Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์มัธยมศึกษา > ปัญหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 04 ธันวาคม 2010, 00:30
v0rsUck v0rsUck ไม่อยู่ในระบบ
สมาชิกใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 20 ตุลาคม 2008
ข้อความ: 3
v0rsUck is on a distinguished road
Default รบกวนทำโจทย์ให้หน่อยครับ ทำไม่ได้ T^T

น่าจะเป็นข้อสอบอะไรสักอย่างอ่ะครับ เพื่อนเอามาให้ทำ
รูปภาพที่แนบมาด้วย
                         

20 ธันวาคม 2010 18:48 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ v0rsUck
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 04 ธันวาคม 2010, 09:57
Slurpee's Avatar
Slurpee Slurpee ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 16 มีนาคม 2010
ข้อความ: 153
Slurpee is on a distinguished road
Default


$\textrm{lim}_{x \to \infty}(\sqrt{x^2+6x}-x) $

= $\textrm{lim}_{x \to \infty}(\sqrt{x^2+6x}-x)\times {\frac{\sqrt{x^2+6x}+x}{\sqrt{x^2+6x}+x}} $
= $\textrm{lim}_{x \to \infty}\frac{x^2+6x-x^2}{\sqrt{x^2 (1+\frac{6}{x})}+x} $
= $\textrm{lim}_{x \to \infty}\frac{6x}{x(\sqrt{(1+\frac{6}{x})}+1)} $
= $\textrm{lim}_{x \to \infty}\frac{6}{\sqrt{(1+\frac{6}{x})}+1} $
= $3$
__________________
ผมจะต้องเป็นครูที่เก่งและที่ดีให้ได้เลยครับ

05 ธันวาคม 2010 18:07 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Slurpee
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 04 ธันวาคม 2010, 10:02
กิตติ's Avatar
กิตติ กิตติ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 08 พฤศจิกายน 2009
ข้อความ: 2,723
กิตติ is on a distinguished road
Default

รูปไม่ขึ้นเลยไม่มีใครช่วยทำครับ
ผมแก้โค้ดให้แล้วกันครับ
โค้ดผิดตรงนี้ครับ 1.ตรงที่หลังคำสั่งimg ไปวางตัวปิดของURL มันเลยไม่แสดง
2.คำสั่งแสดงรูปเป็น IMG ถึงจะแสดงแต่โค้ดที่ใช้เป็นimg เลยไม่โชว์รูป
3.URLที่เก็บรูปตอนแปะเป็น images.torrentmove.com ซึ่งเอามาแปะแล้วไม่โชว์ พอเอาไปใส่ในbrowserแล้วมันredirectเป็น cat-img.torrentmove.com ซึ่งแสดงรูป ผมเลยเปลี่ยนมาใช้ที่อยู่ที่แสดงแทนเลยได้ตามนี้





















__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก
ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม
"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย
ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 04 ธันวาคม 2010, 10:14
กิตติ's Avatar
กิตติ กิตติ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 08 พฤศจิกายน 2009
ข้อความ: 2,723
กิตติ is on a distinguished road
Default

ข้อแรกคุ้นๆว่าเคยมีคนเอามาแปะให้ทำแล้ว ลองหาดูในบอร์ดก่อน



$a=7A+1 \rightarrow a^2=49A^2+14A+1$....7หารเหลือเศษ 1
$b=7B+3 \rightarrow b^2=49B^2+42B+9$....7หารเหลือเศษ 2
$c=7C+5 \rightarrow c^2=49C^2+70C+25$....7หารเหลือเศษ 4

1.เหลือเศษ 0
2.เหลือเศษ 5
3.เหลือเศษ 3
4.เหลือเศษ 2
5.เหลือเศษ 1
ผมตอบ 2
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก
ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม
"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย
ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 04 ธันวาคม 2010, 10:30
Slurpee's Avatar
Slurpee Slurpee ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 16 มีนาคม 2010
ข้อความ: 153
Slurpee is on a distinguished road
Default


\[\begin{array}{rcl}
f(x)&=&\frac{10^{2x}+1}{10^{2x}-1}\\
y(10^{2x}-1)&=&10^{2x}+1\\
y{10^{2x}}-y&=&10^{2x}+1\\
(y-1){10^{2x}}&=&y+1\\
{10^{2x}}&=&\frac{y+1}{y-1}\\
{{2x}}&=&log_{10}({\frac{y+1}{y-1}})\\
x&=&\frac{1}{2}log_{10}({\frac{y+1}{y-1}})\\
x&=&log_{10}(\sqrt{\frac{y+1}{y-1}})\\
\end{array}\]
ดังนั้น $f^{-1}(x)=log_{10}(\sqrt{\frac{x+1}{x-1}})$
__________________
ผมจะต้องเป็นครูที่เก่งและที่ดีให้ได้เลยครับ

05 ธันวาคม 2010 18:10 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Slurpee
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 04 ธันวาคม 2010, 10:47
LightLucifer's Avatar
LightLucifer LightLucifer ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 กันยายน 2008
ข้อความ: 2,352
LightLucifer is on a distinguished road
Default

โจทย์ กสพท นี่นา
__________________
เหนือฟ้ายังมีฟ้าแต่เหนือข้าต้องไม่มีใคร

ปีกขี้ผื้งของปลอมงั้นสินะ


...โลกนี้โหดร้ายจริงๆ มันให้ความสุขกับเรา แล้วสุดท้าย มันก็เอาคืนไป...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 04 ธันวาคม 2010, 11:09
Slurpee's Avatar
Slurpee Slurpee ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 16 มีนาคม 2010
ข้อความ: 153
Slurpee is on a distinguished road
Default



พิจารณาให้ p q มีค่าความจริงเป็น เท็จ
พบว่า $\exists{x}[x^2>x] $ มีค่าความจริงเป็นจริง จะได้ $x(x-1)> 0$ อยู่ในช่วง $(-\infty ,0)\cap (1,\infty )$
และ $\forall{x}[\left|x\,\right|>-x ] $ มีค่าความจริงเป็น เท็จ ซึ่งเป็นเท็จเมื่อ $x=0$
จะได้ว่า $p\rightarrow q$ มีค่าความจริงเป็นเท็จ เมื่อ $x$ อยู่ในช่วง $(-\infty ,0]\cap (1,\infty )$
ดังนั้น $p\rightarrow q$ มีค่าความจริงเป็นจริง เมื่อ $x$ อยู่ในช่วง $(0,1]$
__________________
ผมจะต้องเป็นครูที่เก่งและที่ดีให้ได้เลยครับ

04 ธันวาคม 2010 11:10 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Slurpee
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 04 ธันวาคม 2010, 11:12
กิตติ's Avatar
กิตติ กิตติ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 08 พฤศจิกายน 2009
ข้อความ: 2,723
กิตติ is on a distinguished road
Default



จะเห็นว่า$a_1$ เป็นสัมประสิทธิ์ของ $x$
$a_2$ เป็นสัมประสิทธิ์ของ $x^2$
$a_3$ เป็นสัมประสิทธิ์ของ $x^3$
$(1+x^2)^2=1+2x^2+x^4$
$(1+x)^n=1+\binom{n}{1}x^1+\binom{n}{2}x^2+...+\binom{n}{r} x^r+... $
สัมประสิทธิ์ของ $x$ เท่ากับ $\binom{n}{1}$
สัมประสิทธิ์ของ $x^2$ เท่ากับ $2+\binom{n}{2}$
สัมประสิทธิ์ของ $x^3$ เท่ากับ $2\binom{n}{1}+\binom{n}{3} $
$a_1=\binom{n}{1}$
$a_2=2+\binom{n}{2}$
$a_3=2\binom{n}{1}+\binom{n}{3}$

$a_2=\frac{a_1+a_3}{2} $

$4+2\binom{n}{2}=\binom{n}{1}+2\binom{n}{1}+\binom{n}{3}$

$4=3\binom{n}{1}+\binom{n}{3}-2\binom{n}{2}$

$4=3n+\frac{n(n-1)(n-2)}{6} -n(n-1) $

$24=18n+n(n^2-3n+2)-6n^2+6n$

$24=18n+n^3-3n^2+2n-6n^2+6n$

$n^3-9n^2+26n-24=0 $
ติดไว้ก่อนครับ เดี๋ยวแว๊ปไปทำงานก่อน

ได้ค่า$n$ ที่เป็นคำตอบของสมการคือ $2,3,4$.....ผมตอบ $n=4$
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก
ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม
"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย
ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน)

04 ธันวาคม 2010 11:27 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 3 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ กิตติ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #9  
Old 04 ธันวาคม 2010, 12:32
กิตติ's Avatar
กิตติ กิตติ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 08 พฤศจิกายน 2009
ข้อความ: 2,723
กิตติ is on a distinguished road
Default



น่าจะใช้ความรู้เรื่องเซต
จำนวนคนทั้งหมด=ชอบเรื่องที่1อย่างเดียว+ชอบเรื่องที่สองอย่างเดียว+ชอบเรื่องที่สามอย่างเดียว+ชอบสามเรื่อง
มีคนที่ชอบทั้งสามเรื่องเท่ากับ $x$ คน
เรื่องที่1 มีคนที่ชอบทั้งสามเรื่องเท่ากับ $x$ คน ชอบเฉพาะเรื่องที่หนึ่งเท่ากับ $12-x$ คน
เรื่องที่2 มีคนที่ชอบทั้งสามเรื่องเท่ากับ $x$ คน ชอบเฉพาะเรื่องที่สองเท่ากับ $18-x$ คน
เรื่องที่3 มีคนที่ชอบทั้งสามเรื่องเท่ากับ $x$ คน ชอบเฉพาะเรื่องที่สามเท่ากับ $10-x$ คน
$38=12-x+18-x+10-x+x$
$38=40-2x$
$x=1$
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก
ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม
"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย
ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #10  
Old 04 ธันวาคม 2010, 12:38
กิตติ's Avatar
กิตติ กิตติ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 08 พฤศจิกายน 2009
ข้อความ: 2,723
กิตติ is on a distinguished road
Default



อย่างนั้นก็จัดกลุ่มให้มีคนทั้งหมด 4คนต่อกลุ่ม ภายในกลุ่มจับมือกันได้แต่ละคนจับมือกับ 3 คน มีการจับมือเกิดขึ้น$\binom{4}{2} $ เท่ากับ 6 ครั้ง
จำนวนคนมี 50 คน แบ่งเป็นกลุ่มได้ 12 กลุ่มแล้วเหลือ 2 คน
รวมมีการจับมือกัน$6\times 12+1=73$ ครั้ง
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก
ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม
"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย
ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #11  
Old 04 ธันวาคม 2010, 12:49
กิตติ's Avatar
กิตติ กิตติ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 08 พฤศจิกายน 2009
ข้อความ: 2,723
กิตติ is on a distinguished road
Default



จำนวนเต็มคี่ 3 จำนวน จำนวนเต็มคู่ 2 จำนวน
หยิบมา 3 จำนวนแล้วได้ผลบวกเป็นเลขคู่หรือผลคูณเป็นเลขคี่
หาsample spaceก่อน.....ผมตีความว่าแต่ละจำนวนนั้นไม่ใช่เลขซ้ำกัน
หยิบเลข 3จำนวนเกิดขึ้นได้$\binom{5}{3} = 10$ แบบ
ผลบวกเป็นเลขคู่ เกิดได้กรณีเดียวคือ...คี่+คี่+คู่ เกิดขึ้น$\binom{3}{2}\binom{2}{1} =6 $ แบบ
ผลคูณเป็นเลขคี่ เกิดได้กรณีเดียวคือ...คี่,คี่,คี่ เกิดขึ้น$\binom{3}{3}=1 $ แบบ
ทั้งสองเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์อิสระต่อกัน
หยิบมา 3 จำนวนแล้วได้ผลบวกเป็นเลขคู่หรือผลคูณเป็นเลขคี่เกิดขึ้นได้เท่ากับ$6+1=7$ แบบ
ความน่าจะเป็นที่หยิบมา 3 จำนวนแล้วได้ผลบวกเป็นเลขคู่หรือผลคูณเป็นเลขคี่เท่ากับ $\frac{7}{10} $
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก
ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม
"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย
ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #12  
Old 04 ธันวาคม 2010, 13:13
Slurpee's Avatar
Slurpee Slurpee ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 16 มีนาคม 2010
ข้อความ: 153
Slurpee is on a distinguished road
Default



$\frac{cot(C)}{cot(A)+cot(B)}$

= $\frac{cot(c)}{\frac{cos(A)}{sin(A)}+\frac{cos(B)}{sin(B)}}$

= $\frac{cot(c)sin(A)sin(B)}{cos(A)sin(B)+sin(B)cos(A)}$

= $\frac{\frac{cos(c)}{sin(C)}sin(A)sin(B)}{sin(A+B)}$

= $\frac{\frac{cos(c)}{sin(C)}sin(A)sin(B)}{sin(180-(A+B))}$

= $\frac{\frac{cos(c)}{sin(C)}sin(A)sin(B)}{sin(C)}$

= $\frac{\frac{cos(c)}{sin(C)}sin(A)sin(B)}{sin(C)}$

= $\frac{\frac{cos(c)}{sin(C)}sin(A)sin(B)}{sin(C)}$

= $cos(c)\frac{sin(A)}{sin(C)}\frac{sin(B)}{sin(C)}$

จากกฎไซน์ จะได้ $cos(c)\frac{a}{c}\frac{b}{c}$.......................(1)

จาก กฎ cosine ได้ว่า $c^2=a^2+b^2-2abcos(C)$ และจาก $a^2+b^2=2553c^2$
จึงได้ $cos(C)=\frac{c^2}{ab}$ แล้วนำไปแทนค่าใน (1)

ได้ว่า $1276\frac{c^2}{ab}\frac{a}{c}\frac{b}{c}= 1276$
__________________
ผมจะต้องเป็นครูที่เก่งและที่ดีให้ได้เลยครับ

04 ธันวาคม 2010 13:18 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Slurpee
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #13  
Old 04 ธันวาคม 2010, 13:15
กิตติ's Avatar
กิตติ กิตติ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 08 พฤศจิกายน 2009
ข้อความ: 2,723
กิตติ is on a distinguished road
Default




มีคนมาช่วยทำแล้ว....สบายหน่อย
ผมคงช่วยได้เท่านี้ เพราะข้ออื่นไม่ถนัดแล้วครับ
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก
ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม
"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย
ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน)

04 ธันวาคม 2010 13:52 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 4 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ กิตติ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #14  
Old 04 ธันวาคม 2010, 16:40
กิตติ's Avatar
กิตติ กิตติ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 08 พฤศจิกายน 2009
ข้อความ: 2,723
กิตติ is on a distinguished road
Default



เอา$2^{4x+5}$ หารทั้งสองข้าง
$2^{2x^2-4x-5}+2^{x^2-2x-3}-1=0$
$(x-1)^2-1=x^2-2x=A$
$2^{2A-5}+2^{A-3}-1=0$
$2^{2A}+4(2^A)-2^5=0$
ให้$2^A=M>0$
$M^2+4M-32=0$
$(M+8)(M-4)=0$
$M=4 \rightarrow A=2 $
ดังนั้น $(x-1)^2-1=2$
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก
ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม
"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย
ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #15  
Old 05 ธันวาคม 2010, 11:44
lek2554's Avatar
lek2554 lek2554 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กันยายน 2010
ข้อความ: 1,035
lek2554 is on a distinguished road
Default

พี่กิตติ มีน้ำใจดีมากเลยครับ ช่วยแก้ code ให้ จนรูปแสดงขึ้นมา ผมเห็นตอนแรก ก็ไม่รู้จะทำยังไง ความรู้ com น้อย ต้องขอปรบมือให้พี่กิตติ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 00:31


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha