Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์โอลิมปิก และอุดมศึกษา > ข้อสอบโอลิมปิก
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 03:10
picmy's Avatar
picmy picmy ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 15 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 107
picmy is on a distinguished road
Default โจทย์จากจีน

ผมเห็นว่าช่วงนี้หัวข้อ"ข้อสอบโอลิมปิค" เริ่มซบเซาลงไป
ผมเลยอยากนำโจทย์ของคนจีนมาฝากครับ
สำหรับคนที่มีเวลาว่างและอยากพัฒนาความสามารถของตัวเอง ก็ลองทำดูกันได้นะครับ


1.(ปี 1987 CMO ครั้งที่ 2) กำหนดให้ m,n เป็นจำนวนเต็มบวก และให้ $a_1,a_2,...,a_m$เป็นจำนวนคู่ที่แตกต่างกัน $b_1,b_2,...,b_n$เป็นจำนวนคี่ที่แตกต่างกัน ซึ่ง $(a_1+a_2+...+a_m)+(b_1+b_2+...+b_n) =1987$ จงหาค่าสูงสุดที่เป็นไปได้ของ $3m+4n$

2.( ปี2001 โจทย์ข้อนี้เทียบเท่ากับข้อสอบ สสวท.รอบ 1 ของไทยครับ) สมมติมีจำนวนเฉพาะที่แตกต่างกันอยู่ 7 จำนวนคือ $a,b,c,a+b-c,b+c-a,c+a-b,a+b+c$ และ ในท่ามกลางจำนวน $a,b,c$ มีอยู่ 2 จำนวนที่บวกกันได้ 800 (พูดง่ายก็คือ $a+b=800$ หรือ $b+c=800$ หรือ$c+a=800$) ให้ d เป็นผลต่างระหว่างค่าสูงสุดกับค่าต่ำสุด(ใน 7 จำนวนข้างต้น) จงหาค่าสูงสุดที่เป็นไปได้ของ d

3.(ปี 1987 ข้อสอบแข่งขันระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในเมืองๆหนึ่งของจีน)สำหรับทุกจำนวนเต็มบวก $n$ จงแสดงว่า $2^{n+1}|\left\lceil(3+\sqrt{5})^{2n}\right\rceil $ (ในที่นี้$\left\lceil x\right\rceil $ หมายถึงจำนวนเต็มบวกที่น้อยที่สุดที่มากกว่าหรือเท่ากับ $x$ )

สนุกสนุกนะครับ อย่าเครียด จะแก่เร็ว

ป.ล. ผมยังมีโจทย์จากจีนอีกมากมาย สำหรับคนที่สนใจอยากได้โจทย์เพิ่มเิติม ถามผมได้นะครับ แต่ครั้งนี้เอาไป 3 ข้อก่อนละกันครับ กลัวว่าจะเครียดกัน

28 กรกฎาคม 2009 23:21 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 3 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ picmy
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 16:45
RoSe-JoKer's Avatar
RoSe-JoKer RoSe-JoKer ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤศจิกายน 2007
ข้อความ: 390
RoSe-JoKer is on a distinguished road
Default

1. คิดว่าถ้าให้ $a_1,a_2...,a_m$ เป็นจำนวนคี่ แล้วให้ $b_1,b_2...b_n$ เป็นจำนวนคู่จะยากกว่านี้นะครับ? ลอกโจทย์มาผิดหรือเปล่า?
ก็ให้ $m=1 n=1985$ ก็จบแล้ว (ดูจากจำนวนคู่ทุกตัวและจำนวนคี่ทุกตัวที่จะแทนลงไปใน $a_i$ กับ $b_i$ ของเราต้องเป็น 2 กับ 1 ตามลำดับตลอด) ถ้าไม่ใช่ 2 หรือ 1 เราสามารถเพิ่มค่า 3m+4n ได้มากขึ้น สมมุติเช่นมีเลข 5 อยู่ในลำดับ ของเรา เราแยกออกมาเป็น 4+1 อะไรแบบนี้ก็ทำให้ 3m+4n มีค่ามากขึ้น
2. แปลกๆ...ผมได้ว่าไม่มี a,b,c ที่สอดคล้อง (ดู mod 3)
3.เห็นได้ว่าสำหรับทุกๆ $n\in N$
$(3-\sqrt{5})^{2n}<1$ ก็ต่อเมื่อ $4<5$ เป็นจริงอย่างเห็นได้ชัด
นั้นคือเราได้ว่า $ \left\lceil\ (3+\sqrt{5})^{2n} \right\rceil = (3+\sqrt{5})^{2n}+(3-\sqrt{5})^{2n}$ นั้นเอง
จึงเป็นการเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า
$2^{n+1}| (3+\sqrt{5})^{2n}+(3-\sqrt{5})^{2n}$
หรือ $2^{n+1}| 2^{n}((7+\sqrt{5})^n+(7-\sqrt{5})^n)$
เป็นการเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า $2|(7+3\sqrt{5})^n+(7-3\sqrt{5})^n)$
ที่เหลือก็กระจายทวินามออกมา (แยกเคสคู่-คี่ให้ดูด้วยก็โอเค) แล้วก็จะได้ว่า $2|(7+3\sqrt{5})^n+(7-3\sqrt{5})^n)$ เป็นจริง
ดังนั้น $2^{n+1}|\left\lceil\ (3+\sqrt{5})^{2n} \right\rceil $
__________________
Rose_joker @Thailand
Serendipity

29 กรกฎาคม 2009 17:31 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 4 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ RoSe-JoKer
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 17:35
picmy's Avatar
picmy picmy ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 15 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 107
picmy is on a distinguished road
Default

สำหรับข้อ 1 ผมพิมพ์ตกไปครับว่าต้องเป็นจำนวนที่แตกต่างกัน
ส่วนข้อ 2 ลอง $a=13,b=787,c=797$ดูนะคับ

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ RoSe-JoKer View Post
หรือ $2^{n+1}| 2^{n}((7+\sqrt{5})^n+(7-\sqrt{5})^n)$
สำหรับข้อ 3 ครับ
เยี่ยมมากครับ แนวความคิดถูกหมดแล้วแหละครับ แต่ผมว่าอาจพิมพ์ผิดไปนิดนึงนะ
ตรง $2^{n+1}| 2^{n}((7+\sqrt{5})^n+(7-\sqrt{5})^n)$ น่าจะเป็น $2^{n+1}| 2^{n}((7+3\sqrt{5})^n+(7-3\sqrt{5})^n)$ (ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ อิอิ)

28 กรกฎาคม 2009 17:47 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 3 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ picmy
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 17:44
RoSe-JoKer's Avatar
RoSe-JoKer RoSe-JoKer ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤศจิกายน 2007
ข้อความ: 390
RoSe-JoKer is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ picmy View Post
สำหรับข้อ 3 ครับ
เยี่ยมมากครับ แนวความคิดถูกหมดแล้วแหละครับ แต่ผมว่าอาจพิมพ์ผิดไปนิดนึงนะ
ตรง $2^{n+1}| 2^{n}((7+\sqrt{5})^n+(7-\sqrt{5})^n)$ น่าจะเป็น $2^{n+1}| 2^{n}((7+3\sqrt{5})^n+(7-3\sqrt{5})^n)$ (ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ อิอิ)

สำหรับข้ออื่นขอเช็คแปปนะคับ
แก้แล้วครับ พิมพ์ผิดเอง ขอโทษครับ
__________________
Rose_joker @Thailand
Serendipity
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 18:03
picmy's Avatar
picmy picmy ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 15 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 107
picmy is on a distinguished road
Default

เพิ่มเติมครับ สำหรับที่บอกว่าดู mod 3 แล้วได้ว่าไม่มี a,b,c ที่สอดคล้อง อาจจะเป็นเพราะลืมเคสที่ในจำนวน 7 จำนวนนั้นบางตัวมีโอกาสเป็น 3 ได้ครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 18:16
RoSe-JoKer's Avatar
RoSe-JoKer RoSe-JoKer ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤศจิกายน 2007
ข้อความ: 390
RoSe-JoKer is on a distinguished road
Default

แหะๆ ข้อ 2 ผมผิดเองครับ...ผมคิดแต่ว่า 3 มันหารลงตัวเลยไม่ใช่จำนวนเฉพาะ แต่ลืมกรณีที่มันเป็น 3 ไปจริงๆนั้นแหละ ขอบคุณครับ ผมได้แล้วครับ T_T
วิธีทำ
แยกเคส
1.a,b,c ประกอบด้วยเลขคู่ 3 ตัว ได้ว่า a=b=c=2 แต่ a+b+c ไม่ใช่จำนวนเฉพาะ
2.a,b,c ประกอบด้วยเลขคู่ 2 ตัว คี่ 1 ตัว สมมุติให้ a=b=2 เราได้ว่า a+b!=800 และ a+c=b+c!=800 ดังนั้นจึงไม่มี a,b,c สอดคล้อง
3.a,b,c ประกอบด้วยเลขคู่ 1 ตัว คี่ 2 ตัว สมมุติให้ a=2 เราได้ว่าถ้า a+b หรือ a+c = 800 เราจะได้ว่า b,c=798 ซึ่งไม่เป็นจำนวนเฉพาะ แต่ถ้า b+c=800 ก็ดู b+c-a=800-2=798 ไม่เป็นจำนวนเฉพาะ
4.a,b,c ประกอบด้วยเลขคี่ 3 ตัว
โดยไม่เสียนัยเราสมมุติให้ a+b=800 = 2 (mod 3)
ซึ่งเห็นได้ว่า มีเพียง
a=2 b=0
a=0 b=2
a=1 b=1 (ใน mod 3) เท่านั้นที่ทำให้ a+b=2 (mod 3)
case
a=2 b=0
a=0 b=2
พิสูจน์แค่กรณี a=2 b=0 (mod 3) ก็พอมันเหมือนกัน
จะได้ว่า b=3 แล้วเราได้ว่า a=797
แล้วเรามาดู 3+797-c,3-797+c,-3+797+c --> 800-c,-794+c,794+c ทั้งหมดนี้ต้องเป็นจำนวนเฉพาะ โดยเห็นได้ว่า c!= 0 (mod 3)
เพราะถ้า c= 0 (mod 3) นั้นคือ c=3 แล้วเราได้ว่า 803 ไม่เป็นจำนวนเฉพาะ
แต่
800-c = 2-c (mod 3)
-794+c = 1+c (mod 3)
794+c = 2+c (mod 3)
เห็นได้ว่า ถ้า c=1,2 (mod 3) ก็จะมีตัวที่ทำให้ 3 หารลงตัวในสามตัวนี้ > 800-c,-794+c,794+c เสมอ
ซึ่งจะมีปัญหาคือถ้าเกิด มันเท่ากับ 3 พอดี มันก็จะเป็นจำนวนเฉพาะ
ลองดู กรณี 800-c=3 หรือ 800-c=-3 เราได้ว่า c=797,c=803 เห็นได้ว่า c=797 ใช้ได้เพียงตัวเดียว (c ต้องเป็น prime) แต่ 794+c=794+797=1591 ไม่เป็นจำนวนเฉพาะ
ลองดู กรณี -794+c=3 หรือ -794+c=-3 เราได้ว่า c=797,791 เห็นได้ว่า c=797 ใช้ได้เพียงตัวเดียว (c ต้องเป็น prime) แต่ 794+c=794+797=1591 ไม่เป็นจำนวนเฉพาะ
ลองดู กรณี 794+c=3 หรือ 794+c=-3 เราได้ว่า c=-791,-797 เห็นได้ว่า c=-797 ใช้ได้เพียงตัวเดียว (c ต้องเป็น prime) แต่ -794+c=-794-797=-1591 ไม่เป็นจำนวนเฉพาะ
ดังนั้นกรณี a=2 b=0 (mod 3) จึงไม่มีจำนวนเฉพาะ a,b,c ที่สอดคล้องกับเงื่อนไข
กรณี a=1 b=1 (mod 3)
เราได้ว่า
a+b-c= 2-c (mod 3)
a-b+c= c (mod 3)
-a+b+c= c (mod 3)
a+b+c=2+c (mod 3)
ตรงนี้เห็นได้ว่าถ้า c=0,1,2 (mod 3) เราก็จะได้ว่ามีซักตัวใน a+b-c,a-b+c,-a+b+c,a+b+c มี 3 หารลงตัว แต่มันอาจเป็น 3,-3 เองก็ได้ ดังนั้นก็ต้องไล่นิดหน่อย...
กรณี c=0 (mod 3) นั้นคือ c=3
เราได้ว่า a+b+c=803 ซึ่งไม่เป็นจำนวนเฉพาะ
กรณี c=1 (mod 3) เราได้ว่า a+b+c= 0 (mod 3) ดังนั้นอาจมีกรณี
a+b+c=3 หรือ a+b+c=-3 ซึ่งจาก a+b=800 เราจะได้ว่า c=-797,-803 ซึ่งก็อาจจะใช้ได้แค่ c=-797 (เพราะ 803 ไม่เป็น prime)
จากตรงนี้เราก็ต้องลองไล่จำนวนเฉพาะ a,b= 1 (mod 3) ดูจำนวนเฉพาะที่ con กับ 1 (mod 3) ตัวแรกๆเช่น 7,13,19 จะเห็นได้ว่าจาก 793 ไม่เป็นจำนวนเฉพาะและ 787 เป็นจำนวนเฉพาะ แสดงว่าจำนวนเฉพาะที่เราจะเอามาเป็นจำนวนเฉพาะที่มากสุดใน a,b,c ที่เป็นไปได้คือ 787 แล้วอย่างน้อย 1 ตัว
ลองเอาไปแทนค่าดูใน a,b,c,a+b-c,a-b+c,-a+b+c,a+b+c จะเห็นได้ว่าเป็นจำนวนเฉพาะหมด
ดังนั้น a=13 b=787 c=-797 เป็นชุดจำนวนเฉพาะ 1 ชุดที่ทำให้เงื่อนไขเป็นจริง ซึ่งทำให้เกิด d=787-(-797)= 1584
(กรณี a,b คู่อื่นไม่จำเป็นต้องคิด เพราะต่อให้มีก็ไม่สามารถให้ค่า d ที่มากกว่านี้ได้)
กรณี c=2 (mod 3) เราได้ว่า a+b-c = 0 (mod 3) ซึ่งเราต้องเช็คกรณี a+b-c = 3 หรือ a+b-c=-3 (จาก a+b=800) เราได้ว่ามี c ที่เป็นไปได้คือ
c=797 (c=803 ไม่ได้เพราะเป็นจำนวนเฉพาะ)
จากตรงนี้เราก็ต้องลองไล่จำนวนเฉพาะ a,b= 1 (mod 3) ดูจำนวนเฉพาะที่ con กับ 1 (mod 3) ตัวแรกๆเช่น 7,13,19 จะเห็นได้ว่าจาก 793 ไม่เป็นจำนวนเฉพาะและ 787 เป็นจำนวนเฉพาะ แสดงว่าจำนวนเฉพาะที่เราจะเอามาเป็นจำนวนเฉพาะที่มากสุดใน a,b,c ที่เป็นไปได้คือ 787 แล้วอย่างน้อย 1 ตัว
ลองเอาไปแทนค่าดูใน a,b,c,a+b-c,a-b+c,-a+b+c,a+b+c จะเห็นได้ว่าเป็นจำนวนเฉพาะหมด
แต่คราวนี้ d=797-13=784 ซึ่งน้อยกว่าอันแรก ดังนั้น d=1584 จึงเป็น d max (เอามาจาก a=13 b=787 c=-797)
......
เขียนมาถึงตรงนี้แอบสับสน กรณี a เป็นลบ แล้ว b เป็นบวก...
__________________
Rose_joker @Thailand
Serendipity

28 กรกฎาคม 2009 18:50 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ RoSe-JoKer
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 19:53
Onasdi's Avatar
Onasdi Onasdi ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 พฤษภาคม 2005
ข้อความ: 760
Onasdi is on a distinguished road
Default

ไม่รู้ว่าโจทย์สนใจแต่จำนวนเฉพาะบวกรึเปล่า
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 20:06
picmy's Avatar
picmy picmy ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 15 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 107
picmy is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Onasdi View Post
ไม่รู้ว่าโจทย์สนใจแต่จำนวนเฉพาะบวกรึเปล่า
ใช่ครับ สนใจแค่จำนวนเฉพาะบวกครับ และผมพิมพ์ตกอีกตามเคยว่า จำนวน 7 จำนวนนั้นแตกต่างกันหมดครับ ขอโทษด้วยครับ

28 กรกฎาคม 2009 20:09 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ picmy
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #9  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 22:08
beginner01 beginner01 ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 15 กันยายน 2008
ข้อความ: 177
beginner01 is on a distinguished road
Default

ผมงงๆข้อ 3 อยู่ครับ คือ...
ตั้งแต่ที่โจทย์เขียน มันเขียนว่า ในที่นี้ $\lfloor x\rfloor$ หมายถึงจำนวนเต็มบวกที่น้อยที่สุดที่มากกว่าหรือเท่ากับ $x$
จากที่บรรยายมา มันคือ ceiling function ไม่ใช่เหรอครับ? มันก็ึควรจะเป็น $\left\lceil x\right\rceil$ แต่ทำไมทั้งตัวโจทย์ แล้วก็ตัววิธีทำของคุณ rose-joker สัญลักษณ์มันออกมาเป็น floor หมดเลย...

แล้วก็... ขอแสดงอีกวิธีที่คล้ายๆ แต่ไม่เหมือน:
ขอ claim เลยว่า $\lceil (3+\sqrt{5})^{2n}\rceil=(3+\sqrt{5})^{2n}+(3-\sqrt{5})^{2n}$ (เพราะมีคนอธิบายแล้ว)
ให้ $a_n=(3+\sqrt{5})^{2n}+(3-\sqrt{5})^{2n}$ จะได้ว่า $a_n=28a_{n-1}-16a_{n-2}$ โดยที่ $n\geq 3$ เป็นจำนวนเต็มบวก และ $a_1=28,a_2=752$ (ตรงนี้ก็พิสูจน์โดยกระจาย บวกลบคูณหารเอา ไปเรื่อยๆ)
คราวนี้ก็ induct บน $n$ ได้เลยว่า $2^{n+1}|\lceil (3+\sqrt{5})^{2n}\rceil$ เพราะ $4|28,4|16,4|28,4|752$

ข้อ 1 ดูเหมือนว่าจะตอบ $221$ เมื่อ $m=27,n=35$;$a_1=2,a_2=4,a_3=6,\cdots ,a_{26}=52,a_{27}=60$;$b_1=1,b_2=3,b_3=5,\cdots ,a_{34}=67,a_{35}=69$

28 กรกฎาคม 2009 23:07 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 3 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ beginner01
เหตุผล: แก้เพื่อให้สอดคล้องกับ #12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #10  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 22:34
picmy's Avatar
picmy picmy ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 15 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 107
picmy is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ beginner01 View Post
ผมงงๆข้อ 3 อยู่ครับ คือ...
ตั้งแต่ที่โจทย์เขียน มันเขียนว่า ในที่นี้ $\lfloor x\rfloor$ หมายถึงจำนวนเต็มบวกที่น้อยที่สุดที่มากกว่าหรือเท่ากับ $x$
จากที่บรรยายมา มันคือ ceiling function ไม่ใช่เหรอครับ? มันก็ึควรจะเป็น $\left\lceil x\right\rceil$ แต่ทำไมทั้งตัวโจทย์ แล้วก็ตัววิธีทำของคุณ rose-joker สัญลักษณ์มันออกมาเป็น floor หมดเลย...
คุณ beginner01 เข้าใจถูกแล้วแหละครับว่ามันคือ ceiling function
แต่โดยทั่วไปแล้วเราใช้ $\left\lceil\,\right\rceil$ แทน ceiling function ครับ

สามารถดูจากลิงค์ข้างล่างนะครับ
http://mathworld.wolfram.com/CeilingFunction.html

แต่ผมก็เพิ่งสังเกตเหมือนกันครับว่า เมื่อเราพิมพ์คำสั่ง \left\lceil\,\right\rceil ใน Latex กลับได้ออกมาเป็น $\left\lfloor\,\right\rfloor $ และเมื่อใช้ \left\lfloor\,\right\rfloor กลับได้ออกมาเป็น $\left\lceil\,\right\rceil$ อันนี้คงต้องลองสอบถามผู้ดูแลเว็บครับ ว่าเป็นเพราะบางประเทศใช้เครื่องหมายอย่างนี้หรือเปล่า

แต่ที่ผมเข้าใจคือ การใช้ $\lceil x\rceil$ แทน ceiling ของ $x$ ค่อนข้างจะ make sense กว่า เพราะว่าขีดเล็กๆข้างบนสองขีด จะเตือนสติเราว่า $\lceil x\rceil$ เป็นจำนวนเต็มที่มากกว่าหรือเท่ากับ $x$

28 กรกฎาคม 2009 23:23 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ picmy
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #11  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 22:37
picmy's Avatar
picmy picmy ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 15 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 107
picmy is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ beginner01 View Post
ข้อ 1 ดูเหมือนว่าจะตอบ $221$ เมื่อ $m=27,n=35$;$a_1=2,a_2=4,a_3=6,\cdots ,a_{27}=54$;$b_1=1,b_2=3,b_3=5,\cdots ,a_{34}=67,a_{35}=75$
ถูกต้องเลยครับ
คุณ beginner01 มีวิธีการทำอย่างไร ลองโพสต์มาให้เพื่อนๆได้ ชื่นชมกันได้นะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #12  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 23:06
beginner01 beginner01 ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 15 กันยายน 2008
ข้อความ: 177
beginner01 is on a distinguished road
Default

*คุณ TOP มาไขกระจ่างใน คห.13 เรียบร้อยแล้ว*

ส่วนข้อ 1... คือมันน่าจะมีวิธีที่ดีกว่าของผมแน่ๆ เพราะมันดูถึกไปหน่อย
สิ่งที่ทำไปก็คือ:
1.ลองไล่ $n$ จากมากไปน้อย ไปเรื่อยๆ โดยสังเกตว่า $n$ ต้องเป็นจำนวนคี่ ไม่นั้น ผลรวมพวก $a_i,b_i$ จะไม่เท่ากับ 1987 แล้วก็เราสามารถเรียงลำดับ $a_i$ ด้วยกัน และ $b_i$ ด้วยกันได้
2.สำหรับแต่ละ $n$ เื่พื่อให้ $m$ มากที่สุด เราก็ควรจะทำให้ $b_1+b_2+\cdots+b_n$ มีค่าต่ำสุดเท่าที่เป็นไปได้
ก็คือ $b_1=1,b_2=3,...$ ส่วน $a_i$ แต่ละตัวก็ควรจะน้อยๆเข้าไว้ก่อน จะได้ $m$ มีค่ามากๆ ก็คือ $a_1=2,a_2=4,...$
-สังเกตผลบวก ก็จะได้ว่า $a_1+a_2+...+a_m=m(m+1)$ ส่วน $b_1+b_2+...+b_n=n^2$ ดังนั้น $m(m+1)=1987-n^2$ แต่ในบางครั้ง สมการนี้มันไม่มีคำตอบ เราก็ต้องไปเปลี่ยน $a_m$ ก็คือตัวสุดท้าย เพื่อให้ผลรวมมันเป็นไปได้
ก็จะสรุปได้ว่า เพื่อจะให้ $m$ มากที่สุด เราก็ควรจะมี $b_1=1,b_2=3,...,b_n=2n-1$ และ $a_1=2,a_2=4,...,a_{m-1}=2m-2,a_m=k$

ที่เหลือก็นั่งไล่แต่ละกรณี... 22 กรณี...

28 กรกฎาคม 2009 23:12 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ beginner01
เหตุผล: มากมายหลายเหตุผลจนพิมพ์ไม่พอ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #13  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 23:07
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ picmy View Post
คุณ beginner01 เข้าใจถูกแล้วแหละครับว่ามันคือ ceiling function
แต่โดยทั่วไปแล้วเราใช้ $\left\lfloor\,\right\rfloor$ แทน ceiling function ครับ

สามารถดูจากลิงค์ข้างล่างนะครับ
http://mathworld.wolfram.com/CeilingFunction.html

แต่ผมก็เพิ่งสังเกตเหมือนกันครับว่า เมื่อเราพิมพ์คำสั่ง \left\lceil\,\right\rceil ใน Latex กลับได้ออกมาเป็น $\left\lceil\,\right\rceil $ และเมื่อใช้ \left\lfloor\,\right\rfloor กลับได้ออกมาเป็น $\left\lfloor\,\right\rfloor$ อันนี้คงต้องลองสอบถามผู้ดูแลเว็บครับ ว่าเป็นเพราะบางประเทศใช้เครื่องหมายอย่างนี้หรือเปล่า

แต่ที่ผมเข้าใจคือ การใช้ $\lfloor x\rfloor$ แทน ceiling ของ $x$ ค่อนข้างจะ make sense กว่า เพราะว่าขีดเล็กๆข้างบนสองขีด จะเตือนสติเราว่า $\lfloor x\rfloor$ เป็นจำนวนเต็มที่มากกว่าหรือเท่ากับ $x$
ผมเข้าใจว่าทั้งคุณ picmy และ RoSe-JoKer ใช้ IE ทั้งคู่ และต่างก็ไม่ได้ติดตั้ง TeXfonts จึงทำให้การแสดงผลสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ไม่ถูกต้อง (มันเป็น Bug ของ IE) ลองติดตั้งแล้วดูผลบนหน้าเว็บอีกครั้งหนึ่งครับ อะไรที่แสดงไม่ตรงก็ค่อยตามไปแก้ไขให้ถูกต้อง เดี๋ยวคนอ่านจะงงกันใหญ่
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.

28 กรกฎาคม 2009 23:08 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ TOP
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #14  
Old 28 กรกฎาคม 2009, 23:40
picmy's Avatar
picmy picmy ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 15 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 107
picmy is on a distinguished road
Default

ที่แท้เราก็มีความเข้าใจที่ตรงกัน แต่สิ่งที่เรามองเห็นไม่เหมือนกันนี่เอง นะครับคุณ Beginner01
ขอบคุณคุณ TOP ที่ให้ความกระจ่าง ทำให้ผมมองเห็นในสิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็น ฮาๆๆ

ผมแก้เครื่องหมายในโจทย์ให้ถูกต้องแล้วนะครับ

สำหรับข้อ 1 ของคุณ Beginner01 ผมว่าจริงอย่างที่คุณว่าครับว่าอาจจะถึกไปนิด
แต่ยังไงสุดท้ายก็ได้คำตอบ
เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายครับที่จะถึก
แต่ที่แน่ๆ เป็นเรื่องดีแน่ๆ ถ้าเราจะหาวิธีที่กระทัดรัดกว่า หลังจากที่เราได้คำตอบแล้ว สู้ๆต่อไปนะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #15  
Old 29 กรกฎาคม 2009, 17:35
RoSe-JoKer's Avatar
RoSe-JoKer RoSe-JoKer ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤศจิกายน 2007
ข้อความ: 390
RoSe-JoKer is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ TOP View Post
ผมเข้าใจว่าทั้งคุณ picmy และ RoSe-JoKer ใช้ IE ทั้งคู่ และต่างก็ไม่ได้ติดตั้ง TeXfonts จึงทำให้การแสดงผลสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ไม่ถูกต้อง (มันเป็น Bug ของ IE) ลองติดตั้งแล้วดูผลบนหน้าเว็บอีกครั้งหนึ่งครับ อะไรที่แสดงไม่ตรงก็ค่อยตามไปแก้ไขให้ถูกต้อง เดี๋ยวคนอ่านจะงงกันใหญ่
ใช่ครับผมใช้ IE แล้วผมก็ไม่เข้าใจด้วยว่าโหลด TeXfonts จากตรงนั้นไปแล้วจะให้เอาไปใส่ไว้ตรงไหนหรอครับ?
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
__________________
Rose_joker @Thailand
Serendipity
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 06:31


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha