INDUCTION

[MiNd169]

INDUCTION คืออะไรหรอครับ

ได้ข่าวว่าใช้เรียนค่าย 1 สอวน ศูนย์ ม.นเรศวร

ขอบคุณครับ

[-Math-Sci-]

คงหมายถึง อุปนัย มั้งครับ

deduction ก้นิรนัย

[MiNd169]

มีโจทย์เกี่ยวกับพวกนี้ไหมครับ ถ้ามีเอามาให้ซ้อมหน่อยนะครับ

[กิตติ]

การอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์....

ลองโหลดไปอ่านดู....การอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์....
ถ้ามีแล้ว ก็โทษทีครับ

[MiNd169]

ขอบคุณมากครับ คุณ กิตติ

ใครมีอีกก็มาแบ่งกันนะครับ ^^

[Siren-Of-Step]

คุณอา หาหนังสือ พวกแปล แล้วทางไหนหรอครับ ช่วงนี้อยากได้หนังสือ อย่างนี้มาก ๆ

[กิตติ]

สุ่มหาเอาครับ พอดีไปเจอที่เวป สำนักงานเทคโนโลยีเพื่อ การเรียนการสอน มีแต่ไม่รู้ว่าจะตรงกับระดับในค่ายไหม
ระดับในค่ายเกินความรู้ผมแล้ว มีหลายท่านในนี้ที่น่าจะพอเป็นที่ปรึกษาได้ดีกว่าผม
น้องSirensกับน้องๆคนอื่นในเวปMCที่กำลังเข้าค่าย น่าจะรวมตัวกันและลองติดต่อหลายๆท่านให้ช่วยติวผ่านปัญหาที่น้องกำลังเรียน
ผมว่าในMC มีผู้ยินดีช่วยอยู่ลองทาบทามกันดูแล้วกัน

[Siren-Of-Step]

ผมว่า ตอนนี้ กำลังจะมา อ่านหนังสือแปลต่างประเทศ ละครับ แต่หนังสือแปลไม่ค่อยมี แล้วก็ไม่ค่อยรู้จัก หนังสือนอกด้วยครับ

[!!!-Argentum-!!!]

ขอบคุณครับ

[กิตติ]

มีหนังสือของ Steven G.Krantz ชื่อว่า"Technique of Problem Solving" พิมพ์ในปี 1997 มีบท "Induction" อยู่สิบหน้าเดี๋ยวว่างๆจะลองแปลให้อ่าน
แค่ผมอ่านบทนำแล้วก็ซื้อใจให้อ่านต่อ หนังสือหนา 464 หน้า

บทนำ

การเขียนหนังสือเกี่ยวกับการแก้ปัญหานั้นดูตลกและน่าขัน เช่นเดียวกับการเขียนหนังสือเกี่ยวกับการว่ายน้ำหรือการเล่นเปียนโน เพราะคุณไม่สามารถเรียนรู้ทักษะใดๆได้ด้วยการอ่านเกี่ยวกับการทำสิ่งนั้นๆ.คุณต้องทำมันเอง ในความเป็นจริง คุณต้องนำพาตัวเองไปจดจ่อหมกหมุ่นในสิ่งนั้นๆ การทำรูปปั้นนั้นก็ต้องหล่อฉีดโลหะลงในแบบพิมพ์ที่แข็งแรงและออกแบบไว้เป็นอย่างดีแล้ว การพัฒนาทักษะในการแก้ปัญหาก็ไม่ต่างกันที่ต้องมีการฝึกอย่างเป็นระบบและผ่านงานหนัก

ถึงกระนั้นก็ตาม การเรียนรู้การแก้ปัญหาสามารถทำให้สนุกและได้รางวัลตอบแทนกลับมา.สิ่งที่เป็นรางวัลกลับมาก็คือการได้พัฒนาและเพิ่มความแข็งแกร่งของจิต ใจ แถมยังได้วิธีการเทคนิคต่างๆอันมีประโยชน์ต่อการเรียนการศึกษาในส่วนอื่นๆและต่อชีวิตของเรา

หนังสือเล่มนี้จัดทำขึ้นบนพื้นฐานของเทคนิคการแก้ปัญหาและกระบวนการทางจิตใจที่เชื่อใจได้.แต่ละแนวคิดจะมีตัวอย่างหลายๆข้อที่ช่วยฝึกฝ นเทคนิคในการแก้ปัญหา.คุณควรทำปัญหาแต่ละข้อด้วยความใส่ใจ และสำหรับปัญหาพิเศษบางข้อมีความสำคัญมากกว่าหลักการที่ได้กล่าวยกขึ้นมาก่อน

โจทย์บางข้อนั้นต้องใช้เวลาพอสมควรในการฝึกฝนจนชำนาญซึ่งนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำ.ถ้าคุณใช้หนังสือเล่มนี้ในชั้นเรียนที่โรงเรียน คุณต้องแน่ใจว่าได้บอกครูผู้สอนรวมทั้งเพื่อนๆในชั้นเรียนเกี่ยวกับปัญหาที่คุณกำลังเรียนและเทคนิคการแก้ปัญหาที่คุณกำลังฝึก....เรียนรู้ที่จะถาม ส่วนหนึ่งของการเรียนรู้คือการเรียนรู้ที่จะสร้างคำพูดที่ชัดเจนและคำถามที่ชัดเจนตรงประเด็น.ส่วนต่อมาคือการเรียนรู้ที่จะสื่อสารกระบวนการในการให้เหตุผลและวิเคราะห์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการฝึกฝนจิตใจที่ต้องใช้พลังงานมาก

ส่วนที่สำคัญที่สุดในหนังสือเล่มนี้ ในหลักสูตรนี้ และในการศึกษาของคุณ คือ เรียนที่จะอ่าน ในที่นี้เราไม่ได้หมายถึงการมีความสามารถในการอ่านออกเขียนได้ หากหมายถึงการอ่านโจทย์ ,หรือ การขบคิดวิเคราะห์, หรือการหาคำตอบ,หากเพื่อการมุ่งสู่พื้นฐานของวิธีการแก้ปัญหา เพื่อเข้าใจวิธีการปัญหาอย่างถ่องแท้ และท้ายที่สุดเพื่อซึมซับวิธีการปัญหาเข้ามาสู่ตัวคุณเอง

แนวคิดและเทคนิคต่างๆที่คุณได้ซึมซับเข้ามานั้นในที่สุดมันจะเป็นของคุณ ที่คุณสามารถใช้ได้ในชีวิตของคุณ ที่คุณเรียกใช้ได้อย่างง่ายดาย และ กลายเป็นเครื่องมือส่วนตัวของคุณเอง.หนังสือเล่มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณคุ้นเคยกับขั้นตอนในการซึมซับวิธีการต่างๆ และเพื่อให้แนวคิดและเทคนิคต่างๆได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการทำงานของจิตใจคุณ

ก่อนที่จะเริ่มแก้ปัญหา แรกสุดเราควรมุ่งความสนใจหลักไปที่การเอาชนะ"ความเฉื่อยชาทางจิตใจ".แม้แต่นักแก้ปํญหาที่เก่งและมีความช่ำชอง เมื่อต้องเจอกับปัญหาที่ยากและหนักหนาก็อดที่จะมีปฏิกิริยาอย่าง การเบือนหาไปยังที่ว่างๆ,การเกาหัวแล้วโอดครวญว่า ไม่รู้จะทำยังไงดี.เป้าหมายของคุณควรแทนที่สิ่งเหล่านี้ด้วยการฝึกฝนให้ตัวเองเป็นเครื่องจักรต่อสู้ปัญหา.เมื่อคุณพบปัญหาใหม่แล้วคุณจ ะบอกตัวเองว่า"ฉันเคยเห็นโจทย์ทำนองนี้มาก่อน.ลองทำดู....ลองวาดรูปดู...ลองจัดรูปแบบตามนี้ดู....ลองทำโจทย์ดู".

อ่านศึกษาหนังสือเล่มนี้แล้วคุณจะได้เรียนรู้ที่จะคิดแบบนี้ ไม่ใช่เฉพาะในชั้นเรียนเลข แต่ในทุกๆสถานการณ์