}+\dfrac{1}{2}$ ไปอีกหน่อยนึงครับ
จริงด้วยครับ ลืมตัวนี้ไป ขอบคุณครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #24  
Old 20 สิงหาคม 2014, 00:20
Thgx0312555's Avatar
Thgx0312555 Thgx0312555 ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 สิงหาคม 2011
ข้อความ: 885
Thgx0312555 is on a distinguished road
Default

2. ตอบ 1023 ถูกแล้วครับ
ถ้าอ่านโจทย์ดีดีจะได้ว่า $n(D)$ เป็นจำนวนของเซต $C$ ที่ $C \neq \varnothing$ และ $A \cap C = \varnothing$ ครับ
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล
---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #25  
Old 20 สิงหาคม 2014, 07:50
artty60 artty60 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤศจิกายน 2010
ข้อความ: 1,036
artty60 is on a distinguished road
Default

$\dfrac{n(B)}{n(A)}=\dfrac{2n(A)}{3n(A)-n(B)}$

อีกนิดนะครับ ตรงข้อมูลโจทย์ข้างบนนี้นำมาใช้อะไรรึเปล่าครับ

และจำนวนสมาชิกของ D ซึ่งเป็นสับเซตของ B-A ก็จะเป็นได้ตั้งแต่ 1-1023 รึเปล่าครับ

ถ้าคำตอบคือ 1023 โจทย์ก็น่าจะถามถึงขนาดที่มากที่สุดของ D ใช่รึเปล่าครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #26  
Old 20 สิงหาคม 2014, 08:22
Thgx0312555's Avatar
Thgx0312555 Thgx0312555 ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 สิงหาคม 2011
ข้อความ: 885
Thgx0312555 is on a distinguished road
Default

โจทย์กำหนดเงื่อนไขให้ $A,B$ เป็นได้ขนาดเดียวครับ ซึ่งตรงกับขนาดมากที่สุดพอดี
ลองอ่านเงื่อนไขดูใหม่ครับ
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล
---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #27  
Old 20 สิงหาคม 2014, 09:37
artty60 artty60 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤศจิกายน 2010
ข้อความ: 1,036
artty60 is on a distinguished road
Default

จริงด้วยครับกำหนดมาเพื่อให้คำนวณได้ว่า $\,n(B-A)=10\,$ ขอบคุณครับคุณThgx0312555

20 สิงหาคม 2014 09:45 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ artty60
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #28  
Old 20 สิงหาคม 2014, 23:11
neem's Avatar
neem neem ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 17 มกราคม 2009
ข้อความ: 77
neem is on a distinguished road
Default

ขอวิธีคิดของชุดที่หนึ่งข้อสามหน่อยค่ะ
__________________
FigHt! ---FigHt! --- FigHt!
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #29  
Old 21 สิงหาคม 2014, 10:03
lek2554's Avatar
lek2554 lek2554 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กันยายน 2010
ข้อความ: 1,035
lek2554 is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ neem View Post
ขอวิธีคิดของชุดที่หนึ่งข้อสามหน่อยค่ะ
ลองสมมติให้ $log_4a=logb=log_{25}(2a+5b)=k$ แล้วแก้สมการครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #30  
Old 21 สิงหาคม 2014, 10:16
artty60 artty60 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤศจิกายน 2010
ข้อความ: 1,036
artty60 is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ neem View Post
ขอวิธีคิดของชุดที่หนึ่งข้อสามหน่อยค่ะ
1.ให้แทนค่า $\,log_{4}a=logb=log_{25}(2a+5b)=k$

2.convert ให้เป็นรูป exponential

3.จัดรูปให้อยู่ในสมการกำลังสองของ $\frac{a}{b}$

4.แก้สมการก็จะได้ค่าของ $\frac{a}{b}$

5.เช็คคำตอบเอาเฉพาะที่ใช้ได้กับ log ครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply


หัวข้อคล้ายคลึงกัน
หัวข้อ ผู้ตั้งหัวข้อ ห้อง คำตอบ ข้อความล่าสุด
[สอวน. สวนกุหลาบ 2557] ข้อสอบคัดตัวแทนศูนย์ เมษา ปี 2557 กทม polsk133 ข้อสอบโอลิมปิก 3 29 เมษายน 2014 20:22
กำหนดการเข้าค่าย สพฐ. 2557 (5-9 พ.ค.) gon ข่าวคราวแวดวงประถม ปลาย 1 24 เมษายน 2014 21:52
ข้อสอบสอวน. ทฤษฎีจำนวน ค่าย 3 2557 นกกะเต็นปักหลัก ทฤษฎีจำนวน 2 21 เมษายน 2014 22:21
สพฐ. 2557 กำหนดการรับสมัคร(1-25 ธ.ค.2556)และสอบแข่ง รอบที่ 1 (26 ม.ค.2557) gon ข่าวคราวแวดวง ม.ต้น 22 16 ธันวาคม 2013 09:56
สพฐ. 2557 กำหนดการรับสมัคร(1-25 ธ.ค.2556)และสอบแข่ง รอบที่ 1 (26 ม.ค.2557) gon ข่าวคราวแวดวงประถม ปลาย 1 10 พฤศจิกายน 2013 04:56


กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 23:17


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha