อาการหลงลืมในผู้สูงอายุ ฝันร้ายของทั้งผู้ป่วยและญาติ

[admeadme]

อาการหลงลืมในผู้สูงอายุ ฝันร้ายสำหรับใครหลายคน
อาการหลงลืมในผู้สูงอายุ แทบจะเป็นฝันร้ายของใครหลายคนไม่ต่างกับโรคมะเร็ง เพราะอาการหลงลืมในผู้สูงอายุรักษาค่อนข้างยาก รวมถึงมีราคาสูงหากต้องทำการรักษาโดยปราศจากสิทธิ์การรักษาใด ๆ อาการหลงลืมในผู้สูงอายุการรักษา ส่วนใหญ่ก็จำเป็นต้องรักษาในโรงพยาบาลเป็นหลัก จึงยิ่งทำให้เป็นฝันร้ายของทั้งญาติและผู้ป่วยไปโดยปริยาย

ผู้ป่วยที่มีอาการหลงลืมในผู้สูงอายุบางครั้งอาจมาพร้อม ‘ภาวะสมองเสื่อม’ ที่เป็นสาเหตุหลักของอาการหลงลืมในผู้สูงอายุ จึงทำให้ไม่เพียงแค่หลงลืม แต่กระบวนการตัดสินใจ การใช้ชีวิตในประจำวันอาจแย่ลงได้หากไม่ได้รักษาตั้งแต่ช่วงแรก

ถ้าอาการหลงลืมในผู้สูงอายุรักษายาก แล้วป้องกันได้หรือไม่
ในเบื้องต้น อาการหลงลืมในผู้สูงอายุ นั้นสามารถป้องกันได้ ซึ่งการป้องกันไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สูงอายุเพียงเท่านั้น แต่การป้องกันตั้งแต่แรก ๆ จะยิ่งทำให้อัตราความเสี่ยงการเกิด อาการหลงลืมในผู้สูงอายุ นั้นสามารถลดลงได้ด้วย ซึ่งวิธีการป้องกันความเสี่ยงนั้นไม่ได้ยากแต่อย่างใด จึงสามารถป้องกันได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีต่อไปนี้

1. ออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
การออกกำลังอาจฟังดูเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่การออกกำลังกายช่วยให้สุขภาพกายแข็งแรง ที่ยังเป็นจุดสำคัญที่ส่งผลให้สุขภาพจิตใจแข็งแรงอีกด้วย การออกกำลังกายจึงเป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ รวมถึงอาการหลงลืมในผู้สูงอายุได้ด้วย

2. รับประทานอาหารอย่างถูกต้อง ให้สุขภาพดีจากภายใน
การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เป็นสิ่งที่จำเป็นตลอดช่วงชีวิตของคน แต่สำหรับการป้องกันอาการหลงลืมในผู้สูงอายุ ผักผลไม้และชาเขียว แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงเซลล์สมอง รวมถึงอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอนและปลาเทราต์ ที่ช่วยเรื่องสมองและความทรงจำได้

3. ฝึกสมองประลองปัญญา ให้สมองได้ออกกำลังกาย
หากออกกำลังกายก็อาจได้เพียงสุขภาพกายที่แข็งแรง เลือดสูบฉีดดีขึ้น แต่สมองอาจไม่ได้ใช้งานมากนัก ดังนั้นการใช้สมองอยู่บ่อย ๆ จึงเป็นการออกกำลังกายสมองวิธีหนึ่ง อาจหากิจกรรมฝึกสมองง่าย ๆ เช่นการเล่นเกมฝึกความจำ หรือเกมที่เกี่ยวกับตัวเลข เพื่อป้องกันอาการหลงลืมในผู้สูงอายุให้สมองได้ใช้งานมากขึ้น

4. ดื่มน้ำไว้ให้มาก เพราะร่างกายขาดน้ำไม่ได้
น้ำดื่มสะอาด อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำคัญที่สำคัญต่อสมองเป็นอย่างมาก การดื่มน้ำไม่เพียงทำให้สดชื่นขึ้นเท่านั้น แต่สมองเป็นหนึ่งในอวัยวะที่ต้องการน้ำเป็นอย่างมาก การกินน้ำให้ครบ 6-8 แก้วต่อวันจึงช่วยลดความเสี่ยงและลดอาการหลงลืมในผู้สูงอายุไปได้บ้าง

5. หลีกเลี่ยงความเครียดและหาอะไรใหม่ ๆ ทำอยู่เสมอ
เพราะสมองของคนนั้นไม่ชอบความเครียด ความเครียดจึงเป็นคล้ายยาพิษชั้นเยี่ยมที่เข้าไปทำร้ายสมองโดยตรง ดังนั้นถ้าไม่อยากให้สมองถูกทำลายไป จึงควรหลีกหนีความเครียด และหมั่นหาอะไรใหม่ ๆ ทำอยู่เสมอ เพื่อให้สมองได้รับการกระตุ้นและเป็นวิธีหลีกหนีความเครียดอีกทางหนึ่งด้วย

เช็กอาการเพิ่มเติม ให้รู้ก่อนสายเกินไป
อาการหลงลืมในผู้สูงอายุรักษาค่อนข้างยากและยังต้องใช้เงินมากพอสมควรหากไม่มีสิทธิ์การรักษาใด ๆ ดังนั้นการรู้ตนเองล่วงหน้าว่าอาการแบบไหนเข้าข่ายการมีอาการหลงลืมในผู้สูงอายุ ก็จะสามารถทำให้เราสามารถรับมือกับโรคต่าง ๆ ได้ทัน

• ไม่สนใจความสะอาดของตนเอง เช่น ไม่อาบน้ำแปรงฟัน
• ซึมเศร้า ร้องไห้ไม่มีเหตุผล
• สับสนเวลา สถานที่ ฤดูกาล
• จำคนรอบตัวไม่ได้
• มีพฤติกรรมก้าวร้าว

เนื่องจากอาการหลงลืมในผู้สูงอายุการรักษาและการวินิจฉัยโรคต่าง ๆ ต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น การเช็กอาการเบื้องต้นจึงสามารถบอกได้เพียงว่าเราควรพบแพทย์หรือยัง หรือมีการน่าสงสัยประมาณไหนแล้วเท่านั้น

เมื่อเราป้องกันและสังเกตตัวเองอยู่ตลอด อาการหลงลืมในผู้สูงอายุก็ไม่อาจเป็นฝันร้ายอีกต่อไป เพราะเมื่อเรารักษาทันและได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะสามารถทำให้อาการหลงลืมในผู้สูงอายุรักษาได้ง่ายขึ้น และสามารถบรรเทาอาการลงได้ อาการหลงลืมในผู้สูงอายุการรักษาอาจจำเป็นต้องพึ่งยาหรือปรับพฤติกรรม ดังนั้นควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญวินิจฉัยโรคและสั่งยาเท่านั้น ไม่ควรหายามาทานเองโดยเด็ดขาด