Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คลายเครียด > ฟรีสไตล์
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 18 เมษายน 2011, 08:48
ครูนะ ครูนะ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 ตุลาคม 2007
ข้อความ: 618
ครูนะ is on a distinguished road
Default ข้อมูลของการศึกษาไทย

ครูไทยทั่วประเทศมี 600,000 คน

สอนหนังสือได้ 200,000 คน

สอนหนังสือดีมีเพียง 60,000 คน

งบประมาณในการศึกษาไทย 100%

เป็นเงินเดือนครู 80%

เป็นเงินลงทุน 17% (ก่อสร้างอาคาร)

เป็นเงินพัฒนาการศึกษาเพียง 3%

ในเงินลงทุนและเงินพัฒนาการศึกษา นักการเมือง ข้าราชการโกงไปอีก 30%

ข้อมูลนี้สะท้อนอะไรบางอย่างของประเทศไทย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 18 เมษายน 2011, 13:21
lek2554's Avatar
lek2554 lek2554 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กันยายน 2010
ข้อความ: 1,035
lek2554 is on a distinguished road
Default

สพฐ.เผยผลประเมินครูสายวิทย์ ครู ม.ปลาย สอบตกหมดทุกวิชา “ชีวะ-คณิต- คอมพ์” เกณฑ์ต่ำเกิน 80% “ชินวรณ์” มึนสั่งยกเครื่องผลิตครูเฉพาะทางเป็นพิเศษ ขณะที่สมรรถนะภาษาอังกฤษ- ไอที ผู้บริหารบ้อท่า ตกเกณฑ์เกือบหมด

นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า วิชาวิทยาศาสตร์ ม.ปลาย วิชาฟิสิกส์ ครูเข้าประเมิน 3,428 คน กลุ่มสูง 75 คน คิดเป็น 2.19% กลุ่มกลาง 913 คน คิดเป็น 26.63% กลุ่มต้น 2,440 คน คิดเป็น 71.18%,

วิชาเคมี ครูเข้าประเมิน 3,061 คน กลุ่มสูง 693 คน คิดเป็น 22.68% กลุ่มกลาง 412 คน คิดเป็น 13.49% กลุ่มต้น 1,956 คน คิดเป็น 63.83%,

วิชาชีววิทยา ครูเข้าประเมิน 2,846 คน กลุ่มสูง 2 คน คิดเป็น 0.07% กลุ่มกลาง 389 คน คิดเป็น 13.67% กลุ่มต้น 2,455 คน คิดเป็น 86.26%,

วิชาโลกดาราศาสตร์ ครูเข้าประเมิน 529 คน กลุ่มสูง 3 คน คิดเป็น 0.56% กลุ่มกลาง 193 คน คิดเป็น 36.14% กลุ่มต้น 333 คน คิดเป็น 63.30%,

วิชาคณิตศาสตร์ ครูเข้าประเมิน 5,375 คน กลุ่มสูง 3 คน คิดเป็น 0.06% กลุ่มกลาง 875 คน คิดเป็น 18.28% กลุ่มต้น 4,497 คน คิดเป็น 83.66%, และ

วิชาคอมพิวเตอร์ เข้าประเมิน 3,901 คน กลุ่มสูง 4 คน คิดเป็น 0.10% กลุ่มกลาง 419 คน คิดเป็น 12.36% กลุ่มต้น 3,478 คน คิดเป็น 87.54%

ส่วนวิชาอื่นๆ ที่เหลืออยู่ระหว่างการประมวลผล เนื่องจากมีครูผู้สอนเข้าประเมินจำนวนมาก

สำหรับผลการประเมินผู้บริหาร มีผู้เข้าประเมินทั้งสิ้น 37,522 คน ในด้านความรู้และสมรรถนะการบริหารการศึกษา กลุ่มสูง 6,112 คน คิดเป็น 16.29% กลุ่มกลาง 15,426 คน คิดเป็น 41.12% กลุ่มต้น 15,984 คน คิดเป็น 42.59%
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 18 เมษายน 2011, 14:26
LightLucifer's Avatar
LightLucifer LightLucifer ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 กันยายน 2008
ข้อความ: 2,352
LightLucifer is on a distinguished road
Default

ทำไมกลุ่มสูงสี่วิชาหลังมันมีแค่หลักหน่วยเองอ่ะครับ =="
__________________
เหนือฟ้ายังมีฟ้าแต่เหนือข้าต้องไม่มีใคร

ปีกขี้ผื้งของปลอมงั้นสินะ


...โลกนี้โหดร้ายจริงๆ มันให้ความสุขกับเรา แล้วสุดท้าย มันก็เอาคืนไป...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 18 เมษายน 2011, 16:45
Influenza_Mathematics's Avatar
Influenza_Mathematics Influenza_Mathematics ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 พฤศจิกายน 2010
ข้อความ: 568
Influenza_Mathematics is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ LightLucifer View Post
ทำไมกลุ่มสูงสี่วิชาหลังมันมีแค่หลักหน่วยเองอ่ะครับ =="
ชี้ให้เห็นว่าครูคณิตศาสตร์ของไทย ยังไม่ได้รับพัฒนาเท่าที่ควรครับ
__________________
ขว้างมุขเสี่ยว ๆ ใส่กันน่าจะมันแฮะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 18 เมษายน 2011, 19:01
lek2554's Avatar
lek2554 lek2554 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กันยายน 2010
ข้อความ: 1,035
lek2554 is on a distinguished road
Default

นี่เป็นผลการประเมินสมรรถนะครูผู้สอนและผู้บริหารสถานศึกษารายบุคคลทั่วประเทศ ล่าสุดปีที่ผ่านมานะครับ ดูกลุ่มสูง แล้วดูกลุ่มต่ำ ด้วยนะครับ

เฉพาะความสามารถในการสอนคณิตศาสตร์ กลุ่มสูง 0.06% กลุ่มต่ำ 83.66% แล้วนักเรียนจะฝากอนาคตไว้กับใคร

พูดไปจะเชื่อมั้ยครับ ผมเจอมาแล้ว นักเรียน ม.3 $\quad\dfrac{3}{4} \times 5 = \dfrac{15}{20}$

ระบบการศึกษามันล้มเหลวตั้งแต่ประถมแล้ว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 18 เมษายน 2011, 21:03
หยินหยาง's Avatar
หยินหยาง หยินหยาง ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่จักรวาล
 
วันที่สมัครสมาชิก: 06 มกราคม 2007
ข้อความ: 2,921
หยินหยาง is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ lek2554 View Post
เฉพาะความสามารถในการสอนคณิตศาสตร์ กลุ่มสูง 0.06% กลุ่มต่ำ 83.66% แล้วนักเรียนจะฝากอนาคตไว้กับใคร
พูดไปจะเชื่อมั้ยครับ ผมเจอมาแล้ว นักเรียน ม.3 $\quad\dfrac{3}{4} \times 5 = \dfrac{15}{20}$
ไปโทษเด็ก ม. 3 ไม่ได้ครับ เพราะเลข 5 ของ อ.lek อยู่ตรงกลางบรรทัด เด็กเดาใจ อ. lek ไม่ถูก เข้าทำนองเลือกพี่ก็เสียดายน้อง เลยคูณทั้งข้างบนและข้างล่าง ยังไงก็ต้องถูกใจ อ. ซะที่แน่ คราวหลัง อ.lek ต้องเขียนให้ชัดเจนกว่านี้ครับ ผมว่าให้ดีต้องเขียนแบบนี้ $\frac{3 \times 5}{4}$

แล้วนักเรียนจะฝากอนาคตไว้กับใคร ถ้ายังนึกไม่ออก ก็ฝากไว้กับ ธนาคาร ก่อนก็ได้นะครับ แต่ต้องเลือกธนาคารที่มั่นคงหน่อย เพราะปีหน้ารัฐคุ้มครองเงินต้นเหลือเพียง 1 ล้านบาทเองนะครับ ไม่งั้นตอนถอนอาจเหลือแต่ตัวหัวไม่มี
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 18 เมษายน 2011, 22:50
Keehlzver's Avatar
Keehlzver Keehlzver ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 26 มกราคม 2009
ข้อความ: 533
Keehlzver is on a distinguished road
Default

ไม่ต้องฝากเอาไว้กับใครหรอก อนาคตน่ะครับ เกิดมามีขามีแขนก็ปีนป่ายกันต่อไปเถอะ เกิดมาก็ให้คนอื่นป้อนน้ำป้อนข้าว มีพระคุณพ่อแม่ ครูอาจารย์คุ้มหัวกันมาถึงทุกวันนี้ ไม่ได้เข้มแข็งไปกว่าสุนัขตัวเล็กๆที่คุ้ยขยะกินเลย แต่โชคดีที่มีมันสมองทำให้อยู่รอดมาได้จนถึงปัจจุบันในขณะที่หลายๆเผ่าพันธุ์กำลังสูญพันธุ์ ที่มาได้ขนาดนี้เป็นเพราะใคร?? สุดท้ายได้หน้าก็ลืมหลัง เคยโอปนะยิโกกลับเข้ามาดูตัวเองบ้างไหม

ถ้าทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง ถ้าทุกคนรู้จักแบ่งปัน รู้จักให้อภัยกัน รู้จักปล่อยวาง อะไรๆมันจะพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้ ท้ายที่สุดเกิดมาก็ต้องตายเหมือนกัน ไม่มีใครวิเศษวิโสไปกว่าใครหรอก ชีวิตใช้ให้คุ้มค่าเถอะ อย่ามามัวตัดสินพิพากษากันอยู่เลย ทำตัวเราเองให้ดีที่สุดเถอะครับ

มนุษย์ไม่ใช่พระเจ้า
__________________
"ชั่วโมงหน้าต้องดีกว่าเดิม!"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 18 เมษายน 2011, 23:25
Amankris's Avatar
Amankris Amankris ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 13 มกราคม 2007
ข้อความ: 2,492
Amankris is on a distinguished road
Default

#1, #2

มี Reference ไหม อยากอ่านต่อ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #9  
Old 18 เมษายน 2011, 23:35
lek2554's Avatar
lek2554 lek2554 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กันยายน 2010
ข้อความ: 1,035
lek2554 is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ หยินหยาง View Post
ผมว่าให้ดีต้องเขียนแบบนี้ $\frac{3 \times 5}{4}$

แล้วนักเรียนจะฝากอนาคตไว้กับใคร ถ้ายังนึกไม่ออก ก็ฝากไว้กับ ธนาคาร ก่อนก็ได้นะครับ แต่ต้องเลือกธนาคารที่มั่นคงหน่อย เพราะปีหน้ารัฐคุ้มครองเงินต้นเหลือเพียง 1 ล้านบาทเองนะครับ ไม่งั้นตอนถอนอาจเหลือแต่ตัวหัวไม่มี
เขียนแบบนี้ $\frac{3 \times 5}{4}$ ผมกล้วนักเรียนจะทำแบบนี้อีกนะสิครับ $\frac{3 \times 5}{4}= \frac{3}{4}\times\frac{5}{4} = \frac{15}{16}$

ส่วนฝากธนาคาร ผมไม่ต้องเลือกเลยครับ เพราะไม่มีเหลือให้ฝาก

#8
http://www.kroobannok.com/34332
http://mtm.board.ob.tc/-View.php?N=59
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9530000078570

18 เมษายน 2011 23:46 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ lek2554
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #10  
Old 21 เมษายน 2011, 15:42
yellow's Avatar
yellow yellow ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 20 ธันวาคม 2010
ข้อความ: 1,230
yellow is on a distinguished road
Default

ขอบคุณคุณเล็กสำหรับ Link

เข้าไปดูข่าว และอ่านคอมเมนต์ต่างๆ ก็ได้แต่ปลง แม้แต่ครูหรือระดับผู้บริหาร ยังเถียงกันเรื่องข้อสอบมี Choice ไม่มี Choice, ข้อสอบยาก นอกหลักสูตร, เวลาน้อย ฯลฯ เหมือนพวกเด็กนักเรียนคอมเมนต์กันเรื่อง ONET, GAT, PAT

ขนาดครูกับผู้บริหารโรงเรียนยังคิดจะมั่ว Choice แค่นี้ประเทศก็เจริญแล้ว

การประเมินครูในด้านวิชาการ ในความเห็นผม สิ่งสำคัญ ต้องดูที่ความรู้ฐาน การคิดวิเคราะห์ และการถ่ายทอดออกมา ดังนั้น แบบทดสอบควรมีไม่มากข้อ (เพราะครูบางคนถึงเก่ง แต่เรื่องสปีดก็คงต้องลดถอยตามวัย) และเป็นข้อเขียนให้อธิบาย เพื่อวัดกึ๋นของครูแต่ละคนมากกว่า
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #11  
Old 21 เมษายน 2011, 22:25
หยินหยาง's Avatar
หยินหยาง หยินหยาง ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่จักรวาล
 
วันที่สมัครสมาชิก: 06 มกราคม 2007
ข้อความ: 2,921
หยินหยาง is on a distinguished road
Default

เป็นข้อมูลเมื่อ มิ.ย. 2553 ว่าไปแล้วก็ เกือบ 1 ปี แต่สถานการณ์ของการสอบปีนี้แย่ลงไปอีกไม่ว่าจะเป็น โอเด็ด หรือแกะแพะ อุ้ยโทษที่ถูกต้องเป็น o-net กับ gat-pat แสดงว่าโครงการ เลียดี เลียฟรี 15 ปีไม่เป็นผลซะงั้น อ้าวผิดอีกหละ ต้อง โครงการเรียนดี เรียนฟรี 15 ปี ซิ

อันที่จริงปัญหาเกี่ยวกับการศึกษาไทย นั้นเป็นมาตั้งนานแล้ว ใครๆ ก็รู้ ไม่ว่าจะเป็น รมต. ผู้ใหญ่ในวงการการศึกษา คุณครู นักเรียน หรือแม้แต่ผู้ปกครอง ซึ่งถ้าจะแก้กันจริงๆ ผมว่าไม่ยากเพียงแต่จะกล้าที่จะทำหรือไม่ ทั้งๆ ที่บุคลากรทางด้านการศึกษา(ไม่ใช่แค่เฉพาะครู) มีจำนวนมากมาย หรืองบประมาณที่ลงไปก็ไม่ใช่น้อย แต่ก็เหมือนโยนลงทะเล

ผมมีข้อคิดเห็นที่คิดว่าน่าจะเป็นปัญหาและควรแก้

1. ระบบการศึกษาควรทำให้ชัดเจนคือ มี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนของมาตรฐานการศึกษา หรือเป็นที่รู้จักกันคือ โอเน็ต ส่วนนี้ต้องเป็นตัววัดว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ไม่ใช่เหมือนปัจจุบันทำแบบครึ่งๆกลางๆ เอามาให้เด็กสอบแต่ไปสะท้อนกับครูผู้สอนและโรงเรียน โดยไม่มีผลกับเด็ก(ยกเว้นพวกที่จะต้องสมัคร แอดมิชชั่นกลาง) เด็กจำนวนไม่น้อยไม่ได้สนใจการสอบพวกนี้เลยแถมยังคิดว่าเสียเวลา มันเหมือนการบังคับ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วการทำอะไรด้วยความสมัครใจหรือใส่ใจย่อมดีกว่าถูกบังคับ ในสมัยก่อนการสอบไล่ของระดับชั้น ป 4. หรือ ป.7 เป็นข้อสอบส่วนกลาง ทุกโรงเรียนใช้ข้อสอบชุดเดียวกันก็เหมือนการสอบ โอเน็ต ดังนั้นคะแนนที่ได้จะเป็นตัวบ่งบอกว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ส่วนที่ สอง คือส่วนที่เกินมาตรฐานการศึกษา ส่วนนี้ไว้ใช้สำหรับการแข่งขัน ไว้สำหรับเด็กที่ต้องการเข้าระบบการแข่งขันในเวทีต่างๆ หรือไปสอบแข่งขันเมื่อจบช่วงชั้น ส่วนนี้ถ้าพัฒนาได้ถูกทางก็จะสามารถสร้างบุคลากรที่เก่งๆและไปพัฒนาประเทศชาติต่อไปได้

2. กิจกรรมและงานของนักเรียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคะแนน(คะแนนเก็บ)มีผลต่อการเรียน ในความเข้าใจผู้ใหญ่ในวงการศึกษาคิดว่าส่วนนี้เป็นส่วนที่ช่วยให้เด็กไม่ต้องเคร่งเครียดกับการเรียน และรู้จักการทำงานการเข้าสังคมรวมทั้งการวางแผน เป็นต้น ซึ่งผมกล้าพูดได้ว่า ไม่ตรงกับที่คิดเลย ในหลายครั้งตัวเด็กเองรู้สึกว่าเป็นภาระ ไม่เกิดประโยชน์ แถมบางครั้งส่งไปก็ไม่ได้ตรวจแบบดูเนื้อหาทั้งหมดหรือดูรายละเอียดด้วยซ้ำ อันนี้ไม่ได้นึกเอง แต่ถามหลายคนหลายโรงเรียน ก็เป็นเช่นนั้น งานบางอย่างคุณครูแกก็สสั่งแบบอลังการงานสร้างซะงั้น เช่น โครงงานนี้ให้บูรณการเอา วิชา วิทย์ คณิต สุขศึกษา ไทย ศิลปะ รวมทั้งหมดทำเป็นโครงงาน เป็นต้น ตอนส่งนึกว่าต้องส่งอาหารหมูให้ซะแล้ว หลายงานที่คุณครูสั่งงานแล้ว แต่ขาดคำแนะนำหรือชี้แนะให้เด็กหาเอาเอง แล้วก็บอกว่านั่นแหละ ควายเซ้นเตอร์ เฮ้ย ไชด์เซ็นเตอร์ ถ้าเด็กบางคนโมโหออกบวชขึ้นมาอาจบรรลุโสดาบันก็ได้ เรื่องอย่างนี้ผมว่าต้องทำให้เด็กมีความรู้สึกว่างานที่ให้น่าสนใจและเป็นพี่เลี้ยงเมื่อเด็กต้องการ อย่างนี้ถึงจะเป็นchild center และบางอย่างก็บูรณการพอประมาณไม่ใช่ทุกเรื่องต้องเป็นบูรณการหมด

3. ประสิทธิภาพของครู ก็เป็นสิ่งสำคัญมากอย่างหนึ่ง ถ้าผู้ให้ความรู้ขาดซึ่งองค์ืความรู้หรือเทคนิคการถ่ายทอดหรือวิธีการอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ ก็ไม่ต้องไปพูดถึงเด็กนักเรียนที่จะมีความรู้ ส่วนเรื่องที่ว่าครูต้องดูแลนัเกเรียนมาก ผมว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ลองดูสถาบันติวเตอร์ที่มีชื่อเสียงทั้งหลายดูก็แล้วกันผมว่ามากกว่าตั้งเยอะ เพียงแต่รู้จักการใช้เทคโนโลยี่ให้เป็นประโยชน์ สิ่งสำคัญไม่ใช่จำนวนคน แต่ทำอย่างไรให้เด็กอยากเรียนเหมือนกับที่ไปเรียนกับติวเตอร์ แถมยังต้องรีบโอนเงินเพื่อไปจองที่เรียน เรื่องนี้ถ้าจะทำกันก้ไม่ใช่เรื่องยากอีก ต้องคัดกันใหม่ประเมินกันใหม่เงินเดือนของครูต้องปรับกันใหม่ บุคลากร ครูที่มีความสามารถจะได้ไม่วอกแว็ก ส่วนที่พัฒนาแล้วไม่ผ่านก็ต้องโอนย้ายสายงานหรือ early retire ไป ระบการกำกับ ตรวจสอบ ครูก็ต้องทำแบบเอาจริงเอาจัง แบบให้คุณให้โทษได้

4. ต้องเปลี่ยนทัศนคติการเรียนกับการสอนให้ได้ ครูผู้สอนไม่ใช่มาสอนเพราะหน้าที่ แต่ต้องมีจิตสำนึกและรักที่จะสอนด้วย เพราะเีพียงแค่หน้าที่อย่างเดียวไม่พอครับ ส่วนในตัวเด็กก็เช่นกัน ไม่ใช่เรียนเพราะถูกบังคับ หรือเพราะความจำเป็น แต่ควรเห็นคุณค่าและประโยชน์ของการศึกษาอย่างแท้จริง ทั้งนี้หลักสูตรก็มีส่วนสำคัญที่จะพัฒนาหลักคิดด้วยเหมือนกัน

5.คนที่ออกข้อสอบที่ใช้ทดสอบเด็ก ไม่ว่าจะเป็น o-net หรือ gat-pat เป็นคนละส่วนกับครูผู้สอน ดังที่เคยเป็นข่าว ทาง สทศ. ออกข่าวว่าได้ให้อาจารย์ผู้สอน มาออกข้อสอบ แต่ใช้ได้เพียง 10 กว่าเปอร์เซนต์เองเนื่องจากไม่สามารถวัดผลได้ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญ อารย์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกแทน จะเห็นว่าขนาดสุ่มเอาอาจารย์จากโรงเรียนดังมาออกข้อสอบแล้วยังบอกว่าใช้วัดไม่ได้ แล้วเด็กจะไปเหลือหรือครับ ซึ่งเรื่องนี้ก็รู้ปัญหาอยู่ แต่ทำไมไม่แก้ เรื่องข้อสอบก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้วโดยเฉพาะข้อสอบวิทย์หรือ คณิตศาสตร์ มันมีระดับความยากง่าย ที่ต้องใช้เชิงวิเคราะห์พอควร ชาว MC ก็น่าจะรู้ดีว่าโจทย์คณิตหลายข้อมีวิธีทำได้หลายแบบ ตั้งแต่ใช้ความรู้แบบประถมยันมหาวิทยาลัยเลยก็มี ขึ้นอยู้กับ มิติของผู้ทำด้วย ต้องใช้การฝีกฝนพอสมควร ถ้าคิดว่าครูผู้สอนยังไม่สามารถออกข้อสอบได้ (ไม่ได้เกรงว่าข้อสอบรั่ว) คงต้องมาปรับจูนกันใหม่ในเรื่องสาระสำคัญของเนื้อหาในแต่ละเรื่อง แต่ละหัวข้อแล้ว ละครับ ตลอดจนการประยุกต์ใช้ถึงระดับไหนถึงจะพอ ต้องพัฒนาครูในแต่ละโรงเรียนแล้วละครับหรือไม่งั้นก็ให้งบประมาณครูไปเรียนพิเศษกับพวกติวเตอร์ เผื่อจะได้เก็งข้อสอบถูกบ้าง

เอาแค่นี้ก่อนครับ มีเวลาจะมาต่อให้ครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #12  
Old 21 เมษายน 2011, 22:53
poper's Avatar
poper poper ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 พฤษภาคม 2010
ข้อความ: 2,643
poper is on a distinguished road
Send a message via MSN to poper
Default

สุดยอดครับ...อ่านเพลิน...อ่านมันส์
ตรงใจผมมากเลยครับ
__________________
คณิตศาสตร์ คือ ภาษาสากล
คณิตศาสตร์ คือ ความสวยงาม
คณิตศาสตร์ คือ ความจริง
ติดตามชมคลิปวีดีโอได้ที่http://www.youtube.com/user/poperKM
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #13  
Old 22 เมษายน 2011, 01:04
tongkub tongkub ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณคุ้มครองร่าง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 22 ธันวาคม 2009
ข้อความ: 312
tongkub is on a distinguished road
Default

สุดยอดครับ ผมอยากให้คุณ หยินหยางเป็นรมต.การศึกษาจังเลยครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #14  
Old 24 เมษายน 2011, 20:06
หยินหยาง's Avatar
หยินหยาง หยินหยาง ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่จักรวาล
 
วันที่สมัครสมาชิก: 06 มกราคม 2007
ข้อความ: 2,921
หยินหยาง is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ tongkub View Post
สุดยอดครับ ผมอยากให้คุณ หยินหยางเป็นรมต.การศึกษาจังเลยครับ
วาทกรรมขนาดนี้ เป็น รมต. ไม่ได้ครับอย่างน้อยก็ต้อง นายก แล้วละครับ ขอโทษ พิมพ์เร็วไปหน่อยต้องเป็น นาย ก ถึงจะถูก

24 เมษายน 2011 20:08 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ หยินหยาง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #15  
Old 24 เมษายน 2011, 21:41
หยินหยาง's Avatar
หยินหยาง หยินหยาง ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่จักรวาล
 
วันที่สมัครสมาชิก: 06 มกราคม 2007
ข้อความ: 2,921
หยินหยาง is on a distinguished road
Default

ก่อนที่จะไปกันใหญ่ เพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจน คนที่ผลักดันระบบการปฎิรูปการศึกษาไทยคือ ดร.รุ่ง แก้วแดง ลูกหม้อของกระทรวงศึกษา มีมาตั้งแต่ ปี 2542 ดูได้จาก
http://www.onec.go.th/publication/st...strategic.html ส่วน ดร.กนก วงศ์ตระหง่าน สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโครงการเรียนฟรี 15 ปี ถ้าจะพูดกันเรื่องนี้ยาวครับ การเริ่มจากทุกคนที่มีหน้าที่ที่ต้องทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องครับแต่ขาดรูปธรรมในการไปปฎิบัติใช้ อีกอย่างถ้าทำงานเป็นทีมและเป็นระบบจะไม่ดีกว่าหรือครับ สิ่งที่ผมกำลังชี้ให้เห็นก็คือขาดการประสานงานและความเข้าใจกันทุกส่วนเพื่อให้การขับเคลื่อนมีพลัง และอีกอย่างที่ผมได้แสดงความเห็นให้ก่อนหน้าก็คือการกำกับ การตรวจสอบที่ขาดประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องคุณภาพของแต่ละส่วนผมไม่ได้มองเป็นเรื่องใหญ่เพราะผมเชื่อว่าถ้าระบบดีคนตั้งใจทำ ประสิทธิภาพและมาตรฐานจะมาเอง เพราะผมเชื่อว่าคนสามารถพัฒนาได้

ปล.ที่แสดงความเห็นก็เพื่อให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเท่าที่ผมทราบ และผมเคารพทุกความเห็นด้วยครับ

24 เมษายน 2011 21:43 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ หยินหยาง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 03:00


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha